Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 166

อ่านนิยายจีนเรื่อง Carefree Path of Dreams ตอนที่ 166 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“คุณชายสี่ ฮูหยินยกเลิกคำสั่งกักบริเวณของท่านแล้วเจ้าค่ะ และมอบทอง 10 ตำลึงให้ท่านเพื่อเตรียมตัวสำหรับการสอบ!”

ชุนหลานอายุราว 16-17 ปี สวมชุดสีแดง เมื่อนางยิ้ม ลักยิ้มสองข้างก็ปรากฏให้เห็น

“ช่วยขอบคุณแม่ใหญ่แทนข้าด้วย!”

ฟางหยวนรับทองมาและพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย

“ท่าน… ฮึ่ม!”

นางกระทืบเท้าเบา ๆ อย่างโมโหเมื่อไม่ได้รับการตอบสนองอย่างที่นางคิดเอาไว้

“ช่างน่ารัก…กระทั่งเวลาโกรธ!”

ฟางหยวนกลับเข้าไปในห้องและเริ่มเก็บของ เขายิ้มเย็น

เมื่อหยางหู่มาสร้างปัญหา เขาจงใจลากฮูหยินหวังเข้ามาในเรื่องนี้ด้วย

ไม่ว่านางจะเป็นคนเสแสร้งหรือร้ายกาจเพียงใด นางยังจำต้องรักษากริยาใจดีใจกว้างต่อหน้าคนในตระกูล

ฮูหยินหวังย่อมไม่อาจทนรับคำกล่าวหาว่าจงใจกีดกันเด็กคนหนึ่งไม่ให้เข้าสอบรับราชการได้

อย่างไรเสีย นางก็ยังมีวิธีการอื่นที่ตรงไปตรงมาและได้ผล

ตัวอย่างเช่น… มอบเงินให้เขาอย่างใจกว้างและรอให้เขาออกไปจากตระกูลหยางก่อนที่จะจงใจสร้างความลำบากให้เขาหรือกระทั่งสังหารเขา ก่อคดีที่ไร้เส้นสายปลายเหตุ!

“ข้าย่อมตายตกอย่างแน่นอนหากข้ายังเป็นเด็กหนุ่มอ่อนแอคนเดิม!”

ดวงตาของฟางหยวนนิ่งลึกไร้ก้นบึ้งและเขารู้ตัวดี

“บางทีหยางฟานอาจจะไม่เคยได้เข้าสอบราชการด้วยซ้ำ แต่ว่า ข้าจะต้องทำให้สำเร็จและสร้างชื่อให้ตัวเอง! นี่เป็นเป้าหมายที่ดี!”

พูดตามตรง นี่เป็นการทดสอบเพื่อดูว่าความปรารถนาของหยางฟานนั้นคืออะไร

เป็นการประสบความสำเร็จ หรือว่าการแก้แค้น? หรืออย่างอื่น?

“ข้าเองก็ไม่รู้ว่าจะเจอกับอะไรเหมือนกัน”

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง ฟางหยวนก็หิ้วของห่อเล็ก ๆ เดินออกจากประตูบ้านตระกูลหยางภายใต้สายตามุ่งร้ายหลายคู่

ตระกูลหยางนั้นอยู่รอบนอกของมณฑลและห่างจากเมืองที่เป็นสถานที่จัดการสอบราชการระยะเดินครึ่งวัน

มีรถลากให้เรียกจ้างอยู่เช่นกัน แต่ว่า ฟางหยวนเลือกที่จะเดิน เขาเดินช้า ๆ ไปจนถึงป่าหนาทึบ

“เป็นอย่างไร? ได้เวลาที่พวกเจ้าควรจะแสดงตัวออกมาหลังจากตามข้ามานานขนาดนี้แล้วหรือไม่?”

ฟางหยวนสูดลมหายใจลึก เขาหันกลับอย่างกะทันหันและมองไปด้านหลังเขา

“คุณชายสี่สามารถตรวจพบข้าได้?”

เงาร่างสีดำเดินออกมา เป็นหยางฉิง!

เขายังไม่เปลี่ยนเสื้อผ้า เขาเดินออกมาตรงหน้าฟางหยวนอย่างมั่นใจ หมัดกำแน่น “ให้อภัยข้าด้วย คุณชาย ข้าเพียงแค่ทำตามคำสั่งเท่านั้น!”

“เจ้ามาที่นี่เพื่อสังหารข้า?”

ฟางหยวนส่ายหน้า

หยางฉิงยิ้ม สีหน้าเริ่มทะมึนขึ้น “ท่านรู้ได้อย่างไร?”

ฟางหยวนตอบ “เฮอะ ฮูหยินหวังคงจะใจดีเกินไปแล้วถ้าสั่งให้เจ้าเพียงแค่หักแขนหรือขาของข้า นางน่ะเสียสติไปแล้วและคงไม่มียาตัวใดช่วยนางได้แล้ว!”

“ดูเหมือนว่า คนในตระกูลจะประเมินท่านผิดไปแล้ว!”

หยางฉิงพยักหน้า “คุณชายสี่ ท่านฉลาดเหมือนคุณชายใหญ่และฮูหยินสามเลย!”

เขาเดินขึ้นหน้ามาช้า ๆ ฝ่ามือเขาเริ่มรวมพลังหยินเอาไว้

เขาได้รับคำสั่งจากฮูหยินหวังและไม่สามารถทำงานนี้ผิดพลาดได้!

หยางฉิงรู้สึกร้อนใจขึ้นมาเมื่อนึกถึงสิ่งที่ฮูหยินหวังสัญญากับเขาเอาไว้

‘ข้าเองนั้นมีความหวังเหลืออยู่ไม่มากแล้ว แต่ว่า นี่สำหรับลูกชายอันเป็นดวงใจของข้า’

“ดูเหมือนว่า เจ้าจะมั่นใจมากว่าไม่มีใครอยู่แถวนี้จึงกล้าลงมือที่นี่!”

ฟางหยวนมองหยางฉิง

“ถูกต้อง!”

หยางฉิงดูจะพอใจในตัวเอง “ต่อให้ท่านตะโกนจนคอแห้ง ก็ไม่มีใครมาช่วยท่านแล้ว!”

“ทำไมคำพูดนั่นถึงฟังคุ้น ๆ?”

ฟางหยวนพูดไม่ออก “นี่เรียกว่ามั่นใจเกินไปได้หรือไม่?”

“มั่นใจเกินไป?”

หยางฉิงไม่เข้าใจว่าฟางหยวนกำลังพูดอะไร เขาแผ่รังสีฆ่าฟันออกมา

“เฮ่ย…”

ฟางหยวนผ่อนลมหายใจออก “สิ่งที่เกิดขึ้นที่นี่จะไม่ดึงดูดความสนใจของตระกูลหยาง”

เขาแตะบริเวณหว่างคิ้วของตัวเอง ทันใดนั้น หมอกก็เริ่มมารวมตัวกันที่รอบ ๆ!

พลังแห่งฟ้าและดินเริ่มรวมกันเป็นพลังหมุนวนเป็นเกลียวล้อมรอบตัวเขาไว้

พลังวิญญาณในต้าเฉียนนั้นเข้มข้นกว่าในประเทศเซี่ยมากทำให้ฟางหยวนสร้างรูปลักษณ์ภายนอกอันน่ากลัวของจ้าวแห่งฝันได้

“พลังธาตุนั้นเป็นพลังของฟ้าและดิน! สิ่งที่ข้ามีในฐานะจ้าวแห่งฝันก็คือพลังธาตุฝัน!”

ในจิตของเขา เส้นสายพลังจากฟ้าและดินบรรจบกันและหลอมรวมกับพลังเวทย์สร้างเป็นพลังธาตุฝันก่อกำเนิดซึ่งเปลี่ยนไปอยู่ในรูปพลังธาตุฝันทรงกลมคล้ายปรอท

ทันใดนั้น ฟางหยวนก็เปลี่ยนไปเป็นจ้าวแห่งฝัน!

หยางฉิงไม่อยากเชื่อตาตัวเองหลังจากเห็นการเปลี่ยนแปลงนี้

“เป็นไปไม่ได้!”

เขาล้มลงบนพื้นและทำตัวเองเปรอะเปื้อนดิน “กระทั่งคุณชายใหญ่ก็ยังไม่สามารถขึ้นเป็นนักรบศักดิ์สิทธิ์ได้ด้วยซ้ำ… ท่าน ท่านเป็นแค่คนธรรมดา! ใช่ ท่านไม่ใช่หยางฟานแต่เป็นปิศาจที่เข้าสิงร่างของเขา! เจ้าตายแน่ หากเจ้าถูกเปิดเผยเจ้าจะถูกจับตัว!”

“เจ้าโง่!”

ฟางหยวนมองเขาและโบกมือซ้าย

ซู่ซู่!

หมอกสะกดเริ่มขยับไปข้างหน้า หยางฉิงที่อยู่บนพื้นม้วนตัวกลับหลังและถอย

“โอ้? ดูเหมือนว่าเจ้าจะแค่แสร้งทำเสียท่าสินะ!”

วิทยายุทธ์ของเขาดีมาก แม้ท่าที่กลิ้งไปจะไม่น่าดู แต่ความเร็วนั้นราวกับสายฟ้า

ถ้าฟางหยวนหลงระเริงและเดินเข้าไปหาเขา เขาก็คงจะต้องสำนึกเสียใจแล้ว

แต่ไม่ว่าวิชาตัวเบาของหยางฉิงจะดีเพียงใด เขาก็ไม่สามารถวิ่งหนีออกไปจากหมอกได้

หยางฉิงมองหมอกที่รอบตัวเขาอย่างหมดหวังก่อนที่มันจะหายไป

ฟางหยวนเดินตรงเข้าไปและมองหยางฉิงที่สีหน้าว่างเปล่า

เขาดึงหยางฉิงขึ้นมาและใช้ก้าวมายาไปจนถึงกลางป่าทึบ

“แฝงฝัน!”

หลังจากฟางหยวนเจอถ้ำแห่งหนึ่ง เขาก็สูดลมหายใจลึก แตะหว่างคิ้วของหยางฉิงและใช้ความสามารถของเขา

“นี่คือโลกแห่งความฝันของจริงของหยางฟาน ในเมื่อกฎของโลกใบนี้เป็นเช่นเดียวกับโลกจริง มันหมายความว่าสิ่งมีชีวิตย่อมมีจิตเหนือสำนึกและโลกแห่งความฝันเช่นกัน… เช่นนั้น ข้าก็สามารถเข้าสู่ความฝันของเขาได้เช่นกัน! ความฝันซ้อนฝัน!”

ทันใดนั้น ความคิดมากมายก็ไหลผ่านฟางหยวน

ด้านในถ้ำ ร่างจริงของฟางหยวนนั้นนิ่งงันไปขณะที่ขุดลงไปในจิตใจของหยางฉิงและมองหาข้อมูลที่เขาสนใจ

“เป็นความคิดมุ่งร้ายของฮูหยินหวังที่ส่งเขามาที่นี่จริง ๆ!”

“แม้ว่าเขาจะทำความผิดหลายอย่าง แต่เขาก็ดีกับบุตรของเขาอย่างที่สุด เขาต้องทำเรื่องเช่นนี้เพื่อให้บุตรของเขามีอนาคตที่ดี…”

ฟางหยวนตรวจดูความทรงจำทั้งหมดของเขา ความทรงจำหนึ่งสะดุดตาเขา

ในโลกแห่งความฝัน ภายในห้องลับห้องหนึ่ง ผู้อาวุโสผู้หนึ่งพูดอย่างจริงจัง “หยางฉิง เจ้าทะลวงผ่าน 4 ประตูสวรรค์ได้แล้ว ตอนนี้ได้เวลาส่งต่อเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุมอีกส่วนที่เกี่ยวข้องกับการขึ้นเป็นอู่จงให้เจ้า เจ้าต้องจำเอาไว้…”

ฟางหยวนตรวจดูและจดจำความทรงจำทั้งหมดเอาไว้

หลังจากนั้นครู่หนึ่ง เขาก็ลืมตาขึ้นและยิ้ม “ดูเหมือนว่าหลังจากอู่จงจะมีระดับอื่นจริง ๆ ขอบเขตเปิดชีพจร!”

เขาได้รับข้อมูลจำนนมากจากการเข้าสู่ความฝันครั้งนี้

การทดลองเข้าสู่ฝันภายในโลกแห่งความฝันนั้นเป็นเพียงความคิดเล็ก ๆ หนึ่งที่เขามี

ความคิดอันใหญ่โตนั้นคือความรู้เกี่ยวกับวิทยายุทธ์ของหยางฉิง รวมทั้งความทรงจำของพวกเขาเพื่อที่เขาจะสามารถใช้มันได้ในเวลาต่อไป!

“ระดับที่สำคัญที่สุดของอู่จงก็คือขอบเขตรวมธาตุซึ่งต้องรวมพลังธาตุและสร้างเป็นรูปแบบภายนอกร่างกาย ในประเทศเซี่ยและประเทศอู่ มีอู่จงมากมาย รวมทั้งแม่ทัพเฟยหลง ที่ติดอยู่ที่ระดับนี้… ในต้าเฉียน นักรบศักดิ์สิทธิ์นั้นมีขอบเขตแยกธาตุ ขณะที่อู่จงมีขอบเขตเปิดชีพจร! ชีพจรนี้ไม่ใช่ชีพจรปกติ แต่ว่าเป็นชีพจรศักดิ์สิทธิ์! ในเมื่อเส้นทางการฝึกฝนของผู้ฝึกยุทธ์ถูกทำลาย พวกเขาก็ใช้พลังธาตุในการฝึกชีพจรศักดิ์สิทธิ์เพื่อฝึกตนต่อ! ทุก ๆ ชีพจรที่ถูกเปิดออก อู่จงผู้นั้นจะมีระดับพลังธาตุเพิ่มขึ้น 1 ระดับ”

‘พลังธาตุระดับ 1’ นี้เป็นวิธีการวัดเฉพาะของอาณาจักรต้าเฉียน มันอาจจะเทียบได้กับพลังสูงสุดของผู้ที่เพิ่งเข้าสู่ระดับอู่จงก็ได้!

“พลังลมปราณแข็งแกร่งที่คนผู้นี้ได้รับหลังจากทะลวงสู่อู่จงโดยใช้พลังลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนของตระกูลหยางนั้นเทียบเท่ากับพลังธาตุ 1 ระดับ! ผู้ที่เข้าสู่ระดับอู่จงโดยใช้พลังลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนนั้นแข็งแกร่งกว่าอู่จงทั่วไปสองเท่า!”

“ยังไม่แค่นี้ เคล็ดวิชานี้สามารถช่วยฝึกฝน 8 ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ กระทั่งในอาณาจักรต้าเฉียน นี่ก็ยังนับเป็นวิชาที่ยอดเยี่ยมทีเดียว!”

ยิ่งเคล็ดวิชาดีขึ้นเท่าไหร่ ก็สามารถฝึกชีพจรศักดิ์สิทธิ์ได้มากเท่านั้น สุดท้ายแล้ว ก็จะเข้าสู่ ‘การฝึกฝนร่างศักดิ์สิทธิ์’!

มีข่าวลือว่ามันมีการเปลี่ยนแปลงที่คล้ายเป็นการกำเนิดใหม่ของผู้ฝึกยุทธ์ กระทั่งผู้อาวุโสก็เพียงแค่เคยได้ยินมาและไม่เคยเห็นด้วยตาตนเองมาก่อน

ตำนานนั้นบอกไว้ว่ายิ่งเปิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ได้มากเท่าไหร่ อู่จงก็ยิ่งมีพลังแข็งแกร่งมากเท่านั้น การฝึกฝนร่างศักดิ์สิทธิ์ก็จะยิ่งน่ากลัวขึ้นและเทียบได้กับร่างของเทพและปิศาจ!

“ขอบเขตเปิดชีพจรของผู้ฝึกยุทธ์นั้นคล้ายกับขอบเขตแยกธาตุของนักรบศักดิ์สิทธิ์และระดับสวรรค์มายาของจ้าวแห่งฝัน! ไม่มีใครรู้ว่าระดับการฝึกฝนร่างศักดิ์สิทธิ์นั้นเทียบได้กับอะไร…”

ฟางหยวนนั้นมีความรู้สึกว่าไม่ว่าจะฝึกตนเส้นทางใด ที่สุดปลายทางแล้วก็น่าหวาดเกรงเป็นอย่างยิ่ง

“น่าเสียดาย… ความทรงจำของหยางฉิงมีเพียงเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เพื่อเปิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์และไม่มีส่วนของการฝึกฝนร่างศักดิ์สิทธิ์!”

ก็เป็นเรื่องปกติ ยิ่งเคล็ดวิชาระดับสูงเท่าไหร่ ก็ยิ่งเป็นความลับมากเท่านั้น

ฟางหยวนคิดว่าระดับสุดท้ายของเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนนั้นน่าจะรู้กันเฉพาะผู้อาวุโสของตระกูลหรืออาจจะรู้เพียงแค่หัวหน้าตระกูลก็ได้

“ถ้าข้าอยากลองในครั้งหน้า เพื่อให้ได้เคล็ดวิชาทั้งหมดมา ข้าอาจจะต้องจ่ายในราคาน่าขนลุกทีเดียว…”

ฟางหยวนคำนวณไม่ได้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นถ้าตำรานั้นถูกแพร่ไปทั่วทั้งอาณาจักรต้าเฉียน

“แน่นอนว่า สิ่งสำคัญที่สุดตอนนี้ก็คือข้าต้องรีบพัฒนาวิทยายุทธ์ของข้า!”

เขามองหยางฉิงที่หมดสติ และจากนั้นก็กดมือขวาใส่เขา

หยางฉิงกระตุกอยู่บนพื้น และหลังจากนั้นไม่นานก็หยุดหายใจไป

“โชคดีที่ข้าออกมาเร็ว ไม่อย่างนั้นข้าจะพลาดการสอบครั้งนี้!”

ฟางหยวนเดินออกมาจากถ้ำ จากนั้นก็ตวัดฝ่ามือครั้งหนึ่ง

ซ่า!

แสงแห่งพลังไม่มากนักปรากฏขึ้นบนฝ่ามือของเขาและแทรกเข้าไปในก้อนหิน

ไม่นานหลังจากนั้น รอยแตกก็ปรากฏขึ้น ผนังทั้งแถบถล่มลงมาแล้วฝังถ้ำนั้นเอาไว้

แม้ว่าเขาจะไม่ยอมรับในสิ่งที่เขาทำลงไปอยู่แล้ว แต่ก็ดีกว่าถ้าปัญหาจะน้อยลงไป

เมื่อไม่มีการรบกวนจากหยางฉิง การเดินทางที่เหลือของฟางหยวนก็ราบรื่น เขาไปถึงมณฑลในตอนบ่าย

แสงสีทองของพระอาทิตย์สาดลงบนสิ่งก่อสร้างสูงลิ่วตรงหน้าและสะท้อนประกายสีทองบนกำแพง

ประตูเปิดอยู่และมีคนผ่านไปมาส่งเสียงวุ่นวาย

“คนส่วนมากเป็นผู้ฝึกยุทธ์ (ประตูทองที่ 6) ที่มีพลังภายใน?”

ดวงตาฟางหยวนส่องประกาย

เพียงแค่จุดนี้อย่างเดียวก็บอกได้แล้วว่าเมืองนี้เหนือกว่าอี้ซานฝูของเขาเสียอีก

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด