Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ – บทที่ 115 ผู้ฝึกตนจากต่างแดน

อ่านนิยายจีนเรื่อง Storm in the Wilderness ขุนศึกสยบสวรรค์ ตอนที่ 115 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

Storm in the Wilderness – ขุนศึกสยบสวรรค์ ขุนศึกสยบสวรรค์บทที่ 115 ผู้ฝึกตนจากต่างแดน

 

เยี่ยฉวนเริ่มต้นฝึกตนอย่างสันโดษทันที่ที่กลับมายังสํานักหมอกเมฆา

 

อาการบาดเจ็บในครั้งนี้สาหัสกว่าที่เคย นอกจากไหล่ซ้ายจะถูกแทงทะลุแล้วพลังชีวิตยังร่วงโรยและอ่อนล้าจนสภาพ ร่อแร่เต็มทนหลังจากใช้ยาเม็ดชั้นยอดที่อาวุโสสูงสุดมอบให้ และฝึกตนเป็นเวลาหลายชั่วโมงอาการจึงค่อยทุเลาลง :

 

เยี่ยฉวนพยายามทําตัวให้ยุ่งเข้าไว้เมื่ออาการดีขึ้น

 

เขาเริ่มจากการจําแนกสมุนไพรที่เก็บได้จากภูเขาเบื้องหลังก่อนจะสั่งให้ปีศาจเพลิงไปเก็บสมุนไพรบนยอดเขา เมฆาอินทนิลและกลั่นยาเม็ดสีแดงเพลิงจากสมุนไพรมังกร คะนอง กลิ่นที่ไม่คุ้นชินลอยมาแตะจมูกเมื่อปรุงยาเสร็จสิ้นบนผิวแวววาวระยิบระยับของเม็ดยาปรากฏภาพมังกรเสมี อนจริงขนาดจิ๋วแม้จะยังไม่ทราบสรรพคุณแต่เพียง แค่รูปลักษณ์ของยาเม็ดนี้ก็ทําให้อ้าปากค้างด้วยความตื่นตาตื่นใจได้ยาเม็ดมังกรคะนอง!

 

เยี่ยฉวนกลั่นยาที่สาบสูญจากดินแดนนี้ไปเป็นเวลานานขึ้นมาใหม่ด้วยสมุนไพรในมือ

 

“ี่เหยียนจื่อ นี่สําหรับเจ้า รับไปเสีย ยาเม็ดนี้จะช่วยนฟูพลังชีวิตและต้านไข้หวัด แต่น่าเสียดายที่คุณภาพไม่สู้ ดีนักเพราะส่วนประกอบสําคัญหายไป”

 

ครั้งนี้เยี่ยฉวนกลั่นยาเม็ดมังกรคะนองได้ถึงสิบสามเม็ดเขาโยนขวดแก้วที่บรรจุยาเม็ดมังกรคะนองหนึ่งเม็ดให้ปีศาจเพลิงและเก็บส่วนที่เหลือเอาไว้ยาอีกสิบสองเม็ดเบียดเสียดกันในขวดแก้วอีกขวด

 

“กลิ่นหอมยิ่ง!”

 

ปีศาจเพลิงทําจมูกฟุดฟิดพลางสูดกลิ่นหอมเข้าไปเต็มปอดด้วยความชื่นชม “คุณชาย ยาเม็ดนี้สามารถฟื้นฟู พลังชีวิตได้แต่ยังมีคุณภาพไม่พออีกหรือ?”

 

ปีศาจเพลิงมองเยี่ยฉวนด้วยแววตาแปลกใจ เพียงแค่สุดกลิ่นหอมของยาเม็ดมังกรคะนองเข้าไปก็รู้สึกกระปรี้กระเปร่าขึ้นมา หากกลืนกินเข้าไปคงเป็นประโยชน์อย่างมากแน่นอน ในท้องตลาดแทบจะไม่มียาที่สามารถฟื้นฟูพลังชีวิตได้เลย หากกล่าวว่ายาเม็ดนี้ไร้คุณภาพก็คงไม่มีผู้ใดกลั่นยาได้ คุณภาพดีไปกว่านี้อีกแล้ว

 

“สรรพคุณเพียงเท่านี้เอง หากข้ามวัตถุดิบครบถ้วนและ เพียงพอยาเม็ดนี้จะไม่เพียงฟื้นฟูพลังชีวิตหากแต่ยังยืดอายุ ขัยได้อีกด้วย ฝากเจ้าดูแลสมุนไพรมังกรคะนองอายุ แปดร้อยปีให้ดีหากมีใครมาตามหาให้ตอบไปว่าข้ากําลังฝึก ตนอย่างสันโดษและไม่ต้องการพบผู้ใดข้าจะออกไปข้างนอกคืนนี้และจะกลับมาก่อนรุ่งสาง”

 

เยี่ยฉวนออกคําสั่งก่อนจะคว้ายาเม็ดมังกรคะนองที่เห ลืออยู่และเดินจากไป

 

แม้จะมีหลายสิ่งเกิดขึ้นในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา แต่เขายัง ไม่ลืมนัดหมายกับแม่นางหลิวหงแห่งสํานักเบญจลักษณ์

 

หลิวหงรูปงามยิ่งนักนางร่างเล็กหากแต่มีเสน่ห์และ เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวาทว่าเยี่ยฉวนกลับไม่สนใจ สิ่งที่เขาสนใจคือผู้ฝึกตนจากต่างแดนและสิ่งของที่พวกเขานํามายัง ตลาดมืดใต้ดินต่างหาก

 

“คุณชาย คุณชาย…”

 

ปีศาจเพลิงไล่ตามเยี่ยฉวนไปสองสามก้าว ภายนอกสํานัก ยามค่ํามืดเช่นนี้นั้นอันตรายมิหนําซ้ําอาการบาดเจ็บของเยี่ยฉวนก็ยังไม่หายดี เขาจึงต้องการโน้มน้าวให้อีกฝ่ายไม่ออกไป ที่ใดในยามนี้ ทว่าเยี่ยฉวนกลับจากไปอย่างรวดเร็วและหายวับไปในชั่วพริบตา

 

ประตูรั้วคับคั่งไปด้วยฝูงชนและมีการอารักขาเข้มงวด เยี่ยฉวนลอบออกจากสํานักหมอกเมฆาตามเส้นทางที่คุ้นเคยโดยไม่มีผู้ใดล่วงรู้ก่อนจะควบขี่ราชันปีศาจวัวไปยัง ตลาดมืดใต้ดินท่ามกลางแสงสลัวในยามราตรี เขาพบหลิวหงในกระโปรงหนังสั้นทันทีที่เข้าไปดูเหมือนนางรอคอยเขามาเป็นเวลานานแล้ว

 

“คุณชายเยี่ย เหตุใดจึงมาช้านัก? ไม่รู้หรือว่าข้ารอท่านอยู่?” หลิวหงเดินบิดเอวบางเข้ามาเกาะแขนเยี่ยฉวนเอาไว้

 

“ข้ารอให้ตกคําเสียก่อน เดินทางกลางวันแสกๆ ไม่สะดวกนัก”

 

เยี่ยฉวนยิ้มอย่างมีเลศนัยหากแต่ถอยหลังไปครึ่งก้าวเพื่อเลี่ยงหลิวหงอย่างแนบเนียน

 

“เฮ้อ ข้าอัปลักษณ์จนเทียบศิษย์น้องหญิงของเจ้าไม่ได้เลยงั้นหรือ?”

 

หลิวหงทอดถอนใจ ก่อนจะยกยิ้มเจ้าเล่ห์เมื่อขยับเข้าไปกระซิบข้างหูของเยี่ยฉวน “ข้าได้ยินมาว่าท่านเผชิญหน้ากับนักฆ่ามือฉมังระหว่างทางกลับจากภูเขาที่ท่านไปรักษาตัว จริงหรือไม่?”

 

“โอ้ เจ้ารู้ได้อย่างไร?” เยี่ยฉวนแปลกใจเล็กน้อยด้วยไม่คาดคิดว่าข่าวจะแพร่กระจายอย่างรวดเร็วเช่นนี้ ดูเหมือนว่าในสํานักหมอกเมฆาจะมีผู้สอดแนมอยู่มากทีเดียว

 

“ฮ่าๆๆ ข้าต้องรู้สิ ในเทือกเขาหมอกเมฆาแห่งนี้ไม่มีสิ่งใดที่ข้าไม่รู้หรอก”

 

หลิวหงหัวเราะอย่างน่าฟัง ก่อนจะเคลื่อนกายเข้าใกล้เยี่ยฉวนมากขึ้นและกล่าวออกด้วยน้ําเสียงจริงจัง “คุณชายเยี่ยถ้าข้าบอกว่าไม่ใช่ทั้งฝีมือของสํานักเบญจลักษณ์และสํานักเครื่องนิลจะเชื่อข้าหรือไม่?”

 

“ข้าเชื่อเจ้า”

 

เยี่ยฉวนพยักหน้า “นี่เป็นฝีมือของหมูที่ขี้ขลาด”

 

“ฮ่าๆๆ…”

 

หลิวหงหัวเราะเสียงใสโดยไม่สนใจสายตาของผู้อื่น “คุณชายเยี่ย ข้ามีความสุขจริงๆ เมื่อได้อยู่กับท่าน ถ้าข้าบอกว่าข้าชอบท่านและชีวิตนี้จะไม่แต่งงานกับผู้ใดนอกจากท่า นจะเชื่อหรือไม่?”

 

“ไม่ ข้าไม่เชื่อเป็นอันขาด” เยี่ยฉวนสั่นศีรษะพลางสงวนคําพูดราวกับทองคํา

 

นัยน์ตางดงามดุจสีใบไม้ร่วงพร่ามัวด้วยหยาดน้ําใสเม่อทอดสายตามองเยี่ยฉวน หญิงสาวหยิบเสื้อคลุมสองตัวและหมวกไม้ไผ่สองใบจากข้างหลังเพื่อสวมใส่เองชุดหนึ่ง และยื่นให้เยี่ยฉวนอีกชุดหนึ่ง“เหล่าผู้ฝึกตนจากต่างแดนยัง ไม่กลับไป เชิญคุณชายเยี่ยทางนี้”

 

“กรุณาด้วย!”

 

เยี่ยฉวนยกยิ้มน้อยๆ แม้เขาจะทําท่าที่สบายๆ แต่กลับรักษาระยะห่างและระมัดระวังตน เมื่อสวมใส่ชุดคลุมและ หมวกไม้ไผ่เรียบร้อยก็ออกเดินพร้อมหลิวหง

 

วันนี้ไม่มีตลาดใหญ่ที่จัดขึ้นทุกสามวันจึงมีผู้คนอยู่ในตลาดมืดอย่างบางตา สายลมเย็นเฉียบที่พัดผ่านยามราตรีงทําให้สถานที่แห่งนี้ดูรกร้างยิ่งกว่าเดิม เมื่อเดินไปได้ไม่นาน นักก็เห็นกลุ่มคนจํานวนหนึ่ง

 

หลิวหงเดินนําทางไปโดยจงใจให้เยี่ยฉวนเห็นแผ่นหลังอันสง่างามเต็มตา พวกเขาเดินผ่านโค้งแล้วโค้งเล่าในตลาดมืดเป็นเวลากว่าครึ่งชั่วยามจนมาถึงปากถ้ําขนาดใหญ่บริเวณอื่นนั้นมืดมนและรกร้างแต่ที่แห่งนี้กลับสว่างไสวด้วย คบเพลิงจํานวนมากและมีผู้คนมารวมตัวกันอย่างหนาแน่น

 

ภายในถ้ํามีคนเจ็ดคนนั่งคุกเข่าอยู่ พวกเขาแต่งกายด้วยชุดผ้ากระสอบดูแปลกตา บนศีรษะมีหมวกไม้ไผ่ใบใหญ่ที่สา นขึ้นอย่างลวกๆและกระบีห้อยอยู่ที่ข้างเอว ฝูงชนนอกถ้ํากําลังเอะอะโวยวายทว่าคนทั้งเจ็ดกลับก้มหน้านิ่งราวกับรูป สลักหินที่ไม่มีชีวิต

 

“ผู้ฝึกตนจากต่างแดนเหล่านี้นําของดีติดตัวมามากมายก็จริง แต่พวกเขาต้องการแลกเปลี่ยนกับสินค้าอื่นๆ ที่ไม่ใช่ เงินหรือก้อนผลึกอย่าได้ต่อรองไม่เช่นนั้นพวกเขาจะยกเลิก การเจรจาและไม่สนใจท่านอีกเลยช่างพิลึกเสียจริง! คุณ ชายเยี่ย ท่านมากล้นไปด้วยประสบการณ์และความรู้ช่วย ข้าดูที่ว่าสิ่งใดคุ้มค่าพอจะแลก” หลิวหงเตือนเสียงต่ําที่ข้างหูของเยียฉวน

 

เหล่าผู้ฝึกตนจากต่างแดนอารมณ์แปรปรวนอย่างน่าประหลาด คนบางกลุ่มที่ต้องการเอาเปรียบพวกเขากลับได้รับ เพียงความเยือกเย็นเท่านั้นอีกทั้งยังมีคนบางพวกที่เจรจา ไม่สําเร็จและต้องการใช้กําลังแต่แค่ผู้ฝึกตนต่างแดนเพียง คนเดียวก็สามารถเอาชนะการประลองได้อย่างง่ายดายโดยไม่ทราบว่าคู่ต่อสู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร พวกเขาทุกคนมีขั้น การฝึกตนที่ล้ําลึกเกินหยั่งถึงจนไม่มีผู้ใดกล้าอวดดีอีก 

 

“โอ้ อย่างนั้นหรือ?”

 

เยี่ยฉวนสนอกสนใจขึ้นมาทันทีก่อนก้าวเข้าไปเฝ้าดูอย่างระมัดระวัง

 

นับตั้งแต่โบราณมีสมบัติล้ําค่ามากมายที่พบได้แค่ในต่างแดน ในยามที่เขายังเป็นนักปราชญ์ซ่อนเร้นสวรรค์นั้นมีผู้ฝึกตนจากต่างแดนจํานวนมากเสนอของดีเป็นบรรณาการ ให้แก่เขาในชาตินี้เยี่ยฉวนจึงอยากเห็นว่าสมบัติต่างแดน ชนิดใดที่คนประหลาดทั้งเจ็ดตรงหน้านําติดตัวมา

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด