Divine Card Creator – ตอนที่ 29 ฉันเป็นพ่อแกนะ!

อ่านนิยายจีนเรื่อง Divine Card Creator ตอนที่ 29 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ในเวลาเดียวกัน…ที่วิทยาลัยเทคนิคอาชีวะ

 

ทุกคนในวิทยาลัยต่างรู้ดีถึงเรื่องที่เกิดขึ้นที่เหมือง

 

เหล่านักศึกษาได้รับรู้ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการฝึกงาน แถมพวกเขายังรู้ด้วยว่าในบรรดานักศึกษาชั้นปีที่ 2 มีนักศึกษาฮาร์ดคอร์กลุ่มหนึ่งที่สามารถเอาชนะผู้บ่มเพาะระดับ 3 ได้!

 

เซี่ยหยู นักแม่นปืน

 

จางเสี่ยวปัง นักวาดภาพลวงตา

 

ฉางเหลียง นักเวทย์ธาตุแสง

 

ลู่หมิง นักสร้างการ์ด

 

พวกเขาทั้งสี่คนกลายเป็นตำนานของวิทยาลัย

 

ส่วนอายุของเด้กพวกนี้น่ะเหรอ?

 

ไม่มีใครสนแล้ว!

 

“พวกมันทรงพลังขนาดนั้นเลยเหรอ?”

 

“นายคิดว่าไงล่ะ? ตอนนั้นฉันเห็นมากับตาตัวเอง หลังจากเซี่ยหยูปล่อย Frostbolt และแช่แข็งศัตรูได้ฉางเหลียงก็ส่องแสงใส่ตาศัตรูทำให้ตาบอด จากนั้นจางเสี่ยวปังก็คอมโบปล่อยภาพลวงตาทำให้ศัตรูสูญเสียสติไป คนพวกนั้นทำได้แค่เต้นอยู่บนฝ่ามือของพวกเขา

 

“พวกเขาแข็งแกร่งมาก!”

 

“แล้วลู่หมิงล่ะ”

 

“รุ่นพี่ลู่หมิง…”

 

ตัวประกอบขาเม้าหมายเลข 1 สูดหายใจเข้าลึก ๆ ขณะที่กำลังเล่า “เขาเป็นคนทำลายเหมือง”

 

ส่วนตัวประกอบ 2 เบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจ “ทำลายเหมือง?”

 

“เดี๋ยวเล่าให้ฟัง คือว่าตอนนั้น…”

 

ตัวประกอบหมายเลข 1 พูดด้วยเสียงเบา

 

เมื่อเป็นเช่นนี้…

 

ในไม่ช้าทุกคนในวิทยาลัยอาชีวะก็รู้ว่าพวกเขามีนักสร้างการ์ดคนหนึ่งที่แข็งแกร่งและเป็นคนโหดร้ายที่สามารถฆ่าคนด้วยการฝังทั้งเป็นหากไปหาเรื่องเขาได้

 

สยดสยองสุด ๆ!

 

 

ขณะเดียวกัน ภายในสำนักงานใหญ่

 

ชายวัยกลางคนกำลังนั่งอยู่ที่โต๊ะทำงานดูรายงานเกี่ยวกับการฝึกงาน เขาเป็นอาจารย์ใหญ่ของวิทยาลัยเทคนิคอาชีวะ!

 

ข้างในรายงานมีรายละเอียดเยอะมาก

 

เต็นท์ขย่ม…

 

ฟู่หงหมิง…

 

มันรายงานแม้กระทั่งทุกคำพูดที่เหล่านักศึกษาได้กล่าวออกไป

 

ทุกคนสามารถรอดตายจากวิกฤตมาได้โดยปราศจากอันตรายเนื่องจากนักศึกษาบางกลุ่ม นับได้ว่านี่ยังเป็นการพิสูจน์ศักยภาพของนักศึกษาเหล่านี้ทางอ้อมด้วย ฉะนั้นวิทยาลัยต้องให้ความสำคัญกับนักศึกษาเหล่านี้

 

บางที…

 

เด็กเหล่านี้อาจจะมีความสามารถโดดเด่นในหมู่เพื่อน ๆ!

 

คงถึงเวลาแล้วที่วิทยาลัยของพวกเขาจะผลิตนักศึกษาที่มีความสามารถออกมา

 

“เด็กเหล่านี้จัดได้ว่ามีพรสวรรค์”

 

อาจารย์ใหญ่พอใจมาก

 

องค์ประกอบอะไรทำให้คน ๆ หนึ่งโดดเด่นขึ้นมาจากฝูงชนคนธรรมดา?

 

ความกล้า!

 

ไหวพริบและความฉลาดเฉลียว!

 

แม้ว่าจะยังมีจุดที่พัฒนาได้มากกว่านี้ แต่จากสถานการณ์ภายในเหมืองก็ถือได้ว่าพวกเขาทำได้ดีมากแล้ว อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าพวกเขายังเป็นแค่ผู้บ่มเพาะระดับ 1 กันเองซะด้วย นี่ถือว่ายอดเยี่ยมมากแล้ว

 

โดยเฉพาะ—

 

ลู่หมิง

 

“เพราะยังไงเขาก็เป็นน้องชายของเธอคนนั้น…”

 

อาจารย์ใหญ่ยิ้ม

 

ขณะเดียวกัน …

 

ที่โต๊ะทำงานของเขา มีชายชราผมหงอกยืนอยู่ข้างๆ กำลังมองไปที่อาจารย์ใหญ่ที่ถือรายงาน พร้อมกับพยักหน้า และหัวเราะคิกคัก

 

เขาดูราวกับคนบ้าในโรงบาลจิตเวช

 

“เลิกทำท่าทางพิลึกๆ เวลาอ่านรายงานทีเถอะฉันขอร้อง”

 

ชายชราถอนหายใจ

 

“มันคือสไตล์ของผู้นำต่างหาก”

 

อาจารย์ใหญ่ไม่สนใจ

 

“เหอะ เหอะ”

 

ชายชราหัวเราะเยาะ แต่เขาก็ไม่สามารถบังคับใคร จึงได้แต่ขอร้องไปแทน

 

“เช้าวันนี้เซี่ยหยูและคนอื่นๆ เอาใบรับรองไปแลกเปลี่ยนเป็นคำแนะนำจากปรมาจารย์กันหมดแล้ว ฉันเดาว่าหลังจากการฝึกอบรมไปแล้ว ความสามารถของพวกเขาจะดีขึ้นอย่างก้าวกระโดด”

 

“เยี่ยมมาก”

 

อาจารย์ใหญ่พึงพอใจ

 

“แล้วลู่หมิงล่ะ” เขาถามอีก

 

“ลู่หมิงยังไม่ได้เลือกและวันนี้เขาไม่ได้มาเรียน” ชายชราตอบ

 

“คุณคิดว่าเขาจะเลือกใคร” อาจารย์ใหญ่ถามอย่างกะทันหัน

 

“ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาในตอนนี้คือรากฐาน” ชายชราคิดก่อนที่จะว่าต่อ “ถ้าเขาต้องการจะพัฒนาโดยเร็วทางเลือกที่ดีที่สุดคือเขาน่าจะเลือกอาจารย์ที่เก่งที่สุดในการวาดเส้นพื้นฐาน!”

 

“ตัวอย่างเช่น-“

 

“ฉัน!”

 

ชายชราผายมืออย่างภาคภูมิใจ

 

“เหอๆ” อาจารย์ใหญ่เย้ยหยัน “คุณลืมไปรึเปล่าว่า ผมเป็นนักสร้างการ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในวิทยาลัย”

 

“แต่รากฐานของนายไม่ดีเท่าของฉัน”

 

ชายชรามองด้วยสายตาอันดุดัน

 

เขาเชี่ยวชาญในด้านการสร้างพื้นฐานมานานกว่าสิบปี มีน้อยคนที่จะเหนือกว่าเขาในด้านนี้!

 

ในวิทยาลัยอาชีวะ ไม่สิ ในเมืองชิงหมิงแล้วไม่มีใครในสายพื้นฐานที่มีความสามารถเหนือกว่าเขา โดยเฉพาะไอขี้แพ้ที่มีพื้นฐานห่วยแตกตรงหน้าเขา

 

“เฮ้ย ผมเป็นนักสร้างการ์ดที่แข็งแกร่งที่สุดในวิทยาลัยนะ!”

 

อาจารย์ใหญ่โกรธมาก

 

“แต่รากฐานของนายไม่ดีเท่าของฉัน” ชายชราหัวเราะเยาะ

 

“ผมสามารถมอบความรู้เรื่องการสร้างการ์ดให้กับลู่หมิงได้มากกว่า”

 

อาจารย์ใหญ่พูดด้วยความไม่มั่นใจนัก

 

“แต่รากฐานของนายไม่ดีเท่าของฉัน” ชายชราหัวเราะเยาะซ้ำ

 

“เพ้ย แต่ผมอาจจะแข็งแกร่งขึ้นในอนาคต ส่วนคุณนั้นคงไม่มีโอกาสแล้ว”

 

อาจารย์ใหญ่ปฏิเสธที่จะยอมรับความพ่ายแพ้

 

“แต่รากฐานของนายไม่ดีเท่าของฉัน” ชายชราหัวเราะเยาะอีก

 

อาจารย์ใหญ่.  “…”

 

“เราลืมเรื่องนี้ไปกันเถอะ”

 

อาจารย์ใหญ่พูดไม่ออก

 

แม้ว่าเขาจะเป็นคนที่มีพรสวรรค์มาก แต่เขาก็ทำตามใจตัวเองและใช้เวลาอย่างสนุกสนานเมื่อตอนที่ยังเด็กและไม่ได้เข้าวิทยาลัยที่ดี หลังจากนั้นไม่นานเขาก็เริ่มตระหนักถึงปัญหานี้และพยายามปรับปรุงรากฐานอย่างหนักเพื่อก้าวข้ามความสะเปะสะปะที่เขาเคยสร้างไว้ก่อนที่จะมาเป็นอาจารย์ใหญ่ อย่างไรก็ตามเส้นพื้นฐานยังนับว่าเป็นจุดอ่อนของเขามาตลอดโดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขาแข็งแกร่งขึ้นแล้ว

 

มันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับปรุงลายเส้นพื้นฐานที่เขาเคยเรียนรู้มากว่าครึ่งชีวิตให้ดีขึ้นได้

 

การสร้างการ์ดทั้งหมดขึ้นอยู่กับลายเส้นพื้นฐาน การ์ดทั้งหมดที่เขาเรียนรู้และทุกลายเส้นที่เขาใช้นั้นก็นับเป็นส่วนหนึ่งของลายเส้นพื้นฐาน

 

ลายเส้นพื้นฐานคืออะไร?

 

มันไม่ใช่แค่ลวดลายที่เราเห็นบนพื้นผิวของการ์ด

 

แต่มันคือความเสถียรในการควบคุมการไหลของพลังงานในทุกจังหวะ ทักษะนี้จำเป็นสำหรับนักสร้างการ์ดในอนาคตอย่างมาก!

 

ลายเส้นพื้นฐานแต่ละอันนั้นจะแตกต่างกันออกไป!

 

ถ้างั้นในส่วนของเทคนิคการสร้างการ์ดล่ะ?

 

โดยทั่วไปแล้วมันเป็นสูตรที่ได้มาจากการคำนวณของลายเส้นพื้นฐานจำนวนมาก

 

ดังนั้นหากต้องการจะปรับปรุงลายเส้นพื้นฐานเพียงเส้นเดียว ก็ต้องเริ่มใหม่ตั้งแต่ต้นเพื่อเรียนรู้เทคนิคการสร้างการ์ดใหม่ทั้งหมดอีกที! มันนับว่ายากยิ่งกว่าที่จะปรับปรุงเทคนิคระดับสูงซะอีก!

 

ดังนั้น…

 

เขาคงทำได้แค่ยอมแพ้

 

แต่ถึงอย่างนั้นในความคิดของเขา แค่วาดเส้นพื้นฐานพวกนี้พอใช้ได้ก็ดีพอแล้ว! ในหมู่นักสร้างการ์ดลายเส้นพื้นฐานของอาจารย์ใหญ่นับว่าดีพอสมควรด้วยซ้ำ

 

มันสำคัญตรงไหนถ้าต้องใช้เวลาจำนวนมากเพื่อการเป็นสุดยอดนักวาดเส้นพื้นฐาน?

 

ตัวอย่างเช่น…

 

คนที่อยู่ตรงหน้าเขา

 

เหอะ…เขาฝึกฝนมาตั้งหลายปี แต่ก็เป็นได้เพียงนักสร้างการ์ดระดับ 3 เท่านั้น!

 

เมื่อนึกได้อย่างนี้ อาจารย์ใหญ่ก็กลับไปนึกถึงบทสนทนาชวนหัวร้อนเมื่อครู่ เขาจึงรู้สึกกระปรี้กระเปร่าและตะโกนกลับไปว่า ”เฮ้ อย่าลืมนะว่ายังไงคุณเป็นแค่นักสร้างการ์ดระดับ 3!”

 

เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเถียงให้ถึงที่สุดโดยไม่สนใจความคิดเห็นของชายชราอีก

 

ชายชรามองเขาด้วยประหลาดใจก่อนที่เขาจะพูดช้าๆ “แต่ฉันเป็นพ่อแกนะ!”

 

“เห้ย เฒ่าเจียง อย่าใช้เรื่องส่วนตัวเป็นข้อโต้แย้งในวิทยาลัย!”

 

อาจารย์ใหญ่พูดกราดเกรี้ยว

 

“ต่อให้ไม่พูดเรื่องส่วนตัว แต่ฉันก็ยังเป็นพ่อของแก!” ชายชรากล่าวด้วยเสียงต่ำ

 

“ถ้าคุณยังไม่หยุด เชื่อไหมว่าผมจะไล่คุณออก”

 

อาจารย์ใหญ่เริ่มลุกลี้ลุกลน

 

“แม้ว่าแกจะไล่ฉันออก ฉันก็ยังเป็นพ่อแก!” ชายชราหัวเราะเยาะ

 

“เฒ่าเจียงอย่ามารังแกกันแบบนี้!”

 

อาจารย์ใหญ่ยังอารมณ์เสียอยู่

 

“เจียงเฟิงแกลืมพ่อแกไปแล้วหรอ”

 

เฒ่าเจียงปฏิเสธที่จะถอยหลังให้ในครั้งนี้

 

ทั้งสองจ้องมองกันและกันไม่มีใครยอมถอยแม้แต่ก้าวเดียว

 

“เหอๆ” เจียงเฟิงยิ้มเยาะ “ผมเป็นลูกชายที่ดี ฉะนั้นผมจะไม่เถียงพ่ออีก แต่ยังไงก็ตามการตัดสินใจอยู่ที่ลู่หมิง ผมจะรอดูว่าเขาเลือกใครในท้ายที่สุด”

 

“ฮึๆ ฉันก็จะรอดูเหมือนกัน”

 

เฒ่าเจียงเองก็เริ่มไม่มั่นใจ

 

ในห้องกลับมาเงียบสงบอีกครั้ง

 

เจียงเฟิงมองไปที่รายงานในมือของเขา เขาชะงักเมื่อเขาอ่านเกี่ยวกับอาจารย์อัน

 

อาจารย์คนนี้…

 

เจียงเฟิงขมวดคิ้ว แต่ก็ไม่มีใครรู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่

 

เฒ่าเจียงสังเกตเห็นว่าเขาหยุดขณะดูรายงานเกี่ยวกับอาจารย์อัน “แกควรให้ความช่วยเหลือแก่อาจารย์อันสักหน่อย”

 

“ช่วยยังไง?”

 

เจียงเฟิงขมวดคิ้ว “ผมให้เงินเดือนที่เขาสมควรได้รับ ความสามารถของลูก ๆ เขาอยู่ในระดับปานกลาง พวกเขาต้องสละอะไรบางอย่างไปอยู่แล้ว หากต้องการเหนือกว่าคนอื่น ๆ

 

ชายชราถอนหายใจ “เขาทำให้ฉันนึกถึงตัวเองในอดีต”

 

เจียงเฟิงหยุดไปชั่วขณะ

 

อันที่จริง…เขาก็เข้าใจเช่นกัน

 

ย้อนกลับไปในอดีต ถ้าเฒ่าเจียงไม่ยอมแพ้ในการบ่มเพาะและดูแลเขาด้วยทรัพยากรทั้งหมดที่มี เขาก็คงจะไม่ได้เป็นอาจารย์ใหญ่ในวันนี้ แม้ว่าเขาจะซุกซนและดื้อรั้น หรือกระทั่งไม่ได้เรียนในวิทยาลัยที่ดี แต่เขาก็ประสบความสำเร็จจากการฝึกฝนอย่างหนักและแซงหน้าคนอื่นๆ !

 

แม้ว่าการมีพรสวรรค์จะเป็นสิ่งสำคัญ แต่ทรัพยากรในการฝึกฝนก็สำคัญไม่แพ้กัน!

 

และราคาที่ต้องจ่าย…

 

…คือเฒ่าเจียงผู้นี้ติดอยู่ที่การเป็นผู้บ่มเพาะพลังระดับ 3 ตลอดกาล

 

“ผมเข้าใจแล้ว”

 

เจียงเฟิงดูเคร่งขรึม “ผมจะพิจารณาเรื่องเกี่ยวกับอาจารย์อันอีกที”

 

“ดีแล้ว”

 

เฒ่าเจียงรู้สึกโล่งใจ

 

เขากลัวว่าลูกชายจะไล่อาจารย์อันออกด้วยความโกรธ

 

“ในกรณีนี้…ผมจะให้ความช่วยเหลือแก่อาจารย์อัน ดังนั้นคุณควรให้ลู่หมิงเป็นศิษย์ของผม”

 

เจียงเฟิงเปลี่ยนหัวข้อ

 

“เป็นไปไม่ได้!”

 

เฒ่าเจียงโกรธมาก “จะเป็นการดีที่สุดสำหรับเขา ถ้าเขาได้ฉันเป็นอาจารย์”

 

“แต่คุณอ่อนแอเกินไปและคุณสามารถสอนเขาได้เฉพาะพื้นฐานเท่านั้น แล้วส่วนที่เหลือล่ะ?” เจียงเฟิงคำราม

 

“แล้วไม่ใช่ฉันที่เป็นคนสอนแกหรอกเหรอ”

 

เฒ่าเจียงหัวร้อน “ตอนนี้แกเป็นยังไง ฉันสอนแล้วแกอดตายไม่มีอนาคตไหม?”

 

เจียงเฟิงพูดไม่ออก

 

ทันใดนั้นเขาก็ตระหนักว่าเฒ่าเจียงเก่งกว่าเขาในเรื่องการเถียงเป็นอย่างมาก

 

ตอนนั้นเอง …

 

ผู้ช่วยของอาจารย์ใหญ่ก็เดินเข้ามาข้างใน เขาไอเมื่อได้เห็นฉากพ่อลูกตีกันเพื่อแย่งศิษย์  “เอ่อ…ใบรับรองของลู่หมิงถูกส่งขึ้นมาแล้ว”

 

“โอ้?!”

 

ดวงตาของทั้งพ่อและลูกชายสว่างขึ้น

 

“เขาเลือกฉันหรือตาเฒ่านี่?”

 

เจียงเฟิงถาม

 

“เอ่อ…”

 

ผู้ช่วยลังเลก่อนจะตอบ “มะ-ไม่ใช่พวกคุณทั้งคู่”

 

“เขาเลือกนักสร้างการ์ดหรือ?”

 

เจียงเฟิงรู้สึกสับสน

 

“หรือเป็นไปได้ไหมว่าเขาเลือกไปแบบสุ่มๆ”

 

เฒ่าเจียงเต็มไปด้วยความสงสัย

 

เพราะอย่างไรก็ตาม ทั้งสองคนเป็นคนที่เก่งที่สุดในด้านการสร้างการ์ดในวิทยาลัยอาชีวะ คนหนึ่งเชี่ยวชาญทักษะการสร้างการ์ดที่หลากหลายมากที่สุด ในขณะที่อีกคนหนึ่งเก่งที่สุดในเรื่องลายเส้นพื้นฐาน

 

“อ่า….ไม่เชิงครับ”

 

ผู้ช่วยชะงักก่อนจะยิ้มอย่างขมขื่น “เขาขายใบรับรองทิ้งไป”

 

เจียงเฟิงรู้สึกราวกับเป้นไอโง่ “ขะ-เขาขายมันทิ้งปะ-ไปหรอ?”

 

“ใช่ครับ”

 

ผู้ช่วยก็รู้สึกหมดหนทางเช่นกัน  “เขาเรียกรวบพลนักศึกษาทั้งหมดที่คณะการสร้างการ์ดและเปิดประมูลใบรับรองที่มีลายเซ็นของคุณ”

 

เจียงเฟิงงงงวย

 

วิทยาลัยนี้มีประวัติหลังก่อตั้งมาอย่างยาวนาน แต่เขาไม่เคยได้ยินว่ามีใครประมูลใบรับรองซึ่งเป็นดั่งเกียรติยศ

 

เฮ้ย ไอนั่นมันแลกกับการชี้แนะจากปรมาจารย์ได้สักคนเลยนะเว้ย ขายทิ้งหรอ?!

 

นี่…

 

นี่มันหมายความว่ายังไงกัน!?

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด