ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่36 ห้ามจีบฉันนะ

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 36 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ทำไมผมต้องเชื่อคุณด้วย?”

“คุณจะไม่เชื่อก็ได้นะ แต่คุณไม่มีตัวเลือก”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม บัญชาไม่โต้แย้งใดๆ ปล่อยให้เหวินเจียถ่ายคลิปจนจบด้วยความโมโหและเครียด รวมทั้งลูกน้องของเขาทั้งหมดก็อยู่ในคลิปด้วย

ผมให้เหวินเจียเปิดวีแชทของตัวเองขึ้นมา ส่งไปให้เพื่อนที่อยู่ในประเทศคนหนึ่ง รู้จักกันตอนที่ผมอยู่ในคุก เป็นเพื่อนเพียงคนเดียวที่ผมเชื่อใจมากที่สุด

แล้วผมยังใช้ข้อความเสียงในวีแชทอธิบายถึงความสำคัญของคลิปตัวนี้อีกด้วย

ผมเก็บมือถือไว้ มองที่ด้านหลัง แล้วกล่าว “คุณบัญชา ตอนนี้เรียกคนของคุณให้เปิดทางได้แล้วนะ ผมกับเพื่อนจะกลับไปพักผ่อนแล้ว”

บัญชาลังเลไปสักพัก สุดท้ายก็ได้เรียกให้ลูกน้องเปิดถนน

แต่ลูกน้องของเขาไม่ได้รวมตัวกันอยู่ที่ใดที่หนึ่ง แต่กระจายอยู่ไปทั่ว ยังคงห้อมล้อมกันเป็นวงใหญ่มากอยู่เช่นเคย

ผมไม่สนใจ กระชากคอของบัญชาเข้ามา แล้วเอาแผ่นฟิล์มติดไว้ที่ส่วนเส้นเลือดหัวใจด้านซ้ายของคอ แล้วลากเขาให้ถอยไปข้างถนนช้าๆ

เหวินเจียอยู่ข้างผมติดๆอย่างไม่พูดไม่จา

ตอนที่ถอยไปถึงปากซอยหนึ่ง ผมหันไปดูด้านใน ในซอยไม่มีผู้คน แต่ถนนเส้นตรงข้ามกลับโกลาหล แล้วยังเป็นศูนย์รวมความรื่นรมย์อีกด้วย

“เหวินเจีย เดินเข้าไปในซอยนะ เดินไปถึงอีกฝั่งก็จะปลอดภัยแล้ว ”

“อืม” เหวินเจียพยักหน้าอย่างเคร่งเครียด จากนั้นก็เดินเข้าไปในซอยอย่างกล้าๆกลัวๆ

สถานที่ที่มีคนเยอะๆจะมีตำรวจคอยรักษาความปลอดภัยอยู่ เพียงแค่ข้ามไปอีกฝั่งได้ บัญชาก็ไม่กล้าทำอะไรผมแล้ว

ในซอยกว้างไม่ถึงสามเมตร และก็ไม่ยาว ยาวเพียงแค่ร้อยกว่าเมตรเท่านั้น แต่ไฟสลัว ถนนก็ไม่ค่อยเรียบ

ผมเพิ่งจะเตือนหวังเจียให้ระวังที่พื้น จู่ๆเธอก็ร้อง“อ้า”ออกมา เหมือนกับถูกอะไรบางอย่างขวางไว้ แว็บเดียวก็ล้มลงไปกับพื้น

และมันก็พอดีกับตอนที่ผมกำลังจะถอยหลังไป เท้าหลังได้ไปเหยียบเอาเท้าของเธอ ด้วยเหตุนี้ผมเองก็เกือบล้มลงไปด้วย ในขณะเดียวกันเมื่อมือได้ผ่อนลง ฟิล์มก็ได้หลุดออกจากส่วนเส้นเลือดหัวใจด้านซ้ายไป

บัญชามีปฏิกิริยาเร็วโต้ตอบมาก เมื่อหันคอมา ก็ยกมือมาจับแขนผมอย่างเร็ว จากนั้นก็เริ่มออกแรงดิ้นขึ้นมา

เมื่อลูกน้องของเขาที่อยู่ด้านนอกซอยเห็นเหตุการณ์เข้า ก็ต่างพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

เพราะผมยืนไม่มั่นคงจึงทำให้มือของผมพลอยไม่มีแรงไปด้วย แค่บัญชาหันไปก็ดิ้นหลุดแล้ว แล้วยังชกมาที่หน้าของผมอย่างแรงอีกด้วย

ผมถูกชกมาที่หน้าหนึ่งหมัด กว่าจะยืนมั่นคงได้ไม่ง่ายเลย แต่บัญชาก็ได้พุ่งเข้ามาอย่างรุนแรงอีกครั้ง

“เหวินเจียรีบยืนขึ้นเร็ว วิ่ง”

ผมตะโกน พลางโน้มตัวก้าวไปข้างหน้า ใช้ไหล่ต่อต้านบัญชา แล้วเอาเขาไปโขกกับกำแพงแล้ว

บัญชาเหมือนสไลม์ที่ไหลลงมาตามกำแพง แต่ลูกน้องของเขาอยู่ห่างออกไปสิบกว่าเมตร

โชคดี ที่เหวินเจียลุกขึ้นมาทันใด

ผมลากเธอวิ่งไปยังซอยตรงนั้นอย่างสุดชีวิต

ยังไงเด็กสาวก็ไม่ได้วิ่งเร็วขนาดนั้น เมื่อวิ่งไปได้ครึ่งของซอย ผมให้เธอวิ่งต่อไป แล้วตัวเองหยุดลงเพื่อต่อกรกับลูกน้องของบัญชา

ต้านทานได้เพียงไม่กี่วินาทีเท่านั้น หลังจากที่ถูกชกไปไม่รู้กี่หมัด ผมก็ได้จัดการคนไทยคนหนึ่งล้มลงกับพื้น แล้วก็หันหลังวิ่งต่อ

กว่าจะได้เวลามาสักกี่วินาทีไม่ง่ายเลย เหวินเจียใกล้ถึงปากทางของซอยแล้ว ผมไล่ตามจากด้านหลัง แล้วลากเธอออกจากปากซอยนั้นไป

ลูกน้องของบัญชาหยุดลง จ้องผมจากในซอยอย่างเหี้ยมโหด

“บอกคุณบัญชานะ หลังจากที่ผมกลับประเทศจะลบคลิปทั้งหมด ให้เขาสบายใจได้”

เมื่อพูดประโยคนี้กับคนไทยเหล่านั้นจบ ผมก็ได้จูงมือของเหวินเจียไปในฝูงชนที่กำลังเฉลิมฉลองเทศกาลกัน

เหวินเจียหายใจหอบหืด แล้วมาอยู่ใกล้ๆผม ยังคงอยู่ชิดกันมากเช่นเคย

เมื่อผ่านถนนที่มีฝูงชนแออัดไป ผมและเหวินเจียได้นั่งรถแท็กซี่ที่ผ่านมาที่เส้นนี้พอดี

ถึงตอนนี้ ร่างกายของเหวินเจียเพิ่งจะผ่อนคลายลง พลางหายใจ แล้วมองมาที่ผม

“ตื่นเต้นมั้ย?” ผมพยายามถามด้วยน้ำเสียงหยอกล้ออย่างผ่อนคลาย

“อืม……อืมคุณ เลือดออกแล้ว”

เหวินเจียสีหน้าเคร่งเครียดอีกครั้ง แล้วได้หาของอะไรสักอย่างในกระเป๋าของเธออย่างมือไม้อ่อนไปหมด

ขณะนี้เองผมเพิ่งจะรู้สึกได้ถึงของเหลวที่ร้อนๆไหลออกมาจากจมูก ไหลลงมาถึงริมฝีปาก แล้วจึงพบว่าใบหน้าหัว อีกทั้งร่างกายของตัวเองมีที่ที่เจ็บปวดหลายที่

“เช็ดก่อนนะ แล้วรีบไปโรงพยาบาลกัน” และแล้วเหวินเจียหยิบกระดาษออกมาหนึ่งห่อ ดึงออกมาอย่างวุ่นวายหลายแผ่นแล้วยื่นให้ผม

เมื่อผมรับกระดาษมาแล้วก็เช็ดจมูก แล้วได้เช็กใบหน้าโดยคร่าวๆ นอกจากปากแตกแล้วก็ไม่มีบาดแผลอะไรอีก หลังจากที่เห็นว่าร่างกายไม่ได้สูญเสียอวัยวะใดๆแล้ว จึงได้โล่งอก แล้วกล่าว “ไม่ต้องไปโรงพยาบาลแล้ว แล้วก็ไม่ต้องแจ้งตำรวจแล้วด้วยผมจะจัดการเอง อ้อ คุณจะกลับประเทศเมื่อไหร่? ซื้อตั๋วไว้แล้วยัง?”

“ซื้อไว้แล้ว บินวันมะรืนนี้”

“เลื่อนเป็นพรุ่งนี้นะ เดี๋ยวกับถึงโรงแรมแล้วจองตั๋ว แม้พวกมันเพียงแค่เล่นงานผม แต่ระวังหน่อยก็ดี กลัวจะเกิดสิ่งที่ไม่คาดฝันขึ้น”

“อืม”

“ขอโทษจริงๆนะครับ ทำให้คุณติดร่างแหไปด้วย จนคุณไม่ได้อยู่ต่อเลย”

“ไม่เป็นไรค่ะ การมาครั้งนี้ก็คุ้มค่าแล้ว คุณไม่รู้ว่าเมื่อกี๊ฉันเครียดขนาดไหน ชาตินี้ยังไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้มาก่อน ตื่นเต้นจริงๆนะเนี่ย แต่ก็กลัวอยู่แหละ ดีที่คุณเขี้ยวลากดิน มิเช่นนั้นพวกเราต้องแย่แน่ๆ” เธอกล่าวด้วยสีหน้าตื่นเต้น ราวกับได้กลับไปในช่วงที่มีความสุขแบบนั้นอีกครั้ง

“เอ้อ พวกเมื่อกี๊เป็นใครเหรอ? ทำไมพวกมันต้องหาเรื่องคุณด้วย?”

“พวกนักเลงในพื้นที่แหละ เรื่องนี้มันค่อนข้างซับซ้อน ว่างเมื่อไหร่จะเล่าให้คุณฟังนะ”

“ค่ะ จำไว้ว่าว่างเมื่อไหร่ต้องเล่าให้ฉันฟังด้วยนะ นี่เป็นวัตถุดิบนิยายชั้นเยี่ยมเลยนะ

ผมหมดคำพูด ผู้หญิงทั่วไปเมื่อเจอเข้ากับเรื่องนี้ กลัวจนไม่รู้จะกลัวยังไงแล้ว ยังไม่เคยเห็นคนอย่างเธอที่ไม่คิดอะไรมากมาก่อนเลย

แต่เธอไร้เดียงสามากจริงๆ

ผมไม่ได้ให้แท็กซี่ไปที่โรงแรมของเหวินเจียโดยตรง แต่เลี้ยวไปในที่ที่ไกลมาก แล้วเปลี่ยนรถ หลังจากที่แน่ใจแล้วว่าไม่มีใครสะกดรอยตามมา จึงได้ให้คนขับขับไปที่โรงแรมแห่งใหม่ และได้ทำการเปิดห้องใหม่ให้กับเหวินเจีย

โรงแรมก่อนหน้านี้ของเธอพักไม่ได้แล้ว เพราะผมเคยไปส่งเธอในช่วงกลางวัน ถ้าคนของบัญชาสะกดรอยตามผม ก็จะรู้ว่าเธออยู่ที่ไหน    นิยาย อ่านนิยาย

หลังจากที่จัดการให้เหวินเจียเข้าพัก และเช็กความปลอดภัยของประตูห้องเรียบร้อยแล้ว ผมก็หยิบบัตรของโรงแรมเดิมที่เธอพัก กลับไปเช็คเอ้าท์เก็บข้าวของให้เธอ จากนั้นก็ได้เปลี่ยนรถอีกครั้งเพื่อเอาสัมภาระมาให้เหวินเจีย

ตอนที่ผมมาถึง เหวินเจียอาบน้ำเสร็จแล้ว กำลังสวมชุดอาบน้ำของโรงแรม ผมสีดำที่เปียกชื้นยุ่งเหยิงตรงบ่า ท่อนล่างเห็นส่วนขาอันขาวนวลโผล่ออกมา

ส่วนขาไม่ได้ยาวเหมือนไป๋เวย แต่เสมอกันมาก

เธอเช็ดผมพลางยิ้มส่งสายตาหวาน เป็นใบหน้าที่ผมไม่เคยเห็นมาก่อน

มันช่างบริสุทธิ์ ไร้ที่ติ แล้วก็หวานละมุนขนาดนั้น

ผมมองจนเคลิ้มลอยไป ถึงขั้นต้องมนต์สะกดในทันที จากนั้นก็หน้าแดงก้มหน้าส่งเสียงเขินอายไป

ผมทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้ว่าควรจะมองไปทางไหนดี

“ห้ามจีบฉันนะ” จู่ๆเธอก็กล่าวอย่างหน้าบอกบุญไม่รับด้วยความเคร่งขรึมมาก

นี่เป็นประโยคที่ขำที่สุดฟังสบายที่สุดแต่กลับทำให้คนฟังรู้สึกเซ็ง

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด