Physicians Odyssey – บทที่ 75 บริการให้เช่าแฟนหนุ่ม

อ่านนิยายจีนเรื่อง Physicians Odyssey ตอนที่ 75 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 75 บริการให้เช่าแฟนหนุ่ม

 

“ทําไมถึงไม่รับสายชั้นล่ะ ?” อิ้งเล่อถามด้วยน้ำเสียงเศร้าๆ ความรู้สึกที่โดนตัดสายทิ้งนั้นไม่ต่างอะไรกับการถูกปฏิเสธหลังจากสารภาพผิด

 

“สายจากฝ่ายการตลาดเยอะน่ะช่วงนี้ ถ้าเบอร์แปลกๆมาชั้นก็ไม่รับหรอก” ซูเถารู้สึกว่าอิ้งเล่อนั้นเป็นคนเจ้ากี้เจ้าการ ถึงแม้ว่าพวกเขาจะเพิ่งพบกันแค่ครั้งเดียวก็เถอะ

 

อิ้งเล่อรู้สึกไม่สบายใจ ซึ่งเธอโทรหาซูเถาและถูกเขาตัดสายทิ้งทันทีตั้งแต่ครั้งแรก มันทําให้เธอรู้สึกอับอายเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม เธอควบคุมอารมณ์ของตัวเองให้กลับมาปกติก่อนจะถาม “คืนนี้นายว่างมั้ย ? ชั้นจะชวนนายไปเที่ยวซักหน่อยน่ะ !”

 

ซูเถาขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเรื่องนี้มันต้องมีเบื้องหลังแน่นอน เขาตอบกลับ “เธอกําลังถามชั้นเพื่อให้ไปโชว์ตัวกับเธอใช่มั้ย ?”

 

อิ้งเล่อแปลกใจที่ซูเถาสามารถอ่านความคิดของเธอได้ เขามีความคิดที่เฉียบแหลมถึงแม้ว่าจะอายุน้อยก็ตาม ซึ่งเธอก็ไม่ได้ปฏิเสธก่อนจะตอบกลับ “ก็นะ คืนนี้มีงานเต้นลีลาศ ชั้นเลยอยากจะชวนนายน่ะ”

 

“แล้วทําไมชั้นต้องตอบตกลงด้วยล่ะ ? กับนักข่าวสาวสวยอย่างเธอ มันก็ไม่น่าจะหาคู่เต้นยากเย็นอะไรเลยนี่ ?” ซูเถาถอนหายใจ

 

อิ้งเล่อขมวดคิ้ว เธอไม่คิดว่าซูเถานั้นจะดูไม่เป็นมิตรกับเธอเลย “ถ้านายช่วยชั้น ชั้นก็จะติดหนี้นาย ถ้านายไม่ช่วยชั้น ชั้นจะโทรหาพี่เขยตอนนี้แล้วบอกว่านายมันเป็นพวกไร้ความรับผิดชอบทั้งๆที่ทําชั้นเอาไว้แท้ๆ”

 

ซูเถานิ่งเงียบ เขาไม่คิดว่าอิ้งเล่อจะเป็นพวกขี้ดื้อขนาดนี้ เขาไปทําอะไรเธอเอาไว้งั้นเหรอ ? ยิ่งกว่านั้น วิธีการแก้ปัญหาของเธอก็คาดไม่ถึงจริงๆ มันดูงี่เง่า แต่ก็ทําให้ซูเถานั้นสับสนเล็กน้อย ซึ่งเธอก็เป็นคนสวยคนนึง เขาอาจจะยกโทษให้เธอแล้วลืมเรื่องเก่าๆไปซะ

 

ซูเถายักไหล่ “ก็ได้ งั้นคืนนี้มาหาชั้น เพราะว่าเราจะต้องไปงานลีลาศ ชั้นเลยต้องแต่งตัวดีๆหน่อย เอาชุดมาให้ชั้นหน่อย ไม่งั้นไปก็ทําให้เธออับอายเปล่าๆ”

 

อิ้งเล่ออึ้ง ก่อนจะตอบกลับอย่างเคืองๆ “แล้วทําไมชั้นต้องเตรียมชุดไปให้นายด้วยล่ะ ?”

 

“ก็ปกติไม่ใช่เหรอ ? ชั้นเป็นนักแสดง ส่วนเธอเป็นผู้กํากับคนเป็นผู้กํากับก็ต้องเลือกชุดให้มันเข้ากับเนื้องเรื่องถูกมั้ย ?” ซูเถาพยักหน้า

 

หลังจากเอานิ้วแตะริมฝีปากเบาๆ เธอตอบกลับ “โอเค ชั้นไม่คิดเลยว่านายจะเป็นพวกเรื่องมากขนาดนี้ ชั้นจะไปรับนายตอน 4 ทุ่มคืนนี้”

 

เพลงเฟอร์เอลีเซอ (เพลงของบีโทเฟน ซึ่งมันจะเปิดกันบ่อยๆในงานเต้นรําลีลาศ : ผู้แปล) อันแสนไพเราะได้ถูกเปิดขึ้นในคาเฟ เสริมสร้างบรรยากาศที่สุดจะโรแมนติค มีดอกไม้วางประดับอยู่บนโต๊ะพร้อมกับกาแฟที่ส่งกลิ่นหอมอบอวล พื้นของคาฟนั้นเป็นสีน้ำตาล ในร้านประดับไปด้วยหนังสือที่วางเรียงอยู่อย่างเรียบร้อยบนชั้นวางหลังที่นั่ง มีสัญลักษณ์จําแนกประเภทหนังสือไว้พร้อมเพื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ลูกค้า

 

อิ้งเล่อนั่งอ่านพลิกหน้ากระดาษของหนังสือด้วยมือข้างเดียว ในขณะที่อีกข้างกําลังใช้ช้อนคนกาแฟพลางมองออกไปนอกหน้าต่าง ในที่สุดซูเถาก็ออกมาจากห้องน้ำ เขาเปลี่ยนไปใส่สูทดําพร้อมผูกเนคไท เมื่อมองซูเถาในสภาพนี้ ดวงตาของอิ้งเล่อดูเป็นประกายก่อนเธอจะเดินไปหาเขาแล้วจัดคอเสื้อกับจัดสูทให้เรียบร้อย เธอดูจะภูมิใจกับผลงานนี้มาก “ดูดีมาก !”

 

ในขณะที่อิ้งเล่อมองมาที่ซูเถา เขาก็มองไปที่เธอเช่นเดียวกัน ผิวของเธอนั้นดูสวยและเงางาม พร้อมกับริมฝีปากที่ส่งกลิ่นหอมๆออกมา เขายักไหล่ “สบายใจได้ในฐานะแฟนเช่าที่มีคุณสมบัติเพียบพร้อม ชั้นจะแบกรับภาระทั้งหมดเอาไว้และไม่ทําให้เธอขายหน้าแน่นอน”

 

“แฟนเช่า ?” เธอดูแปลกใจกับคําว่าแฟนเช่าพอสมควร ก่อนจะถาม “ขอถามหน่อย ชั้นจะได้รับบริการอะไรบ้าง ?”

 

ซูเถาจัดเนคไทให้ตรงเข้ารูปก่อนจะพูดออกมา “ถ้าเป็นเรื่องที่ไม่ผิดศีลธรรม , ผิดกฎหมายหรือไม่ยุติธรรมแล้ว ชั้นทําได้ทุกอย่าง ยิ่งกว่านั้น ราคาค่าตัวชั้นก็ถือว่าสมเหตุสมผล เพียงแค่ 200 หยวน/ชม. ถ้าเธออยากจะได้บริการพิเศษอื่นๆ อย่างเช่น จับมือ จูบ เต้น หรือแม้แต่มีอะไรกันก็ต้องจ่ายเพิ่ม แต่เนื่องจากชั้นเห็นว่าเธอเป็นหญิงสาวที่ทรงเสน่ห์ ชั้นจึงงดเว้นค่าธรรมเนียมสําหรับบริการพิเศษ”

 

ถึงแม้ซูเถาจะพูดเรื่องไร้สาระ แต่อิ้งเล่ออก็ไม่อาจกลั้นขําได้ “หยุดเพ้อได้แล้ว จําเอาไว้ด้วยว่าชั้นไม่ได้จ้างนาย แต่ชั้นได้ให้โอกาสนายในการเพิ่มเส้นสายกับพวกสังคมชั้นสูงต่างหาก”

 

ซูเถาโค้งตัว “ดูเหมือนมาตรฐานของงานเต้นลีลาศนี่คงจะสูงพอตัวเลย”

 

อิ้งเล่อพยักหน้า “ปกติแล้ว เหล่าคนที่มีชื่อเสียงในฮั่นโจวมักจะเข้าร่วมงานเต้นลีลาศนี่กัน นายต้องทําตัวให้เนี้ยบเข้าไว้ ใครจะรู้ นายอาจจะค้นพบเส้นสายดีๆที่นี่ก็ได้” 

 

ซูเถาเอามือกุมคางก่อนจะพยักหน้า “ฟังดูเป็นโอกาสดีที่ชั้นจะได้เปิดโลกใหม่ๆบ้างล่ะนะ”

 

อิ้งเล่อแหงนหน้ามองซูเถาที่ทําลังทําหน้าเคร่งขรึม เธอรู้ว่าเขาแกล้งทําไปงั้น ก่อนจะพูดขึ้น “นี่ก็ใกล้เวลาแล้ว เราไปกันเถอะ”

 

งานเต้นรําถูกจัดที่คฤหาสน์หรูแห่งหนึ่ง ซึ่งคฤหาสน์นี่ดูไม่เหมือนกับหลังที่อยู่รอบๆ ซึ่งที่นี่มีพื้นที่กว้างขวางราวกับพระราชวังอิมพีเรียล เมื่อรถฟอร์ดได้มาถึง ประตูสีดําได้ค่อยๆเปิดออกอัตโนมัติ มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย 2 คนใส่สูทและแว่นดําพร้อมกับเสียบหูฟังคนละข้าง 

 

ภายใต้การจัดการของพนักงานรักษาความปลอดภัยรถถได้เข้ามาจอดอยู่ที่ด้านขวาของอาคาร หลังจากที่ซูเถาก้าอออกมาจากรถ เขาสังเกตเห็นรถที่อยู่รอบๆล้วนเป็นรถหรูราคาแพงทั้งนั้น ซึ่งตัดสินได้เลยว่างานเต้นนี่มาตรฐานสูงอย่างไม่ต้องสงสัย

 

งานเต้นรําจัดขึ้นที่สวนด้านหลังของอาคารซึ่งมีสระว่ายน้ำอยู่ และมีคนประมาณเกือบๆร้อยคนแต่งชุดสุภาพกําลังยืนจับกลุ่มคุยกันอยู่

 

อิ้งเล่อเดินเข้าไปในงานและมองไปรอบๆ เธอสวมชุดกระโปรงสั้นสีขาวและรวบผมเป็นก้อน เผยให้เห็นใบหูสีขาวและหน้าผากที่เรียบสวย ในตอนที่เธอก้าวเข้ามาที่งานนี้ มันเหมือนกับเธอได้เปลี่ยนไปเป็นอีกคนหนึ่งโดยสิ้นเชิง ซึ่งทําให้เธอดูเหมือนหญิงสาวผู้มากไปด้วยสติปัญญาและเต็มไปด้วยความมั่นใจในตัวเอง เธอยิ้มจางๆก่อนจะเดินเข้ามาด้วยรองเท้าส้นสูงสีเงิน

 

ซูเถาแสดงให้เหมือนกับที่เตี้ยมเอาไว้โดยยึดแขนออกไป เพื่อให้อิ้งเล่อนั้นควงแขนเขาเดินเข้าไป ทั้งสองนั้นมีความสูงไล่เลี่ยกันและดูราวกับคู่กิ่งทองใบหยกในสายตาของคนอื่น 

 

มีชายคนหนึ่งสูงราวๆ 5.9 ฟุตกําลังยืนคุยอยู่กับเพื่อนที่หน้าแก้วประดับสูง 2 เมตร ซึ่งตั้งอยู่ที่บริเวณทิศตะวันตกของห้องโถง พอเขาเห็นอิ้งเล่อกับซูเถาเดินเข้ามาในห้องโถง สายตาของเขาก็เต็มไปด้วยความเย็นชา

 

“หัวหน้าเปี้ยน คนนั้นคือนักข่าวของสถานีคุณ ที่ชื่ออิ้งเล่อใช่มั้ย ? ผมไม่คิดเลยว่าเธอจะมางานนี้ด้วย เธอดูสวยกว่าในทีวีอีก น่าเสียดายที่เธอดันพาคู่มาด้วย ไม่งั้นเธอคงโดนรุมล้อมไปด้วยเหล่าผู้คนแล้วล่ะ” เพื่อนของเขาหัวเราะ

 

เปี้ยนโหย่วเถียน จิบไวน์แดงก่อนจะยิ้ม “ขอโทษที พอดีผมต้องโทรศัพท์นิดหน่อยน่ะ”

 

เขาค่อยๆผลักประตูช้าๆก่อนจะเดินออกจากงานเต้นรํา หยิมมือถือออกมาและโทรหาอิ้งเล่อ แต่ถูกตัดสายก่อน จะมีข้อความส่งเข้ามาแทบจะทันที “มีอะไรงั้นเหรอ ?”

 

เปี้ยนโหย่วเถียนถอนหายใจก่อนจะตอบข้อความ “ทําไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ แล้วผู้ชายที่มากับเธอนั้นเป็นใคร ? นี่เธอคิดจะแก้แค้นชั้นหรือไง ไม่ดูเด็กไปหน่อยเหรอ ?”

 

หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ได้รับข้อความจากอีกฝ่าย “ทําไมชั้นไม่เห็นล่ะว่านายอยู่นี่ ? เขาเป็นแฟนชั้นเอง ไม่ต้องทักมาหาชั้นอีก ไม่งั้นเมียของนายได้อิจฉาชั้นแน่ !”

 

หลังอ่านข้อความจบ แววตาของเขาก็เต็มไปด้วยความโกรธก่อนจะยกมือขว้างมือถือทิ้ง แต่เขาก็ไม่ได้ขว้างมันลงไปบนพื้น ทันใดนั้น เขารู้สึกว่ามีคนมาแตะที่ไหล่ของเขา ก่อนที่จะหันไปมองอีกฝ่าย “ที่รัก คุณทําให้ผมตกใจหมดเลย”

 

“ชั้นตามหาคุณอยู่น่ะ ไม่คิดว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่ แล้วนั้นคุยโทรศัพท์กับใครอยู่เหรอ ?” สูหุยฟางถามด้วยความสงสัย 

 

เปี้ยนโหย่วเถียนค่อยๆโอบไหล่ของสูหุยฟางก่อนจะจูบเข้าไปที่แก้ม “เพื่อนร่วมงานน่ะ ดูเหมือนจะมีเรื่องยุ่งนิดหน่อย ผมก็เลยให้คําแนะนําเขาไป”

 

สูหุยฟางมองไปที่เปี้ยนโหย่วเถียนก่อนจะพูดขึ้น “ถึงจะด่วนยังไงก็เอาไว้ที่หลังเถอะ วันนี้พวกเราต้องเป็นคนนําเต้นนะ”

 

เปี้ยนโหย่วเถียนยิ้ม “ที่รัก มันคงทําให้คุณลําบากสินะที่ชวนแขกมาเยอะขนาดนี้ กําไรค่าโฆษณาของปีนี้ต้องได้มากกว่าเดิมแน่นอน”

 

สูหุยฟางยิ้ม “ธุรกิจของคุณก็เป็นธุรกิจของชั้นเหมือนกัน มันคุ้มค่าที่ชั้นจะดูแลมันด้วย พ่อทําอะไรๆเอาไว้หลายอย่างมาก และถ้าไม่ใช่เพราะเขา เราคงไม่มีทางเชิญแขกมาได้มากมายขนาดนี้หรอกจริงไหม ?”

 

เปี้ยนโหย่วเถียนเลื่อนขั้นจากพนักงานธรรมดาของฝ่ายโฆษณาสถานีโทรทัศน์ฮั่นโจวขึ้นมาเป็นรองหัวหน้าสถานีในไม่กี่ปีเนื่องจากการสนับสนุนจากพ่อของสูหุยฟางผู้ซึ่งเป็นประธาณของสํานักงานพาณิชย์ฮั่นโจว และยังคงทําธุรกิจอีกหลายอย่างในฮั่นโจว อีกด้านหนึ่ง สูหุยฟางซึ่งเป็นประธานของบริษัทลงทุนซึ่งมีมูลค่านับร้อยล้าน

 

เมื่อพวกเขากลับเข้ามาในห้องโถง เปี้ยนโหย่วเถียนกับสูหุยฟางต่างก็จับมือกันเพื่อแสดงความรักของพวกเขา อย่างไรก็ตาม สูหุยฟางซึ่งสูงแค่ 5.2 ฟุตอีกทั้งยังมีรูปร่างอวบ เลยดูตลกเล็กน้อยเมื่อเดินคู่กับเปี้ยนโหย่วเถียน

 

สูหุยฟางไม่ได้เดินไปที่ตรงกลางซึ่งแสงได้สาดส่องลงมา แต่เดินไปทางอิ้งเล่อพร้อมกับกุมมือของเปี้ยนโหย่วเถียนแทน

 

เมื่อเห็นพวกเขาทั้งสองกําลังเดินเข้ามา อิ้งเล่อก็ไม่ได้มีท่าทีเปลี่ยนไป กลับกันเธอยิ้มฟันขาวซึ่งดูมีเสน่ห์อย่างไม่น่าเชื่อ

 

อิ้งเล่อแสดงออกถึงความมั่นใจในตัวเอง เพราะเธอนั้นตัวสูงกว่าสูหุยฟาง และก้มหัวมองไปที่เธอ

 

สูหุยฟางยิ้มก่อนจะโบกมือเรียกบริกรที่เดินผ่านไปมา 

 

บริกรคนนั้นหยุดเดินก่อนที่สูหุยฟางจะหยิบแก้วขึ้นมา เธอยิ้มและทันใดนั้นเอง เธอก็ได้สาดเหล้าที่อยู่ในแก้วไปทางอิ้งเล่อ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด