ประธานสาวโหดมว๊าก – บทที่ 100 คลี่คลายคดีอย่างรวดเร็ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง ประธานสาวโหดมว๊าก ตอนที่ 100 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ผมอดที่จะขัดจังหวะเขาไม่ได้ แล้วยิ้มพลางพูดขึ้นมาว่า”เอาล่ะ อย่าพูดเรื่องพวกนี้เลย ใจผมรับไว้แล้ว”

บัญชาพยักหน้าอย่างซาบซึ้ง แล้วหันกลับมาพูดกับลูกน้องที่อยู่ด้านหลังว่า”พวกแก ตั้งแต่วันนี้ไป คุณหยางก็คือลูกพี่ใหญ่ของฉัน และก็เป็นลูกพี่ใหญ่ของพวกแกเหมือนกัน”

“สวัสดีครับพี่หยาง”

บรรดาลูกน้องของเขาต่างพากันตะโกนและโค้งคำนับให้ผม

ครั้งก่อนพวกเขาก็ตะโกนเช่นนี้ แต่คราวที่แล้วจงใจใส่ร้ายผม ครั้งนี้คือของจริง

ผมไม่ได้ดัดจริต จึงพูดกับคนพวกนั้นอย่างเกรงใจไม่กี่คำ หลังจากนั้นก็เล่ารายละเอียดให้บัญชาฟัง และแนะนำให้เขารู้จักภรรยาลูกของถงอันจือ

หลังจากพูดคุยกันสักพัก ก็มีเสียงเครื่องยนต์ของขบวนรถดังลอดเข้ามา และรถตำรวจหลายคันขับรถส่วนตัวก็ปรากฏตัวขึ้น

ถนนลูกรังเล็กๆเส้นนี้ถูกมอเตอร์ไซค์ของลูกน้องบัญชาขวางทางไว้หมด ตำรวจจึงต้องจอดอยู่ที่ไกลๆ จากนั้นพวกตำรวจก็พากันเดินลงมา จับปืนขึ้นมาแล้วเล็งมาที่พวกเรา

ด้านหลังมีคนหลายคนลงมาจากรถส่วนตัว ซึ่งก็คือถงอันจือกับผู้ช่วยรวมถึงคนขับรถของเขา

มีตำรวจคนหนึ่งหยิบโทรโข่งขึ้นมาแล้วตะโกนว่า”คนที่อยู่ด้านในฟังให้ดีนะ เราคือเจ้าหน้าที่ตำรวจ มีคดีลักพาตัวเกิดขึ้นที่นี่ ตอนนี้ให้ทุกคนนั่งลงซะ สองมือกุมหัวไว้ ห้ามขัดขืนหรือต่อต้านใดๆทั้งสิ้น”

ผมขมวดคิ้ว แล้วตะโกนใส่ตำรวจไปว่า”พวกเราคือญาติของผู้เสียหาย คนร้ายถูกจับไว้หมดแล้ว ตำรวจณัฐชามาไหมครับ บอกเขาว่า ผมคือฟางหยาง”

หลังจากที่ทางด้านตำรวจมีเสียงพูดคุยกันดังระงม ก็มีตำรวจหลายนายถือปืนแล้วเดินเข้ามาใกล้ผมอย่างระมัดระวัง

หารจับคนร้ายลักพาตัวแบบนี้ แล้วช่วยตัวประกันได้เป็นผลงานชิ้นโบแดง ณัฐชาไม่มีทางไม่รับไว้แน่ เขาต้องมาอย่างแน่นอน

ผมบอกให้ลูกน้องของบัญชาหลีกทาง หลังจากที่ตำรวจพวกนั้นตรวจสอบดูแล้ว จึงกวักมือเรียกคนที่อยู่ด้านหลัง

ณัฐชาจึงมุดตัวลงจากรถ ไม่รอให้เขายืนกับพื้น ถงอันจือที่อยู่ด้านหลังก็วิ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว

“สามีคุณมาแล้วครับ เขาอยู่ข้างนอก”ผมหันกลับไปพูดกับภรรยาของถงอันจือ

เธอยื่นศีรษะออกไปดู หลังจากที่เห็นถงอันจือแล้ว จึงอุ้มลูกแล้ววิ่งออกไปทันที

ถงอันจือรีบเข้ามากอดภรรยาและลูกของเขาไว้ น้ำตาไหลพราก

ณัฐชาเดินเข้ามาด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ผมจึงชี้ไปในบ้าน แล้วพูดว่า”สารวัตรณัฐชาครับ ด้านในมีคนร้ายลักพาตัวอยู่หนึ่งคน ถูกผมจัดการแล้ว คนที่นอนอยู่ที่พื้นนั่นแหละ”

ณัฐชาพยักหน้าอย่างเมินเฉย แล้วสั่งการให้ลูกน้องของเขาใส่กุญแจมือคนร้ายลักพาตัวสองคน

รอจนลูกน้องของเขาถูกจับเข้าไปในรถตำรวจได้แล้ว เขาจึงเปลี่ยนใบหน้าที่เคร่งขรึม แล้วพูดกับผมด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม”คุณหยางครับ ขอบคุณคุณมากเลยนะครับ คุณทำความดีเพื่อชาวเชียงใหม่ ผมจะรายงานต่อเบื้องบนเพื่อมอบเหรียญรางวัลให้คุณนะครับ”

ผมยิ้มอย่างมีความหมายแล้วพูดว่า”ขอให้สารวัตรณัฐชามีผลงาน ผมก็มีความสุขแล้วครับ”

“ฮ่าๆๆ คุณหยางวางใจเถอะครับ ความจับผมดีมาก สำหรับคุณหยางวีรบุรุษผู้กล้าหาญอย่างคุณหยางแล้ว ผมไม่มีวัยลืมง่ายๆหรอกครับ”

“สารวัตรณัฐชาเกรงใจเกินไปแล้ว จริงสิ คนที่ถูกส่งไปที่โรงพยาบาลคนนั้น ยังมีผู้บงการอีก ถูกจับรึยังครับ?”

“ทั้งหมดถูกนับตัวเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมแล้วครับ คนที่อยู่โรงพยาบาลได้รับบาดเจ็บสาหัส ตำรวจของเรากำลังควบคุมเขาในโรงพยาบาล ระหว่างที่มาที่นี่ ผมได้รับสายว่าจับกุมผู้บงการได้แล้ว ใช้เวลาไม่ถึงครึ่งชั่วโมง”

ผมยกนิ้วโป้งให้”สารวัตรณัฐชาสามารถคลี่คลายคดีได้อย่างรวดเร็ว น่าเลื่อมใสมากเลยครับ”

“ฮ่าๆๆ คุณหยางชมเกินไปแล้ว จริงสิ ถ้าคุณไม่ว่าอะไร ผมจะให้คนของผมบันทึกคำให้การของคุณกับเพื่อนคนอื่นของคุณ”

“ควรทำอยู่แล้วครับ”

“งั้นผมไปจัดการงานก่อนนะครับ แล้วค่อยหาเวลาทานข้าวกันนะครับ”

“ครับ สารวัตรณัฐชาไปทำงานก่อนเถอะครับ”

หลังจากที่ณัฐชาไปแล้ว ถงอันจือก็พาภรรยาและลูกมายืนอยู่ตรงหน้าของผม แล้วกล่าวอย่างขอบคุณ”ฟางหยาง ถ้าไม่ใช่เพราะคุณ……ผมไม่รู้ว่าจะตอบแทนคุณยังไง”

ผมยิ้มอย่างรู้สึกผิด”ถงเหล่าครับ ไม่ต้องขอบคุณผมหรอกครับ ความจริงผมควรจะต้องขอโทษคุณด้วยซ้ำ เพราะคนร้ายลักพาตัวพวกนี้มาเพื่อจัดการผม ภรรยาและลูกของคุณบังเอิญพบเข้าพอดี หลังจากนั้นก็เลยติดร่างแหมาด้วย”

ถงอันจือตกตะลึงไป”มาเพื่อจัดการคุณ?พวกเขากับคุณมีความแค้นกันเหรอครับ?”

ผมพยักหน้า”อืม เรื่องนี้มันยาวครับ รอให้ปากคำเสร็จแล้ว หลังจากกลับตัวเมืองเชียงใหม่ค่อยหาเวลาว่างค่อยๆพูดกันนะครับ”

“ครับ แต่ไม่ว่าเรื่องจะเป็นอย่างไร คุณเป็นคนช่วยภรรยากับลูกของผม เรื่องนี้คือเรื่องจริง คุณมีบุญคุณต่อครอบครัวของเรา ผมควรจะต้องขอบคุณคุณอยู่แล้ว และติดหนี้บุญคุณครั้งใหญ่อีกด้วย”

“ถงเหล่าเกรงใจเกินไปแล้วครับ เรื่องนี้เกิดขึ้นเพราะผม ก่อเรื่องขึ้นเองก็ต้องแก้ไขเอง ดังนั้นจากนี้ไปถงเหล่าอย่าพูดถึงเรื่องขอบคุณหรือติดหนี้บุญคุณอะไรเลยนะครับ”

เห็นได้ชัดว่าถงอันจือคาดไม่ถึง แต่แล้วก็หัวเราะขึ้นมา”ฟางหยาง ผมไม่ได้เจอคนที่มีความรับผิดชอบอย่างคุณมานานแล้ว ถ้าไม่รังเกียจคนแก่อย่างผม เพื่อนอย่างคุณผมขอทำความรู้จักนะครับ”

ผมหัวเราะอย่างจริงใจ”ได้รับความกรุณาจากถงเหล่า งั้นผมไม่ขอดัดจริตแล้วกันนะครับ”

“ครับ หลังจากเรื่องนี้จบลง เรามาดื่มกันสองแก้วนะครับ”

“งั้นพูดกันแล้วนะครับ”

พูดจบ ผมก็แนะนำบัญชาให้ถงอันจือรู้จัก ทั้งสองคนมีอุปสรรคด้านภาษา ผมจึงต้องทำหน้าที่เป็นล่ามให้

ผมไม่ได้ปิดบังตัวตนของบัญชา แต่บอกกับถงอันจืออย่างตรงไปตรงมา ว่านี่คือแก๊งอันธพาลที่เปิดคลับ ที่คนร้ายลักพาตัวต้องจับลูกชายของบัญชาไป เพราะต้องการใช้เขาข่มขู่เพื่อจัดการกับผม

ถงอันจือไม่ได้แสดงความเกลียดชังบัญชาแม้แต่น้อย แต่กล่าวทักทายอย่างสุภาพ

ลูกของทั้งสองอายุไล่เลี่ยกัน ถึงจะมีอุปสรรคด้านภาษา แต่เพราะมีประสบการณ์แบบเดียวกัน ดังนั้นเด็กทั้งสองจึงเริ่มพูดคุยกันขึ้นมา ผมยังต้องหาเวลาเป็นล่ามให้พวกเขา

ตำรวจเริ่มทำการสอบปากคำพวกเรา แล้วสำรวจที่เกิดเหตุเพื่อรวบรวมหลักบาน ที่เกิดเหตุเริ่มชุลมุนวุ่นวายขึ้นมา

ผ่านไปไม่นาน หลังจากที่ตำรวจสอบปากคำเสร็จ พวกเราก็สามารถไปได้

ลูกน้องของบัญชาขับรถมอเตอร์ไซค์สิบกว่าคัน ล้อมรอบรถเล็กๆของถงอันจือกับบัญชา กลุ่มคนมุ่งหน้าไปยังตัวเมืองเชียงใหม่

เพราะแผลบนไหล่ที่ได้รับบาดเจ็บ ผมจึงไม่ได้ขับมอเตอร์ไซค์ แต่ให้ลูกน้องของบัญชาช่วยขับกลับไป

บิ๊กไบค์คันนั้นได้รับความเสียหายเล็กน้อย เดี๋ยวจะให้คนรู้จักของบัญชาลากไปซ่อม หลังจากที่ซ่อมเสร็จก็ค่อยเปลี่ยนกลับไปก็พอ น่าจะไม่ต้องชดใช้เงินอะไร

พอกลับมาถึงตัวเมืองเชียงใหม่ เราแยกย้ายกันชั่วคราว ถงอันจือพาภรรยากับลูกกลับโรงแรมไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าสะอาด ส่วนบัญชาก็พาลูกกลับไปพบภรรยา ผมจึงไปโรงพยาบาลกับลูกน้องของเขาไม่กี่คน

บาดแผลที่ไหล่ถึงจะไม่ลึกมาก แต่มันยาวมาก เย็บไปทั้งหมดสิบหกเข็ม

ผมไม่คุ้นชินที่ให้คนอื่นเดินตาม หลังจากที่กลับมาถึงโรงแรมผมก็ให้ลูกน้องของบัญชาขับมอเตอร์ไซค์กลับไปซ่อม หลังจากซ่อมเสร็จแล้วให้ช่วยผมเอารถไปคืน จากนั้นผมก็ขึ้นตึกไปอยากเปลี่ยนเสื้อผ้า

ผมขึ้นไปบนตึกที่เป็นชั้นของห้องพัก ในตอนที่พึ่งเดินออกมาจากลิฟต์ จู่ๆก็เห็นคนของทีมโปรเจกต์วิ่งกรูกันเข้ามาในลิฟต์ คนที่เดินนำอยู่ก็คือไป๋เวย

ผมตกตะลึงไปครู่หนึ่ง”พวกคุณจะไปไหนน่ะ?”

ไป๋เวยพูดโดยที่สีหน้าเรียบเฉย”กลับมาพอดีเลย กลับโรงแรมไปประชุมกันก่อนนะ เดี๋ยวค่อย……”

พูดถึงตรงนี้ ทันใดนั้นสีหน้าของไป๋เวยก็เปลี่ยนไป”ฟางหยาง บนตัวคุณทำไมมีเลือดเยอะขนาดนี้?บนไหล่เป็นอะไร?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด