Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 177

อ่านนิยายจีนเรื่อง Carefree Path of Dreams ตอนที่ 177 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เจียอู๋หมิงหน้าซีดราวกับคนตายหลังจากฟางหยวนสลายวิชาพิษของเขาไปได้

เขามองฟางหยวน เสียงเปลี่ยนเป็นแหบแห้ง “เจ้าจะไม่หยุดจนกว่าเจ้าจะตาย?”

“เจียอู๋หมิง จำเอาไว้ เจ้าไม่ได้อยู่ในตำแหน่งที่จะต่อรองกับข้าได้ และยิ่งข่มขู่ข้าไม่ได้!”

สีหน้าของฟางหยวนเย็นชา เขามาถึงข้างตัวเจียอู๋หมิง มือขวาของเขายกขึ้นเป็นรูปกรงเล็บและตวัดลงไป!

“เพี๊ยะ!”

เขาใช้เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กระดับอู่จงซึ่งเป็นวิชาที่สง่างามและเหี้ยมโหด ตอนนี้เขาได้รับพลังธาตุระดับที่สองและเทียบเท่ากับอู่จงที่ฝึกเคล็ดลมปราณเฉียนคุนยิ่งใหญ่ของตระกูลหยาง ตอนนี้เขามีพลังอันมหาศาล ดังนั้น ฝ่ามือนี้จึงยากที่จะป้องกัน

วิชาของเจียอู๋หมิงนั้นเดิมทีต่ำกว่าเขาและพึ่งพาอาศัยวิชาพิษของตน

แต่ว่า วิชาพิษของเขาถูกสลายไปแล้วและเขาก็ตกอยู่ในสภาพเลวร้าย

“เจ้า…”

เขาเกือบจะพูดออกมาได้จบคำก่อนที่สายลมจากกรงเล็บจะเข้าถึงตัวเขาและทำลายแขนข้างขวาของเขาไป

เจียอู๋หมิงตกตะลึงขณะสบกับสายตาเย็นชาของฟางหยวน

“ข้าเพียงแค่ใช้พลังในระดับอู่จงเท่านั้น ถ้าเจ้าไม่สามารถรับมือได้ เจ้าก็ตายตกลงที่นี่เสียเถอะ!”

มือของฟางหยวนขยับพลิ้วไหวราวกับสายลมและสร้างภาพลวงตาของกรงเล็บมากมายขึ้นมา

“นี่…”

อวี้เสี่ยวหงและอวี้เฟยฉุยมองอย่างงงงัน

อู่จง! นักสู้ระดับสูงสุดของประเทศจู! ราชาพิษผู้โด่งดัง! เขาเก่งกาจถึงเพียงนั้นแต่ก็ยังสู้ไม่ได้?

หนอนหนังสือมรณะและฮูหยินเมี่ยวฮวาตัวสั่นอยู่กับที่แต่ไม่กล้าขยับหนีไปไหน หัวใจของพวกมันเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง

“ซู่ซู่!”

สายลมพัดแรง

ฟางหยวนยิ่งสู้ยิ่งรู้สึกยินดี

ด้วยประสบการณ์จากในความฝันของเขา เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กของเขานั้นถึงระดับสุดยอดแล้ว!

บนแผ่นดินนี้ ที่ซึ่งผู้ฝึกยุทธ์นั้นเริ่มลดน้อยถอยลง หลังจากขอบเขตรวมธาตุแล้วกลับว่างเปล่า! แต่ว่า หยางฟานมาจากอาณาจักรต้าเฉียน ที่ซึ่งการฝึกวิทยายุทธ์นั้นเป็นเรื่องสามัญ เขารู้ว่ายังมีขอบเขตแยกธาตุอยู่ถัดจากขอบเขตรวมธาตุ!

รวมพลังก่อเกิดจุดชีพจร ด้วยทุกพลังธาตุที่เพิ่มมากขึ้น ก็จะทำให้ผู้ฝึกนั้นได้ครอบครองร่างสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์ได้

“ข้าสรุปวิธีเปิดชีพจรโดยใช้เคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนเรียบร้อยแล้ว ในฐานะนายกองอินทรี เขาได้รวบรวมประสบการณ์จากการอ่านตำราที่มีอยู่ในประเทศและมีพื้นฐานที่มั่นคง ขั้นต่อไปก็คือการเปิดชีพจรโดยใช้เคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กของข้าและเข้าสู่ขอบเขตเปิดชีพจร!”

ในดวงตาของฟางหยวน เจียอู๋หมิงนั้นกลายมาเป็นเป้าหมายที่ดี

“ฟู่ฟู่!”

เสียงนั่นยิ่งมายิ่งหนักแน่น

ภาพมายานับไม่ถ้วนเปลี่ยนไปเป็นรูปของสายลมรุนแรงพัดโหยหวนไปรอบ ๆ ทันใดนั้น ภาพมายาก็หายไปและเผยให้เห็นตัวของเจียอู๋หมิง

ชายชราตัวชุ่มเหงื่อ ใบหน้าซีดขาวและล้มลง!

ถ้าฟางหยวนไม่ยั้งมือเอาไว้ เขาก็คงหมดแรงตายไปแล้ว!

“พาเขาไปซะ!”

ฟางหยวนยืนตัวตรงมองเจียอู๋หมิง

ในใจเขา เจียอู๋หมิงนั้นเป็นตัวอย่างการทดลองที่ดีเยี่ยมสำหรับเขา

จากการต่อสู้ก่อนหน้านี้ เขาสัมผัสได้คร่าว ๆ ถึงระดับต่อไปของเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กแล้ว ถ้าเขาสามารถใช้อู่จงเป็นตัวอย่างเพื่อทำการทดลองต่อไป เขาน่าจะสามารถสรุปวิธีเปิดชีพจรของเขาได้

‘น่าเสียดาย… เคล็ดวิชานี้มีต้นกำเนิดจากลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุน ถ้าการทดลองของข้าสำเร็จ ข้าก็สามารถเปลี่ยนชื่อมาเป็นเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็ก…’

บอกตามตรง นี่ไม่ใช่สิ่งสำคัญนัก

อย่างไร กรงเล็บอินทรีเหล็กก็เป็นวิชาพื้นฐานที่มีการดัดแปลงไปมากมาย อย่างเช่น เคล็ดกรงเล็บอินทรีแกร่ง และกรงเล็บแฝงพิษ วิชานี้ยังใช้รวมกับกระบวนท่าอื่นได้ ต่อให้เป็นเคล็ดกรงเล็บอินทรีแกร่ง ก็ใช้ร่วมกับกระบวนท่าอื่นได้ไม่มีปัญหา

‘แน่นอนว่า… ข้าต้องระมัดระวังในขั้นตอนนี้! ข้าจำเป็นต้องทดลองในความฝันก่อน จากนั้นก็ฝึกในชีวิตจริง… แม้นี่จะได้มาจากเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุน ผลกระทบก็ยังค่อนข้างมาก ข้าแค่เกรงว่าข้าจะไม่สามารถทะลวงผ่านขีดจำกัดและล้มเหลวในการหลอมรวมเคล็ดวิชาให้สมบูรณ์!’

ดวงตาของฟางหยวนนั้นสงบนิ่ง เขารู้ว่าเขายังมีเหตุผลอื่นในการไปเยือนอาณาจักรต้าเฉียน

“เข้า… เข้าใจแล้ว!”

อวี้เสี่ยวหงยังมึนงงและตอบตกลงอย่างไม่รู้ตัว ไม่นาน นางก็ได้สติ ใบหน้าแดงก่ำราวกับผลผิงกั่วและสะบัดศีรษะอย่างแรง

“ในเมื่อนี่เป็นสิ่งที่เจ้าเมืองฟางร้องขอ ข้าจะทำให้สำเร็จไม่ว่าจะต้องแลกกับอะไร เพียงแต่ถ้าเรารอจนกระทั่งเจียอู๋หมิงรู้สึกตัว… แค่ก แค่ก….”

อวี้เฟยฉุยลุกขึ้นมาอย่างยากลำบากและเค้นคำพูดออกมา

“พักผ่อนให้ดี ระหว่างนี้ข้ายังไม่ได้จะไปไหน!”

ฟางหยวนยืนตัวตรงและยิ้ม “ทิวทัศน์ที่นี่งดงาม ข้าอยากจะพักอยู่ที่นี่สักระยะ และข้าไม่แน่ใจว่าพวกเจ้าทั้งสองคนจะยินดีหรือไม่?”

“แน่นอน! แน่นอนที่สุด!”

อวี้เฟยฉุยและอวี้เสี่ยวหงพยักหน้ารัวราวท่าเดียวกับไก่จิกกินเมล็ดพืช

“โอ้ และพวกเจ้าทั้งสอง…”

ฟางหยวนหันไปมองรอบ ๆ และมองหนอนหนังสือมรณะกับฮูหยินเมี่ยวฮวา

“พวกเจ้าทั้งสองคน… ถ้าพวกเจ้าต้องการชดใช้ ไปคุยกับอวี้เฟยฉุย!”

ฟางหยวนโบกมือ

“ขอบคุณท่านที่เมตตา!”

ทั้งสองคนแสดงความสำนึกและคารวะลงซ้ำ ๆ ราวกับได้รับการอภัย

เมื่อมีอู่จงอยู่ในเมือง การข่มขู่สำนักมังกรทองก็กลายเป็นเรื่องตลก

เมื่อตัวตนของฟางหยวนหลุดลอดออกไป ผู้ที่จับจ้องพวกเขาอย่างประสงค์ร้ายล้วนถอยทัพและกระทั่งบางคนยังต้องมอบของขวัญเป็นการขออภัย

ครึ่งเดือนให้หลัง

เทือกเขาสำนักมังกรทอง

“แกว๊ก!”

เสียงอินทรีร้องแหวกผ่านเมฆลงมาดังไกลไปหลายลี้

อินทรีดำหางเหล็กกำลังแต่งขนตัวเองขณะมองไปยังเงาร่างในหมอกอย่างอ่อนแรง

“รวมพลังธาตุเพื่อสร้างชีพจรศักดิ์สิทธิ์! เคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนนั้นเป็นเคล็ดวิชาชั้นสูงเพื่อการเปิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ และยังสามารถเปิดได้ถึง 8 ชีพจร รับพลังธาตุระดับ 8 และยังสามารถฝึกได้ถึงร่างสวรรค์ หลังจากนั้น ผู้ฝึกยุทธ์ก็จะร้ายกาจมากและยากที่จะรับมือได้!”

ฟางหยวนฝึกต่อ ตวัดฝ่ามือออกเป็นครั้ง ๆ ไป กระบวนท่าทำให้เมฆและหมอกแหวกออกและพลังธาตุก็ทำให้เกิดคลื่นกระเพื่อมออกไปรอบ ๆ ทะเลสาบ

ราชาปลาวิญญาณราวกับรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและหลบอยู่ที่ก้นทะเลสาบโดยไม่โผล่ออกมา

“การเปิดชีพจรของเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กของข้านั้นน่าจะไม่เป็นรอง… แน่นอนว่า ที่อันตรายที่สุดยังคงเป็นการเข้าสู่ขอบเขตเปิดชีพจร ต่อให้เป็นเพียงชีพจรศักดิ์สิทธิ์ชีพจรเดียว ข้าก็ยังนับว่าสามารถเข้าสู่ขอบเขตเปิดชีพจรได้!”

แม้ว่าฟางหยวนนั้นจะฝึกวิทยายุทธ์และพลังเวทย์ไปพร้อม ๆ กัน เขาก็ยังคงอยู่ที่ขอบเขตรวมธาตุอยู่

ถึงฟางหยวนจะเข้าถึงระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุบนเส้นทางการฝึกตนเป็นจ้าวแห่งฝันแล้ว เขาก็ยังไม่มีความมั่นใจที่จะทะลวงสู่ระดับสวรรค์มายาเพราะว่ามันยังนับว่ายากเกินไป

ไม่สำคัญว่ามันเพียงพอที่จะกดข่มแผ่นดินนี้ได้ถ้าหากเขาสามารถเข้าสู่ขอบเขตเปิดชีพจรของเส้นทางวิทยายุทธ์ได้

“ผู้มีพระคุณ โปรดรับน้ำแกงเจ้าค่ะ!”

เงาร่างวูบไหวถือภาชนะบรรจุอาหารเดินตรงมา เป็นอวี้เสี่ยวหง

เมื่อนางเปิดภาชนะออก กลิ่นหอมรวยรินของน้ำแกงปลาก็ลอยมาแตะจมูกของเขา มันมีคุณสมบัติของอาหารวิญญาณ

นี่เป็นน้ำแกงจากปลาวิญญาณ ใช้ปลาวิญญาณจากทะเลสาบจันทราเมามายเป็นส่วนผสมหลัก มันสดใหม่และช่วยฟื้นฟูพลังเวทย์ที่เสียไป

“ขอบคุณ!”

ฟางหยวนรับน้ำแกงมาและกินลงไปรวดเดียว

อวี้เสี่ยวหงวางมือทั้งสองของนางเอาไว้ใต้คางและมองอย่างเงียบ ๆ ดวงตาราวกับมีดวงดาวเล็ก ๆ ปรากฏขึ้น

‘ต้องขอบคุณการเสียสละของเจียอู๋หมิง ข้าใกล้จะหาวิธีสร้างชีพจรศักดิ์สิทธิ์แรกด้วยเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กสำเร็จแล้ว…”

หลังจากดื่มน้ำแกงวิเศษลงไป ฟางหยวนก็โบกมือให้อวี้เสี่ยงหงถอยออกไปโดยไม่สนใจความรู้สึกของนางและมองหน้าต่างสถานของตัวเอง

“ชื่อ: ฟางหยวน

พลังกาย: 11.5

พลังลมปราณ: 11.5

พลังเวทย์: 9.9

สายวิชา: จ้าวแห่งฝัน

การฝึกตน: [จ้าวแห่งฝัน (ระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุ)], อู่จง

วิทยายุทธ์: [กรงเล็บอินทรีเหล็ก (ระดับ 13) (1 ใน 10 ส่วน)], คาถาสะกด, ก้าวมายา

ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”

“ค่าสถานะทั้งสามของข้าเพิ่มสูงขึ้น แน่นอนว่า ที่สำคัญที่สุดย่อมเป็นระดับความก้าวหน้า และในที่สุดมันก็เพิ่มขึ้นแล้ว!”

ฟาหยวนแทบจะน้ำตาไหล

หลังจากเขาถึงระดับอู่จง ระดับความก้าวหน้าของเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กก็หยุดนิ่งราวกับเขาไม่มีทางจะพัฒนาต่อไปได้อีกแล้ว

ตอนนี้ เขามีทิศทางการพัฒนาแล้ว ระดับความก้าวหน้าของกรงเล็บอินทรีเหล็กระดับ 13 ในที่สุดก็เกิดขึ้น

ตราบใดที่เขายังคงฝึกฝนอย่างต่อเนื่อง เขาย่อมสามารถมีความก้าวหน้าถึง 10 ส่วนได้ หลังจากนั้น ทั้งหมดที่เขาจำเป็นต้องทำก็คือมองหาโอกาสที่จะทะลวงผ่านขอบเขตเปิดชีพจร

“ด้วยการบำรุงจากสิ่งของวิเศษ ย่อมไม่มีทางที่จะติดอุปสรรค์ใดเมื่อไปถึงระดับสูงสุดของประตูทองที่ 13 เมื่อถึงเวลานั้น การฝึกตนในฐานะจ้าวแห่งฝันและอู่จงก็จะถึงระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุไปพร้อมกัน ไม่มีผู้ใดที่นี่ที่จะเป็นคู่ต่อสู้ของข้าได้นอกเสียจากจะใช้วิธีกลุ้มรุม!”

อย่างไรเสีย ระดับรวมธาตุและแยกธาตุนี้ก็เป็นเพียงแนวคิดสองแบบ

การรับมือกับศัตรูจำนวนมากพร้อมกันนั้นไม่ง่าย การเผชิญกับการข่มขู่จากประเทศอู่นั้น ฟางหยวนก็ทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้

“อีกไม่นาน…”

เขามองไปทางประเทศอู่ด้วยสายตามาดหมาย

เมืองหลวง ประเทศเซี่ย

“ข้าอยากให้องค์หญิงตรองดูใหม่ ประเทศของข้าอาจจะไม่ถือสา แต่พวกเราก็ไม่สามารถทนรับได้หากถูกรังแกซ้ำแล้วซ้ำเล่าเช่นนี้! กองทัพสองแสนของข้าก็ยอมรับไม่ได้เช่นกัน!”

องค์ชายที่ก่อนหน้านี้ปรากฏตัวขึ้นที่อี้ซานฝูออกปากข่มขู่

“สองแสน?”

เซี่ยหลิงอวิ๋นหัวเราะและปัดผมที่ตกลงมาข้าง ๆ ออก “เหตุใดข้าจึงได้รับข่าวว่าพวกท่านทั้งหมดประสบปัญหาที่ซางชานและเป็นฝ่ายพ่ายแพ้เล่า? สูญเสียทหารหลายพันไปในการต่อสู้ กองทัพสองแสน? เหลือทหารอยู่ถึงหมื่นหรือไม่เล่า?”

“ท่านกล้าดีอย่างไร!”

องค์ชายเกิดกริ้วขึ้นมา เขามองนักพรตมู่หลี่ที่ยืนอยู่ด้านหลังเซี่ยหลิงอวิ๋น ปากของเขาขยับแต่ว่าไม่ได้พูดอะไรออกมา เขาหันกลับแล้วกระทืบเท้าจากไป

เมื่อเขาไปถึงประตูเรือนรับรอง เขาก็พุ่งเข้าไปอย่างเกรี้ยวกราดและขว้างถ้วยชาตกแตก

“นางกล้าหลู่เกียรติข้า?”

ดวงตาของเขาแดงก่ำ หายใจหอบหนัก

“องค์ชาย ท่านตื้นเขินเกินไปแล้ว ทำงานใหญ่ต้องใจเย็น…”

บัณฑิตวัยกลางคนส่ายหน้า

“ประเทศอู่ยังคงแข็งแกร่ง ประเทศหยวนก็เป็นเพียงอุปสรรคเล็ก ๆ ที่สำคัญยังคงเป็นเมืองซางชาน…”

องค์ชายกริ้วขึ้นมาอีกครั้ง “เจ้าฟางหยวนนั่น!”

มองสีหน้าโกรธเกรี้ยวขององค์ชาย บัณฑิตวัยกลางคนก็ลังเลก่อนจะพูด “มีข่าวเกี่ยวกับเจ้าเมืองอี้ซานฝู”

“พูดมา!”

“เขาอยู่ที่ทะเลสาบจันทราเมามายประเทศจูและยังเข้าร่วมเทศกาลจันทราเมามายด้วย ข้าได้ยินว่าเขาจับราชาปลาวิญญาณและยังประมือกับราชาพิษของประเทศจู เจียอู๋หมิง เจียอู๋หมิงเป็นฝ่ายพ่ายแพ้!”

บัณฑิตวัยกลางคนกางพัดออกโบกให้ตัวเอง

“เจียอู๋หมิง…”

ดวงตาขององค์ชายปรายมา “หากเทียบกับตัวเจ้าเล่า?”

บัณฑิตวัยกลางคนตะลึงและตอบกลับ “ขับไล่เขาไปนั้นง่าย แต่สังหารเขานั้นยาก! จับเขาเอาไว้ยิ่งยากกว่า!”

“แต่เจ้าเมืองทำได้! ความเร็วในการพัฒนาของเขานั้นช่างน่ากังวล…”

ดวงตาขององค์ชายเปลี่ยนไปอีกครั้ง และจู่ ๆ เขาก็ยิ้มเย็น “เขากำลังจะนำหายนะไปสู่ตัวเอง!”

ในเวลาเดียวกันนี้ เซี่ยหลิงอวิ๋นก็ได้รับรายงานจากฟางหยวนและรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นเบื้อใบ

 

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด