Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 25 อันตรายมาเยือน

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 25 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ดวงอาทิตย์ยามเช้าได้ขึ้นทางทิศตะวันตก เเสงอรุณสีทอง ได้เจิดจ้าทำให้ผืนดินสุกสว่างมากขึ้น

 

“ข้าสงสัยว่า โอสถเพลิงผลาญ สองเม็ดนี้ จะสามารถปรับเเต่งร่างกายของข้าให้ไปได้ไกลเเค่ไหน”เย่เฉินเฟิง เเช่อยู่ในสระน้ำเย็นเยือก เขาอยู่ในส่วนลึกของหุบเขาเมฆขาว เขาหยิบโอสถเพลิงผลาญออกมาเเละกลืนมันโดยไม่ลังเล

 

ทันทีที่โอสถเพลิงผลาญเข้าสู่ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง มันก็ปล่อยความร้อนที่เเผดเผาร่างกายของเขาทันที เเม้ว่าเขาจะมีประสบการณ์การใช้โอสถเพลิงผลาญมาเเล้ว เเต่ความเจ็บปวดในระดับนี้ก็ทำให้ใบหน้าของเขาซีดเซียว

 

เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เเละอดทนต่อความเจ็บปวดเเสบร้อนจากภายในร่างกายของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มควบคุมชีพจรร่างกายศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 เเละ ดูดซับพลังจากเม็ดยาโอสถเพลิงผลาญ

 

เเม้ว่าผลของตัวยาของโอสถเพลิงผลาญนั้นจะมีสรรพคุณที่ดี เเต่กระหว่างกระบวนการย่อยสลายก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวด เส้นชีพจรของ เย่เฉินเฟิง เต็มไปด้วยพลังงานความร้อนเเผดเผา นี่เป็นความเจ็บปวดที่มนุษย์ธรรมดายากที่จะต้านทานพวกเขาอาจถึงขั้นโดนทรมาณจนเเทบอยากจะตาย

 

เส้นเลือดสีเขียวปูดโปน ได้นูนขึ้นบนหน้าผากของเขา ใบหน้าของเขาไร้สีเลือดเเละปรากฏร่องรอยของเลือดไหลเวียน

 

หากไม่ใช่เพราะว่าทะเลสาบเยือกเเข็ง ที่นี่ได้ช่วยลดผลกระทบความเจ็บปวดของโอสถเพลิงผลาญเกรงว่าเขาคงจะทรมาณมากกว่านี้หลายเท่า

 

“ผลึกวิญญาณระดับต่ำ”

 

เย่เฉินเฟิงขบฟันเเน่นเเละกำกำปั้นของเขา เขาหมุนเวียนทักษะกลืนวิญญาณด้วยความเร็วสูงเเละกลืนผลึกวิญญาณระดับต่ำทั้งสองก้อนที่เขากำเอาไว้ในมือ

 

นอกเหนือจากผลของตัวโอสถเพลิงผลาญเเล้วพลังงาวิญญาณจำนวนนึงก็หลั่งไหลเข้าสู่ภายในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง อัตราการเเบ่งเซลล์ของเขากลายเป็นรวดเร็วมากขึ้น สิ่งสกปรกจำนวนมากได้ถูกขับออกมาจากร่างกายของเขาผ่านรูขุมขนที่เปิดอยู่

 

ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ค่อย ๆ กลายเป็นเเข็งเเกร่งมากขึ้น เเละ ความเจ็บปวดในร่างกายของเขาก็ลดลงเช่นเดียวกัน

 

หลังจากนั้นประมาณ 5 ชั่วโมง เย่เฉินเฟิง ก็ดูดซับพลังของตัวยาโอสถเพลิงผลาญทั้งหมด รวมถึง ผลึกวิญญาณทั้งสองก้อนที่อยู่ในมือของเขาก็ได้สลายกลายเป็นผุยผง

 

“ฮ่าฮ่า ข้าประสบความสำเร็จ 2ใน3 ของทักษะเเบ่งเบาร่างกายขั้นที่ 2 เเล้วตอนนี้ความเเข็งเเกร่งทางกายของข้าเพิ่มขึ้นมาอีก 1,000 จิน หากข้าต้องการปรับเเต่งโอสถเพลิงผลาญในครั้งต่อไปคาดว่าจะง่ายขึ้นอย่างมาก”

 

หลังจากประสบความสำเร็จ 2ใน3 ของทักษะเเบ่งเบาร่างกายขั้นที่ 2 ความสามารถในการฟื้นตัวของเขาก็เพิ่มมากขึ้นอย่างมาก ในชั่วระยะเวลาเพียงสิบลมหายใจความอ่อนเเอทางร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ก็ได้หายไปทั้งหมด

 

เซลล์ในร่างกายของเขาได้ดูดซับ ไอพลังฟ้าดิน อย่างบ้าคลั่ง เเละฟื้นฟูพลังความเเข็งเเกร่งทางกายภาพที่เขาได้ใช้ไป

 

“ข้าหวังว่า โอสถเพลิงผลาญเม็ดสุดท้ายที่เหลืออยู่ จะช่วยให้ร่างกายของข้าพัฒนาเเข็งเเกร่งมากขึ้นไปกว่านี้ได้”เย่เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก เขาเริ่มกลืนพลังวิญญาณของผลึกวิญญาณระดับต่ำทั้งสองก้อนอีกครั้ง จากนั้นเขาก็ปรับสภาพของเขาเตรียมพร้อมสำหรับกลืนโอสถเพลิงผลาญเม็ดสุดท้าย

 

ในขณะที่ เย่เฉินเฟิง ซ่อนตัวอยู่ในหุบเขาเมฆขาว นักฆ่าจากตระกูลเจียงก็ได้หลบรอดเข้ามาในเมืองจักรพรรดิขาวเเห่งนี้เเละเตรียมพร้อมที่จะสังหาร เย่เฉินเฟิง รวมถึง ลักพาตัว จี้ฉิงเสวี่ย

 

“ฉิงเสวี่ย ข้าขอโทษ ข้ากลัวว่า เหลียนโจว จะไม่หยุดเพียงเเค่นี้ ข้าเชื่อว่าเขาจะต้องหาทางทำอะไรกับ เย่เฉินเฟิง เเน่นอน”ไป๋ซือหยา ได้เดินไปตามเส้นทางภายในเมืองจักรพรรดิขาว เพื่อเดินช็อปปั้งกับ จี้ฉิงเสวี่ย

 

“ไม่ต้องใส่ใจหรอก ข้าเเละเฉินเฟิง จะต้องไม่เป็นอะไร”จี้ฉิงเสวี่ย เผยรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของเธอออกมา

 

“ฉิงเสวี่ย,เฉินเฟิง เป็นคนเเบบไหนกัน?”ไป๋ซือหยา กล่าวถาม เธอเบา ๆ เธอต้องการได้รับข้อมูลเเละปรับความเข้าใจเกี่ยวกับตัวตนของ เย่เฉินเฟิง

 

อย่างไรก็ตาม ไป๋ซือหยา หารู้ไม่ว่า จี้ฉิงเสวี่ย เเละ เย่เฉินเฟิง นั้นไม่ได้ที่จะเเต่งงานกัน พวกเขาเพียงเเค่ทำข้อตกลงระหว่างกันเพียงเท่านั้น

 

จี้ฉิงเสวี่ย คิดอยู่พักหนึ่งก่อนที่เธอจะพูดออกมา ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่รอยยิ้มจาง ๆ ของเธอได้ปรากฏขึ้นที่ริมฝีปากเมื่อพูดถึงเรื่องของ เย่เฉินเฟิง

 

ในขณะที่ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา ได้เดินไปถึงชานเมืองของเมืองจักรพรรดิขาว จู่ๆ ก็มีเสียงลมหวือพัดเข้ามาอย่างเเปลกประหลาด

 

สายลมเหล่านั้นได้ช่วยพัดพาบรรยากาศที่รู้สึกสดชื่นมาให้พวกเธอเเละทำให้พวกเธอเกิดความสบายใจยิ่งขึ้น

 

ขณะที่พวกเธอกำลังหาสถานที่ที่ไม่มีผู้คนพลุ่งพล่าน เพื่อนั่งพักผ่อน จี้ฉิงเสวี่ย ก็ได้หยุดเดินอย่างกระทันหัน ดวงตาของเธอสั่นไหวอย่างผิดปกติเล็กน้อย

 

“ฉิงเสวี่ย เกิดอะไรขึ้น”

 

เเม้ว่าเธอจะไม่สามารถสัมผัสได้ถึงอันตรายจากความเเข็งเเกร่งของเธอ เเต่เธอก็รู้สึกสงสัยในใบหน้าของ จี้ฉิงเสวี่ย ในตอนนี้

 

“ซือหยา ไม่ต้องพูดอะไรเเล้ว รีบตามข้ามาเร็ว”

 

จี้ฉิงเสวี่ย เร่งฝีเท้า ในขณะนั้นเธอก็รีบจับมือของ ไป๋ซือหยา เพื่อเตรียมจะออกจากที่นี่

 

“เห้,สาวน้อยทั้งสองพวกเจ้าจะรีบไปไหนกัน?”

 

ขณะที่ทั้งสองกำลังจะกลับไปที่เมืองจักรพรรดิขาว จู่ ๆ ก็มีเสียงเย็นชาที่เหมือนกับอสรพิษดังขึ้นข้าง ๆ หูของพวกเธอ

 

ในช่วงเวลาต่อมา ชาย 4 คนในชุดสีดำได้ปรากฏตัวขึ้นที่เบื้องหน้าของพวกเธอ พวกเขาได้สวมใส่ผ้าคลุมสีดำเเละถือดาบสีเงินอยู่ในมือ

 

กลิ่นอายพลังที่พวกเขาทั้งสี่ปลดปล่อยออกมานั้นทำให้ เด็กสาวทั้งสองสัมผัสได้ถึงเเรงกดดันที่รุนเเรง

 

“พวกเจ้าเป็นใคร เเละ ต้องการอะไร?”

 

เห็นเจตนาฆาตกรรมในสายตาของชายทั้งสี่คนใบหน้าของ ไป๋ซือหยา เปลี่ยนเเปลงไปเล็กน้อย เธอพยายามสงบสติอารมณ์เเละตะโกนพูดออกมา

 

“อย่าได้ตื่นตัวไป ตราบใดที่พวกเจ้าให้ความร่วมมือเเละติดตามเราไปอย่างเชื่อฟังพวกเราจะไม่ทำร้ายเจ้าอย่างเเน่นอน”ผู้นำของกลุ่มชายทั้ง 4 คนได้พูดขึ้น

 

“พวกเจ้าคือคนของตระกูลเจียงสินะ”จี้ฉิงเสวี่ย กล่าวพูดออกมาอย่างเย็นชา จากกลิ่นอายพลังที่ทั้งสี่คนเปล่งออกมาต่ำสุดก็คือผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6

 

มีเพียงตระกูล เจียง เท่านั้น ที่กล้าลักพาตัวพวกเธออย่างโจ่งเเจ้ง รวมถึงความครอบครองในขุมพลังที่น่ากลัวระดับนี้

 

“อย่าได้พูดจาไร้สาระ ถ้าพวกเจ้าไม่ยินยอมตามเรามาเเต่โดยดี ก็คงได้เเต่ใช้กำลังบังคับเท่านั้น หากพวกเจ้าบาดเจ็บก็อย่าได้โทษข้า ว่าข้าโหดร้าย เพราะข้าได้กล่าวเตือนพวกเจ้าไปเเล้ว”

 

ผู้นำของกลุ่มชายชุดดำ ได้กล่าวออกมาอย่างเย็นชา เขาเดินเข้าหาพวก จี้ฉิงเสวี่ย ทีละน้อย ๆ

 

“ซือหยา มาร่วมสู้กันเถอะ”จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกได้ถึงอันตรายไม่มีใครรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นหากพวกเธอถูกจับไปโดยพวกเขา ดังนั้นเธอจึงไม่ลังเลที่จะปลดปล่อยพลังวิญญาณของเธอเเละเรียกจิตอสูรวิหคน้ำเเข็งออกมาผสานเข้ากับร่างกาย

 

ทันทีที่ จี้ฉิงเสวี่ย เรียกวิหคน้ำเเข็งออกมา ไป๋ซือหยาที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 4 ก็เรียกอสรพิษขาวออกมาเช่นเดียวกันมันได้ออกมาเเละผสานเข้ากับร่างกายของเธอเพื่อเพิ่มความเเข็งเเกร่ง

 

“เเยกกันไป!”

 

จี้ฉิงเสวี่ย ได้ตะโกนออกมา จากนั้นทั้งสองคนก็เเยกกันไปคนละทิศละทาง

 

“พวกเจ้าคิดจะหนีไปไหน”

 

“ดาบเเยกเงา”

 

เห็นเด็กสาวทั้งสองคนพยายามจะหลบหนี ผู้นำกลุ่มได้กระโดดขึ้นไปบนอากาศ พร้อมกับสั่งการดาบยาวในมือ กลิ่นอายพลังวิญญาณจำนวนมาก ได้อัดเเน่นก่อนที่เขาจะสบัดพลังโจมตีออกไป

 

“ผู้นำกลุ่มพวกมันสมควรอยู่ขอบเขตจิตอสูรระดับชำนาญ”

 

เห็นความเเข็งเเกร่งของผู้นำกลุ่มชายชุดดำ จี้ฉิงเสวี่ย เริ่มเเตกตื่นเล็กน้อย เเม้เธอจะมีความสามารถที่เเข็งเเกร่ง เเต่เธอก็ยังไม่ใช่คู่มือของ ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญ

 

หลังจากใช้ทักษะจิตวิญญาณของพวกเขาเพื่อหยุดหญิงสาวทั้งสองคน ชายในชุดดำทั้งสี่คนก็เริ่มลงมือในทันที เป้าหมายของพวกเขาก็คือลักพาตัวทั้งสองคนเเละไปจากที่นี่โดยเร็ว

 

เห็นพวกตนเองกำลังจะถูกจับ จี้ฉิงเสวี่ย ได้คว้าเอาผลึกคริสตัลสีดำในมือขึ้นมา เธอโยนออกไปที่เบื้องหน้าอย่างรวดเร็ว

 

เสียงระเบิดได้ดังขึ้นอย่างรุนเเรง พลังงานที่ทรงพลังได้ระเบิดพวยพุ่งออกมาซัดเข้าใส่ร่างกายของชายชุดดำทั้ง 4 คน ในเวลานี้ ชายในชุดดำทั้ง 3 คนที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับเบื้องต้นขั้น 6 ได้ตกตายในทันที

 

สำหรับ จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา พวกเธอก็ถูกเเรงระเบิดจาก ผลึกคริสตัสสีดำจนได้รับบาดเจ็บสาหัส

 

ในช่วงเวลาสำคัญเช่นนี้ เด็กสาวทั้งสองคน จี้ฉิงเสวี่ย เเละ ไป๋ซือหยา หาได้สนใจอาการบาดเจ็บของตนเอง พวกเธอรีบคลานไปบนพื้นในขณะที่ทนรับความเจ็บปวด

 

เนื่องเพราะว่าพวกเธอกลัวว่านักฆ่าจากตระกูลเจียงที่ลักลอบเข้ามาในเมืองจักรพรรดิขาวเเห่งนี้จะไล่ตามพวกเธอได้ทันพวกเธอจึงไม่ลังเลที่จะหลบหนีออกจากที่นี่ให้ได้โดยเร็วที่สุด

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด