เย่เฉินเฟิง ได้เดินเข้าไปในหอภารกิจ เขาเห็นเสาหินสลักลายมังกรนับร้อยเสาในห้องโถงที่เเผ่กว้าง บนเสาสลักมังกรเหล่านั้น เต็มไปด้วยกระดาษหยก สีต่าง ๆ ที่ห้อยอยู่ กระดาษเหล่านั้นก็คือกระดาษภารกิจ

 

ภารกิจของ หอภารกิจ นั้น ถูกเเบ่งออกเป็นภารกิจในนิกายเเละภารกิจนอกนิกาย

 

ภารกิจในนิกายเพลิงผลาญฟ้านั้นเป็นภารกิจที่ใคร ๆ ในนิกายก็สามารถรับได้ มันเป็นภารกิจที่มีความยากเพียงเล็กน้อย เเละ รางวัลที่ได้รับก็ค่อนนข้างต่ำเช่นเดียวกัน

 

ภารกิจนอกนิกายนั้น คือภารกิจ ที่ได้รับรางวัลตอบเเทนจำนวนมาก เเต่ความยากก็สูงมากเช่นเดียวกัน

 

ความยากของภารกิจนั้น เเบ่งออกเป็น ระดับ บรอนซ์,ระดับเงิน เเละ ระดับทอง 3 ระดับ

 

ระดับทอง,คือระดับที่มีค่าตอบเเทนมากที่สุด เเม้รางวัลผลตอบเเทนที่ได้รับจะมั่งคั่ง เเต่ก็มีความยากอย่างมากในการทำภารกิจ คนปกติทั่วไปไม่กล้าคิดเกี่ยวกับมัน เพราะมันเป็นภารกิจที่เหมาะกับผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขึ้นไป

 

ใน หอภารกิจเเห่งนี้ เต็มไปด้วย เหล่าศิษย์จากภายในนิกายจำนวนมาก ,เย่เฉินเฟิง เองก็ได้ใช้พลังวิญญาณของเขา ลอบสำรวจภารกิจในกระดาษหยกต่าง ๆ เพื่อหาภารกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง

 

ในระหว่างที่เขาลอบสำรวจเขาก็เห็น เหล่าศิษย์ที่มีอันดับบนทำเนียบเพลิงผลาญฟ้าจำนวนมาก มองหาภารกิจ พวกเขาส่วนใหญ่อยู่ในระดับ ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรกขึ้นไป

 

“นิกายเพลิงผลาญฟ้า เต็มไปด้วยพยัคฆ์หมอบมังกรซ่อนจริง ๆ ไม่คิดเลยว่าในนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเห่งนี้มีเหล่าศิษย์ที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีจำนวนมาก”เห็นความเเข็งเเกร่งของคนหลายคน เย่เฉินเฟิง รู้สึกตกใจเล็กน้อย

 

เมื่อเทียบกับความเเข็งเเกร่งของอาณาจักรซือจิน ทั้งสามตระกูลใหญ่เเล้ว ,มีเพียงตระกูล เจียง คนเดียว ก็คือผู้นำตระกูล เจียงในปัจจุบัน ที่เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรก

 

“ด้วยความเเข็งเเกร่งของข้า ควรจะมองหาภารกิจระดับทอง เเต่ความยากของมันก็ยากเช่นเดียวกัน ภารกิจระดับเงิน กับ ภารกิจระดับบรอนซ์ ของรางวัลที่ได้รับก็มีน้อยเกินไป มันไม่สามารถตอบสนองต่อทรัพยากรที่ข้าจะใช้ฝึกฝนได้”เย่เฉินเฟิง รู้สึกกลัดกลุ้มในใจ เขาลังเลซ้ำเเล้วซ้ำเล่า เเละ พยายามมองหา ภารกิจที่เหมาะสมกับตัวเอง

 

ล่าพยัคฆ์ลายเพลิงสัตว์วิญญาณระดับ 4 เเละนำผลึกเเกนอสูรกลับมา,รางวัลคือ ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 2,000 ก้อน …

 

ไปที่บึงโคลนทมิฬ เพื่อฆ่า จิ้งจอกวิญญาณสามหาง เเละนำผลึกเเกนอสูรมันกลับมา จะได้รับ ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 2,500 ก้อน..

 

ฆ่าศิษย์ทรยศของนิกายเพลิงผลาญฟ้า ที่เป็น ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 4 เเละนำศีรษะของมันกลับมา ของรางวัลตอบเเทน ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 8,000 ก้อน …

 

กำจัดนิกายหุบเขาทมิฬ เเละ นำศีรษะของผู้นำนิกายที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามกลับมา รางวัลตอบเเทน ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 30,000 ก้อน…

 

“ความยากลำบากของภารกิจนอกนิกายนั้นสูงกว่าภารกิจด้านในนิกายอย่างมาก ข้าสงสัยว่า เหล่าศิษย์ของนิกายเพลิงผลาญฟ้าจะสามารถทำภารกิจที่ยากลำบากเช่นนี้ได้เเน่งั้นเหรอ?”

 

หลังจากเข้าสู่นิกายเพลิงผลาญฟ้า เย่เฉินเฟิง ก็มีความ เข้าใจเกี่ยวกับ นิกายต่าง ๆ ในทวีปดวลวิญญาณ โดยปกติเเล้ว นิกายที่มีผู้นำนิกายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพี นิกายเหล่านั้นสามารถกลายเป็นนิกายระดับหนึ่งได้

 

เเละภารกิจระดับทองก็คือการกำจัดนิกายระดับหนึ่ง นี่ทำให้ เย่เฉินเฟิงสูดลมหายใจเข้าลึก เเละ รู้สึกตกใจกับความยากลำบากของ ของภารกิจนี้

 

“ข้าจะเลือกไปที่สุสานเเห่งความตาย เพื่อหาเห็ดพลังหยิน,เห็ดพลังหยิน เเต่ละอันสามารถเเลกเปลี่ยนเป็น ผลึกวิญญาณระดับต่ำ 1,000 ก้อน เเต่ว่า ต้องใช้คนจำนวนสองคนขึ้นไปในการทำภารกิจ”

 

ขณะที่ เย่เฉินเฟิง กำลังจะละทิ้งภารกิจระดับทอง เขาก็หันไปเห็นภารกิจระดับทองที่น่าสนใจ ยิ่งไปกว่านั้นมีบางคนได้ยอมรับภารกิจนี้ไปเเล้ว หากเขาได้ยอมรับอีกคน พวกเขาจะสามารถมุ่งหน้าไปยังสุสานเเห่งความตายได้ทันที

 

“ตกลงข้าเอาภารกิจนี้”เย่เฉินเฟิง ได้ลังเลอยู่ชั่วครู่ เเละ หยิบกระดาษหยก ออกมา เขาได้มุ่งหน้าไปหา ผู้อาวุโสที่คุมหอภารกิจ เพื่อลงทะเบียนภารกิจ ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เย่เฉินเฟิง ก็เห็นใบหน้าที่คุ้นเคย มันเป็น อาวุโสหยู ที่เคยมีความขุ่นเขืองกับเขา

 

“ภารกิจสุสานเเห่งความตาย”อาวุโสหยูในชุดเทาเข้ม ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง เเละ เผยรอยยิ้มที่น่าสนใจ”เย่เฉินเฟิง ความกล้าหาญของเจ้าช่างน่ายกย่อง เจ้ากล้ารับภารกิจระดับทอง เเม้เจ้าจะเป็นเพียงเเค่ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 ไม่เลวเลยจริง ๆ “

 

เย่เฉินเฟิง ขมวดคิ้วเล็กน้อยเมื่อเห็นรอยยิ้มที่น่าสงสัยของ อาวุโสหยู

 

“หรือว่ามีอันตรายที่ข้าไม่รู้อยู่ในสุสานเเห่งความตายนี่”

 

“อาวุโสหยู ข้าสงสัยว่าใครกันที่รับภารกิจสุสานเเห่งความตายอีกคน?”

 

“ไม่ต้องเป็นกังวลไป คนที่รับภารกิจอีกคนนึงชื่อของเธอคือ หลินเก๋อซู่ เธอมีรายชื่อติดอันดับที่ 9 บนทำเนียบอันดับเพลิงผลาญฟ้า เเละ เป็นที่รู้จักเเละมีชื่อเสียงในฐานะผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรก”อาวุโสหยู กล่าวตอบอย่างช้า ๆ

 

“ผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้นเเรก”เมื่อรู้ถึงตัวตนของ อีกฝ่าย เย่เฉินเฟิง ก็ค่อยโล่งใจเล็กน้อย

 

ด้วยความเเข็งเเกร่งของ หลินเก๋อซู่ ที่สามารถติดอันดับที่ 9 บนทำเนียเพลิงผลาญฟ้าได้ เย่เฉินเฟิง ค่อนข้างรู้สึกโล่งใจ เเม้ว่าระดับการฝึกฝนของ เย่เฉินเฟิง จะต่ำกว่า เเต่เขาก็มีไพ่ตายจำนวนมากไว้ปกป้องตัวเอง

 

“การลงทะเบียนเสร็จสิ้น เจ้าสามารถไปรอที่ทางเข้านิกายเพลิงผลาญฟ้าได้ พรุ่งนี้จะมีนกพิราบปีกเขียวพาเจ้าไปยังสุสานเเห่งความตาย”อาวุโสหยูยื่นส่งภารกิจหยกกลับไปหา เย่เฉินเฟิง

 

“อืม”

 

เย่เฉินเฟิง พยักหน้าเเละเอาภารกิจหยกเก็บใส่ถุงจักรวาลของเขา เเละ เดินออกจากที่นี่ทันที

 

“เย่เฉินเฟิง เจ้าคิดว่า สุสานเเห่งความตายเป็นภารกิจที่ง่ายดายหรือไม่?ภารกิจนี้รุนเเรงเกินกว่าที่เจ้าจะคิด เจ้าจะต้องตกตายที่นั่นเเน่ ๆ “เมื่อมองดู เย่เฉินเฟิง เดินจากไป มุมปากของ อาวุโสหยู ก็ม้วนขึ้นเผยให้เห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้าย

 

เมื่อเเสงเเรกอรุณยามเช้าของอีกวันมาถึง เย่เฉินเฟิง ก็เดินมาถึงทางเข้าของนิกายเพลิงผลาญฟ้า เขาเห็น หลินเก๋อซู่ ที่ลงทะเบียนภารกิจร่วมกับเขายืนอยู่ที่นั่น เธอสวมใส่ชุดคลุมสีดำอำพรางตัวเอง

 

เเม้ว่ารูปลักษณ์ของ หลินเก๋อซู่ จะไม่ได้สวยงามล่มเมืองเหมือนกับ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่กลิ่นอายที่เย็นชาที่เธอปลดปล่อยออกมาทำให้ เธอค่อนข้างมีเสน่ห์อย่างมาก

 

“ขอโทษทีข้ามาช้าไปหน่อย”เย่เฉินเฟิง เดินไปที่ข้างหน้า หลินเก๋อซู่ ที่ปล่อยกลิ่นอายที่เยือกเย็นออกมาเเละกล่าวพูดขอโทษ

 

“เจ้าก็คือคนที่รับภารกิจสุสานเเห่งความตาย?”

 

เมื่อเธอสังเกตุเห็นเย่เฉินเฟิง ที่เป็นเพียงผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 หลินเก๋อซู่ ขมวดคิ้วเเน่น การเเสดงออกของเธอค่อนข้างน่าเกลียด

 

“ใช่”

 

เย่เฉินเฟิง พยักหน้า เเละจ้องมองไปที่ใบหน้าที่เย็นชาของเธอ

 

“เจ้าเป็นเพียงเเค่ ผู้ใช้จิตอสูรระดับชำนาญขั้น 3 เจ้ายังกล้ารับภารกิจสุสานเเห่งความตาย ดูเหมือนว่าเจ้าจะไม่ห่วงชีวิตของตัวเองเลยนะ?”หลินเก๋อซู่ กล่าวตำหนิ เย่เฉินเฟิง อย่างไร้ความสุภาพ

 

“สุสานเเห่งความตายอันตรายมากถึงขนาดนั้น?”เย่เฉินเฟิง กล่าวถาม

 

“เเค่ชื่อมันก็บ่งบอกเเล้วถึงความอันตราย ทันทีที่เจ้าเข้าสู่สุสานเเห่งความตาย เจ้าจะถูกพลังงานด้านลบของที่นั่นกลืนกิน เเละมีโอกาสที่จะเสียชีวิต ข้าเเนะนำให้ เจ้ายกเลิกภารกิจนี้ซะ ข้าไม่ต้องการร่วมภารกิจกับเจ้า”หลินเก๋อซู่ ปฏิเสธ อย่างเย็นชา

 

“เก๋อซู่ อย่าได้ประเมินเขาต่ำไป เขาก็คือบุคคลที่โด่งดังที่สุดในนิกายเพลิงผลาญฟ้าเมื่อไม่นานมานี้ เเละ เป็นที่รู้จักในฐานะอัจฉริยะที่หาตัวจับได้ยากในรอบร้อยปี”

 

เช่นเดียวกับ ที่ หลินเก๋อซู่ กำลังปฏิเสธ เย่เฉินเฟิง อาวุโสหยูได้ปรากฏตัวออกมาเเละกล่าวพูดขึ้น

 

“เจ้าก็คือ เย่เฉินเฟิง คนนั้น?”

 

ได้ยินคำพูดของอาวุโสหยู,หลินเก๋อซู่ ขมวดคิ้วเล็กน้อย เเละ จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ดวงตาที่เย็นชาของเธอได้คลายลงเล็กน้อย

 

“ใช่ ข้าเอง”

 

“เอาล่ะพวกเจ้าทั้งสองไม่จำเป็นจะต้องเสียเวลาสนทนากันมากนัก เเม้สุสานเเห่งความตายจะเป็นพื้นที่อันตราย เเต่ตราบใดที่พวกเจ้าระวังตัวเเละผสานงานช่วยเหลือกัน พวกเจ้าย่อมสามารถนำเห็นพลังหยิน กลับมาได้สำเร็จ”อาวุโสหยู รีบตัดบท เขากลัวว่า เย่เฉินเฟิง จะยอมเเพ้ เเละจะทำให้เขาสูญเสียโอกาสที่ดีในการกำจัด เย่เฉินเฟิง

 

“เจ้าตัดสินใจดีเเล้วใช่หรือไม่ที่จะไปที่สุสานเเห่งความตาย?”หลินเก๋อซู่ จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง อีกครั้ง เเละกล่าวถามอย่างจริงจัง

 

“ข้าตัดสินใจดีเเล้ว เเละข้าเชื่อว่าข้าจะสามารถรอดปลอยภัยกลับมาจากสุสานเเห่งความตายได้”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าเเละพูดอย่างมั่นใจ

 

“เช่นนั้นก็ไปกันเถอะ”

 

เมื่อเห็นความมั่นใจในสายตาของ เย่เฉินเฟิง,หลินเก๋อซู่ ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก พวกเขากระโดดขึ้นไปบนหลังนกพิราบปีกเขียว เเละ เดินทางออกจากนิกายเพลิงผลาญฟ้า

 

“เย่เฉินเฟิง ลาขาดล่ะ”

 

จ้องมองดูนกพิราบปีกเขียวบินจากไปจนลับไปปในเส้นขอบฟ้า อาวุโสหยู เผยให้เห็นรอยยิ้มที่เย็นชาเเละบ่นพึมพัมกับตัวเอง