Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 184

อ่านนิยายจีนเรื่อง Carefree Path of Dreams ตอนที่ 184 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บนยกพื้นที่ประชุม

ฟางหยวนยืนเด่นและมองไปรอบ ๆ

ท่ามกลางผู้คนที่กล่าวโทษเขา อู่อู๋เต๋าและแม่ทัพเฟยหลงนั้นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์ขณะค่อย ๆ ขยับเข้าหาเขาอย่างช้า ๆ

ตัวแทนประเทศอื่น ๆ ก็มองภาพตรงหน้าอย่างเย็นชา หรือไม่ก็คาดหวัง

อย่างไรเสีย เด็กหนุ่มผู้มีพรสวรรค์อายุเพียงยี่สิบปีผู้นี้ก็สามารถใช้พลังธาตุได้แล้ว! อนาคตของเขานั้นทำนายไม่ได้เลย และยังดูเหมือนจะสามารถเข้าสู่ขอบเขตแยกธาตุได้ในอนาคตด้วย!

แน่นอนว่า พวกมันย่อมไม่ต้องการเห็นคนผู้หนึ่งมีพลังถึงเพียงนั้น นั้นจะเป็นการคุกคามต่อทุกประเทศ

ถึงตอนนี้ อู่จงและนักรบวิญญาณของแต่ละประเทศนั้นก็คอยปกป้องตัวแทนของประเทศตนอย่างใกล้ชิด มีเพียงไม่กี่คนที่เข้าร่วมกลุ้มรุมด้วยสายตามุ่งร้าย เหมือนกับว่าได้รับคำสั่งมาให้ร่วมลงมือ

เป็นสถานการณ์ที่แก้ไขไม่ได้แล้ว!

“สังหารคนผู้นี้ นำศีรษะของเขามาเป็นเครื่องสังเวย!”

อู่เฉียนคุนกัดฟันคำรามออกมา

เสียงของเขาคือคำสั่ง และทันใดนั้นคนที่สองข้างตัวเขาก็ลงมือทันที

“ตายซะ!”

แม่ทัพเฟยหลงนำอยู่ข้างหน้า สนามพลังรูปร่างคล้ายมังกรปรากฏขึ้นล้อมรอบร่างของเขา และทันใดนั้น เขาก็ตวัดฝ่ามือออกไปครั้งเดียว 18 ฝ่ามือ ปลดปล่อยพลังธาตุ สนามพลังกระจายออกและทหารหลายคนก็ถูกบีบให้ถอยออกไป พอจอกเหล้าตกพื้น ทั้งยกพื้นก็แตกออกเป็นชิ้น ๆ

“ฝ่ามือล่าเทวะ!”

อู่อู๋เต๋าเองก็ลงมือพร้อมกัน

เขาหวาดกลัวฟางหยวนเป็นอย่างมาก ดังนั้นเปิดกระบวนท่าแรกก็เป็นกระบวนท่าเอาชีวิตเลย

“ฝุ่บ!”

พร้อมกับการขยับมือก็มีประกายแสงแห่งพลังเวทย์ รอยฝ่ามือโปร่งแสงปรากฏขึ้นและจากนั้นก็หายไปในอากาศ

ฝ่ามือล่าเทวะนี้จะโจมตีเข้าจุดจูเฉียวโดยเฉพาะและยังเป็นที่รู้กันว่าไร้ร่องรอย เป็นฝ่ามือสุดหยินและเป็นพิษถึงตาย ก่อนหน้านี้ เจ้าเมืองอี้ซานฝูคนก่อน หลิวเอี๋ยน ก็ถูกฝ่ามือนี้ทำลายจุดจูเฉียว กระทั่งฟางหยวนก็อาจจะต้องยอมจำนวนกับฝ่ามือนี้

“ฆ่า!”

ไม่ใช่ทั้งสองคนที่ลงมือ อู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์จากประเทศเล็ก ๆ อื่นก็ลงมือด้วยเช่นกัน

เคล็ดวิชาเวทย์และวิทยายุทธ์หลายหลากล้วนแต่เล็งไปที่ตรงกลางกลุ่ม

“ครืน!”

“ฟุบ! ฟุบ!”

กลางอากาศ สัตว์วิญญาณหลายชนิดกระโดดขึ้น คอยดูแลพื้นที่ด้านบน และยังมีเงาราง ๆ ของคนผู้หนึ่งอยู่บนนั้นด้วยเช่นกัน

ไม่มีทางหนีแล้ว!

เผชิญหน้ากับการโจมตีจากรอบด้าน ฟางหยวนที่ฝึกทั้งวิทยายุทธ์และวิชาเวทย์ก็ไม่มีโอกาสเช่นกัน แม้ว่าเขาจะฝึกจนถึงจุดสูงสุดของระดับรวมธาตุ แม้ว่าจะมีความช่วยเหลือจากสัตว์วิญญาณของเขา เขาก็ไม่มีทางหนีอยู่ดี!

แต่เขาไม่ใช่ฟางหยวนที่ไร้ความสามารถอย่างที่เคยเป็นอีกต่อไปแล้ว!

ทั้งแม่ทัพเฟยหลงและฝ่ามือล่าเทวะนั้นพุ่งตรงมาหาเขา และยังมีอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์อีกหลายคนโจมตีจากด้านหลังด้วยพร้อมกัน

แต่ว่า ทั้งหมดที่ฟางหยวนทำก็คือสูดลมหายใจลึกยาว

“ฟู่!”

ขณะที่ระดับพลังของเขาพุ่งขึ้น ชีพจรศักดิ์สิทธิ์อันแข็งแกร่งและมองเห็นได้ชัดเจนก็ปรากฏขึ้นบนร่างของเขา!

อู่จงที่ระดับที่สอง ขอบเขตเปิดชีพจร!

“ฝ่ามือล่าเทวะ!?”

เขามีท่าทีใจเย็น ขณะเหยียดมือข้างขวาออกไป เขาใช้สองนิ้วกดลงที่หน้าผากของตัวเอง

“โครม!”

กลางอากาศ รอยฝ่ามือปรากฏขึ้นตอนที่มันเกือบจะโจมตีโดนฟางหยวน แต่ว่า มันกลับตกลงสู่กับดักของฟางหยวน และก็มีเสียงโครมดังลั่น ภายในวินาทีเดียว มันก็สลายไปราวกับฟองอากาศ

“ติ๊ง! ติ๊ง!”

ดวงตาของแม่ทัพเฟยหลงเบิกกว้าง ฉวยโอกาสนี้ ตวัดฝ่ามือมากมายใส่ฟางหยวนราวกับบ้าคลั่ง “สิบแปดฝ่ามือเฟยหลง!!”

“ครืน!”

หลังจากเสียงดังลั่น ชุดของฟางหยวนก็ฉีกขาดเป็นริ้ว เผยให้เห็นร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อและเส้นเลือดปูดนูน เขาคว้าข้อมือของแม่ทัพเฟยหลงไว้ได้แล้วพูดเยาะเย้ย “เป็นอย่างไร? พอหรือยัง?”

“เป็นไม่ได้!”

แม่ทัพเฟยหลงและอู่อู๋เต๋าแทบจะตาถลนออกจากเบ้า

แม้ว่าฟางหยวนจะใช้เคล็ดกำลังภายนอกทะลวงขึ้นสู่ระดับอู่จง ทำให้เขามีร่างกายที่แข็งแกร่ง แต่แม่ทัพเฟยหลงเองก็เป็นอู่จงเช่นกัน! นอกจากนี้ แม่ทัพเฟยหลงยังกรำศึกมานานหลายปี ใช้กระบวนท่าเอาชีวิต ต่อให้เป้าหมายของเขาเป็นรูปสลักโลหะ เขาก็ยังสามารถทุบตีมันให้แตกเป็นชิ้น ๆ ได้!

แต่เกิดอะไรขึ้นกับฟางหยวน? เขาไม่ได้รับบาดเจ็บใดเลยสักนิด?

แม่ทัพเฟยหลงตกใจเกินจะบรรยายเป็นคำพูดได้ พอฟางหยวนคว้าข้อมือของเขา เขาก็รู้สึกราวกับฝ่ามือของฟางหยวนนั้นทำจากเหล็ก สีหน้าเขาเปลี่ยนไป เขาร้องออกมา “ท่านราชครู ช่วยข้า…”

“แกร่บ!”

ตอนปลายประโยค แขนทั้งข้างของเขาก็หักลงภายใต้กำมือของฟางหยวน ราวกับเขาเป็นขยะชิ้นหนึ่ง ฟางหยวนเหวี่ยงแม่ทัพเฟยหลงทิ้งไป

“ไป…ให้พ้น!”

ตอนที่ฟางหยวนตะโกน ชีพจรศักดิ์สิทธิ์บนร่างของเขาก็ทอประกาย และทันใดนั้น ประกายเรืองรองนั้นก็ไหลมาสู่มือขวาของเขา เขาเหวี่ยงหมัดออกไปอีกครั้ง

“ครืน!”

ยกพื้นสั่นสะเทือน และไม้ที่รองรับอยู่หลายชิ้นแตกออก ราวกับจะถล่มลงไปตอนไหนก็ได้

อู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์ที่รอบ ๆ ล้วนกระอักเลือดออกมาและปลิวถอยไปด้านหลัง อู่อู๋เต๋าที่อยู่ด้านหน้านั้น ถูกชกเขาที่หน้าอกและล้มลงใส่ยกพื้น บนหน้าอกของเขาเกิดรูขึ้นมองเห็นอวัยวะภายใน

ใครจะคิดว่าเพียงแค่หมัดเดียวจะมีพลังถึงเพียงนี้!

“เป็นไปไม่ได้!”

สถานการณ์พลิกกลับภายในเสี้ยววินาที

กระทั่งเซี่ยหลิงอวิ๋นเองก็งันไป

“นี่… นี่ไม่ใช่วิชาเวทย์! แต่… เป็นวิทยายุทธ์เท่านั้น…”

แม่ทัพเฟยหลงกระอักเลือดออกมาอีกหลายคำก่อนจะตะกายลุกขึ้นถาม “นี่มันวิชาอะไร? หรือว่าเจ้า… ทะลวงด่านแล้ว!”

เพื่อที่จะเอาชนะอู่จงและนักรบศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลายภายในครั้งเดียว มีความเป็นไปได้เดียว เขาต้องขึ้นถึงระดับขอบเขตแยกธาตุ!

“เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็ก!”

ตั้งแต่ทะลวงฝ่าได้ นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางหยวนใช้พลังทั้งหมด และมันก็ให้ความรู้สึกต่างไปจากก่อนหน้า

“หลังจากขอบเขตเปิดชีพจร พลังธาตุของข้าก็เพิ่มขึ้น แต่ที่สำคัญกว่านั้น ข้ายังสามารถต้านทานคาถาเวทย์ได้!”

มองนักรบศักดิ์สิทธิ์หลายคนที่กระอักเลือดอยู่ เขาก็ครุ่นคิด

ตอนนี้ วิชาเวทย์และคำสาปล้วนมีเป้าหมายอยู่ที่เขา แต่ว่า ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ปกป้องร่างกายของเขา เพียงการสั่นของพลังเล็กน้อยก็ทำลายวิชาเวทย์และคำสาปทั้งหมด และยังมีผลสะท้อนกลับไปที่ผู้ใช้คาถาด้วย!

‘ความแตกต่างนี้ ยิ่งอู่จงระดับสูงขึ้น จำนวนชีพจรศักดิ์สิทธิ์ก็มากขึ้นและการต้านทานวิชาเวทย์ก็จะแข็งแกร่งมากขึ้นตามไป…’

‘ถ้ามีนักรบศักดิ์สิทธิ์ระดับแยกธาตุคอยช่วยพวกเขาอยู่ เช่นนั้นข้าย่อมไม่สามารถรับพลังโจมตีร่วมของพวกเขาได้ แต่ว่า คนไร้ประโยชน์พวกนี้มาที่นี่ก็เพื่อทิ้งชีวิตของตนแล้ว!’

ท่ามกลางความเงียบ ฟางหยวนยืนอยู่บนยกพื้นและมองไปรอบ ๆ ไม่มีตัวแทนประเทศใดกล้ามองสบตากับเขาเลย

กระทั่งอู่เฉียนคุนก็นั่งนิ่งอยู่ที่เก้าอี้ของเขา ใบหน้าซีดเผือด

“ข้าไม่เคยคิดเลยว่าข้าจะมาถึงวันนี้!”

ฟางหยวนกำหมัดแน่น

นี่เป็นพลังที่มากพอที่จะกดข่มทั้งดินแดน!

ถึงตอนนี้ ฟางหยวนก็มองไปที่หน้าต่างสถานะของตัวเองโดยไม่รู้ตัว

“ชื่อ: ฟางหยวน

พลังกาย: 18.0

พลังลมปราณ: 18.0

พลังเวทย์: 9.9

สายวิชา: จ้าวแห่งฝัน

การฝึกตน: [จ้าวแห่งฝัน (ระดับสูงสุดของขอบเขตรวมธาตุ)], อู่จง (ชีพจรแรก)

วิทยายุทธ์: [อินทรียักษ์กายาเหล็ก (ระดับ 2) (0 ใน 10 ส่วน)], คาถาสะกด, ก้าวมายา

ทักษะ: [การรักษา (ระดับ 3)], [การดูแลพืช (ระดับ 5)]”

“วิชาอินทรียักษ์กายาเหล็ก (ชีพจรแรก)— วิทยายุทธ์อันเป็นเอกเทศที่มีพื้นฐานจากการรวมเคล็ดกรงเล็บอินทรีเหล็กและลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนเข้าด้วยกัน วิชานี้เกิดจากพลังธาตุและเพิ่มความแข็งแกร่งด้วยลมปราณยิ่งใหญ่ เพิ่มความแข็งแกร่งให้กับการป้องกันตัวเอง การใช้พิษ พลัง และพลังหยิน ระดับปัจจุบันกำเนิดชีพจรศักดิ์สิทธิ์จุดแรก! สามารถต่อต้านคาถาเวทย์ได้!”

ฟางหยวนคิดกับตัวเอง “ตอนนี้ ข้าอยู่ที่พลังธาตุระดับที่สาม ดูเหมือนว่าถ้าเป็นอู่จงทั่วไปก็น่าจะสามารถทะลวงด่านได้จนถึงระดับ 5 หรือ 6?”

พลังธาตุระดับสามนั้นเทียบเท่ากับพลังการต่อสู้ของอู่จงสามคนรวมกัน!

นอกจากนี้ พลังการต่อสู้ดูยังดูเหมือนจะเพิ่มขึ้นในลักษณะนั้น

“เจ้าทะลวงผ่านสู่ขอบเขตแยกธาตุแล้ว?”

แม่ทัพเฟยหลงยืนตัวตรงราวกับเสาที่ปักไว้บนพื้น ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความกระตือรือร้น

ฟางหยวนบอกได้ว่านี่เป็นคำถามจากใจจริงของผู้ฝึกยุทธ์ที่สงสัยเกี่ยวกับการฝึกวิทยายุทธ์ของเขา

“มีหนทางถัดจากอู่จงจริงใช่หรือไม่?”

แม่ทัพเฟยหลงดูเอาจริงเอาจัง เขาก้าวเข้าไปหาฟางหยวนและโค้งตัวคารวะอย่างนับถือ เหมือนถ้าต้องตาย ก็ต้องตายอย่างบุรุษผู้ดีงาม

“ถูกต้อง นักรบศักดิ์สิทธิ์มีขอบเขตแยกธาตุ และอู่จงมีขอบเขตเปิดชีพจร!”

ความกระหายในความรู้แม้อยู่ในสถานการณ์หน้าสิ่วหน้าขวานทำให้หัวใจของฟางหยวนอ่อนลง เขาคารวะกลับ

“ฮ่าฮ่า… ข้าเริ่มเรียนวิทยายุทธ์ตั้งแต่อายุแปดปี ถึงประตูทองที่สิบสองตอนอายุสามสิบปี และใช้เวลาอีกยี่สิบปีถึงได้เป็นอู่จง เดิมทีข้าคิดว่าข้าคงจะถึงทางตันแล้ว ดังนั้นจึงเปลี่ยนตัวเองมาเป็นแม่ทัพในกองทัพ ในที่สุดแล้ว วิทยายุทธ์ก็ไม่ได้ทำให้ข้าผิดหวัง!”

แม่ทัพเฟยหลงเปลี่ยนเป็นจริงจังกว่าเดิมและทำสัญญาณมือ “ได้โปรด! ได้ตายตกภายใต้ผู้ฝึกยุทธ์ระดับเปิดชีพจรนับเป็นเกียรติของข้าแล้ว!”

“ท่านไม่ทัพ ไม่!”

สีหน้าของอู่เฉียนคุนเปลี่ยนไป

อู่อู๋เต๋าเองก็ไม่ปลอดภัย แลเขาก็ไม่ต้องการสูญเสียอู่จงระดับสูงไปอีกคน

แต่ว่า แม่ทัพเฟยหลงนั้นปัดทุกความคิดเกี่ยวกับฐานะและชื่อเสียงทิ้งไปแล้ว เขาเหลือเพียงจิตใจอันบริสุทธิ์ของผู้ฝึกยุทธ์และร้องขอให้ฟางหยวนสังหารเขา

“ได้โปรด!”

ฟางหยวนเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้น เขารวมพลังไปที่มือขวา

“ฮ่า! ฝ่ามือล่ามังกรเทวะ!”

แม่ทัพเฟยหลงเปลี่ยนเป็นเงาร่างหนึ่งในทันทีและพุ่งเข้าไปตรงหน้าฟางหยวนอย่างรวดเร็ว เขาเพ่งพลังไปที่มือซ้าย ก่อเกิดกรงเล็บมังกรอย่างช้า ๆ

“พลังธาตุระดับสาม!”

โดยไม่ได้ใช้เคล็ดวิชาใด ฟางหยวนชกหมัดออกไปอย่างเรียบง่าย

“โครม!”

พลังมหาศาลกระแทกกับพลังของแม่ทัพเฟยหลง และมันก็ถาโถมผ่านแขนของเขาเข้าไปในร่างของเขา ทำลายทุกอย่างที่อยู่ระหว่างทาง

“ผัวะ!”

แม่ทัพเฟยหลงปลิวไปด้านหลัง เลือดสาดกระจายออกมา

“แค่ก แค่ก…”

เขากระแทกเข้ากับโต๊ะตรง ๆ และกระอักเลือดออกมา “เปิดชีพจร! นี่คือเส้นทางของอู่จงงั้นหรือ? น่าเสียดาย… ข้าคงไม่สามารถพบเห็นได้อีกครั้งแล้ว…”

หลังจากพูดประโยคนี้จบ เขาก็หลับตาและลมหายใจขาดห้วงไป!

“ท่านราชครู! ท่านแม่ทัพ!”

อู่เฉียนคุนงันไป จิตใจล่องลอย

เมื่อครู่เขายังกดข่มทุกประเทศอยู่ และขึ้นเป็นผู้นำกองกำลังร่วมอย่างถูกต้องพร้อมกับบัณฑิตและผู้ฝึกยุทธ์ที่เก่งกาจ!

แต่ตอนนี้ ผู้ช่วยที่เชื่อถือได้ทั้งสองของเขาถูกสังหารในพริบตาเดียว!

ผู้ที่ประสบกับการเปลี่ยนเปลงเช่นนี้ย่อมรู้สึกราวกับตายไปแล้ว

มองไปรอบ ๆ เขาก็พบว่าหลายประเทศที่ก่อนหน้านี้สาบานเข้าร่วมกองกำลังก็กำลังกระวนกระวายเช่นกัน บางคนเริ่มมองที่ประเทศด้วยความตั้งใจจะสานสัมพันธ์อันดีกับพวกเขา ไม่มีใครกล้าสบตากับเขา แต่เขาก็จนหนทางแล้วเช่นกัน

ในโลกนี้ พลังคือทุกอย่าง!

ถ้าฟางหยวนยังอยู่ในขอบเขตรวมธาตุ เช่นนั้นพวกเขาก็คงทำทุกอย่างเพื่อสังหารฟางหยวนให้ได้

แต่ว่า เขาทะลวงด่านได้แล้ว และสิ่งเดียวที่ควรทำก็คือไปเข้าร่วมฝ่ายเดียวกับเขาเสีย ใครจะไปสนใจว่าหัวหน้ากองกำลังร่วมีอก? ในเมื่อหัวหน้ากองกำลังร่วมนั้นได้รับเลือกจากคนอื่น ๆ เช่นนั้นเขาก็ถูกคนอื่น ๆ ปลดออกได้เช่นกัน!

“จู่ ๆ ข้าก็รู้สึกว่า การเลือกหัวหน้ากองกำลังร่วมของเราก่อนหน้านี้ พวกเราควรจะลงความเห็นใหม่อีกครั้งหนึ่ง!

ตัวแทนของประเทศคุนพูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง

“แค่ก แค่ก…”

ราชาของประเทศจูกระแอม และเกือบจะสำลักเพราะว่านี่ก็เป็นสิ่งที่เขากำลังจะพูดออกไปเช่นกัน มองตัวแทนของประเทศคุนอย่างเสียอารมณ์เขาก็เสริมขึ้น “นั่นก็จริง ข้าอยากจะแนะนำเป็นตัวแทนของประเทศเซี่ย พวกท่านคนอื่น ๆ มีความเห็นอื่นหรือไม่?”

“แน่นอนว่าไม่! เจ้าเมืองฟางเป็นผู้มีพรสวรรค์ ในเมื่อเขาเป็นเจ้าเมืองอี้ซานฝู เขาก็สามารถตั้งตนขึ้นเป็นประเทศได้ และยังเป็นราชครูของประเทศเซี่ยอีกด้วย! เขาเป็นผู้ที่มีความเหมาะสมที่สุดที่จะรับตำแหน่งหัวหน้ากองกำลัง!”

ตัวแทนของประเทศเล็ก ๆ ประเทศหนึ่งให้ความเห็น แต่ทั้งหมดที่เขาได้รับก็คือสายตาจากตัวแทนของประเทศอื่น

“ฮ่าฮ่า… ฮ่าฮ่า…”

เห็นภาพนี้แล้ว อู่เฉียนคุนก็ฉีกยิ้มและเริ่มหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง “ดี! ดี! ดีเลย! พวกเราช่างเป็นสมาชิกกองกำลังที่ดี!”

เขารู้ว่าแม้จะมีผู้คุ้มกันอยู่ ชะตาของเขาก็ตกอยู่ในมือฟางหยวนไปแล้ว!

 

 

TL note: ผู้แปลตรวจสอบในต้นฉบับภาษาจีนแล้ว พบว่าก็เขียนไว้ว่า ฟางหยวนมีพลังระดับ 3 ทั้งสองจุดเขียนไว้ตรงกัน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด