ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 93 ความจริง

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 93 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เห็นได้ชัดว่าเจ้าหน้าที่ต้อนรับคนนั้นฟังภาษาจีนไม่รู้เรื่อง ดังนั้นเขาจึงถามกลับด้วยภาษาอังกฤษ แต่ชายชราคนนั้นดูเหมือนจะไม่ค่อยถนัดภาษาอังกฤษ พวกเขาจึงสื่อสารกันไม่รู้เรื่อง

ขณะที่ผมกำลังจะเข้าไปช่วยแปลภาษาให้พวกเขา ก็มีคนสองคนวิ่งเข้ามา คนหนึ่งอายุสามสิบกว่าๆ เป็นผู้หญิงใส่แว่นและมีหน้าตาธรรมดา ดูเหมือนเธอจะเป็นเลขา ส่วนอีกคนอายุน่าจะน้อยกว่าและมีรูปร่างสูงใหญ่ ดูเหมือนจะเป็นบอดี้การ์ดหรือคนขับ

เมื่อมองเห็นสองคนนั้น ชายชราก็รีบโบกมือเรียกพวกเขาทันที จากนั้นผู้หญิงคนนั้นก็ใช้ภาษาอังกฤษในการสื่อสารเรื่องที่เกิดขึ้นกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ

ชายชราเป็นเศรษฐีที่เดินทางมาท่องเที่ยวและตรวจสอบโปรเจกต์ ตอนเช้าเวลาแปดโมงกว่าๆ ภรรยาของเขาได้พาลูกชายวัยเจ็ดขวบไปล่องเรือที่แม่น้ำปิง ชายชราได้โทรศัพท์หาภรรยาและโทรเข้านาฬิกาข้อมือลูกชายหลายครั้ง แต่โทรไม่ติดเพราะปิดเครื่อง เขารู้สึกว่าต้องมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นกับภรรยาและลูกชาย เขาไปหาภรรยาและลูกชายด้วยตัวเองแต่ก็ไม่พบ หลังจากนั้นเขาก็วิ่งมาแจ้งความที่สถานีตำรวจ

แต่เจ้าหน้าที่ต้อนรับคนนั้นฟังเรื่องทั้งหมดที่เขาพูดจนจบ เขาส่ายหัว บอกว่าภรรยาและลูกชายของเขาหายตัวไปแค่สองสามชั่วโมง ถ้าหายตัวไปไม่ถึงยี่สิบสี่ชั่วโมง ไม่สามารถแจ้งความได้

ชายชราเริ่มวิตกกังวลมากขึ้น เขาใช้ภาษาจีนบอกกับเจ้าหน้าที่ตำรวจว่าถ้าแจ้งความไม่ได้ก็ช่วยตามหาภรรยาและลูกของเขาได้ไหม ผู้หญิงที่อยู่ข้างๆแปลไม่ทัน ทำให้ทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันอย่างเร่งรีบ และเสียงก็ดังขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะที่พวกเขากำลังจะทะเลาะกัน ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจสองคนเดินออกมา ทำให้ชายชราใจเย็นและสงบลง และถามเรื่องที่เกิดขึ้นอีกครั้ง

ในเวลานี้ โทรศัพท์ที่อยู่บนโต๊ะของเจ้าหน้าที่ต้อนรับก็ดังขึ้น เขาหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาฟัง จากนั้นก็โบกมือเรียกผม “คุณครับ สารวัตรณัฐชาต้องการพบคุณ คุณเดินตามฉันเข้าไป”

ผมพยักหน้า และเดินตามหลังเจ้าหน้าที่คนนั้นเข้าไปไม่กี่ก้าว ผมอดไม่ได้ก็เลยหยุดลงทันที หันศีรษะและพูดกับชายชราด้วยภาษาจีน “คุณลุงครับ ไม่ทราบคุณชื่ออะไร?”

ชายชราคนนั้นอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นเขาก็ถามด้วยความสงสัย “ฉันแซ่ถง ไม่ทราบว่าคุณเป็น……”

ผมยิ้ม “ผมเป็นแค่คนที่เดินผ่านมา คุณถงมีศัตรูที่เชียงใหม่ไหม?”

“ไม่มี ฉันมาเชียงใหม่ครั้งแรก พึ่งมาเชียงใหม่ได้แค่สามวัน”

“ถ้าอย่างนั้น ผมขอโทษที่ต้องถามแบบนี้ ไม่ทราบว่าภรรยาของคุณอายุเท่าไหร่แล้ว?”

ชายชราขมวดคิ้ว “คุณหมายความว่ายังไง?”

ผมกางมือออกมาอย่างตรงไปตรงมา “ต้องขอโทษด้วย ผมไม่ได้ตั้งใจจะล่วงเกินคุณ แต่ผมแค่อยากช่วยคุณถงวิเคราะห์ว่าทำไมภรรยาและลูกชายของคุณถึงหายตัวไป”

สีหน้าของชายชราผ่อนคลายลง “ภรรยาอายุน้อยกว่าฉันยี่สิบปี ตอนนี้เธออายุสามสิบห้าปี คำถามนี้กับการหายตัวไปของเธอมีความเกี่ยวข้องกันด้วยเหรอ?”

ผมลังเลอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ถามว่า “คุณถง คุณมีลางสังหรณ์ว่าภรรยาของคุณหลบหน้าคุณอยู่หรือหายตัวไป คุณคิดว่าอันไหนมีความเป็นไปได้มากกว่ากัน? จากลางสังหรณ์ของคุณ”

ชายชราขมวดคิ้วและมองหน้าผม สักพักเขาก็หายใจเข้าลึกๆหนึ่งครั้งและพูด “ผมมีลางสังหรณ์ว่าเธอหายตัวไป เพราะพวกเราแต่งงานมาแปดปีแล้ว เธอไม่เคยปิดเครื่องโทรศัพท์เลย และนาฬิกาบนข้อมือของลูกชายผมก็ไม่เคยปิดเครื่องเหมือนกัน”

ผมครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วพยักหน้า “ผมเข้าใจแล้ว เอาอย่างนี้ละกัน พอดีผมรู้จักสารวัตรของที่นี่ เดี๋ยวผมจะบอกให้เขาช่วยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจสองสามคนไปช่วยคุณตามหาภรรยาและลูก คุณถงนั่งรออยู่ตรงนี้สักครู่”

ดวงตาของชายชราเป็นประกาย เขาจับมือผมด้วยความหวังและซาบซึ้ง “ขอบคุณ ขอบคุณมากๆ”

“ไม่เป็นไร เพราะพวกเราเป็นคนจีนเหมือนกัน และพวกเราเป็นคนจีนในต่างแดนเหมือนกัน ถ้ามีเรื่องอะไรพวกเราก็ควรช่วยเหลือกัน ผมจะเข้าไปคุยกับสารวัตรเดี๋ยวนี้เลย”

“ได้ครับๆ ไม่ทราบว่าคุณชื่ออะไร?”

“ฟางหยาง ฟางที่แปลว่าสี่เหลี่ยม หยางที่แปลว่าพระอาทิตย์”

“ดี ชื่อของคุณดีมากๆ ฉันชื่อถงอันจือ อันจือมาจากสองคำแรกของอันจือรัวซู่ ที่แปลว่าใจเย็นๆเมื่อเผชิญหน้ากันเรื่องไม่ปกติ”

“ชื่อของคุณถงก็ดีเหมือนกัน ถ้างั้นคุณก็ผ่อนคลายและนั่งรออย่างใจเย็นๆก่อน”

เห็นได้ชัดว่า ถงอันจือคนนี้เป็นคนที่มีการศึกษาและมีเงินด้วย ข้างๆเขามีเลขาผู้หญิงและคนขับรถยนต์ที่เป็นวัยรุ่น และเขายังมีภรรยาที่มีอายุน้อยกว่าเขาตั้งยี่สิบปี

หลังจากบอกลาถงอันจือแล้ว เจ้าหน้าที่ต้อนรับคนนั้นก็พาผมขึ้นไปชั้นสาม เคาะประตูห้องทำงานห้องหนึ่ง จากนั้นเขาก็เชิญผมเข้าไป

บนโซฟาหนังในห้องทำงานมีตำรวจอ้วนๆที่ใส่ชุดรัดรูปจนแน่นคนหนึ่งนั่งอยู่ เขาคือณัฐชาเป็นตำรวจที่ส่งผมออกจากสถานีตำรวจด้วยความสุภาพเมื่อครั้งที่แล้ว

เมื่อเห็นผมเดินเข้ามา ณัฐชาก็ลุกขึ้นทันที เขาไหว้ผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้มและพูด”สวัสดี คุณหยาง”

ดูเหมือนคนที่ตู้หมิงเฉียงเชิญมาครั้งนั้น น่าจะมีอิทธิพลมากๆ เหตุผลที่ณัฐชาเกรงใจผม เพราะความสัมพันธ์นั้นแน่นอน

ผมก็ยกมือไหว้เขาทันที “สวัสดี สารวัตรณัฐชา ต้องขอโทษที่มารบกวนคุณ”

“คุณหยาง ไม่ต้องเกรงใจ เชิญนั่ง เชิญนั่งก่อน”

ผมพยักหน้าด้วยความสุภาพ นั่งอยู่บนโซฟาที่อยู่เยื้องๆฝั่งตรงข้ามของเขา และพูดอย่างตรงไปตรงมา “สารวัตรณัฐชา ผมมาครั้งนี้เพราะมีเรื่องอยากจะให้คุณช่วย”

ณัฐชาอึ้งไปชั่วครู่ จากนั้นก็ยิ้มออกมา “คุณหยาง เชิญพูดมาได้เลย ถ้าฉันช่วยได้ ฉันจะช่วยอย่างสุดความสามารถ”

ผมยิ้ม “ขอบคุณณัฐชามากๆ อันที่จริงเรื่องนี้ก็ถือเป็นการรายงานเหตุอาชญากรรมที่ทำผิดกฎหมายให้สารวัตรณัฐชาทราบ ผมกับคุณอนุรักษ์ที่เป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติการของBTTกรุ๊ปถูกคนใส่ร้าย พวกเขาปล่อยคลิปวิดีโอหนึ่งออกมา บอกว่าคุณอนุรักษ์ยอมรับสินบนด้วยการมีเซ็กส์จากผมกับผู้ชายคนจีนอีกคนหนึ่ง มันทำลายชื่อเสียงของเขากับผมด้วย ทำให้คุณอนุรักษ์ถูกสั่งให้หยุดงานและรอการตรวจสอบจากบริษัท……”

ผมเล่าเรื่องทั้งหมดอย่างสั่นๆและเน้นย้ำว่าผมไม่ได้เป็นคนบันทึกวิดีโอนั้น แต่ผมคาดเดาว่าน่าจะเป็นเฉาเหวินหวยสั่งให้บัญชาเป็นคนบันทึกวิดีโอนั้น

สุดท้ายผมก็พูดตรงไปตรงมาว่า ถ้าผมกับอนุรักษ์มาแจ้งความ ผมหวังว่าณัฐชาจะสืบสวนความจริงออกมาตามที่ผมต้องการ และไปประกาศผลการสอบสวนที่BTTกรุ๊ปด้วย

ในระหว่างการสนทนานี้ ผมเน้นย้ำว่าต้องได้ความจริงตามที่ผมต้องการ

เมื่อฟังคำพูดของผมจนจบ ณัฐชาไม่ได้ตอบทันที แต่เขายิ้มและถามว่า “คุณหยาง เป็นเพราะเรื่องในครั้งนั้น ทำให้คุณอยากจะสั่งสอนบัญชาใช่ไหม?”

ผมส่ายหัว “ไม่ใช่ ผมขอพูดตามตรง ไม่ปิดบังสารวัตรณัฐชา ผมไม่ได้มีความแค้นกับบัญชามากนัก ตรงกันข้าม อันที่จริงความสัมพันธ์ของพวกเราค่อนข้างดี เรื่องนี้ผมก็ไม่ต้องการให้บัญชาได้รับโทษร้ายแรง ช่วยหาวิธีลดโทษให้เขาด้วย ขอให้สั่งสอนเป็นบทเรียนกับเขาก็พอ”

ณัฐชาอึ้งไปชั่วครู่ และครุ่นคิดอยู่ชั่วครู่ จากนั้นก็ยิ้มและพูด “คุณหยาง ฉันขอถามอย่างไม่เกรงใจ คุณกับคุณฉันทสุด……”

“สารวัตรณัฐชา”ผมรีบขัดจังหวะของเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม “คุณน่าจะรู้ว่าคุณฉันทสุดยุ่งมากๆ เรื่องวิดีโอนี้มันก็เป็นแค่เรื่องเล็กๆ ผมไม่อยากไปรบกวนเขา ส่วนความสัมพันธ์ของผมกับเขา……พวกเราคนจีนมีสุภาษิตคำหนึ่งที่ว่าถามพอเป็นพิธี เรื่องพวกนี้ผมไม่สะดวกคุยจริงๆ ต้องขอโทษด้วยจริงๆ แต่คุณวางใจได้ ผมเป็นนักธุรกิจที่ใส่สะอาด”

“ฉันเข้าใจ ฉันเข้าใจ”

ณัฐชายิ้มอย่างมีความหมาย จากนั้นเขาก็ตบต้นขาของตัวเอง “ได้ครับ เรื่องที่คุณหยางพูดเมื่อสักครู่ มันเป็นหน้าที่ของตำรวจอย่างเราที่ต้องไปจัดการ คุณวางใจได้ ผมจะจัดการเรื่องนี้ตามกฎหมาย ผมรับปากว่าจะคืนความเป็นธรรมให้คุณหยางกับคุณอนุรักษ์”

ผมยิ้มอีกครั้ง “ผมต้องขอบคุณสารวัตรณัฐชามากๆ ถ้าผมเจอคุณฉันทสุดอีกครั้ง ผมจะยกย่องสารวัตรณัฐชาเป็นคนที่มีความกล้าหาญและมีคุณธรรมต่อหน้าเขาด้วย ถ้าคุณพอมีเวลาว่างในอีกสองสามวันข้างหน้า ผมอยากจะเชิญสารวัตรณัฐชาไปทานอาหารร่วมกัน และผมหวังว่าสารวัตรณัฐชาจะให้เกียรติผมได้เลี้ยงอาหารคุณ”

“ฮ่าๆๆ คุณหยางไม่ต้องเกรงใจ ถ้ามีเวลาฉันจะไปอย่างแน่นอน”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด