Carefree Path of Dreams – ตอนที่ 193

อ่านนิยายจีนเรื่อง Carefree Path of Dreams ตอนที่ 193 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ซ่า! ซ่า!”

 

ประตูแก้วผลึกสีม่วงที่เดิมอยู่นิ่งเริ่มส่องประกาย และประกายแสงเหล่านั้นก็เริ่มหมุนวน

 

ขณะที่ประตูถูกผลักเปิด ก็มีเพียงกําแพงหินอยู่ด้านหลัง ทั้งบริเวณนั้นว่างเปล่า

 

ฟางหยวนเลียริมฝีปากและดึงแผ่นหยกออกมา

 

“ฝูบ!”

 

แผนังขยับไปมาราวกับลูกอ๊อด พวกมันกลาย

 

ทันใดนั้น ตัวอักษรสีทองมากมายก็ เป็นประกายแสงแล้วพุ่งเข้าสู่แผ่นหยก

 

“ฟางหยวน ศิษย์ข้า…”

 

ในเวลาเดียวกัน แสงอ่อน ๆ สายหนึ่งก็ปรากฏขึ้น ก่อเป็นรูปของชายชราสวมมงกุฎ

 

“อาจารย์!”

 

แม้ว่าเขาจะรู้ว่านี้ไม่ใช่อาจารย์จริง ๆ เขาก็ยังคงคารวะลงอย่างเคารพ

 

“ถ้าเจ้ามาถึงระดับนี้ได้ ก็หมายความว่าเจ้าสามารถทะลวงผ่านสู่ระดับรวมธาตุได้ ดีมาก!”

 

อาจารย์เป็นซิน ไม่สิ! อาจารย์เจวซินลูบเคราและมองลงมา เขาเต็มไปด้วยความรู้สึกมากมาย และดูไม่เหมือนภาพมายาธรรมดา

 

“ข้าสอนเจ้าทุกอย่างที่ข้าได้เรียนรู้มาแล้ว! หลังจากทะลวงสู่ขอบเขตรวมธาตุ เจ้าควรจะแข็งแกร่งที่สุดในดินแดนนี้แล้ว ข้าแน่ใจว่าเจ้าย่อมต้องคิดถึงการไปอาณาจักรต้าเฉียน ข้าพูดถูกหรือไม่? ถ้าเป็นเช่นนั้น ข้าก็สามารถวางใจให้เจ้าจัดการกับเรื่องหลังของข้าได้…”

 

หลังจากได้ยินคําอธิบายของอาจารย์เจวซิน ฟางหยวนก็ยิ่งรู้สึกกดดัน

 

“จําเอาไว้ ก่อนที่เจ้าจะมีความสามารถพอ อย่าได้แก้แค้นให้ข้า!”

 

ประกายแสงค่อย ๆ สลัวลง และเสียงของอาจารย์เจวซินก็ค่อย ๆ เบาลงช้า ๆ ในที่สุด ก็เหลือเพียงความเงียบและแสงสุดท้ายที่กระทบพื้นก็จางหายไป

 

“ข้าจะทําตามคําสั่งของท่าน อาจารย์!”

 

ฟางหยวนยังมีท่าที่เคร่งขรึม

 

อาจารย์ของเขานั้นนับได้ว่าเป็นจ้าวแห่งฝันที่เก่งกาจผู้หนึ่ง อาจจะเหนือกว่าระดับสวรรค์มายา

 

พอคิดเช่นนี้ หากเขาเผชิญหน้ากับศัตรูของอาจารย์ตอนนี้ เขาก็เป็นเพียงมดตัวเล็ก ๆ หรือให้ ถูกต้อง ก็คือมดที่มีหัวโต แต่ก็ยังคงเป็นแค่มด!

 

“ข้าต้องรอจนกว่าจะทะลวงสู่ระดับสวรรค์มายา และขึ้นถึงจุดสูงสุดของระดับนั้น หรือข้าอาจจะสําเร็จระดับเปิดชีพจรและสร้างร่างสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์ก่อนที่ข้าจะสามารถคิดเรื่องการแก้แค้นได้!”

 

ฟางหยวนเก็บแผ่นหยกอย่างระวัง และในดวงตาก็เต็มไปด้วยไฟลุกโชน

 

“ระดับสวรรค์มายานั้นยากเกินกว่าจะฝ่าไปได้ และวิทยายุทธ์ของข้า ก็ค่อย ๆ เข้าสู่ทางตันอีกครั้งแล้ว”

 

นี่คือความรู้สึกของเขาหลังจากสร้างชีพจรศักดิ์สิทธิ์ที่สามได้

 

อย่างไรเสีย เคล็ดอินทรียักษ์กายาเหล็กส่วนใหญ่แล้วนั้นเป็นเขาสร้างขึ้นเอง มีพื้นฐานจากแหล่งเดียวคือเคล็ดลมปราณยิ่งใหญ่เฉียนคุนในส่วนของการเปิดชีพจร นอกเหนือจากนั้นตํารามากมายที่เขาได้อ่านจากหอตํารานั้นก็ไม่ได้มีรายละเอียดหรือมีคุณค่ามากพอให้เขาใช้อ้างอิง

 

เขาไม่สามารถเข้าถึงตําราซึ่งอธิบายถึงการสร้างร่างสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์ได้

 

นี่ทําให้เขาไม่สามารถที่จะพัฒนาการฝึกตนได้อย่างรวดเร็ว และทุกย่างก้าวของเขาก็ลําบากมาก

 

“ขอบเขตเปิดชีพจร สามชีพจรแรกสามารถจัดเป็นหนึ่งกลุ่ม และจะต้องเผชิญกับอุปสรรคที่ต้องฝาก่อนที่จะสร้างขึ้นมาได้แต่ว่าความยากของการสร้างชีพจรที่สี่นั้นสูงกว่าสามชีพจรแรกมากและแค่จินตนาการว่าข้าจะสามารถทะลวงสู่ระดับการสร้างชีพจรศักดิ์สิทธิ์ที่ 7 ได้อย่างไรก็ยิ่งน่ากลัวแต่ถ้าข้าสามารถทําได้ ข้าก็คงเป็นที่นับถือแม้แต่ในอาณาจักรต้าเฉียนแล้ว”

 

ฟางหยวนมองหน้าต่างสถานะของตัวเองแล้วก็คิด

 

ตอนนี้เขากําลังถึงทางตันทั้งในด้านการฝึกวิทยายุทธ์และการฝึกตนเป็นจ้าวแห่งฝัน รวมทั้งทักษะอื่นด้วย

 

การฝึกตนทั้งหมดของเขาดูจะเผชิญกับอุปสรรคครั้งใหญ่แล้ว

 

และยังมีพลังธาตุไม่เพียงพอ นี่อาจจะเป็นสาเหตุให้เขาเจอกับปัญหา และไม่สามารถเดินต่อไปได้

 

“การรักษาของข้าเพิ่งอยู่ที่ระดับ 3 แม้ว่าข้าจะได้ช่วยชีวิตผู้อื่นเอาไว้มากมายในช่วงสามปีนี้แต่มันก็ยังเหมือนเดิมส่วนการดูแลพืช พืชวิญญาณที่ข้ามีล้วนเป็นระดับต่ําและไม่สามารถช่วยข้าทะลวงผ่านได้อีกต่อไป”

 

ฟางหยวนถอนหายใจขณะออกจากถ้ํา เขากลับไปที่จุดหนึ่งตรงริมสวนสมุนไพร

 

ตรงนั้น ผืนดินแห้งแล้ง มีชั้นขี้เลื่อยสีเงินหนาเรียงตัวเป็นวงอยู่วงหนึ่ง

 

ทั้งหมดมีแค่นั้น ไม่มีสัญญาณของพืชมีชีวิตใด

 

“นี่เป็นโอกาสเดียวที่การดูแลพืชของข้าจะสามารถทะลวงผ่านได้ แต่น่าเสียดาย…” ขณะที่ดวงตาของเขาเป็นประกายขึ้น ฟางหยวนยกมือขวาขึ้น

 

“ซ่า!”

 

ผืนดินตรงกลางวงแยกออก เผยให้เห็นเมล็ดพืชสีดําสนิทที่อยู่ด้านล่าง และเมล็ดพืชนั่นก็ลอยเข้าสู่มือของเขา

 

นี่เป็นหนึ่งในสมบัติล้ําค่าที่เขาได้มาจากที่พํานักลับของลู่เหรินเจีย

 

อู๋เหรินเจียเป็นจ้าวแห่งการเล่นแร่แปรธาตุที่มีชื่อเสียงผู้หนึ่ง ทรัพย์สมบัติของเขานั้นมีค่ามากและเม็ดยาวิญญาณทั้งหมดของเขายังช่วยให้ฟางหยวนทะลวงผ่าระดับได้ หนังเสือดาวซินโหมวนั้นก็ค่อย ๆ ถูกสร้างเป็นเกราะชิ้นหนึ่งในช่วงสามปีที่ผ่านมา และฟางหยวนก็สวมมันไว้ด้านใน ตั้งแต่นั้น

 

เมล็ดพืชนี้ลึกลับมาก ฟางหยวนเดาว่ามันอาจจะเป็นระดับดินหรืออาจจะระดับฟ้าเพราะแค่พลังที่แผ่ออกมาก็ช่วยให้ฟางหยวนสามารถทะลวงผ่าระดับทักษะการดูแลพืชได้ถ้ามันงอกต้นอ่อน ก็น่าจะช่วยให้ฟางหยวนสามารถทะลวงผ่าระดับได้อีกครั้ง

ในช่วงสามปีที่ผ่านมาฟางหยวนนั้นทดลองทําทุกอย่างแม่ว่าเมล็ดก็ยังคงอยู่เช่นเดิม ซึ่งเป็น เรื่องที่ไม่น่าพอใจนัก

 

“น่าจะมีวิธีทําให้มันงอกได้อยู่ในอาณาจักรต้าเฉียน!”

 

เพราะคิดเช่นนี้ มือของฟางหยวนก็เปล่งแสง และเมล็ดก็ถูกเก็บเอาไว้อย่างปลอดภัยในไข่มุกภูผานที่

 

“ผลหยกแดงนี้ตอนนี้ไร้ประโยชน์กับข้าแล้ว พวกเจ้าก็ไปแบ่งกันเอาแล้วกัน!”

 

หลังจากจัดการเสร็จ ฟางหยวนก็เดินออกมาและเห็นสัตว์วิญญาณทั้งสามที่รออยู่ด้านนอก “ข้าจะไปจากที่นี่สักระยะหนึ่ง ดูแลและปกป้องดินแดนแห่งนี้ให้ข้าด้วย!”

 

เมื่อได้ยิน ฮวาหูเตียวก็ดูกระวนกระวาย มันพุ่งเข้าไปหาฟางหยวนแล้วกัดเสื้อคลุมของเขาเอา

 

ราชานกหงเอี่ยนป่ายและอินทรีดําหางเหล็กก็ดูไม่ยินยอมเช่นกัน

 

“ไม่เป็นไร เป็นเด็กดีนะ!”

 

สัตว์วิญญาณทั้งสามเหล่านี้ล้วนมีระดับการฝึกตนเทียบเท่ากับผู้ฝึกยุทธ์ระดับประตูทองที่ 12 แล้วแต่ว่าพวกมันก็ยังไม่สามารถทะลวงฝาสู่อู่จงได้

 

อย่างไรเสีย ประตูสู่การปลดปล่อยพลังธาตุนั้นก็ไม่ได้ฝาได้ง่าย ๆ พวกมันย่อมไม่เข้าถึงระดับนั้นได้โดยง่าย

 

“ข้าคงคิดถึงพวกเจ้าทั้งสาม แต่ว่าพาพวกเจ้าทั้งสามไปด้วยนั้นก็ออกจะลําบาก…”

 

ฟางหยวนถอนหายใจ

 

มันคงจะสะดวกมากถ้าหากเขาสามารถขึ้นบินไปบนหลังนก แต่ว่า การเดินทางครั้งนี้ของเขานั้นต้องผ่านเขตเหนือสุดของดินแดนทุ่งหญ้าซึ่งมีสายลมรุนแรงที่พัดอยู่ตลอดเวลาทําให้มันยากที่จะบินผ่าน

 

นอกจากนี้ ในอาณาจักรต้าเฉียน สัตว์วิญญาณที่ไม่ถึงระดับอู่จงนั้นก็ใช้งานได้ไม่มาก

 

เขาจึงอยากจะทิ้งพวกมันไว้ที่บ้านเพื่อให้ฝึกฝนด้วยตนเอง ใครจะรู้ ในเมื่อดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดเขาชอุ่มนั้นลึกลับเพียงนี้และยังมีพืชวิญญาณ เขาอาจจะกลับบ้านมาพบกับความประหลาดใจก็ได้

 

ดังนั้น เขาจึงเก็บสิ่งของต่าง ๆ เอาไว้ให้พวกมันตั้งมากก่อนที่จะจากไป

 

“ไปเถอะ!”

 

เขากระโดดขึ้นบนหลังราชานกหงเอี่ยนป้ายและสั่งให้ขึ้นบิน

 

ทันใดนั้นราชานกหงเอียนป่ายก็กางปีกและลอยขึ้นสู่ฟ้า

 

เมืองอี้ชานผู้

 

หลังจากผ่านการขยับขยาย ที่นี่ตอนนี้ก็เป็นเมืองหลวงของประเทศโยว เมืองแผ่กระจายออก ไปในรูปแบบเดียวกับใยแมงมุมและมีถนนเชื่อมต่อระหว่างแต่ละเมือง มีผู้คนมากมายและทั้งหมดก็ดูเจริญรุ่งเรืองเจริญรุ่งเรืองกว่าแต่ก่อนมาก ๆ

 

“แกวก แกวก!”

 

ราชานกหงเอี่ยนป้ายนั้นค่อนข้างคุ้นเคยกับที่นี่ขณะนี้มันบินอยู่เหนือกําแพงเมืองมุ่งตรงสู่ราชวัง

 

“เป็นท่านผู้ครองเมืองขอรับ!”

 

บนกําแพงเมือง ทหารที่ลาดตระเวนอยู่ก็เริ่มคุกเข่าลงและคารวะไปทางเจ้านกขาว

 

“คารวะท่านเจ้าเมือง!”

 

ที่หน้าราชวัง หนิวติ้งเทียน จางชิงเฟิง และคนอื่น ๆ ได้ข่าวการมาถึงของฟางหยวนและก็รีบเดินทางมาต้อนรับ รวมทั้งโจวเหวินอู่เฉินซิ่งอว์ชินโหลว และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ

 

“เลิกมากพิธีได้แล้ว!”

 

ฟางหยวนลงจากหลังนกและโบกมือง่าย ๆ “เป็นอย่างไรบ้าง?”

 

“ด้วยชื่อเสียงของท่านและยังความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับประเทศเซีย ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดีแต่เดือนที่แล้วพวกเราได้รับของขวัญจากประเทศอู่!”

 

หนิวติ้งเทียนรายงานอย่างนอบน้อม

 

“ส่วนเรื่องปัญหาภายใน พวกเรารับผู้อพยพเข้ามา จัดสรรที่ดินว่างเปล่าให้ทํานาทําไร่และยังตั้งขบวนพ่อค้าขึ้นมาการค้าขายดีขึ้นมากดีกว่าก่อนเกิดสงครามด้วยซ้ํา ตอนนี้พวกเรายังได้รับ ดินแดนเพิ่มขึ้นจากประเทศอู่ ผู้คนจึงเริ่มขยับขยายไปที่นั่น ไม่เกินสิบปีพวกเราน่าจะเป็นประเทศที่แข็งแกร่งที่สุดในดินแดนแถบนี้!”

 

ขณะที่พูด ดวงตาของโจวเหวินอู่ก็เต็มไปด้วยความตื่นเต้น

 

“อืม ส่งคําสั่งลงไปว่าข้ามีเรื่องสําคัญจะประกาศระหว่างงานเลี้ยงคืนนี้!”

 

ฟางหยวนก้มหน้าลงนิด ๆ เดินเข้าไปในราชวัง

 

ที่นี่เดิมทีคือคฤหาสน์เจ้าเมือง หลังจากมีการปรับปรุง ทุกอย่างเปลี่ยนเป็นเรียบง่ายเพราะว่าเขาไม่ใช่คนที่ชอบความหรูหราปกติเขาก็อาศัยที่ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ยอดเขาชอุ่มจึงไม่ได้มีความจําเป็นต้องตกแต่งที่นี่ด้วยทองและเงินแต่อย่างใด

 

“องค์ราชา!”

 

เมื่อผู้รับใช้และเหล่าสนมเห็นเขาเข้า ทุกคนก็ย่อตัวลงคารวะ

 

โดยเฉพาะเหล่าสนม พวกนางล้วนเป็นคนพื้นถิ่นและได้รับเลือกจากเจ้าหน้าที่ พวกนางล้วนมีรูปร่างดงามและยังมองเขาด้วยสายตาคาดหวัง

 

ทุกคนล้วนอยากขึ้นเป็นราชินี

 

อย่างไรเสีย มันก็ประหลาดสําหรับฟางหยวนที่เป็นราชา แม้ว่าเขาจะเป็นราชา แต่กลับไม่มีภรรยาไม่มีบุตรนี่ทําให้เกิดข้อสงสัยมากมายและผู้หญิงที่ได้รับคัดเลือกเข้ามาเป็นสนมของเขาก็ถูกม้วนเข้าไปในความวุ่นวายนี้ และบางคนถึงกับตายตกไปในระหว่างความขัดแย้งที่เกิดขึ้นทั้งหมดนี้ทําให้ฟางหยวนพูดไม่ออก และเขาก็ไม่มีทางเลือกนอกจากสั่งให้คนของเขากักบริเวณทุกคนเพื่อตรวจสอบ ถึงตอนนั้นทุกอย่างถึงได้สงบไป

 

แม้ว่าเขาจะไม่ได้ติดข้อจํากัดใด แต่เขาก็ยังไม่อยากเริ่มต้นชีวิตครอบครัวแม้ว่าจะไม่ได้ต้องการออกบวชก็ตาม

 

แล้วเขายังกําลังเตรียมตัวเดินทางไปอาณาจักรต้าเฉียน หากเขาต้องทิ้งภรรยาและลูกไว้เบื้องหลัง มิใช่เท่ากับว่าเขาทิ้งครอบครัวเอาไว้บนความเสี่ยงหรือ?

 

ดังนั้น เพื่อตัดปัญหา เขาจึงยังไม่สร้างครอบครัวตอนนี้

 

“ไปที่ห้องหนังสือ!”

 

เขาสั่งคนรับใช้

 

“ขอรับ!”

 

คนรับใช้ผู้นั้นดูยินดี ทําให้เขานึกถึงบางคน

 

หนึ่งปีหลังจากตระกูลหลินถูกขังเอาไว้ ฟางหยวนก็นึกถึงพวกเขาขึ้นมาได้และสั่งโจวเหวินอู่ให้ปล่อยตัว ใช้เคล็ดวิชาของจ้าวแห่งฝันของเขา เขาลบความทรงจําของหลินเหลยเยวและหลังจากนั้นก็ตัดความสัมพันธ์ทั้งหมดกับคนพวกนั้น

 

ส่วนศิษย์วิญญาณหลิงอิน นางกลายเป็นตัวทดลองของฟางหยวน หลังจากเข้าไปปรับเปลี่ยนความทรงจําของนางอยู่หลายครั้ง ในที่สุดนางก็ยอมจํานน ตอนนี้นางภักดีกับฟางหยวนและถูกพามาที่นี่เพื่อขึ้นเป็นหนึ่งในเจ้าหน้าที่ที่นี่

 

ห้องหนังสือ

 

หลังจากให้คนรับใช้ออกไป ฟางหยวนก็เดินเข้าไปและรออยู่ครู่หนึ่ง

 

“เจ้าสํานัก

 

พวกเรามาแล้ว!”

 

เสียงนุ่มนวลเสียงหนึ่งดังมา

 

“เข้ามาสิ!”

 

ประตูเปิดออกช้า ๆ หลายคนเดินเข้ามา พวกเขามีรัศมีพลังเวทย์อันแข็งแกร่ง ทั้งหมดล้วนเป็ นอู่จง ในนั้นยังมีสตรีอีกสองนาง

 

“คารวะท่านเจ้าสํานัก!”

 

ทันทีที่คนพวกนี้เห็นฟางหยวน ก็ก้มตัวลงคารวะและทักทายเขาอย่างเคารพ

มีสตรีผู้หนึ่งในดวงตานั้นเต็มไปด้วยอารมณ์ที่ผสมปนเป ทั้งเศร้าทั้งแค้น ไม่สงบ สตรีผู้นี้คือสีออรื้อง!

 

“ลุกขึ้นเถอะ!”

 

ฟางหยวนโบกมือ “พวกเจ้าทั้งหมดล้วนเป็นผู้อาวุโสของสํานักหยวน ไม่ต้องมากพิธีไป!” 

 

สามปีก่อน ไม่เพียงแค่ฟางหยวนเริ่มก่อตั้งประเทศโยว แต่ยังเริ่มต้นสํานักของตัวเองด้วย เขาสร้างกลุ่มของผู้ฝึกยุทธ์ที่ใหญ่ที่สุดบนแผ่นดินแถบนี้ และเรียกมันว่าสํานักหยวน!

 

สมาชิกต้องมีหน้าที่ต้องแลกเปลี่ยนและฝึกวิทยายุทธ์ และท่ามกลางคนพวกนี้ บางคนยังสา มารถเข้าถึงการฝึกสู่ขอบเขตเปิดชีพจรได้ การคัดเลือกคนนั้นไม่ได้จํากัดภูมิหลังของครอบครัว จึงมีผู้ฝึกยุทธ์จํานวนมากเข้าร่วม ถึงตอนนั้นจะยังไม่ใช่สํานักที่แข็งแกร่งที่สุดแถบนี้แต่ตั้งแต่นั้นมา ประเทศโยวกลับกลายเป็นสรวงสวรรค์ของผู้ฝึกยุทธ์

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด