ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 59 คำชมของผู้ชาย

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 59 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ผมอดไม่ได้ที่จะจ้องมองเธอและพูดอย่างชื่นชมว่า “ปกติเห็นคุณใส่ชุดทำงานก็ดูสวยมากๆ แล้ว ผมไม่คาดคิดเลยว่าคุณใส่ชุดนี้แล้วจะมีเสน่ห์มากขนาดนี้”

ไป๋เวยทำหน้าบึ้ง “หยุดประจบสอพลอได้แล้ว ฉันไม่เชื่อคุณหรอก”

“ผมไม่ได้ประจบสอพลอ ผมพูดจากความรู้สึกในใจจริงๆ ถ้าคุณไปประกวดนางงาม คุณคงเป็นนางงามจักรวาลอย่างแน่นอน? ถ้าคุณไปประกวดมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สก็คงชนะเลิศอย่างแน่นอน”

“หึ ฉันเคยพูดแล้ว ฉันไม่สนใจคำพูดกะล่อนของคุณอยู่แล้ว”

เมื่อพูดจบ เธอก็เดินไปเก็บข้าวของบนโต๊ะข้างเตียง จู่ๆ เธอก็คิดอะไรบางอย่างออกและหันหน้ากลับมา ขมวดคิ้วและถาม “เมื่อสักครู่คุณพูดมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สของประเทศไทยใช่ไหม?”

ผมพยักหน้าโดยไม่ได้สนใจ “ใช่ คนที่ชนะเลิศมิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สทุกปีสวยมากๆ ”

เธอโกรธขึ้นมาทันทีและหยิบหมองแล้วโยนใส่ผม “ไอ้สารเลว คุณเอาฉันไปเปรียบเทียบกับผู้หญิงข้ามเพศ คุณคิดว่าฉันไม่รู้หรือว่ามิสทิฟฟานี่ยูนิเวิร์สเป็นการประกวดของผู้หญิงข้ามเพศเหรอ?”

ผมคว้าหมอนไว้แล้วยิ้ม “ผู้หญิงข้ามเพศพวกนั้นสวยมากเลย โดยเฉพาะน้องปอยที่กำลังแสดงภาพยนตร์อยู่ตอนนี้ ถือได้ว่าเป็นสาวงามอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิง”

“คุณยังจะพูดอีก!”

“ได้ๆ ๆ ผมไม่พูดแล้ว ถึงเธอจะสวยยังไงก็สู้ประธานไป๋ของพวกเราไม่ได้หรอก ถ้าประธานไป๋เข้าวงการบันเทิง ประธานไป๋คงเป็นสาวงามอันดับหนึ่งของเอเชีย เพราะคุณสวยกว่าพวกเธอมากๆ ”

ไป๋เวยหยิบหมอนแล้วโยนมาที่ผมอีกครั้ง แต่ครั้งนี้เธอดูเขินอายเล็กน้อย เธอโกรธและอยากจะหัวเราะด้วย

ไม่มีผู้หญิงคนไหนไม่ชอบคำชม โดยเฉพาะคำชมของผู้ชาย

ผมคว้าหมอนไว้อีกครั้ง ผลัดกันดมกลิ่นที่ติดอยู่ในหมอนทั้งสองใบ จากนั้นก็ขมวดคิ้ว “ทำไมถึงมีกลิ่นน้ำลาย? คุณนอนน้ำลายยืดใช่ไหม?”

“คุณต่างหากที่นอนน้ำลายยืด”

ไป๋เวยหน้าแดงขึ้นมาทันที รีบวิ่งเข้ามาแล้วแย่งหมอนสองใบนั้นไป จากนั้นก็จ้องมองผมด้วยความโกรธ

ผมหัวเราะและหันหน้ากลับไปปิดฝากระติกเก็บความร้อน

แต่ผมก็หันหน้ากลับมาอย่างรวดเร็ว เห็นเธอกำลังดมกลิ่นบนหมอนทั้งสองใบ

“ฮ่าๆ ๆ ๆ ……”ผมทนไม่ไหวก็เลยหัวเราะเสียงดังออกมา

“คุณ……”

ไป๋เวยโกรธมากๆ เธอฟาดหมอนที่อยู่ในมือใส่ผม

“ผมล้อคุณเล่น”ผมหลบหมอนที่เธอฟาดมาและพูดด้วยรอยยิ้ม “ถึงหมอนจะมีน้ำลายก็ไม่เป็นไร เพราะน้ำลายของคุณมันหอมมากๆ ผมเคยลิ้มรสมาแล้ว”

เธอยิ่งโกรธมากๆ ใช้หมอนฟาดผมอย่างแรงและไม่ยั้งมือ

ผมหลบไม่พ้นก็เลยจับมือของเธอไว้ ดึงเธอเข้ามาในอ้อมกอดของผม มองเธอด้วยรอยยิ้มและพูด “คุณรู้สึกดีใจ โกรธและตื่นเต้นใช่ไหม? คุณรู้สึกไหมว่าการคบหาดูใจกับผมมันสนุกสนานมากๆ ?”

“ถุย!ใครอยากจะคบหาดูใจกับอันธพาลอย่างคุณ”

เธอผลักผมออก และเปล่งเสียงไม่พอใจออกมา จากนั้นก็หยิบหมอนแล้วเดินไปเก็บข้าวของที่โต๊ะบนหัวเตียง

ผมไม่ได้แกล้งเธออีก แต่กลับไปยังห้องพักของตัวเองแล้วถอดตาข่ายที่อยู่บนศีรษะออก ถ้าใส่มันไปด้วยคงน่าเกลียดมากๆ

เมื่อวานไปโรงพยาบาลล้างแผล คุณหมอบอกว่าบาดแผลสมานดีแล้ว อีกสองวันก็ถอดตาข่ายได้แล้ว ผมขอผ้าพันแผลและผ้าก๊อซจากโรงพยาบาลมาด้วย เพราะบาดแผลอยู่บนหน้าผากที่ใกล้กับเส้นผม ผมพันแผลแล้วปิดด้วยผ้าก๊อซเพื่อหลีกเลี่ยงการสัมผัสกับแบคทีเรีย ผมพันผ้าพันแผลจะดูไม่ค่อยน่าเกลียด

ผมออกจากห้องและไปพบไป๋เวย หลังจากที่ผมยืนยันแล้วว่าเธอพกผ้าอนามัยมาด้วย ผมกับเธอก็ลงมายังชั้นล่างของโรงแรม และบังเอิญเจอเพื่อนร่วมงานหลายคน

เมื่อพวกเขาเห็นผมกับไป๋เวย เพื่อนร่วมงานหลายๆ คนก็ยิ้มและทักทายพวกเราด้วยความสุภาพและหัวเราะอย่างมีเลศนัย

พวกเขาน่าจะหัวเราะเรื่องที่ผมถือช่อดอกกุหลาบและยืนอยู่หน้าประตูห้อง หรืออาจจะเห็นผมกับไป๋เวยเดินออกมาด้วยกัน นึกว่าผมง้อเธอสำเร็จแล้ว

ไป๋เวยทั้งอายทั้งโกรธ แต่เธอก็ทำอะไรไม่ได้ เธอพูดแบบขอไปทีและเดินออกจากโรงแรมอย่างรวดเร็ว

ผมรีบเดินตามเธอไป และเรียกรถตุ๊กตุ๊กที่กำลังขับมาทันที

“จากนี้ไปคุณห้ามพูดต่อหน้าเพื่อนร่วมงานว่าคุณตามจีบฉัน!”ขณะขึ้นรถ ไป๋เวยพูดอย่างจริงจัง

“ได้ จากนี้ไปผมจะพูดต่อหน้าคุณอย่างเดียว”

ผมยิ้มและจับแขนของเธอและพยุงเธอขึ้นรถตุ๊กตุ๊ก

เธอสะบัดมือของผมออก และนั่งเบาะหลังที่อยู่ริมสุด

การนั่งรถตุ๊กตุ๊กในเชียงใหม่เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมากๆ คุณสามารถชื่นชมเมืองที่มีบรรยากาศที่สดชื่นและเงียบสงบ ดูสิ่งแปลกใหม่ของที่นี่ ดูการใช้ชีวิตแบบสโลว์ไลฟ์ของคนในเชียงใหม่

ผมไม่เคยมาเมืองไทยมาก่อน แต่เพราะผมเรียนการค้าระหว่างประเทศกับภาษาไทย ทำให้ผมเคยศึกษาประเทศไทยมาพอสมควรและเข้าใจขนบธรรมเนียมของคนในท้องถิ่น ทำให้ผมเป็นไกด์นำเที่ยวและเล่าเรื่องราวต่างๆ ให้ไป๋เวยฟังได้อย่างง่ายดาย

ไป๋เวยไม่ได้งอนผมอีก ตอนนี้เธอให้ความสนใจไปที่สถานที่ท่องเที่ยวทันที

ผมกับเธอนั่งรถตุ๊กตุ๊กชมเมืองเสร็จแล้วมาที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ซื้อตั๋วที่ประตู แล้วนั่งรถรางชมมหาวิทยาลัย

เมื่อก่อนที่นี่ให้นักท่องเที่ยวเดินชมได้ตามสบาย เมื่อเข้ามาในมหาลัยจะเดินไปเที่ยวที่ไหนก็ได้ แต่มักมีนักท่องเที่ยวไปรบกวนเวลาเรียนของนักศึกษา หลังจากนั้นทางมหาลัยก็ห้ามนักท่องเที่ยวเดินชมเอง ต้องนั่งรถรางของมหาลัยเพื่อเยี่ยมชมตามสถานที่ต่างๆ ในเส้นทางที่เขากำหนด และระหว่างนั่งรถรางจะสามารถลงมาชมวิวได้เพียงจุดเดียว และเวลาที่จอดพักก็สั้นมากๆ

อันที่จริงสถานที่นี้ไม่มีอะไรให้เล่นเลย มีเพียงอาคารที่มีรูปทรงแปลกๆ ดอกไม้และต้นไม้เยอะมากๆ เหมาะแก่การพักผ่อนหย่อนใจ อย่างเช่น ไป๋เวยในตอนนี้ ดูเธอสบายใจและมีความสุขมากๆ

หลังจากที่รถรางมาถึงที่จอดพักเพียงจุดเดียวของมหาลัยนั้นก็คืออ่างแก้ว ไป๋เวยก็ลงจากรถราง ยืนอยู่ข้างๆ อ่างเก็บน้ำที่น้ำไม่ค่อยใสมากนัก เธอยกมือทั้งสองข้างขึ้น ปิดตาและสูดอากาศบริสุทธิ์

เหมือนรูปในโปรไฟล์วีแชทของเธอเลย ในเวลานี้ไป๋เวยดูสงบและอ่อนโยนมากๆ ตรงกันข้ามกับตอนที่เธอเป็นประธานไป๋ที่เย็นชาและเย่อหยิ่ง

ผมทนไม่ไหวก็เลยหยิบโทรศัพท์ขึ้นมา และถ่ายรูปด้านข้างของเธอเก็บไว้

เธอจ้องมาที่ผมชั่วครู่ จากนั้นเธอก็เดินช้าๆ ไปตามอ่างเก็บน้ำบนหญ้าสีเขียว

ผมไม่อยากทำลายภาพลักษณ์ของเธอ ดังนั้นผมก็เลยเดินตามหลังของเธออย่างเงียบๆ

ผ่านไปไม่นาน เธอหยุดเดิน นั่งกอดเข่าอยู่บนหญ้า

ผมก็นั่งลง ห่างจากเธอเพียงแค่หนึ่งฝ่ามือเท่านั้น

“ฟางหยาง เมื่อก่อนคุณเป็นคนยังไง?”จู่ๆ เธอก็เอนศีรษะไปพิงที่เข่า มองหน้าผมและถาม

ผมอึ้งไปชั่วครู่ ในสมองปรากฏภาพในอดีตของตัวเองทันที ความทรงจำทั้งหมดปรากฏเหมือนภาพสไลด์

ผ่านไปสักพัก ผมก็ยิ้มออกมา “เมื่อก่อนผมเป็นคนยังไง ตอนนี้ผมก็เป็นคนอย่างนั้น”

“ไม่ เมื่อก่อนคุณไม่ได้เป็นคนแบบนี้อย่างแน่นอน”ดวงตาใสๆ คู่นั้นของเธอกำลังจ้องมองผม เหมือนเธออยากจะมองผมให้ทะลุปรุโปร่ง”ฉันเคยฟังเรื่องราวของคุณจากคืนอื่น รู้ว่าเมื่อก่อนคุณเป็นคนดีและขยันด้วย เป็นผู้ชายที่มีความมุ่งมั่นและมีความก้าวหน้าในหน้าที่ เพราะคุณเคยติดคุก ก็เลยกลายเป็นคนแบบนี้”

“เหอะๆ คุณเคยฟังเรื่องราวของผม ทำไมยังต้องมาถามผมอีก มีอีกหนึ่งเรื่อง สิ่งที่คุณได้ยินมามันไม่ถูกต้อง เมื่อก่อนผมก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว เป็นคนสถุลและไร้ยางอาย เลวทรามต่ำช้า”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด