ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่48 ที่แท้ก็แก

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 48 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“แก……”

ผมอดไม่ได้ที่จะขัดจังหวะเธอ “อย่าเอาแต่คิดว่าตัวเองถูกตลอดสิ ตอนนี้ผมปวดฉี่มาก ไม่ว่างอธิบายให้คุณฟัง เดี๋ยวมาหาผมที่ห้อง แล้วค่อยเล่าให้คุณฟังอย่างละเอียด ยังเป็นห้องเดิมห้องนั่นแหละ”

เมื่อพูดจบ ผมก็ไม่สนเธออีกต่อไป แต่รีบเข้าไปในโรงแรม

เมื่อกี๊ดื่มเหล้าเยอะไปหน่อย ใกล้จะอั้นไม่ไหวแล้ว

“สวัสดีครับพี่สะใภ้ บ๊ายบายครับพี่สะใภ้

โล่อีเจิ้งคำนับอย่างจริงจังต่อไป๋เวย จากนั้นก็ตามมาด้วยสีหน้าเยาะเย้ย ตอนที่เดินผ่านกงเจิ้งเหวิน ฉวยโอกาสตอนที่เขาไม่ทันได้สังเกต ยื่นมือทิ่มไปยังริมฝีปากที่ชอกช้ำของเขา

กงเจิ้งเหวินร้องครวญครางออกมาว่า”อ้า”

โล๋อีเจิ้งกล่าวอย่างสนุกว่า “พี่หยาง ริมฝีปากของมันบวมดีนะ”

ผมยิ้มพลางตบหัวของเขา จากนั้นก็วิ่งไปที่ลิฟต์

ที่ต้องพูดกับไป๋เวยให้ชัดเจน ก็เพราะผมเตรียมจะจีบเธอ

หงเจิ้งเหวินอยากครอบครองไป๋เวย งั้นผมก็จะขัดขวางเขา จะให้ดีคือกอดไป๋เวยต่อหน้าเขา มองท่าทางของเขาที่พ่ายแพ้จากนั้นก็โมโหสุดๆแต่ก็ทำอะไรไม่ได้

เขาอยากได้อะไร ผมก็จะทำลายสิ่งนั้น จะเป็นปฏิปักษ์กับเขา

ในเมื่อเอาชีวิตเขาไม่ได้ งั้นผมก็จะทำให้มันขยะแขยง

เมื่อมาถึงชั้นบน ผมกับโล๋อีเจิ้งได้แยกย้ายกันกลับห้องของตัวเอง ผมวิ่งเข้าห้องน้ำจัดการปัญหาใหญ่ของตัวเองอย่างสบายอารมณ์ ยังไม่ทันปลดซิป ประตูก็มีเสียงเคาะ”ปังๆๆ”ดังขึ้น

ไม่ต้องเดา ก็รู้ว่าต้องเป็นไป๋เวยแน่ๆ จากพลังที่เธอเคาะประตูเห็นได้ว่าเธอยังคงเกรี้ยวกราดมากอยู่

“เข้ามา” ผมเปิดประตู ดึงซิปขึ้นมา พลางหลบทางให้เดิน

ไป๋เวยเหลือบมองเป้ากางเกงของผม จากนั้นก็แดงหน้าอย่างรวดเร็ว รีบหลบตาไปแล้วด่าว่า “ลามก!”

แต่เธอไม่ได้เข้ามา ประมาณว่ากลัวผมจะกดเธอลงที่เตียง

ผมหัวเราะ เดินเข้าไปในห้องอย่างไม่สนใจ หยิบบุหรี่ขึ้นมาแล้วจุด กล่าว “ถ้าคุณยอมยืนอยู่ที่ประตูแล้วให้คนอื่นได้ยินเรื่องที่เราคุยกัน ก็แล้วแต่” เธอลังเลไปสักพัก และแล้วก็เดินเข้าห้องมา

“ตกลงคุณเป็นคนทำใช่มั้ย?” เมื่อเธอเข้ามาก็ถามอย่างเย็นชา

ผมส่งซิกให้เธอปิดประตู แล้วจึงได้พูดอย่างสงบ “ใช่ ผมให้บัญชาไปต่อยมันเองแหละ”

“ที่แท้ก็คุณ!เมื่อกี๊ตอนอยู่ข้างล่างคุณยังเล่นลิ้นอยู่เลย ทำไมกัน?ทำไมคุณต้องให้คนมาตีเขา?”

“คุณคิดว่าผิดโง่เหมือนคุณเหรอ?โจงคังหนิงกับคุณอยู่ในเหตุการณ์ เพียงแค่ผมพูดว่าผมเป็นคนสั่ง พวกคุณก็จะรีบโทรหาตำรวจให้มาจับผมเลยไม่ใช่เหรอ?”

“ส่วนทำไมผมต้องตีมัน ผมถามคุณก่อนนะ เมื่อกี๊คุณเห็นบัญชามั้ย มันได้พูดหรือเปล่าว่าเมื่อหลายวันก่อนที่พาคนมาล้อมผมนะกงเจิ้งเหวินเป็นคนสั่งการ แล้วได้บอกมั้ยว่ากงเจิ้งเหวินใช้เงินฟาดหัวตำรวจและใช้เงินฟาดหัวมันให้ใส่ร้ายผม?”

ไป๋เวยลังเลไปสักพัก แล้วกล่าว “บัญชาพูดแบบนี้จริง แต่ฉันไม่มีทางเชื่อนักเลงกะโปกอย่างมันหรอก”

“เหอะๆ ผมไม่รู้จริงๆว่ากงเจิ้งเหวินใส่ยาเสน่ห์อะไรให้คุณ ที่ทำให้คุณเชื่อเขาได้สุดโต่งขนาดนี้”

“ฉันรู้จักเขาตั้งแต่ยังเด็ก เรียนมาด้วยกันเล่นมาด้วยกัน จนกระทั่งแยกย้ายกันเรียนมหาลัย ฉันรู้จักเขาดีมาก เขาเป็นคนจิตใจดีและตรงไปตรงมาตลอด ไม่มีทางทำเรื่องที่คุณพูดได้”

ผมส่ายหน้าดูแคลน “คุณคิดว่า คุณรู้สึกว่า คำพูดพวกนี้ก็แค่คำพูดไร้สาระ จะบอกให้นะ เริ่มแรกเลยกงเจิ้งเหวินจ่ายเงินให้บัญชาเพื่อทำลายของของผม หลังจากที่ทำพลาดก็ได้ใช้เงินซื้อตำรวจใส่ร้ายผมว่าร่วมกับบัญชารีดไถBTT หลังจากที่อยู่โรงพักก็ได้เอาเงินฟาดหัวบัญชาให้มันให้การเท็จ ตอนที่มันไปเจอผมที่โรงพักยังพูดว่าจะเอาเงินฟาดหัวคนในคุก จะฆ่าผมในคุกให้ได้”

“คนแบบนี้ จะไม่ให้ผมตีมันเหรอ?ถ้าไม่ใช่เพราะคิดว่าการแลกชีวิตไม่คุ้มกัน ผมฆ่ามันไปนานแล้วล่ะ”

ไป๋เวยขมวดคิ้ว “สิ่งเหล่านี้ที่คุณพูดมา ไม่มีหลักฐานเลยแม้แต่น้อย คุณจะพิสูจน์ยังไงว่ากงเจิ้งเหวินเอาเงินฟาดหัวตำรวจ?”

“ง่ายมาก ตำรวจใช้เหตุผลว่าผมเป็นผู้ต้องสงสัยในการรีดไถBTT คดีแบบนี้จะดำเนินคดีได้ก็ต้องเป็นผู้เสียหายมาแจ้งความ ต่อให้คนอื่นร้องเรียน ตำรวจก็ต้องไปหาผู้เสียหายเพื่อขอหลักฐาน”

“ช่วงนี้คุณคุยเรื่องสัญญากับคนของBTT ได้ยินพวกเขาพูดถึงเรื่องนี้บ้างมั้ย?เห็นตำรวจบ้างมั้ย?ถ้าไม่มี พรุ่งนี้ไปถามอนุรักษ์หรือสันติสุข ถามพวกเขาว่าได้แจ้งความมั้ย แล้วมีตำรวจมาของหลักฐานอะไรจากพวกเขาบ้างหรือเปล่า ก็จะรู้แล้วว่าผมถูกใส่ร้ายหรือไม่”

“ถ้าไม่มี งั้น งั้นคนที่ใส่ร้ายผมจะเป็นใคร?การใหญ่ขนาดนี้ อย่างน้อยก็ต้องจ่ายหลายล้านหยวนเลยทีเดียว คุณคิดว่าเป็นเฉาเหวินหวย หรือกงเจิ้งเหวิน?”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม ไป่เวยก็ชะงักไป จากนั้นก็ขมวดคิ้วแล้วครุ่นคิด

ผมได้พูดต่อว่า “คุณรู้มั้ยว่าทำไมจู่ๆผมถึงได้ถูกปล่อยออกมา?แล้วก็บัญชา แม้แต่ลูกน้องของมันทั้งหมดสิบกว่าคนก็ถูกจับทั้งหมด แต่ตอนนี้ออกมาทั้งหมดแล้ว รู้มั้ยว่าทำไม?”

“ทำไม?” ไป๋เวยสีหน้ายิ่งดูสงสัยมากขึ้นไปอีก

“เพราะเพื่อนของผมหาคนที่มีอำนาจไปที่สถานีตำรวจ ตำรวจก็ปิดคดีทันใด คุณคิดดูนะ ถ้าตำรวจดำเนินการตามขั้นตอนทุกอย่าง คดีนี้จะปิดคดีได้ง่ายขนาดนี้เลยเหรอ?พรุ่งนี้คุณไปสถานีตำรวจดูก็ได้นะ ถามดูว่าคดีนี้มันเป็นยังไงกันแน่ ดูว่ายังจะถามอะไรได้บ้างมั้ย?หรือดูว่คดีนี้มีการประกาศอะไรจากทางภาครัฐบ้างมั้ย”

“อ้อ พอพูดถึงจุดนี้ ผมมีคำถามอยากถามคุณประธานกง หลังจากที่ผมถูกจับไปที่สถานีตำรวจแล้ว ประธานไป๋ได้ไปสถานีตำรวจเพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับคดีบ้างมั้ยครับ?”

ไป๋เวยหลบสายตาของผม แล้วกล่าว “ไม่ ตอนนั้นฉันคิดว่าตำรวจจะเที่ยงธรรม ไม่จำเป็นต้องไปทำความเข้าใจอะไร และฉันก็ไม่อยากให้เรื่องนี้กระทบความร่วมมือกับBTT”

“เหอะๆ” ผมอดไม่ได้ที่จะดูแคลนออกมา “ที่แท้ก็เป็นหญิงเนรคุณ คุณไม่คิดหน่อยเหรอว่าโครงการBTTใครเป็นคนทำสำเร็จ และก็ไม่คิดบ้างเหรอว่าผมช่วยคุณไปกี่ครั้งแล้ว แล้ว ตอนนั้นผมก็ถือว่าเป็นลูกน้องของคุณป้ะ ลูกน้องถูกตำรวจจับ นึกไม่ถึงว่าคุณในฐานะที่เป็นหัวหน้าจะไม่ไถถามอะไรสักคำ เหอะๆ”

ไป๋เวยก้มหน้าด้วยสีหน้าซับซ้อน “เดิมทีฉันอยากไป แต่พวกเขาบอกฉันว่าอย่าเข้าไปยุ่ง ดังนั้น……เรื่องนี้ฉันทำผิด ฉันขอโทษนะ”

“ขอโทษไม่มีประโยชน์ สู้ยกก้นขึ้นมาให้ผมจัดสักหน่อยดีกว่า ”

ไป๋เวยขมวดคิ้วอีกครั้ง หน้าตาเย็นชาไม่พูดไม่กล่าว

ผมเอาบุหรี่บี้ไปที่เขี่ยบุหรี่ แล้วค่อยๆเดินไปข้างหน้าเธอ ยกมือขึ้นจับคางของเธอ

เธอหันหน้า ตอนที่จะปัดมือของผมทิ้ง ผมฉวยโอกาสผลักไหล่ของเธอ ผลักเธอไปที่กำแพง ตนก็ใช้แรงบีบไม่ให้เธอขยับได้

“ปล่อยฉันนะ คุณจะทำอะไร?” เธอดิ้นอย่างเกรี้ยวกราด

ผมรับรู้ถึงการหายใจของเธอ แล้วหยิกคางของเธออีกครั้ง แล้วกล่าว “ประธานไป๋ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป ผมจะจีบคุณ ผมจะให้คุณสะบัดกระโปรงเชิดก้นให้เอง ให้คุณได้รู้ว่าแท้ที่จริงแล้วผมเป็นยังไง”

“ไร้ยางอาย!สถุน!ปล่อยฉันนะ!”

ผมเชิดคางของเธอขึ้น แล้วจูบไปที่ริมฝีปากแดงๆอันเพริศพริ้งของเธอ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด