ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 53 ปรับตัวให้เข้ากับทุกสถานการณ์

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 53 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ดูเหมือนว่าโจงคังหนิงเป็นคนที่ไม่ธรรมดาจริงๆ ความคิดและการกระทำของเขา เห็นได้ชัดว่าเขาเป็นคนเจ๋งมากๆ ในบริษัทอย่างแน่นอน

บางทีเขาอาจจะมีคนค่อยคำชี้แนะให้เขาอยู่เบื้องหลัง หรืออาจจะมีคนหนุนหลังเขาอยู่

มิฉะนั้นด้วยฐานะผู้ใต้บังคับบัญชาโดยตรงของไป๋เวย เขามีความกล้าขนาดนี้ได้ยังไง เพราะไป๋เวยเป็นลูกสาวของผู้บริหารระดับสูงในบริษัท

ดูท่าผมคงต้องคอยสังเกตคนคนนี้แล้ว

เพราะการปรากฏตัวของผมอย่างกะทันหัน และคำพูดของไป๋เวยกับโจงคังหนิง บรรยากาศในห้องอาหารส่วนตัวอึดอัดขึ้นมาทันที หลังจากที่โจงคังหนิงนั่งลงก็ไม่มีใครกล้าพูดเสียงดังอีก

โชคดีที่ตอนนี้พนักงานเริ่มเสิร์ฟอาหาร ทำให้บรรยากาศภายในห้องอาหารค่อยๆ ดีขึ้น

ไป๋เวยขอให้พนักงานเสิร์ฟเปิดไวน์แดงสองขวด บอกให้ทุกคนต้องเทไวน์แล้ว จากนั้นเธอก็ยกแก้วไวน์แดงขึ้นมา เธอก็พูดประมาณว่าช่วงนี้ทีมโปรเจ็กต์ทุกคนเหน็ดเหนื่อยกับโปรเจ็กต์นี้ วันนี้ฉลองให้เต็มที่ จากนั้นก็ชนแก้ว

บรรยากาศในห้องอาหารส่วนตัวก็กลับมาครึกครื้นอีกครั้ง

ผมดื่มไวน์แดงที่อยู่ในแก้วจนหมดในครั้งเดียวและค่อยๆ ลิ้มรสของไวน์แดง จากนั้นก็เทไวน์แดงอีกครึ่งแก้ว ยกแก้วแล้วพูดกับไป๋เวยด้วยรอยยิ้ม “ประธานไป๋ พวกเราดื่มด้วยกันซักแก้วไหม?”

ไป๋เวยอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเธอก็ขมวดคิ้วและจ้องมองผม

“ทำไม เมื่อก่อนคุณเข้าใจผิดผมตั้งหลายครั้ง ผมไม่เคยให้คุณขอโทษผมเลย ตอนนี้คุณไม่ไว้หน้าผมใช่ไหม?”

เมื่อได้ยินคำพูดของผม สีหน้าของไป๋เวยดูสับสน เธอยกไวน์แดงขึ้นมาแล้วชนแก้วกับผมเบาๆ และพูดด้วยน้ำเสียงแผ่วเบาว่า “เรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงก่อน ฉันควรกล่าวคำขอโทษกับคุณ ฉันขอโทษจริงๆ ”

“คุณไม่ต้องขอโทษ ผมอยากเห็นการกระทำจริงๆ ของคุณมากกว่า”

“เหอะๆ การขอโทษคุณนั้นมันเป็นมารยาท มันไม่ได้หมายความว่าฉันมองตัวคุณเปลี่ยนไป ยิ่งไม่ได้หมายความว่าฉันยอมรับในตัวคุณ แต่มันกลับตรงกันข้าม ฉันยังคงเกลียดคุณมากๆ ฉันขอเตือนให้คุณอย่าคิดเพ้อฝันอีกเลย”

หลังจากพูดจบ ไป๋เวยก็จิบไวน์แดงที่อยู่ในแก้ว เธอจิบไวน์แดงเพียงเล็กน้อยผ่านริมฝีปากของเธอ

ผมยิ้มและไม่สนใจ และดื่มไวน์แดงที่อยู่ในแก้วจนหมดอีกครั้ง จากนั้นก็เทไวน์แดงอีกครึ่งแก้ว ยกแก้วขึ้นมาและพูดกับโจงคังหนิงที่กำลังคุยกับคนอื่น “ผู้จัดการโจง ก่อนหน้านี้ผมทำตัวไม่ค่อยดีและผมใช้คำพูดกับผู้จัดการโจงไม่ค่อยสุภาพ ฉันขอใช้โอกาสนี้กล่าวคำขอโทษกับคุณ ผมหวังว่าคนใจกว้างอย่างคุณจะไม่ถือสาคนอย่างผม”

โจงคังหนิงอึ้งไปชั่วครู่ เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นเขาก็ยกแก้วไวน์ขึ้นมาด้วยรอยยิ้มฝืนๆ และหัวเราะออกมา “ไม่เป็นไรๆ เรื่องที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้มันเป็นเรื่องเข้าใจผิด พวกเราทุกคนเป็นเพื่อนร่วมงานกัน พวกเราควรเข้าใจกัน ให้อภัยซึ่งกันและกัน”

ฉันยิ้มและดื่มไวน์แดงในแก้วจนหมดและเทไวน์แดงอีกครั้ง และยกแก้วขึ้นมาดื่มกับเพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ และทำความรู้จักกับคนในทีมโปรเจ็กต์ทั้งหมดอีกครั้ง

ถ้าหากผมต้องการจีบไป๋เวยและอยากทำงานที่บริษัทจื้อเหวินซอฟต์แวร์จริงๆ ผมจำเป็นต้องเข้ากับสภาพแวดล้อมและคนของบริษัทให้ได้

บางครั้ง การแสร้งทำเป็นให้ความเคารพกับเพื่อนร่วมงานแบบนี้ มันคือสิ่งที่ผู้ชายทุกคนเรียกว่าปรับตัวเข้ากับทุกสถานการณ์ ผมเข้าใจว่ามันไม่ใช่แค่ต้องยอมรับความอัปยศอดสูเท่านั้น ยังต้องรู้จักเปลี่ยนแปลงและพลิกแพลง

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเสแสร้งหรือแกล้งทำ ถ้าสามารถทำให้สิ่งนั้นเปลี่ยนไปในทิศทางที่เราต้องการ การเสแสร้งบ้างก็เป็นเรื่องปกติ

ผมเข้าใจเรื่องนี้ดีก่อนที่ตัวเองจะเข้าคุก ตอนนั้นผมเป็นพนักงานฝ่ายขายมาหลายปี ติดต่อกับคนทุกประเภท เคยเจอเรื่องเลวร้ายและไม่ดีมานับครั้งไม่ถ้วน ผมเข้าใจกลอุบายต่างๆ ทางธุรกิจมานานแล้ว

นอกจากนี้ ในช่วงหลายปีนั้นผมยังเคยฝึกดื่มแอลกอฮอล์มาด้วย ตอนนี้ผมยกแก้วไวน์แดงแล้วเดินไปดื่มกับทุกคนในทีมโปรเจ็กต์ได้อย่างสบาย

แต่ตอนที่ผมไปดื่มไวน์แดงกับคนอื่นๆ ผมไม่ได้แสร้งทำตัวสุภาพเหมือนตอนที่ผมดื่มให้กับโจงคังหนิง แต่ผมกลับแสดงความจริงใจออกมา คนตรงไปตรงมาแต่ไม่เสียความสุภาพ เป็นคนหยาบคายแต่จริงใจ

อาจจะเป็นเพราะผมแตกต่างจากคนอื่น หรืออาจจะเป็นเพราะผมพูดเรื่องตลกๆ เกี่ยวกับเรื่องลามกจนทำให้พวกเขาหัวเราะออกมา ผมใช้เวลาแค่แป๊บเดียว ก็สนิทกับคนส่วนใหญ่ในทีมโปรเจ็กต์

ยังมีผู้หญิงใจกล้าหลายๆ คนพยายามให้ผมพูดเรื่องตลกและเรื่องลามก แม้แต่โจงคังหนิงก็ไม่เสแสร้งอีกต่อไป และเขาพยายามทำตัวให้กลมกลืนกับพนักงานทุกคน หัวเราะและล้อเล่นกับผู้หญิงเหล่านั้น

อาจจะเป็นเพราะแอลกอฮอล์ ทำให้ทุกคนมันส์

เว้นแต่ไป๋เวย ทุกครั้งที่ผมเล่าเรื่องลามก เธอที่อยู่ข้างๆ จะเปล่งน้ำเสียงที่เย็นชาออกมา

เพื่อนร่วมงานคนอื่นๆ ก็ไม่สนใจเธอ เพราะทุกคนน่าจะคุ้นชินกับใบหน้าอันเย็นชาของเธอ

หลังจากทานอาหารเสร็จ พวกเราก็นั่งคุยกันสักพัก ก็มีคนเสนอให้ไปฉลองต่อกันที่KTV จากนั้นทุกคนก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาหาสถานที่หรือโทรศัพท์ไปถามคนอื่นๆ ว่ารู้จัก KTV ที่มีเพลงจีนหรือเปล่า

สุดท้ายไป๋เวยเป็นคนหาสถานที่ได้ เพราะเธอได้โทรศัพท์ไปหาผู้บริหารหลายๆ คนของBTTโดยความสุุภาพ และได้ชักชวนพวกเขาไปKTVด้วยกัน มีสันติสุขและเพื่อนร่วมงานของเขาคนหนึ่งรับปากว่าจะมา และพวกเขาก็หาสถานที่ให้พวกเราด้วย

อันที่จริง ผมอยากกลับไปห้องพักเพื่อดูทีวี เมื่อได้ยินว่าสันติสุขจะมาด้วย ผมก็เปลี่ยนใจทันที เพราะเขาเป็นคนชอบดื่มเหล้าและเราก็เข้ากันได้

เมื่อพวกเรามาถึงKTV สันติสุขกำลังรออยู่ที่นั่น เมื่อเห็นตาข่ายบนศีรษะของผม สันติสุขก็ตกใจเหมือนคนอื่นๆ จากนั้นเขาก็ปิดปากกลั้นเสียงหัวเราะของตัวเองทันที

หลังจากสันติสุขยกมือไหว้ทักทายไป๋เวยกับโจงคังหนิงและคนอื่นๆ เขาจึงได้หัวเราะและมองมาที่ผมและถามว่า “หยาง เกิดอะไรขึ้นกับคุณ?”

ผมยกมือไหว้ทักทายเขา และพูดอย่างจำใจว่า “ไม่เป็นไร ผมแค่ชกต่อยกับคนอื่น และโดนตีจนหัวแตก”

“เป็นอะไรมากไหม?”

“ไม่เป็นอะไร บาดเจ็บนิดหน่อย อีกไม่กี่วันก็คงหายสนิท”

“งั้นก็ดีแล้ว”เขาพยักหน้า”อืม ฉันได้ยินว่าคุณถูกจับตัวไปสถานีตำรวจเมื่อไม่กี่วันก่อน มันเป็นเรื่องจริงไหม?”

“มันเป็นเรื่องจริง ผมซวยมากๆ โดนคนใส่ร้ายและโดนขังไปสามวัน”

“ฮ่าๆ ๆ มันคงเป็นประสบการณ์ที่แย่มากๆ ใช่ไหม”

“ถ้าคุณอยากรู้ คุณก็ลองเข้าไปนอนสักคืนดูสิ”

“ไม่ๆ ๆ ฉันไม่อยากเข้าไป อย่างไรก็ตาม ฉันพึ่งทราบข่าวจากคุณเวยเมื่อวานนี้ ตอนนั้นคุณก็ออกมาแล้ว และฉันก็ช่วยคุณไม่ทัน ฉันต้องขอโทษจริงๆ ”

เมื่อพูดจบ จู่ๆ สันติสุขก็เดินเข้ามากระซิบที่ข้างหูของผม “หยาง ฉันยังได้ข่าวมาว่า หัวหน้าใหญ่ของคลับคราที่ชื่อบัญชาโดนคนทำร้ายจนบาดเจ็บสาหัส คนในบริษัทของฉันพูดว่าคุณเป็นคนทำ พวกเขาพูดถูกไหม?”

ผมชี้ไปที่ตาข่ายที่อยู่บนศีรษะ “ผมเป็นคนทำจริงๆ และผมได้รับบาดเจ็บที่ศีรษะจากเรื่องนี้”

สันติสุขยกนิ้วให้ผม “ทุกคนในละแวกนี้ต่างเกลียดอันธพาลพวกนั้น คุณทำในสิ่งที่หลายคนอยากทำแต่ไม่กล้าทำ คุณเก่งมากๆ ”

“ผมก็ไม่ได้เก่งอะไร ผมแค่หุนหันพลันแล่น อย่าพูดเรื่องนี้อีกเลย มาดื่มเหล้ากันเถอะ”

ผมนั่งลงข้างๆ สันติสุข ขณะรอให้พนักงานมาเสิร์ฟเหล้า จู่ๆ เขาก็ถามขึ้นมา “หยาง หาผู้หญิงสวยๆ หลายๆ คนมานั่งด้วยกันไหม? คุณวางใจเถอะ เรื่องแบบนี้มันถูกกฎหมายในประเทศของเรา”

ผมมองไปที่ไป๋เวยที่นั่งอยู่ไม่ไกลและส่ายหัว “ไม่เอาดีกว่า เพราะผมกำลังตามจีบคุณเวยอยู่ ถ้าคุณต้องการ เรียกสาวๆ มาหลายๆ คนก็ได้ ยังไงบริษัทของเรามีเงินเยอะ”

“อ้อ? คุณกำลังจีบคุณเวยเหรอ?”สันติสุขสนใจเรื่องนี้ทันที

“ใช่”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด