ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 21 ทำแทนคนอื่นลำบากเสียเปล่า

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 21 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ผมลืมตาขึ้น แล้วหัวเราะ”ประธานไป๋คิดแบบนี้ได้ เห็นทีจะไม่ได้โง่ขนาดนั้นนะครับ”

“หึ!”

“ประธานไป๋พูดถูก ลำพังแค่วิดีโอสองคลิปนี้มันไม่เพียงพอแน่นอน แต่ถ้าหากความสัมพันธ์ของเฉาเหวินหวยกับBTTกรุ๊ปเกิดเลวร้ายลง แล้วค่อยหาจังหวะเหมาะๆปล่อยสองคลิปนี้ออกไป คุณว่าแบบนี้พอไหม?”

“คุณจะทำยังไงให้ความสัมพันธ์ของพวกเขาแย่ลง?”

“เดี๋ยวตอนเย็นคุณก็รู้เองนั่นแหละ แต่อาจจะไม่สำเร็จ”

“ถ้าไม่สำเร็จล่ะ?”

“งั้นก็ต้องปล่อยสองคลิปนี้ออกไป แล้วค่อยช่วยเฉาเหวินหวยแจ้งความกับตำรวจบอกว่าเขาถูกนักเลงในท้องที่แบล็กเมล์ แล้วทำให้สถานการณ์วุ่นวาย ดูสิว่าจะจับปลาในน้ำขุ่นได้รึเปล่า”(จับปลาในน้ำขุ่น แปลว่าฉวยโอกาสขณะเกิดเหตุชุลมุน)

ไป๋เวยไม่ได้ถามอะไรอีก เธอขมวดคิ้วและครุ่นคิดเงียบๆ

หลังจากผ่านไปนาน จู่ๆเธอก็พูดขึ้นมาว่า”ฟางหยาง ฉันพบว่านอกจากคุณจะน่ารังเกียจแล้ว คุณยังร้ายกาจมากอีกด้วย ”

“ฮ่าๆๆ”ผมกลั้นหัวเราะไม่อยู่”ประธานไป๋ นอกจากผมจะน่ารังเกียจและร้ายกาจแล้ว ผมยังดุร้ายมากอีกด้วย จะลองดูหน่อยไหม?”

ขณะที่ผมพูด ผมก็มองเธอด้วยรอยยิ้มกรุ้มกริ่ม และตบที่นอนที่อยู่ข้างๆ

ใบหน้าของไป๋เวยแดงฉานขึ้นมาในทันที เธอถลึงตาใส่ผมด้วยความโกรธเคือง หลังจากนั้นก็หันหลังเดินจากไป

“ประธานไป๋ คืนนี้ทุ่มครึ่ง ผมจะพาคุณไปดูละครสนุกๆ”ผมพูดเสริมอีกหนึ่งประโยค

สิ่งที่ตอบกลับผมมาคือเสียงกระแทกประตู

ผมงีบหลับตลอดทั้งบ่าย ในช่วงค่ำผมอยากให้รางวัลตัวเองสักหน่อย จึงได้หาร้านอาหารที่ขึ้นชื่อว่ามีชื่อเสียง แล้วสั่งอาหารไทยสองสามอย่างมานั่งทานคนเดียว

ในตอนที่กำลังทานอยู่นั้น จู่ๆก็มีกลุ่มคนเดินเข้ามาจากทางเข้าของร้านอาหาร นำโดยเฉาเหวินหวยและหลินโล่สุ่ย

“โอ้ นี่คือผู้ช่วยหัวหน้าฝ่ายการขายของบริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ไม่ใช่เหรอเนี่ย คุณฟางหยางใช่ไหมครับ?”เฉาเหวินหวยที่เดินเข้าประตูมาก็เห็นผม พลางเดินจับมือถือแขนของหลินโล่สุ่ยเข้ามาด้วย พร้อมพูดอย่างประหลาด

ผมเงยหน้าขึ้นมา แล้วมองดูพนักงานของม่านดีโคร์กรุ๊ปของเขา แล้วมองดูหลินโล่สุ่ยที่เงียบไม่พูดไม่จา พลางหัวเราะพูดขึ้นมาว่า”ประธานเฉา จะฉลองกันแล้วเหรอครับ?”

“ใช่แล้วครับ”เฉาเหวินหวยไม่ปิดบังใบหน้าได้ใจของเขาแม้แต่น้อย”อีกสองวัน BTTกรุ๊ปก็จะเซ็นสัญญากับเราแล้ว พูดถึงเรื่องนี้ ผมยังต้องขอบคุณคุณนะครับ ถ้าไม่เป็นเพราะคุณพูดเกลี้ยกล่อมให้ตัดตัวเลือกอย่างอเมริกากับอินเดียออก ผมคงจะคว้าโปรเจ็กต์นี้ไม่ได้จริงๆ ขอบคุณนะครับ คนธรรมะ ทำชุดแต่งงานให้คนอื่นใส่น่าจะอึดอัดน่าดูใช่ไหมครับ ?”(ทำชุดแต่งงานให้คนอื่น แปลว่าตัวเองทำแทนคนอื่นลำบากเสียเปล่า)

“เหอะๆ ประธานเฉาไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ เนื่องจากคุณจ่ายเงินไปมากขนาดนั้นแล้ว ถ้าขืนยังไม่เซ็นสัญญากับคุณในโปรเจ็กต์นี้อีก มันก็คงจะไร้เหตุผลไปหน่อย ใช่ไหมครับประธานเฉา?”

“หึ ปากคอเราะรายนะ คุณมันก็แค่ไอ้ขี้แพ้เท่านั้นแหละ นอกจากมีฝีปากกล้าแล้วยังมีอะไรดีอีก?อยากจะสู้กับผม คุณยังอ่อนไปหน่อยนะครับ”

พูดจบ เฉาเหวินหวยก็เดินผ่านผมไปพร้อมกับหลินโล่สุ่ยที่อยู่ในอ้อมแขนของเขา

หลังจากที่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว เขาก็หันกลับมา แล้วพูดอย่างเย้ยหยันว่า”ทำไมคุณถึงมาทานข้าวคนเดียวล่ะ?ประธานไป๋คนนั้นของคุณล่ะ?เธอเป็นแฟนของคุณไม่ใช่เหรอ?”

ผมไม่ได้พูดอะไร แค่ยิ้มบางๆให้เขา

“อ๋อ ผมนึกออกแล้ว”เฉาเหวินหวยแสร้งทำเป็นนึกอะไรขึ้นมาอย่างเกินจริง”ผมได้ยินมาว่า ประธานไป๋ไม่ใช่แฟนของคุณ ตรงกันข้ามเธอยังคงมีข้อขัดแย้งกับคุณอยู่มาก แต่วันนั้นคุณเห็นผมเดินออกมากับโล่สุ่ย เลยจงใจโอบเอวคนอื่น อยากทำให้โล่สุ่ยโกรธเท่านั้น ผมพูดไม่ผิดใช่ไหมล่ะ?คุณฟาง”

พูดถึงตรงนี้ เขาก็ส่ายหัวไปมาอย่างเกินจริง”จึๆๆ ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าทำไมถึงมีคนหน้าด้านไร้ยางอายขนาดนี้ ถึงได้ทำเรื่องบีบบังคับกอดผู้หญิงคนอื่นแบบนี้ได้ และนึกภาพไม่ออกว่า ต้องเป็นคนมีปมด้อยขนาดไหน ถึงได้ใช้วิธีนี้แสดงให้แฟนเก่าดู”

ทันทีที่เขาพูดจบ กลุ่มคนของม่านดีโคร์กรุ๊ปก็พากันหัวเราะเสียงดัง แต่ละคนต่างพากันเยาะเย้ยอย่างไม่ปิดบัง

ลูกค้าคนอื่นๆที่กำลังทานข้าวอยู่ในร้านอาหาร หลังจากที่ถูกเสียงหัวเราะเยาะดึงดูด จึงพากันหันมามองทางนี้

หลินโล่สุ่ยเอาแต่หันหน้าออกไปมองทางอื่น เหมือนไม่อยากเห็นหน้าผม และก็เหมือนไม่อยากให้ผมเห็นหน้าของเธอ

ผมพยายามควบคุมอารมณ์ของตัวเอง แล้วคีบต้มข่าไก่มะพร้าวอ่อนเข้าปาก พลางค่อยๆเคี้ยว และยิ้มบางๆมองการแสดงอันโอ่อ่าของคนพวกนี้

ดูเหมือนเฉาเหวินหวยจะรู้สึกเบื่อเล็กน้อย หลังจากที่หัวเราะเยาะเสร็จเขาก็พาคนเดินไปที่ห้องวีไอพีที่อยู่ชั้นสอง

ผมทานเสร็จอย่างสงบ และนั่งเงียบๆสักสองสามนาที หลังจากนั้นก็คิดเงินแล้วเดินจากไป

ผมกลับไปที่โรงแรม ทำการเปลี่ยนเสื้อผ้า แล้วโทรศัพท์หาไป๋เวย

ไป๋เวยที่ยังไม่ยอมแพ้ต่อโปรเจ็กต์นี้ หลังจากที่ได้ยินว่าผมจะพาไปดูละครสนุกๆเกี่ยวกับเฉาเหวินหวย ก็แทบจะตอบตกลงทันทีอย่างไม่ลังเลเลย

ผมนัดกับไป๋เวยที่แต่งตัวเรียบร้อยและยังคงไว้ซึ่งความเย็นชาที่ด้านล่างของโรงแรม ไม่พูดพร่ำทำเพลง ผมพาเธอขึ้นรถแท็กซี่เพื่อตรงไปยังบาร์ที่ผมนัดไว้สำหรับเฉาเหวินหวยกับอนุรักษ์

ในตอนที่พึ่งเดินเข้าประตูมา หลังจากที่เห็นผู้ชายคนหนึ่งสวมกางเกงชั้นในตัวเดียว ไป๋เวยถึงกับตกตะลึง และจะหันหลังกลับเพื่อเดินออกไปข้างนอกทันที

ผมรีบคว้าแขนของเธอไว้”ประธานไป๋ ที่นี่คือบาร์เกย์ คุณวางใจเถอะ ผู้ชายที่นี่ไม่ชอบผู้หญิงหรอก นอกจากผมแล้ว ถ้าคุณเดินออกไปแบบนี้ จะพลาดอะไรสนุกๆนะ ถึงเวลานั้นคุณอย่าโทษผมแล้วกัน”

ไป๋เวยชะงักเท้า แล้วมองเข้าไปด้านใน หลังจากที่ลังเลอยู่ครู่หนึ่งในที่สุดก็ถูกผมลากเข้าไป

มีผู้ชายคนหนึ่งที่ทาตาอายแชร์โดว์เดินเข้ามาต้อนรับ เขาขมวดคิ้วแล้วมองไปที่ไป๋เวย

“เขายังไม่ได้แปลงเพศสมบูรณ์น่ะครับ”ผมชี้ไปที่ไป๋เวย แล้วยิ้มพลางพูดกับผู้ชายคนนั้นเป็นภาษาไทย

ผู้ชายคนนั้นมองสังเกตไป๋เวยอยู่หลายครั้ง หลังจากนั้นก็เบี่ยงตัวเพื่อหลีกทางให้

เขาคงคิดว่าไป๋เวยสวยเกินไปหน่อย ดูไม่เหมือนคนข้ามเพศ แต่ที่ประเทศไทยมีสาวประเภทสองจำนวนไม่น้อยที่สวยกว่าผู้หญิง แบบไป๋เวยจึงไม่ถือว่าแปลกอะไร ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ทำให้เราอับอาย

พอเดินเข้าไปที่คลับแล้ว ภาพพิสดารต่างๆก็มากขึ้น ร่างกายของไป๋เวยแน่นขนัดมากขึ้นเรื่อยๆเช่นกัน

ผมพยายามหลีกเลี่ยงสายตาของผู้คนที่มองมา พาไป๋เวยเดินขึ้นไปยังชั้นสอง เลือกจุดมืดสลัวตรงมุมหนึ่ง

ชั้นสองเป็นสถานที่ที่น่าตื่นเต้นที่สุดของคลับแห่งนี้ เงียบสงบและไม่สูญเสียความโรแมนติก ที่ฟลอร์เต้นรำกลางคลับ ผู้ชายที่แต่งหน้าจัดๆกำลังเต้นโพลแดนซ์อย่างยั่วเย้า ผู้ชายที่รายล้อมอยู่ต่างพากันชื่นชมเพลิดเพลินกับการแสดงไปด้วยพลางคุยสนทนากันอย่างมีความสุข

การนัดครั้งนี้ผมนัดไว้สำหรับอนุรักษ์กับเฉาเหวินหวย พบกันที่ชั้นสองเนี่ยแหละ

หลังจากที่นั่งบนเก้าอี้แล้ว ร่างกายของไป๋เวยยังคงตื่นเต้นมาก เธอเหลือบมองชายผู้ซึ่งยั่วเย้าที่กลางคลับเป็นครั้งคราว แล้วก็รีบละสายตาไปอย่างรวดเร็ว หลังจากเห็นชายพวกนั้นที่ทำอะไรไม่น่ามองสักเท่าไร ก็ยิ่งทำให้เธอหันหน้าไปทางกำแพงด้วยใบหน้าแดงก่ำ

ผมเห็นเธอแล้วรู้สึกตลกมาก จึงพูดขึ้นมาว่า”ผ่อนคลายหน่อยเถอะคุณ คนที่นี่ไม่กินคุณหรอก”

“เมื่อกี้คุณไปพูดกับคนคนนั้นว่าอะไร ทำไมเขาต้องใช้สายตาแปลกๆมองฉันแบบนั้นด้วย?”เธอพยายามถามอย่างสงบสติอารมณ์

ผมจงใจมองสังเกตเธอ แล้วพูดอย่างตรงไปตรงมา”ผมบอกเขาว่า คุณเป็นสาวประเภทสองที่ยังแปลงเพศไม่สมบูรณ์”

“คุณน่ะสิสาวประเภทสอง”ไป๋เวยถึงกับตกตะลึง เธอถลึงตามองผมด้วยความขุ่นเคือง

“อย่าตื่นเต้นนักเลย ถ้าผมไม่พูดแบบนี้ เขาก็จะไม่ให้คุณเข้ามาน่ะสิ อีกอย่าง ผมเป็นผู้ชายแท้ วันนั้นคุณก็ได้สัมผัสมาแล้วไม่ใช่เหรอ?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด