ในตอนเช้ารุ่งอรุณสีเเดงได้ปรากฏขึ้นเหนือทิศตะวันออก หมอกจำนวนนึงได้ลอยคละคลุ้งอยู่บนท้องฟ้า

 

ซ่าา!

 

สถานที่เเห่งนี้ที่มีน้ำตกสูงมากกว่าหนึ่งร้อยเมตรในเทือกเขาเมฆขาว เย่เฉินเฟิง ได้จับผลึกวิญญาณที่เสียหายอย่างหนักเอาไว้ในมือของเขา เขานั่งไขว่ห้างบนก้อนหินที่เรียบง่ายใต้น้ำตกโดยส่วนลำตัวเขาไม่ได้สวมใส่เสื้อผ้าเเละปล่อยให้น้ำที่ไหลจากน้ำตกพุ่งตกลงมาที่ร่างกายของเขา

 

อย่างไรก็ตามเขาไม่ได้หลบหลีกมัน เขายืมเเรงดันน้ำของน้ำตกมาเพื่อฝึกฝนควบคุมพลังวิญญาณภายในร่างกายของตนเองจากนั้นก็ดูดซับพลังวิญญาณจากผลึกวิญญาณที่เสียหาย ตอนนี้ เย่เฉินเฟิง กำลังฝึกฝนเพื่อส่งเสริมชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ของเขา

 

หลังจากผ่านไปไม่นาน เย่เฉินเฟิง ก็พยายามฝึกฝนขั้นเเรก อย่างการปรับสภาพผิว ตอนนี้การป้องกันร่างกายของเขาเองก็เพิ่มขึ้นอย่างมาก

 

อีกอย่างจะต้องรู้ว่าจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ใช้จิตวิญญาณก็คือร่างกายของพวกเขา

 

ผู้ใช้จิตวิญญาณเริ่มต้นขั้นที่ 6 เมื่อพวกเขารวมเข้ากับจิตอสูรของตนเองความเเข็งเเกร่งทางร่างกายของพวกเขาจะเพิ่มสูงขึ้นจนมีพละกำลังมากกว่า 1,000 จิน เเต่เพียงเเค่ เย่เฉินเฟิง สามารถฝึกฝนขั้นเเรกของ ทักษะเเบ่งเบาร่างกายได้เขาก็สามารถไปถึงระดับนี้ได้อย่างง่ายดาย

 

หากสามารถประสบความสำเร็จขั้นที่สองซึ่งก็คือการปรับเเต่งกล้ามเนื้อ ความเเข็งเเกร่งทางกายของพวกเขาอาจมากไปถึง 5,000 จิน ยิ่งถ้าสามารถรวมเข้ากับพลังวิญญาณจากจิตอสูรด้วยเเล้วความเเข็งเเกร่งของเขาอาจมากถึง 10,000 จิน

 

อย่างไรก็ตามมันยากที่จะฝึกฝนยกระดับพลังชีพจรทั้ง 6 จุด หากไม่มีทรัพยากรที่เหมาะสมล่ะก็มันเป็นไปได้ยากที่จะก้าวหน้าในช่วงระยะเวลาสั้น ๆ

 

โชคดีที่ตอนนี้ เย่เฉินเฟิง มีผลึกวิญญาณที่เสียหายเล็กน้อย ด้วยความช่วยเหลือของผลึกวิญญาณเหล่านี้เขาสามารถเข้าสู่ระดับเเรกของชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ได้ นั่นก็คือ ขั้นตอนการปรับสภาพผิว

 

พลังจิตวิญญาณอันบริสุทธิ์จำนวนมากได้หลั่งไหลเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เซลล์ผิวหนังของเขาเริ่มเกิดการเปลี่ยนเเปลงอย่างรวดเร็วทำให้เเรงกดดันของน้ำตกที่กระทบกับร่างของเขาลดลงอย่างมาก

 

ขณะที่เเรงกดดันจากน้ำตกสาดกระทบที่ร่างของเขาเรื่อย ๆ เย่เฉินเฟิง ก็ค่อย ๆ เข้าสู่สภาวะลึกลับ เขาเริ่มหายใจด้วยความถี่พิเศษ ในขณะที่ร่างกายของเขากลมกลืนไปกับสภาพเเวดล้อมโดยรอบ

 

หาก ฉีตงเทียน ยังมีชีวิตอยู่ เขาจะต้องตกใจเกี่ยวกับสภาวะนี้ของ เย่เฉินเฟิง อย่างเเน่นอน เพราะสภาวะเงียบสงบเช่นนี้ มีน้อยคนมากที่จะสามารถเข้าถึงได้ กระทั่งบางคนอาจไม่สามารถเข้าถึงมันได้เเม้จะชั่วชีวิตนี้ก็ตาม

 

…

 

เมืองหลวงเมฆาม่วง,เมืองอันดับหนึ่งของอาณาจักรซือจิน

 

ในขณะนี้บนศาลาที่สวยงามใจกลางทะเลสาบทางตะวันตกเฉียงเหนือของอาณาจักรซือจิน มีเเม่ลูกคู่นึงที่สง่างามกำลังนั่งสนทนากันอยู่

 

ในหมู่พวกเธอ ผู้หญิงทั้งสองคนนี้ไว้ผมยาวสง่าใบหน้าของพวกเธอเเต่งเต็มด้วยเครื่องประทินผิวที่สวยงามผิวพรรณของเธอราวกับหยกเรียวงามทำให้พวกเธอทั้งสองดูสวยกว่าคนปกติทั่วไป

 

เเละที่โดดเด่นที่สุดก็คือหญิงสาวคนนึงที่สวมใส่กระโปรงลายดอกไม้ส่วนเว้าตรงหน้าอกค่อนข้างโดดเด่นสะดุดตาผิวที่เรียบง่ายพร้อมกับขาที่เรียวบางทำให้เธอโดดเด่นอย่างมากในสายตาของบุรุษ

 

หญิงสาวหน้าตาดีคนนี้ที่เหมือนกับนางฟ้าเซียนสวรรค์ก็คือ คู่หมั้นของ เย่เฉินเฟิง เธอมีความงามเป็นอับดับหนึ่งในเมืองหลวงเมฆาม่วง เธอมีชื่อว่า จี้ฉิงเสวี่ย

 

“ฉิงเสวี่ย เจ้าคิดดีกับเรื่องนี้จริง ๆ เเล้วใช่หรือไม่ ? ทำไมเจ้าถึงต้องการที่จะเเต่งงานกับ ขยะ เย่เฉินเฟิง ?”หลิวหยุน ผู้ที่เป็นเเม่ของ จี้ฉิงเสวี่ย ได้ขมวดคิ้วเเน่นด้วยความสงสัย”หงส์ฟ้าไม่อาจอยู่ร่วมกับงูดินได้ ไม่ว่าพรสวรรค์ของ เย่เฉินเฟิง จะเเข็งเเกร่งเพียงใด เขาก็ไม่สามารถปลุกจิตอสูรขึ้นมาได้ ตอนนี้ เขาเองก็ได้ถูกขับไล่จากตระกูลเย่เเล้ว เขาไม่คู่ควรกับเจ้าด้วยซ้ำ”

 

“ท่านเเม่ไม่ต้องกังวลลูกเองก็ไม่ได้มีเจตนาที่จะเเต่งงานกับ เย่เฉินเฟิง เเละ ก็จะไม่เเต่งกับใครจนกว่าลูกจะเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี เหตุผลที่ลูกยืนยันจะเเต่งงานกับเขาเพียงเพื่อใช้เขาเปป็นเกราะให้ลูก เพื่อป้องกัน เจียงซานชุ่ย”จี้ฉิงเสวี่ย ตอบกลับเเม่ของเธออย่างเรียบง่าย

 

“เห้อ,ฉิงเสวี่ย สิ่งต่าง ๆ ไม่ง่ายเหมือนที่เจ้าคิดหรอกรู้มั้ย”หลิวหยุน ถอนหายใจออกมาอย่างนุ่มนวลเเละพูดต่อ”เมื่อวานผู้นำตระกูลเจียง,เจียงจ้งเซียน มาที่ตระกูลจี้ของเราเเละเสนอผลประโยชน์บางอย่างเเก่ท่านปู่ของเจ้า ถึงเเม้ว่าท่านปู่ของเจ้าจะไม่เห็นด้วยไม่ว่าจะเป็น เย่เฉินเฟิง หรือ เจียงซานชุ่ย เเต่เขาก็มีเเนวโน้มที่จะเลือก เจียงซานชุ่ยมากขึ้นในตอนนี้”

 

“ไม่มีทาง ข้าจะไม่มีทางยอมรับขยะ เจียงซานชุ่ย นั่นเด็ดขาด!”จี้ฉิงเสวี่ยพูดด้วยท่าทางน่ารังเกียจ

 

เจียงชานซุ่ย เป็นหลานคนที่สองของ เจียงจ้งเซียน ที่เป็นผู้นำตระกูลอันดับหนึ่งของเมืองหลวงเมฆาม่วง เขามักจะเเสดงท่าทีจองหองเเละเผด็จการออกมาเเละมักมากชอบรวบรวมสาวงามหลายคนไปปรณนิบัติตนเอง เขาคือขยะของเมืองหลวงเมฆาม่วงโดยเเท้จริง

 

ในบรรดาหญิงสาวเหล่านั้น มีสองสามคนที่ต่อต้านเขา,พวกเธอถูกเขาจัดการฆ่าโดยโยนเข้าไปในถ้ำงูเพื่อให้เป็นอาหารกับงูเหล่านั้น

 

“ฉิงเสวี่ย ตอนนี้ปู่ของเจ้าเห็นด้วยกับข้อเสนอที่ตระกูลเจียงมอบให้ เพราะหนึ่งในนั้นมี โอสถเม็ดระดับ 9 อยู่ ,ด้วยโอสถเม็ดระดับ 9 นี้มีโอกาสมากกว่า 7 ส่วนที่จะรักษาอาการบาดเจ็บของ ปู่ของเจ้า เเละช่วยฟื้นคืนพลังให้กลับมาได้”หลิวหยุน ถอนหายใจออกมา

 

“โอสถเม็ดระดับ 9 ? ตระกูลเจียงมีโอสถเม็ดระดับ 9 งั้นหรือ?”คิ้วของ จี้ฉิงเสวี่ย กระตุกเล็กน้อยก่อนที่เธอจะถามออกมาด้วยความตกใจ

 

เนื่องด้วยทรัพยากรความรู้ของทักษะหลอมโอสถที่ตกทอดมานั้นมีน้อยมาก ในอาณาจักรซือจินเเห่งนี้สามารถปรับเเต่งโอสถเม็ดยาได้มากสุดถึงระดับ 6 เเละนี่ก็เป็นระดับสูงสุดที่ผู้ปรุงยาสามารถปรับเเต่งได้

 

“พวกเขาชั่งน่ารังเกียจเสียจริง ใช้โอสถเม็ดระดับ 9 มาเพื่อหลอกล่อท่านปู่”หลังจากรู้ความจริงบางอย่าง จี้ฉิงเสวี่ย ก็หน้าซีดเล็กน้อย ก่อนที่เธอจะพูดด้วยความโกรธ”เเม้ว่าข้าจะต้องตายข้าก็จะไม่มีทางเเต่งกับเดรัจฉาน เจียงซานชุ่ย”

 

“ฉิงเสวี่ย ทุกอย่างอาจจะดีขึ้นอย่าได้กระทำอะไรโง่ ๆ เลย”หลิวหยุนรู้ดีถึงความหยิ่งยโสของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ เธอกลัวว่าจะมีบางอย่างเกิดขึ้นภายหลัง

 

“ถ้าท่านปู่ต้องการบังคับข้า ข้าคงจะต้องใช้วิธีอื่นเพื่อจัดการปัญหา”จี้ฉิงเสวี่ย กัดริมฝีปากของเธอเล็กน้อยก่อนที่จะตัดสินใจ

 

“วิธีอะไร?”หลิวหยุนกล่าวถาม

 

“ใช้โล่ของข้าเเละเเกล้งทำเป็นว่าข้าได้ตบเเต่งกับเขาไปเเล้ว เพื่อให้ เจียงซานชุ่ย เลิกยุ่งกับข้า หากเขายังมีศักดิ์ศรีมากพอคงจะไม่ยุ่งกับหญิงสาวที่ออกไปเรือนไปเเล้วคนนึง”จี้ฉิงเสวี่ยตอบกลับ

 

“ฉิงเสวี่ย นี่อาจจะเป็นวิธีการที่ดี เเต่เจ้าคิดถึงผลลัพธ์ที่ตามมาบ้างหรือไม่? หากเจ้าปล่อยให้ตระกูล เจียงรู้ว่าเจ้า อยากที่จะเเต่งงานกับ ขยะนั่นมากกว่าที่จะยอมรับ เจียงซานชุ่ย ของพวกเขา เจ้าไม่คิดว่าพวกเขาจะหาทางเเก้เเค้น เย่เฉินเฟิง เพื่อระบายความโกรธ ? เมื่อถึงตอนนั้น เย่เฉินเฟิงอาจจะจบชีวิตลง”หลิวหยุนพยายามอธิบายข้อเสียในความคิดของเธอ

 

“ข้ารู้ว่า ตระกูล เจียง จะต้องหาทางเเก้เเค้น เย่เฉินเฟิง อย่างเเน่นอน เเต่ข้าจะพยายามอย่างสุดความสามารถเพื่อที่จะปกป้องเขา เมื่อเสร็จงานข้าจะให้เงินก้อนใหญ่กับเขา ให้เขาหลบหนีไปให้ไกล เเม้ตระกูล เจียงจะมีความสามารถที่ยอดเยี่ยมเเต่พวกเขาก็จะไม่มีทางหาตัว เย่เฉินเฟิง พบ”จี้ฉิงเสวี่ย หายใจเข้าลึกเเละตอบกลับ

 

“ฉิงเสวี่ย เรื่องนี้สำคัญเกินไป ข้าเเนะนำให้ เจ้าคิดอย่างรอบคอบ การกระทำเช่นนี้ไม่ต่างอะไรกับการทำร้าย เย่เฉินเฟิง”หลิวหยุนกล่าวเตือน

 

“ไม่ต้องห่วงท่านเเม่ ข้ารู้ตัวดีว่าข้ากำลังทำอะไรอยู่ เเละจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นกับข้าเช่นเดียวกัน”จี้ฉิงเสวี่ยตอบกลับด้วยน้ำเสียงหนักเเน่น

 

เห็นบุตรสาวของตนเองหัวรั้นเช่นนี้ หลิวหยุน ทำได้เพียงเเต่ถอนหายใจออกมา

 

เธอรู้ว่า จี้ฉิงเสวี่ย นั้นหัวรั้นยิ่งกว่าใคร ด้วยพรสวรรค์ระดับ 5 ของเธอ เเละ จิตวิญญาณวิหคน้ำเเข็งนั่น ความสามารถของเธอไม่ได้จำกัดอยู่ที่อาณาจักรซือจิน ดังนั้น เธอจึงไม่เต็มใจที่จะเเต่งงานเร็ว เช่นเดียวกัน คนเป็นเเม่อย่างเธอก็ไม่อยากเสียลูกของตนเองไปให้คนอื่นเหมือนกัน

 

สิ่งที่เธอทำได้ตอนนี้ก็คือปล่อยให้โชคชะตานำพาไป เเต่เธอก็ภาวนาขอให้ เย่เฉินเฟิง ไม่ต้องมาเป็นทุกข์เพราะเเผนการเหล่านี้

 

“ข้าหวังว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้น”หลิวหยุนถอนหายใจของเธอออกมา