อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) – บทที่ 40 วีรบุรุษปกป้องสาวงาม

อ่านนิยายจีนเรื่อง อัจฉริยะเขย่าโลก (重生之最强人生) ตอนที่ 40 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 40 วีรบุรุษปกป้องสาวงาม

 

 

หวังไคผิงถูกลุงซูซ้อมอย่างหนักจนยืนไม่ได้

 

 

จากนั้นลุงซูก็พาหนิงเทียนหนานออกจากร้านทันที

 

 

“ผมขอโทษที่ทำให้คุณต้องมาเจออะไรแบบนี้” ลุงซูโค้งขอโทษอย่างรู้สึกผิด

 

 

“ฉันต่างหากที่ต้องขอโทษคุณ ฉันทำให้คุณเสียหาย”

 

 

“มันก็แค่เงิน 6 หมื่นเท่านั้น ต่อให้เป็น 6 แสน หรือมากกว่านั้นผมก็จะไม่ยอมให้มันทำแบบนั้นกับคุณอยู่ดี” ลุงซูพูดอย่างเหยียดหยาม “มันก็เป็นแค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้น”

 

 

ลุงซูจับมือของหนิงเทียนหนานเอาไว้แน่น เขาพาเธอเดินไปบนถนนที่มีผู้คนมากมายโดยที่ไม่อายใคร มันทำให้หนิงเทียนหนานรู้สึกดีอย่างมาก

 

 

ไม่ว่าผู้หญิงทุกคนจะเข้มแข็งแค่ไหน ยังไงพวกเธอก็ยังเป็นผู้หญิงอยู่ดี

 

 

การแต่งงานของลุงซูยังไม่ได้เปิดเผยให้ลูกชายของเขาซูเฉิงหลงได้รู้

 

 

แต่ในที่สุด.. หลินปู้ฟานที่กำลังงีบหลับอยู่ที่บ้านเขาก็ต้องตื่นขึ้น เพราะเสียงโทรศัพท์ เป็นลูกชายของลุงซูที่โทรมา

 

 

ลุงซูได้พูดถึงลูกชายของเขาไว้หลายครั้ง และเขาก็ต้องการให้ลูกชายของเขามาเรียนรู้กับหลินปู้ฟานในอนาคต

 

 

หนึ่งชั่วโมงต่อมา หลินปู้ฟานก็มาอยู่ที่เหิงหลงพลาซ่า

 

 

ซูเฉิงหลงและหลินปู้ฟานนัดพบกันที่นี่

 

 

9 โมงตรงเด็กชายอายุประมาณ 16-17 ปีในชุดสูทเดินเข้ามาหาหลินปู้ฟาน

 

 

“นายคือหลินปู้ฟาน?”

 

 

“นายก็คงเป็นคือซูเฉิงหลงใช่ไหม?”

 

 

“ใช่”

 

 

“นายเรียกฉันมาทำไม?”

 

 

“เราไปหาที่นั่งคุยกันเถอะ”

 

 

ซูเฉิงหลงพาหลินปู้ฟานไปยังสวนของจัตุรัสซึ่งมีต้นไม้ปกคลุมอยู่

 

 

“นายบอกให้พ่อของฉันแต่งงานใหม่ใช่ไหม?” ซูเฉิงหลงถาม

 

 

“นายกำลังพูดเรื่องอะไร?”

 

 

“อย่ามาเสแสร้ง ฉันได้ยินเรื่องที่นายคุยกับพ่อของฉันผ่านโทรศัพท์หมดแล้ว นายต้องการให้พ่อของฉันไปแต่งงานกับแม่ม่าย” ซูเฉิงหลงเคยได้ยินบทสนทนาของทั้งสองตอนที่ลุงซูและหลินปู้ฟานคุยกันผ่านโทรศัพท์ เขาจึงรอให้พ่อของเขาหลับและแอบจดเบอร์ของหลินปู้ฟานมา

 

 

หลินปู้ฟานยิ้ม “นายโกรธเพราะพ่อของนายกำลังจะแต่งงานใหม่ หรือเพราะพ่อของนายแต่งงานกับแม่ม่าย?”

 

 

“ทั้งหมดนั่นแหละ! นายเป็นใครถึงมีสิทธิ์มากำหนดเรื่องพวกนี้?”

 

 

“แล้วยังไง?” หลินปู้ฟานกล่าวพร้อมกับยักไหล่

 

 

“นายต้องบอกให้พ่อของฉันยกเลิกการแต่งงานนั่นเดี๋ยวนี้ ไม่อย่างนั้นก็อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”

 

 

“ตอนนี้นายอายุเท่าไหร่? ทำไมถึงได้ไร้เดียงสาขนาดนี้?”

 

 

“มาดูกันว่าหลังจากนี้จะยังปากดีได้อยู่ไหม? พี่ช๋งออกมา” ซูเฉิงหลงไม่ได้มาคนเดียว เขาพาช๋งเฉินและกลุ่มของเขามาด้วยและให้ช๋งเฉินไปหลบอยู่หลังพุ่มไม้ก่อน

 

 

หลังจากหลินปู้ฟานเดินเข้าไปในสวน ช๋งเฉินก็ตกตะลึง คนที่ซูเฉิงหลงต้องการสอนบทเรียนให้คือหลินปู้ฟาน?

 

 

“โอ้พี่ช๋ง พี่ก็อยู่ที่นี่ด้วยเหรอ?” หลินปู้ฟานยิ้มและมองไปที่เงาคนในพุ่มไม้ “พี่ช๋งออกมา!”

 

 

“ถ้านายรู้จักพี่ช๋งแล้ว นายก็น่าจะรู้ดีว่าพี่ช๋งมีอำนาจขนาดไหน” ซูเฉิงหลงกล่าวอย่างมีชัย “คุกเข่าลงซะ!”

 

 

ช๋งเฉินเกาหัวและเดินออกมา คนอื่นๆ อีกสองสามคนก็ตามออกมาด้วย

 

 

“พี่ช๋งจัดการมันเลย” ซูเฉิงหลงตะโกนอย่างหยิ่งผยอง

 

 

ช๋งเฉินไม่กล้าที่จะเข้าไปใกล้หลินปู้ฟาน เขาทำตัวไม่ถูกและยืนงึกๆ งักๆ อยู่ข้างๆ ซูเฉิงหลง

 

 

“พี่ช๋ง พี่เป็นอะไรไป? ทำไมพี่ไม่ลงมือ?” ซูเฉิงหลงงงงวย

 

 

“นายน้อยหลงผมไม่กล้ามีเรื่องกับคนคนนี้ นายน้อยคงต้องจัดการเรื่องนี้ด้วยตัวเอง” ช๋งเฉินโบกมือและวิ่งหนีไปกับคนของเขา

 

 

ซูเฉิงหลงตกตะลึง “พี่จะไปไหน กลับมาก่อน!”

 

 

“ถ้านายต้องการจะสั่งสอนคนอื่นนายก็ต้องพึ่งพาความแข็งแกร่งของตัวเองเพื่อที่จะทำให้อีกฝ่ายเคารพ ไม่ใช่ด้วยวิธีขี้ขลาดแบบนี้” หลินปู้ฟานบูดขณะที่เขาเดินไปถึงตัวซูเฉิงหลง

 

 

“แกคิดว่าแค่ไม่มีพี่ช๋งแล้วฉันต้องกลัวแกหรือไง?” ซูเฉิงหลงก็หยิบมีดคัตเตอร์ที่กำลังเป็นที่นิยมในหมู่นักเรียนในเวลานี้ออกมา

 

 

หลินปู้ฟานยืนมือออกไปอย่างรวดเร็วแล้วมีดคัตเตอร์เล่มนั้นก็มาอยู่ในมือขวาของหลินปู้ฟาน

 

 

ตั้งแต่ปี 1996 ถึงปี 1999 มีภาพยนตร์ซีรีส์ชื่อ”ถนนเปื้อนเลือด”ที่ได้รับความนิยมไปทั่วทุกที่ ตัวเอกของเรื่องเป็นนักเลงข้างถนนและชำนาญการใช้มีดคัตเตอร์มากๆ มีวัยรุ่นเลือดร้อนจำนวนมากที่ทำตามหนังเรื่องนี้และหลินปู้ฟานก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน เขามักจะควงมีดคัตเตอร์เล่นเสมอเวลาเขาว่าง

 

 

ซูเฉิงหลงมองอย่างตกตะลึงไปที่มีดคัตเตอร์ที่อยู่ในมือขวาของหลินปู้ฟาน แต่ในพริบตามีดนั่นก็กลับมาอยู่ในมือของเขาอีกครั้ง

 

 

“ตรงนี้ นายต้องแทงตรงนี้!” หลินปู้ฟานกระแทกมีดคัตเตอร์ใส่มือซูเฉิงหลง “แทงสิ ไม่กล้าเหรอ?”

 

 

หลินปู้ฟานจับมือของซูเฉิงหลงและชี้ไปที่หน้าท้องของเขา

 

 

มือของซูเฉิงหลงสั่นอย่างรุนแรง ร่างกายของเขาเอนไปข้างหลังโดยไม่รู้ตัว

 

 

“มา เข้ามา ฉันจะสอนให้รู้เองว่านักเลงจริงๆ เขาเป็นกันยังไง” หลินปู้ฟานขึ้นเสียงของเขา

 

 

“ผม… ผม…” ซูเฉิงหลงเป็นเพียงแค่เด็กอ่อนต่อโลกเท่านั้น เขาไม่ได้มีความกล้าพอที่จะแทงใครสักคน “ผมแค่ไม่ต้องการให้พ่อของผมแต่งงานใหม่ก็เท่านั้น”

 

 

“อะไร? นายต้องการจะให้พ่อตัวเองต้องอยู่คนเดียวไปตลอดชีวิตเหรอ? นายคิดว่านายจะอยู่กับพ่อของนายไปตลอดชีวิต?”

 

 

“ผมแค่อยากให้พ่อกับแม่มาคืนดีกัน ผมไม่อยากให้พ่อต้องแต่งงานกับคนอื่น” นี่คือความปรารถนาของลูกทุกคนที่พ่อแม่หย่าร้างกัน

 

 

“เดิมทีแม่ของนายก็ดูถูกพ่อของนายที่เขาเป็นคนยากจนและทอดทิ้งนายและพ่อของนายไปอย่างไม่มีเยื่อใยอยู่แล้ว แล้วนายยังหวังให้ผู้หญิงคนนั้นกลับมาทำร้ายพ่อของนายอีกครั้งเหรอ? นายไม่เห็นใจพ่อของนายบ้างเลยหรือไง?”

 

 

“แต่ยังไงผมก็ยังอยากให้ครอบครัวกลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง ผมแค่อยากให้พ่อกับแม่ของผมกลับมารักกันก็เท่านั้นเอง ฮือ ฮือ ฮือ…” ซูเฉิงหลงร้องไห้ออกมา

 

 

หลินปู้ฟานถอนหายใจ “ฉันเข้าใจความรู้สึกของนาย แต่นายก็ไม่มีสิทธิ์ไปทำลายความสุขของลุงซูได้ เพียงเพราะความสุขของตัวเองนายถึงกับจะยอมแลกกับพ่อของนายเลยเหรอ? เขาพยายามเลี้ยงดูนายมาด้วยความยากลำบากจนในที่สุดเขาก็ได้พบกับความสุขอีกหนึ่งอย่างของชีวิตเขา นายในฐานะลูกชายควรจะดีใจกับเขาสิ!”

 

 

“ไม่ว่าคุณจะพูดอะไรผมก็ไม่สนใจหรอก” ซูเฉิงหลงพูดพร้อมกับร้องไห้

 

 

“แล้วนายต้องการอะไร?” หลินปู้ฟานถามพลางเลิกคิ้ว

 

 

“คุณกับผม ตัวต่อตัว”

 

 

“ฮ่าฮ่าฮ่า” หลินปู้ฟานยิ้ม “นายยังไม่มีความสามารถมากพอ”

 

 

“ผมไม่ได้จะดวลกับคุณด้วยหมัดของผม”

 

 

ครึ่งชั่วโมงต่อมาทั้งสองก็มาถึงห้องเกมที่ชั้นสามของพลาซ่า

 

 

ในเวลานี้ เกมตู้ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดคือซีรีส์เกม King of Fighters ภาคที่คลาสสิกที่สุดคือ King of Fighters 97 ที่ซูเฉิงหลงต้องการจะดวลกับหลินปู้ฟาน

 

 

“หลินปู้ฟาน ถ้าคุณแพ้ผมคุณต้องบอกให้พ่อของผมยกเลิกเรื่องแต่งงานทั้งหมด” ซูเฉิงหลงกล่าวอย่างเคร่งขรึม

 

 

หลินปู้ฟานพยักหน้า “แต่ถ้านายแพ้ นายต้องเชื่อฟังฉันทุกอย่างในอนาคต”

 

 

“ตกลง”

 

 

เกมตู้ซีรีส์ King of Fighters ได้รับความนิยมอย่างมากและมีกลุ่มเด็กผู้ชายเข้าคิวรออยู่หน้าตู้เกมหลายคน

 

 

ซูเฉิงหลงเหลือบมองและเดินไปที่เครื่องเกมตู้ 97 ที่แออัดไปด้วยผู้คน “พวกแกออกไปให้หมด”

 

 

หลินปู้ฟานเลิกคิ้วและรอดูเรื่องสนุก

 

 

“ใครมันมาอวดดีแถวนี้วะ” เด็กที่มุงตู้เกมอยู่หันมาด้วยความไม่พอใจ แต่เมื่อพวกเขาเห็นซูเฉิงหลงพวกเขาก็เปลี่ยนเป็นยิ้มทันที “อาจารย์นี่เอง เชิญเลยครับเชิญเลยๆ”

 

 

เมื่อได้ยินอย่างนั้นคนรอบข้างก็พากันหันหน้ามามองดู “ไม่รู้หรือไงว่าใครมา หลีกไปอย่ามาขวางทาง”

 

 

หม่าซื่อและหม่าอ้วนหยุดชะงักหลังจากเห็นซูเฉิงหลง

 

 

“อาจารย์ในที่สุดอาจารย์ก็มา อาจารย์ช่วยสอนวิธีผ่านด่านนี้ให้ผมที” หม่าซื่อพูด

 

 

“ไว้คุยกันทีหลัง ฉันจะแข่งกับผู้ชายคนนั้นก่อน” ซูเฉิงหลงพูดพร้อมชี้ไปที่หลินปู้ฟาน

 

 

ซูเฉิงหลงเป็นลูกค้าประจำของที่นี่ ทักษะการต่อสู้ King of Fighters 97 ของเขาดีมากจนเด็กผู้ชายหลายคนที่ชื่นชอบซีรีส์ King of Fighters ถึงกับยกย่องเขาให้เป็นอาจารย์

 

 

“ท่านอาจารย์ ท่านจะกินหมูอีกแล้ว” หม่าอ้วนพูดพร้อมกับมองไปที่หลินปู้ฟานด้วยรอยยิ้ม “แกไม่มีทางชนะอาจารย์ของเราได้แน่นอน อาจารย์ของเราเก่งที่สุด”

 

 

หลินปู้ฟานยิ้ม “จริงเหรอ? ฉันเองก็เล่นเกมนี้เก่งมากเหมือนกันนะ”

 

 

“แกคงคิดว่าตัวเองเก่งสินะ แต่ก็เก่งแค่เพียงในกะลาของตัวเองเท่านั้นแหละ เมื่อแพ้ให้กับอาจารย์ของเราแกจะได้รู้ว่าโลกใบนี้มันกว้างใหญ่แค่ไหน” หม่าซื่อและหม่าอ้วนลุกขึ้นและปล่อยให้หลินปู้ฟานและซูเฉิงหลงนั่งเล่นแทน

 

 

หลังจากใส่เหรียญแล้ว ซูเฉิงหลงก็ควบคุมจอยสติ๊กไปยังปุ่มสุ่มตัวละคร

 

 

เขาสุ่มเลือกตัวละคร

 

 

“แม้จะสุ่มตัวละคร แต่อาจารย์ของเราก็ชนะได้ไม่มีปัญหาอะไร”

 

 

“อาจารย์สามารถเล่นได้ทั้งหมด 97 ตัวละคร”

 

 

“ชายคนนี้ไปเอาความกล้ามาจากไหน? เขาต้องแพ้อย่างแน่นอน”

 

 

ทั้งหมดคิดว่าหลินปู้ฟานจะต้องแพ้อย่างแน่นอน

 

 

หลินปู้ฟานเลือกเอ้อเจี่ย ไช่เบ๋าฉี๋และปู้จื้อหัวหวู่

 

 

ซูเฉิงหลงสุ่มได้เฉ๋าตี้จิง เค่อล่าเค๋อและต้าเหมิน

 

 

“มาดูกันว่าเขาจะเอาชนะ 3 ตัวนี้ของฉันยังไง” ซูเฉิงหลงเหลือบมองไปที่หลินปู้ฟานด้วยความเกลียดชัง

 

 

เริ่มต้นการต่อสู้ ตัวแรกของหลินปู้ฟานคือเอ้อเจี่ยและซูเฉิงหลงชนะเกมนี้ไปก่อน

 

 

ใครก็ตามที่คุ้นเคยกับซีรีส์ King of Fighters จะรู้ดีว่าทั้งไช่เบ๋าฉี๋และเฉ๋าตี้จิงนั้นแข็งแกร่งมาก แถมทั้งสองตัวนี้ก็เป็นตัวละครโปรดของผู้เล่นแทบทุกคนอีกด้วย

 

 

ด้วยความมั่นใจซูเฉิงหลงเปิดเกมรุกอย่างรุนแรงตั้งแต่เริ่มต้น และหลินปู้ฟานก็เริ่มโต้กลับหลังจากผ่านการตั้งรับ…

 

 

จบเกมด้วยหลินปู้ฟานได้สังหารตัวละครของซูเฉิงหลงลงทั้งหมด

 

 

ซูเฉิงหลงตกตะลึง

 

 

ทุกคนที่ดูอยู่ด้านหลังก็ตกตะลึงเช่นกัน

 

 

ซีรีส์ King of Fighters ได้รับความนิยมเนื่องจากเป็นเกมเชิงเทคนิคจริงๆ ตัวละครแต่ละตัวมีคอมโบและท่าไม้ตายที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง มีรูปแบบการเล่นที่หลากหลายและ‘ไป่เห๋อ‘ก็เป็นหนึ่งในคอมโบที่เกิดขึ้นหลังจากปี 2002 ที่มีการผสมผสานกันแบบไม่สิ้นสุดที่เรียกว่า infinite combo มันจะทำการโจมตีต่อเนื่องโดยไม่ให้คู่ต่อสู้ได้สวนคืนเลยจนเลือดของอีกฝ่ายหมดลง

 

 

“นายแพ้แล้ว” หลินปู้ฟานพูดออกมาเบาๆ

 

 

“นี่ไม่นับ แข่งใหม่อีกครั้ง” ซูเฉิงหลงไม่เชื่อว่าเขาจะแพ้

 

 

ครั้งนี้เขาเลือกตัวละครที่ดีที่สุดของเขา

 

 

หลินปู้ฟานก็เลือกตัวเหมือนกัน

 

 

แต่ผลก็ยังเหมือนเดิม

 

 

คนดูเริ่มฮือฮา “เขาทำได้ยังไง? เขาโจมตีต่อเนื่องไม่ให้อาจารย์ได้สวนคืนเลย”

 

 

หลังจากเล่นไปสิบรอบติดต่อกัน ซูเฉิงหลงก็ไม่ชนะเลยสักรอบ

 

 

ด้านหลังพวกเขาสองคน มีผู้คนจำนวนมากกำลังมุงดู และทุกคนที่ดูก็ประหลาดใจอย่างมาก พวกเขาไม่เคยเห็นคอมโบที่ไม่มีที่สิ้นสุดแบบนี้มาก่อน

 

 

“นายควรฝึกฝนอีกสัก 2-3 ปีก่อนค่อยมาท้าทายฉันใหม่นะ ฉันขอตัวไปสูบบุหรี่ก่อน” หลินปู้ฟานยืนขึ้น เขาเดินไปที่ห้องรับรองและจุดบุหรี่

 

 

สมองของซูเฉิงหลงกำลังอื้ออึง เขาพ่ายแพ้ในเกมที่เขาเล่นเก่งที่สุด

 

 

หลังจากนั้นไม่นาน ซูเฉิงหลงก็เข้ามาในห้องรับรองพร้อมกับโค้กสองแก้ว เขายื่นแก้วโค้กให้หลินปู้ฟาน “ผมแพ้แล้วครับ”

 

 

“นี่สิสมกับเป็นลูกผู้ชาย นั่งลง”

 

 

“ผมขอบุหรี่หน่อยได้ไหมครับ?”

 

 

หลินปู้ฟานยื่นบุหรี่ให้และหยิบไฟแช็กซิปโปขึ้นมาควงอย่างพริวไหวราวกับผีเสื้อกระพือปีก

 

 

สิ่งที่เด็กผู้ชายหลงใหลมากที่สุดคือความเท่แบบนี้นี่แหละ ซูเฉิงหลงเองก็เช่นกัน

 

 

“นายต้องเข้าใจพ่อของนายนะ เข้าใจไหม?” หลินปู้ฟานตบต้นขาของซูเฉิงหลง เหมือนพี่ชายสอนน้อง

 

 

“งั้นพี่ช่วยสอนคอมโบที่ไม่มีที่สิ้นสุดนั่นให้ผมได้ไหม?”

 

 

“ไม่มีปัญหา”

 

 

“ผมอยากเรียนวิธีควงมีดและไฟแช็กเหมือนเมื่อกี้ด้วย!”

 

 

“ได้!” หลินปู้ฟานยิ้มและลูบหัวของเขา

 

 

มิตรภาพระหว่างผู้ชายนั้นเรียบง่ายมาก

 

 

เมื่อทั้งสองเดินออกจากพลาซ่า ขณะที่หลินปู้ฟานกำลังจะกล่าวคำอำลา ในตอนนั้นเองเขาก็เห็นเด็กผู้หญิงคนหนึ่งกำลังจะโดนทำร้ายอยู่ในระยะไกล

 

 

“หลิงหลิง?” ซูเฉิงหลงกล่าวด้วยความประหลาดใจ

 

 

เด็กสาวในชุดนักเรียนมัธยมที่อยู่ตรงหน้าคือเพื่อนร่วมชั้นของซูเฉิงหลงและก็เป็นคนที่เขาแอบชอบอยู่ด้วย เขาเคยให้ของขวัญกับเฟิงหลิงหลิงมาก่อน แต่เฟิงหลิงหลิงก็ไม่ยอมรับของขวัญนั้น

 

 

“นายรู้จักเธอ?” หลินปู้ฟานถาม

 

 

“เธอคือคนที่ผมแอบชอบอยู่ครับ” ซูเฉิงหลงหยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมาเพื่อที่จะโทรหาช๋งเฉิน

 

 

“นายกำลังจะทำอะไร?” หลินปู้ฟานถามด้วยความประหลาดใจ

 

 

“โทรหาพี่ช๋งครับ ผมจะบอกให้เขาพาคนมาที่นี่ทันที”

 

 

“เธอ… คือผู้หญิงที่นายชอบ?”

 

 

“ใช่ครับ!”

 

 

“นายก็ควรทำให้เธอประทับใจด้วยการเข้าไปช่วยเธอด้วยตัวเองสิ และอีกอย่างกว่าที่ช๋งเฉินจะมาถึงผู้หญิงคนนั้นก็คงถูกพวกนั้นจับตัวไปแล้ว”

 

 

“ผมจะไปสู้กับพวกอันธพาลพวกนั้นไหวได้ยังไง?” ซูเฉิงหลงถาม

 

 

“ไม่เห็นจะมีปัญหาอะไรตรงไหนเลย นายก็แค่เข้าไปช่วยเธอและทำให้เธอประทับใจในตัวนายก็เท่านั้น”

 

 

“ผมไม่สามารถเอาชนะไอ้พวกนั้นได้”

 

 

“ให้ตายสิ!” หลินปู้ฟานย่นคิ้ว “นายไม่มีสมองบ้างเลยหรือไง? ตอนนี้คนที่นายชอบกำลังลำบากอยู่ นี่แหละโอกาสที่นายจะได้ทำตัวเป็นฮีโร่เพื่อให้เธอหันมาสนใจนาย แต่นายกลับมาปอดแหกในเวลาแบบนี้เนี่ยนะ?”

 

 

“ผม… ” ซูเฉิงหลงต้องการที่จะเข้าไปแต่ก็กลัวจะถูกทุบตี

 

 

“เสี่ยวหลงนายเป็นผู้ชายที่มีดีแค่ปากเหรอ?”

 

 

เมื่อเห็นพวกอันธพาลกำลังจะลงมือ ซูเฉิงหลงก็กัดฟันและรีบวิ่งเข้าไปทันที

 

 

“เอามือสกปรกนั่นออกไปนะโว๊ยยย” ซูเฉิงหลงคำรามและเข้าไปยืนอยู่ตรงหน้าเฟิงหลิงหลิง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด