Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 90 เเรงกดดันจากโหย่วซานเสียน

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 90 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“พี่ชาย เย่,มีคนบุกเข้าไปโจมตีลานบ้านของ จี้ฉิงเสวี่ย ตอนนี้เขาพยายามสร้างความกดดันให้เธอ”

 

ขณะที่ เย่เฉินเฟิงกำลังฝึกฝนในลานบ้านของเขาจู่ ๆ เขาก็ถูกปลุกให้ตื่นขึ้นด้วยเสียงที่วิตกกังวล

 

“เจ้าเป็นใคร?”

 

สายตาอำมหิตคู่นั้นของ เย่เฉินเฟิง ได้จ้องมองไปที่ ชายเเปลกหน้าที่มารายงานเขา

 

“ข้า,ข้าเป็นศิษย์นิกายเพลิงผลาญฟ้าเช่นเดียวกับท่าน อีกทั้งยังเป็นคนที่ชื่นชมในวรยุทธ์ของท่าน”

 

เย่เฉินเฟิง สัมผัสได้ถึงความจริงใจจากอีกฝ่ายเเละความกังวลบางอย่างในตัวของชายคนนี้

 

“งั้นเหรอ”เย่เฉินเฟิง พึมพัมออกมา”บอกข้ามาว่าเกิดอะไรขึ้น”

 

เพราะ เย่เฉินเฟิง ได้ฝึกฝนในพื้นที่ลานบานของตัวเอง เขาเลยไม่รู้เกี่ยวกับการมาถึงของคณะผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์

 

“ข้าเห็นคนผู้นึงเข้าไปในพื้นที่ลานบ้านของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละทำลายรูปแบบก่อตัว อีกทั้งยังขู่ให้เธอมาเป็นผู้หญิงของเขา”ชายคนนี้รีบอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว

 

“หืม…ใครกันเขาคนนั้นไม่กลัวการลงโทษจากการฝ่าฝืนกฏของนิกายเพลิงผลาญฟ้าเลยหรือไม่?”

 

เย่เฉินเฟิง สังเกตุได้ถึงความตื่นตระหนักของชายคนนี้ เขาไม่ได้สงสัยในคำพูดของอีกฝ่าย

 

“ข้าเองก็ไม่รู้”ชายคนนั้นสั่นศีรษะ

 

“หรือว่าจะเป็นคนของตระกูล เสิ่นถู๋ ?”

 

เมื่อคิดถึงเรื่องที่ จี้ฉิงเสวี่ย โดนโจมตีในลานบ้านที่พักของนิกายเพลิงผลาญฟ้าเเล้ว บุคคลที่ เย่เฉินเฟิง พอจะคิดได้ก็น่าจะเป็นคนจากตระกูล เสิ่นถู๋

 

“เดิมที ข้าก็ไม่ได้อยากมีความเกี่ยวข้องกับ จี้ฉิงเสวี่ย”

 

เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมา เมื่อนึกถึงเรื่องที่ จี้ฉิงเสวี่ย พามาให้เขานั้น มีเเต่เรื่องที่ทำให้เขาลำบาก

 

“ฟุ่บ”

 

จากนั้น เย่เฉินเฟิง ก็ได้รีบออกเดินทางทันที เเม้ว่าเขาจะไม่ได้ต้องการยุ่งเกี่ยวกับ จี้ฉิงเสวี่ย เเต่เขาจะไม่อาจทนเห็น จี้ฉิงเสวี่ย ทำให้ถูกอับอายได้ ไม่นานเขาก็ไปถึงพื้นที่ลานบ้านของ จี้ฉิงเสวี่ย

 

“นี่มัน…”

 

เมื่อเย่เฉินเฟิง เข้าไปใกล้ในพื้นที่ เขาเห็นชายคนนึง ที่ยืนอยู่ท่ามกลางลานบ้านเเละปลดปล่อยเเรงกดดันที่น่าสะพรึงกลัวออกมา เเรงกดดันของอีกฝ่าย ทำให้ เหงื่อเย็นปรากฏบนหน้าผากของเขา

 

 

ก่อนหน้านี้ ในขณะที่ จี้ฉิงเสวี่ย กำลังทำการฝึกฝนอยู่ในลานบ้าน จู่ ๆ เธอก็สังเกตุเห็นว่า รูปแบบก่อตัวลานบ้านของเธอถูกทำลาย เธอได้ตื่นขึ้นเเละออกจากการฝึกฝนทันที

 

เมื่อเธอปรากฏตัวขึ้นเเละเห็นชายหนุ่มในชุดผ้าไหมสีทองที่เเสดงสีหน้าหยิ่งผยองออกมา เธอได้พยายามครุ่นคิดเเละพยายามคาดเดาตัวตนของอีกฝ่าย

 

“เจ้าเป็นใคร ทำไมถึงกล้าทำลายรูปแบบก่อตัวลานบ้านของข้า เจ้าไม่กลัวจะถูกกฏของนิกายเพลิงผลาญฟ้าลงทันฑ์หรือไม่?”จี้ฉิงเสวี่ย ได้จ้องมองไปที่ โหย่วซานเสียน

 

“กฏนิกาย?”โหย่วซานเสียน เผยรอยยิ้มออกมา”ข้าไม่จำเป็นจะต้องกลัวกฏของนิกายส่วนนอกแบบพวกเจ้า อีกอย่างเจ้าไม่จำเป็นจะต้องคาดหวังว่าจะมีคนมาช่วยเหลือเจ้า เเม้ เฉียนตว๋อไป๋ จะอยู่ที่นี่ เขาก็ไม่กล้าทำตัวหยาบคายกับข้า”

 

“เจ้าเป็นใครกันเเน่?”

 

จี้ฉิงเสวี่ย ที่ได้ยินคำพูดของอีกฝ่าย ความไม่สบายใจได้ปรากฏในจิตใจของเธอ

 

“ข้าเป็นคนของนิกายส่วนใน ปู่ของข้าคือผู้อาวุโสของตำหนักหยินหยาง”โหย่วซานเสียน กล่าวพูดอย่างภาคภูมิใจในภูมิหลังของเขา

 

“ท่านคือคณะตัวเเทนผู้ส่งสารเพลิงสวรรค์ที่มาในวันนี้?”

 

เมื่อรู้สถานะของ โหย่วซานเสียน ใบหน้าของ จี้ฉิงเสวี่ย ซีดลงอย่างมาก เมื่อจ้องมองไปที่ สายตาของคนผู้นี้ทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวในใจ

 

“ใช่,ที่ข้ามาหาเจ้าในวันนี้ก็เพราะข้าต้องการให้โอกาสกับเจ้า”โหย่วซานเสียนเเสดงรอยยิ้มจาง ๆ พร้อมกับเดินเข้าไปหาร่างของ จี้ฉิงเสวี่ย ทีละก้าว

 

“ข้าซาบซึ้งใจในความปราถนาดีของท่าน เเต่ข้าต้องการฝึกฝนด้วยตัวเอง ข้อต้องขอโทษด้วยที่ต้องปฏิเสธคำเชิญของท่าน”จี้ฉิงเสวี่ย ได้ถอยกลับก้าวหนึ่งเเละกล่าวปฏิเสธอย่างนุ่มนวล

 

“โอ้ว,ดูเหมือนว่าข้าคงต้องใช้กำลังบังคับสินะ”

 

จี้ฉิงเสวี่ย ได้เห็นรอยยิ้มที่ชั่วร้ายบนใบหน้าของ โหย่วซานเสียน ตอนนี้ ร่างกายของเธอสั่นไหวอย่างหวาดกลัว

 

“ท่านจะทำอะไร?”

 

สัมผัสได้ถึงเเรงกดดันที่เเข็งเเกร่งจากร่างของ โหย่วซานเสียน ,จี้ฉิงเสวี่ย รู้สึกหายใจไม่ออก

 

“เจ้าคิดว่าข้าจะทำอะไรเล่า?”โหย่วซานเสียน จ้องมองไปที่ ร่างที่น่าหลงใหลของ จี้ฉิงเสวี่ย เเละกล่าวพูดอย่างหยิ่งยะโส”ข้าคนนี้อุส่าห์เอ่ยปากเชิญชวนเจ้าด้วยตัวเอง เเต่เจ้ากลับกล้าปฏิเสธอย่างไม่ไว้หน้าข้า”

 

“เช่นนั้นก็อย่าหาว่าข้าโหดร้ายถ้าข้าต้องการทำลายเจ้า”

 

“ท่าน…อย่าเข้ามา ไม่งั้นข้าจะตะโกนเรียกให้คนมาช่วย”

 

จี้ฉิงเสวี่ย ไม่คาดคิดเลยว่า โหย่วซานเสียน จะเเข็งเเกร่งมากขนาดนี้ เธอสัมผัสได้ถึงความหวาดกลัวจากตัวตนของอีกฝ่ายอย่างชัดเจน

 

“ฮ่าฮ่า ตะโกนเรียกให้คนมาช่วย? จนถึงตอนนี้เจ้ายังคิดว่าจะมีใครเข้ามาช่วยเหลือเจ้าหรือไม่?”โหย่วซานเสียนหัวเราะออกมา”ให้ข้าดูหน่อยเถอะว่าเจ้าจะสามารถหนีเงื้อมมือข้าไปได้ยังไง”

 

“นายน้อยโหย่ว ท่านมาทำอะไรที่นี่งั้นหรือ?”

 

ขณะที่ โหย่วซานเสียน กำลังจะลงมือ เสียงของอาวุโสหลิวเเละอาวุโสถานก็ได้ดังขึ้น พวกเขาที่มีความสัมพันธ์กับ เย่เฉินเฟิง ได้ปรากฏตัวออกมาปกป้อง จี้ฉิงเสวี่ย

 

“ทำไม,ข้าจะไปที่ไหนมันก็เรื่องของข้า จำเป็นจะต้องรายงานพวกเจ้า?”

 

โหย่วซานเสียน ไม่คิดเลยว่า อาวุโสหลิว จะปรากฏตัวขึ้นเพื่อทำลายเจตนาของเขา สีหน้าของเขามืดมนอย่างมากเเละกล่าวพูดอย่างเยือกเย็น

 

“ฮ่าฮ่า ธรรมชาติข้าย่อมไม่กล้าขัดขวางนายน้อย เเต่จี้ฉิงเสวี่ย เป็นลูกศิษย์ของข้า ข้าหวังว่านายน้อยโหย่ว จะช่วยไว้หน้าข้าสักครั้ง”

 

อาวุโสหลิวไม่สนใจดวงตาที่ดุร้ายของ โหย่วซานเสียน เขากล่าวพูดออกมา

 

“ถ้าข้าไม่ไว้หน้าเจ้า เจ้าจะทำไม?”โหย่วซานเสียน กล่าวตะโกนออกมา สายตาของเขาเริ่มดุดันมากขึ้น

 

“นายน้อยโหย่ว เเม้ว่าศักดิ์ฐานะของเราจะไม่สามารถเทียบกับท่านได้ เเต่ข้ากับอาวุโสถานพวกเราเองก็มีความสัมพันธ์ที่ดีกับอาวุโสฝ่ายใน ท่านไม่กลัวว่าถ้าตำหนักส่วนในล่วงรู้ว่าท่านรังเเกคนที่อ่อนเเอกว่าในนิกายส่วนนอก ข้าเกรงว่าชื่อเสียงของท่านจะไม่ดี”อาวุโสหลิว พยายามกล่าวออกมา

 

“เจ้าคิดจะขวางทางข้ารึไม่…”

 

เมื่อได้ยินคำเตือนจาก อาวุโสหลิว โหย่วซานเสียน กลายเป็นรำคาญมากกว่าเดิม

 

“นายน้อยท่าน…”

 

“ข้าถามว่าเจ้าคิดจะขวางทางข้าใช่รึไม่?”

 

โหย่วซานเสียนไม่สามารถควบคุมความโกรธในใจของเขาได้อีกต่อไป กลิ่นอายพลังที่รุนเเรง ได้พุ่งออกมาจากร่างกายของเขา พุ่งเข้าใส่ อาวุโสหลิว

 

อาวุโสหลิว เเละ อาวุโสถาน เป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 4 โดยทั่วไปเเล้ว โหย่วซานเสียน ที่เป็นถึงผู้ใช้จิตอสูรระดับปฐพีขั้น 5 ย่อมสามารถกดดันอีกฝ่ายได้ไม่ยาก

 

อาวุโสหลิว ที่ถูกเเรงกดดันจาก โหย่วซานเสียน ร่างของเขา ถูกผลักกลับถอยออกไปอย่างต่อเนื่อง

 

“ให้ข้ากล่าวเตือนเจ้าอีกครั้ง ใสหัวไปจากสายตาของข้าซะ ไม่งั้นอย่าหาว่าข้าทำตัวหยาบคายกับพวกเจ้า”โหย่วซานเสียน ราวกับพยัคฆ์ที่ดุร้าย เขากล่าวเตือนด้วยน้ำเสียงเยือกเย็น

 

จี้ฉิงเสวี่ย ที่เห็น โหย่วซานเสียน สามารถกดดันได้เเม้เเต่ อาวุโสหลิว เเละ อาวุโสถาน ดวงตาคู่โตโตของเธอเบิกกว้างด้วยความสิ้นหวัง

 

“ข้าก็อยากจะรู้เหมือนกันว่าใครกันที่มันกล้าเเตะต้องเธอ”

 

ขณะที่ อาวุโสหลิวเเละอาวุโสถานกำลังลังเล เสียงที่ดังเสมือนฟ้าร้อง ก็ได้ปรากฏขึ้นในช่วงเวลาสำคัญ

 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด