ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่47 สองมาตรฐาน

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 47 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“ไอ้ห่า วางปืนลงเดี๋ยวนี้นะ รีบวางปืนลง

บัญชาตะคอกใส่ลูกน้องด้วยความตกใจทั้งกลัว แล้วพลางพุ่งเจ้าไปกดแขนของพวกเขาลง จากนั้นก็ยกมือไหว้คำนับชายวัยกลางคนคนนั้นอย่างนอบน้อม

“คุณสุชาติ ขอโทษครับ พวกมันไม่เคยเจอคุณ ดังนั้นจึงได้ก้าวล่วงคุณ ขอโทษจริงๆนะครับ กรุณายกโทษให้กับความไม่รู้ของพวกมันด้วยนะครับ”

เมื่อเจอเข้ากับการประจบประแจงของบัญชา ชายวัยกลางคนที่ชื่อสุชาตินั้นไม่สนใจเขาเลยแม้แต่น้อย และไม่ได้ตอบคำขอโทษของเขาแต่อย่างใด แต่มองผ่านเขาไป เดินไปที่ข้างๆโต๊ะกลม แล้วยกมือทำความเคารพให้ตู้หมิงเฉียง

“เฉียง ไม่เจอกันนานนะ”

ตู้หมิงเฉียงยืนขึ้นแล้วมักทายกลับ “สุชาติ แกยิ่งอยู่ยิ่งอ้วนนะ”

“ฮ่าๆ อย่าพอเจอกันแล้วหัวเราะเยาะได้มั้ย ช่วงนี้ว่างมากก็เท่านั้น”

“มา ผมแนะนำให้รู้จัก คนนี้คือเพื่อนรักของผม หยาง” ตู้หมิงเฉียงชี้มายังผมที่ลุกขึ้นยืนตั้งนานแล้วกล่าว

“คุณสุชาติสวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้อย่างจริงจัง

“สวัสดีครับ คุณหยาง เพื่อนของเฉียงก็เหมือนเพื่อนของผม ไม่ต้องเกรงใจขนาดนั้นครับ”

จากนั้นตู้หมิงเฉียงได้แนะนำโล๋อีเจิ้งอย่างง่ายๆต่อ สุชาติก็เกรงใจกับโล๋อีเจิ้งที่เมื่อเห็นแล้วก็เป็นไอ้งั่งคนหนึ่งเช่นกัน

หลังจากที่ทักทายอย่างสบายๆไปแล้ว สุชาตินั่งลง และยังคงไม่สนบัญชาอยู่ดี แต่พูดคุยกับตู้หมิงเฉียง

คนไทยสองคนที่สุชาติพามาชี้ไปที่มุมของห้องรับรองพิเศษ บัญชารีบให้คนของเขาไปรออยู่ที่มุม เขาเองก็ไปที่ตรงนั้นเหมือนกัน ไม่กล้าหายใจดังออกมา

ตู้หมิงเฉียงและสุชาติพูดคุยกันจบไปสักพัก จากนั้นก็พูดถึงเรื่องของผม พูดอย่างคร่าวๆให้ฟัง

เมื่อฟังจบสุชาติขมวดคิ้ว จากนั้นหันหน้ามาหาผม แล้วกล่าวอย่างค่อนข้างละอายใจว่า “คุณหยาง ขอโทษจริงๆนะครับ คุณมาทำธุรกิจที่เชียงใหม่แต่กลับถูกพวกต่ำช้าพวกนี้รบกวน ช่างน่าบะอายจริงๆ”

“คุณสุชาติก็ว่าไป เดิมทีก็แค่ความขัดแย้งเล็กๆเท่านั้น ผมจัดการไม่ดีเอง”

ท่าทางของสุชาติดูประหลาดใจ พยักหน้าอย่างเห็นดีเห็นงาม แล้วพูดกับคนด้านหลังว่า “บัญชามานี่”

“ครับ คุณสุชาติ” บัญชาเดินมาอย่างเคร่งเครียดจนเหงื่อไหล ก้มหน้าเชื่อฟังอยู่ข้างๆ

สุชาติมองผมแล้วกล่าว “คุณหยาง บัญชาคนนี้ผมรู้จักดี ทั้งโลภมากทั้งไม่มีคุณธรรม ตอนนี้คุณจะจัดการมันยังไงก็ได้ วิธีไหนก็ได้ได้ทั้งหมด ถ้าคุณอยากให้มันหายไปล่ะก็ คนของผมจะช่วยคุณและจัดการให้เรียบร้อย ไม่มีทางสร้างปัญหาใดๆให้คุณแน่นอน”

บัญชาหน้าซีด “ไม่เอา คุณสุชาติไม่เอา ผมผิดไปแล้ว ผมสาบานว่าต่อไปจะไม่มีเรื่องแบบนี้อีกแล้ว”

“เหอะ แกพูดกับฉันแล้วได้อะไร”

เมื่อได้ยินคำพูดของสุชาติ บัญชารีบหันหน้ามาหาผม “คุณหยาง ผมไม่ดีเอง ผมไม่ควรพาคนไปล้อมคุณ ไม่ควรใส่ร้ายคุณตอนอยู่ที่โรงพัก และยิ่งไม่ควรใช้มีดข่มขู่คุณ ผมขอโทษ คุณจะให้ผมทำอะไรก็ได้ เพียงแค่ได้โปรดไว้ชีวิตผมด้วยเถอะนะ”

ผมเพิ่งจะนึกออกถึงความเจ็บที่คอ ใช้มือลูบๆ มีรอยเลือดจริงๆ

มองไปยังบัญชาที่ร้องขอความเห็นใจ ผมกลับเกรี้ยวกราดได้ไม่มาก ความจริงแล้วก็ไม่ได้คิดว่าจะให้เขาตาย แต่ต้องสั่งสอนมัน

“ขอบคุณคุณสุขาตินะครับ”

ผมยกมือไหว้ขอบคุณคุณสุชาติก่อน แล้วจึงพูดกับบัญชา “ฉันไว้ชีวิตแกก็ได้ แต่ที่แกว่าพวกเราว่าเป็นไอ้จีนหน้าโง่ทั้งอ้วนทั้งงั่งนี่ เรื่องนี้ให้อภัยไม่ได้จริงๆ แกตบหน้าตัวเองยี่สิบครั้งก็แล้วกัน นอกจากนี้ ฉันจะให้แกไปหาไป๋เวย ผู้หญิงคนนั้นที่วันนั้นอยู่ที่ประตูBTTกับฉัน บอกเธอเรื่องทั้งหมดที่กงเจิ้งเหวินใช้เงินฟาดหัวและสั่งแก ห้ามปิดบังแม้แต่น้อย

“ส่วนที่แกรับเงินของกงเจิ้งเหวินมา แกไม่ต้องพูดออกมา แกไปชกมันหนึ่งหมัดก็พอแล้ว ถือเป็นว่ามันจ่ายเงินเพื่อชกตัวเอง ถ้าถูกตำรวจจับได้ เงินก้อนนั้นก็ถือเป็นค่าชดเชยของแก อ้อ วันนี้มันเจอฉันแล้ว อาจจะกลัวว่าฉันจะทำอะไรมัน ดังนั้นมันต้องไปจากเชียงใหม่ในช่วงวันสองวันนี้แน่นอน แกต้องลงมือเร็วหน่อย”

“ขอบคุณครับ คุณหยาง เดี๋ยวผมค่อยมาหามัน จะทำตามที่บอกอย่างแน่นอนครับ”

เมื่อพูดจบ บัญชายกมือขึ้นมาตบหน้าตัวเอง

น่าจะกลัวว่าผมไม่พอใจ ดังนั้นจึงได้ออกแรงตบมาก “เพี่ยะๆ”เสียงดังสนั่น

เมื่อเขาตบหน้าตัวเองครบยี่สิบครั้ง ตอนที่ทั้งหน้าบวมแดงขึ้นมา ผมก็ไม่ทำให้เขาลำบากใจอีก

สุชาติเตือนเขาเสร็จก็ให้เขาไสหัวไป

หลังจากที่บัญชาพาคนของตัวเองออกไปแล้วนั้น สุชาติก็ได้พูดคุยกับผมและตู้หมิงเฉียงต่อ

ผ่านไปประมาณสามสิบนาที ตู้หมิงเฉียงบอกผม ว่าเขาจะคุยเรื่องธุรกิจกับสุชาติ ให้ผมกับโล๋อีเจิ้งกลับโรงแรมไปก่อน

แล้วเขายังบอกว่าพรุ่งนี้เข้าต้องไปเชียงรายแล้ว ที่นั่นมีเรื่องด่วนต้องจัดการ และได้ทิ้งเบอร์โทรศัพท์ไว้ให้ผม แล้วบอกว่าอีกสองสามวันถ้าว่างก็ให้ไปเที่ยวที่นั่น

เขาถึงขั้นเชิญผมให้มาช่วยเขาต่อหน้าสุชาติอีกครั้ง

ผมปฏิเสธอ้อมๆ จากนั้นก็ออกจากร้านอาหารไปกับโล๋อีเจิ้ง แล้วหาผับที่มีสาวสวยมากๆตามท้องถนนนั่งคุยกัน

จนกระทั่งถึงช่วงสี่ทุ่ม พวกเราจึงได้ออกจากผับ แล้วกลับไปโรงแรม

เมื่อมาถึงด้านนอกของโรงแรม ในตอนที่ปวดฉี่มากคิดจะไปเข้าห้องน้ำในห้องอยู่นั้น พวกเราได้เจอกับไป๋เวยกับกงเจิ้งเหวิน ที่กำลังจะเดินเข้ามาในโรงแรมด้วยความบังเอิญพอดี และยังมีโจงคังหนิง รองหัวหน้าของทีมโปรเจกต์บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์ที่ไม่ถูกกับผม

เมื่อผมเห็นกงเจิ้งเหวินก็มีความสุขแล้ว เพราะตาและจมูกของมันพันผ้าก็อซไว้ หางตาบวมช้ำ ริมฝีปากบวมแดง เดินไม่ถนัด โจงคังหนิงต้องพยุงจึงจะเดินได้มั่นคง ดูออกชัดเจนว่าถูกคนอ้วนต่อยมาก เพิ่งจะกลับมาจากการทำแผลที่โรงพยาบาล

เมื่อเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด บัญชาทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แป๊บเดียวก็จัดการสำเร็จแล้ว

เมื่อเห็นไป๋เวยและกงเจิ้งเหวินกำลังจะเข้ามาในประตูโรงแรม ผมก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปอย่างเร็ว แล้วกล่าว “โอ้ นี่ประธานกงไม่ใช่เหรอ? เกือบจะดูไม่ออกแล้วนะเนี่ย ประธานกงคุณเป็นอะไรเนี่ย? ถูกคนต่อยเหรอ? ใครมันช่างกล้าต่อยคุณชายกงกันนะ?”

กงเจิ้งเหวินหันมาผม จู่ๆสีหน้าของเขาก็ดุดันขึ้นทันให้ แต่กระทบกับบาดแผล ปวดจนเดิมทีใบหน้าอันหล่อเหลากลายเป็นดูแย่ไปเลยเสียอย่างนั้น

“ฟางหยาง! คุณไอ้เลวนึกไม่ถึงว่ายังจะปรากฏตัวอยู่ที่นี่ได้อีก? ทำไมตำรวจไม่จับคุณไป?” ไป๋เวยสะบัดกงเจิ้งเหวินออก แล้วพูดกับผมด้วยความเกรี้ยวกราด

ผมโบกมือ “ทำไมตำรวจต้องจับผมด้วย? แล้วทำไมผมจะปรากฏตัวที่นี่ไม่ได้?”

“คุณสั่งให้ไอ้พวกนังเลงพวกนั้นมาตีเจิ้งเหวิน พวกเราแจ้งตำรวจแล้ว ไอ้นักเลงพวกนั้นถูกจับแล้ว แล้วทำไมคุณไม่ถูกจับ?”

“เหอะๆ ประธานไป๋ คุณบอกว่าผมสั่ง มิทราบว่ามีหลักฐานมั้ย? คนที่ทำร้ายมันมีใครบอกว่าผมสั่งการมั้ย? แล้วตำรวจพูดว่าไง?”

ไป๋เวยส่งเสียงเหอะออกมาอย่างเกรี้ยวกราด “แม้พวกมันไม่พูด แต่ฉันรู้ว่าเป็นคุณ ตอนกลางวันคุณตบหน้าเจิ้งเหวิน แล้วยังข่มขู่เขาอีก แล้วตอนกลางคืนไอ้พวกนักเลงนั่นก็มา ถ้าไม่ใช่คุณแล้วจะเป็นใคร?”

“จุ๊ๆๆ” ผมมองใบหน้าไป๋เวยที่ความจริงแล้วเกรี้ยวกราดมากร้อนรนมากแต่กลับยังคงสวยอยู่ดี ถึงขั้นมีความแตกต่างจากปกติ แต่กลับโง่ดักดาน แล้วส่ายหน้า “ประธานไป๋ เมื่อวันก่อนผมถูกบัญชาล้อมไว้ และกลับมาด้วยใบหน้าที่ฟกช้ำเหมือนกัน ผมบอกว่ากงเจิ้งเหวินเป็นคนสั่ง แล้วทำไมตอนนั้นคุณไม่เชื่อ?”

“ตอนนี้กงเจิ้งเหวินถูกตีอีก คุณไม่มีหลักฐานก็พูดว่าผมทำอย่างเต็มปาก? ผมว่าคุณนี่หลงตัวเองเกินไป หรือว่าคุณโง่? หรือจะเรียกคุณว่าไอ้สองมาตรฐานดีล่ะ?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด