Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 133 ทักษะลับกลืนพลังชีวิต

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 132 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“เด็กน้อย ขอเเสดงความยินดีต่อเจ้าด้วย เจ้าได้ผ่านการทดสอบเเห่งดาบเเละได้รับคุณสมบัติในการเข้าสู่พระราชวังชั้นในเพื่อรับการประเมินขั้นสุดท้าย”

 

วิญญาณจ้าววิหารได้ปรากฏตัวขึ้นในพื้นที่การทดสอบเเห่งดาบ

 

เขารออยู่ที่นี่มานานกว่า 100,000 ปี รอใครซักคนที่จะสามารถผ่านการทดสอบเเห่งดาบไปได้

 

“ในที่สุดก็จบซักที”

 

เมื่อเห็นการปรากฏตัวของ วิญญาณจ้าววิหาร เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาได้ทุ่มการโจมตีเเละพลังเฮือกสุดท้ายในการโจมตีก่อนหน้านี้ไปหมดเเล้ว โชคดีที่เขาผ่านการทดสอบ

 

“ตามสัญญาข้าจะมอบรางวัลให้เจ้าในตอนนี้”

 

จากนั้นระลอกคลื่นมิติก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าของวิญญาณจ้าววิหาร จากนั้น สมบัติ 3 ชิ้น ก็ลอยอยู่ที่เบื้องหน้าของ เย่เฉินเฟิง

 

“สมบัติทั้งสามนี้ เป็นรางวัลที่เจ้าจะได้รับเมื่อผ่านการทดสอบเเห่งดาบ ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบการประเมินขั้นสุดท้ายได้ เจ้าจะได้รับสมบัติทั้งสามชิ้นนี้ไปครอบครอง เเต่ทว่าตอนนี้เจ้าเลือกมันได้เพียงอย่างเดียวเท่านั้น”วิญญาณจ้าววิหาร กล่าวพูดอย่างช้า ๆ

 

“ท่านจ้าววิหาร ข้าไม่รู้ว่าสมบัติทั้งสามนี้คืออะไร?”

 

จ้องมองไปที่ สมบัติทั้งสามที่ถูกผนึกไว้ในรูปแบบก่อตัว เย่เฉินเฟิง กล่าวถาม

 

“สมบัติชิ้นเเรกคือ ดาบสวรรค์จูเสวี่ย มันทำจากเหล็กระอองดาวทั้งชิ้นเเละหลอมรวมเข้ากับวัสดุกลั่นล้ำค่ามากกว่า 10 ชนิด น้ำหนักโดยรวมของมันมากถึง 10,000จิน เพราะมันไม่ได้ถูกปรับเเต่งลงอักขระลงไปทำให้มันเป็นเพียง สมบัติสวรรค์ระดับต่ำ”วิญญาณจ้าววิหารได้กล่าวพูด

 

“สมบัติระดับต่ำที่ทำจากเหล็กละอองดาว”

 

รับรู้ถึงความเเข็งเเกร่งของ ดาบสวรรค์จูเสวี่ย เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

 

สมบัติระดับสวรรค์ เป็นสมบัติในตำนาน เเม้เเต่ดินเเดนหิมะทางตอนเหนือ ก็ไม่มีสมบัติสวรรค์อยู่สักชิ้น ยิ่งไปกว่านั้น สมบัติสวรรค์นี้ยังทำจากเหล็กละอองดาว

 

คุณค่าของเหล็กละอองดาวนั้นสูงมาก ไม่เพียงเเต่มันเป็นวัสดุที่หาได้ยาก เเต่กระบวนการหลอมผสานทำเป็นดาบยังยากเย็นอีกด้วย เเต่ทว่า ดาบสวรรค์จูเสวี่ย กลับทำจากเหล็กละอองดาวทั้งหมด มันเป็นสมบัติสวรรค์ระดับต่ำอยู่ตอนนี้ เเต่ถึงอย่างนั้นมันกลับยังไม่ได้ลงรูปแบบอักขระลงไป

 

อาจกล่าวได้ว่า ดาบสวรรค์จูเสวี่ย ถูกสร้างมาเพื่อเขาโดยเฉพาะ หากเขาได้รับมันมา เย่เฉินเฟิง มีความมั่นใจว่าเขาสามารถสังหารผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ได้ด้วยดาบจูเสวี่ย

 

เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ ดาบสวรรค์จูเสวี่ย ด้วยเเววตาเเห่งความปราถนา เเต่เขาก็ไม่ได้ตัดสินใจเลือกในทันที เขาจ้องมองไปที่รูปแบบก่อตัวที่สอง

 

“สมบัติที่สองนี้คือ น้ำทิพย์เเห่งชีวิต มันสามารถเพิ่มพลังชีวิตได้ 3,000 ปี”

 

วิญญาณจ้าววิหารได้ปลดล็อครูปแบบก่อตัวชิ้นที่สองเเละเผยรูปร่างขวดหยกที่บรรจุของเหลวไว้ข้างใน

 

“น้ำทิพย์เเห่งชีวิต”

 

เย่เฉินเฟิง จ้องมองไปที่ขวดหยกสีขาวที่ลอยอยู่กลางอากาศเขารู้สึกตกใจมากขึ้น

 

น้ำทิพย์เเห่งชีวิต คือน้ำทิพย์อมตะ มันสามารถช่วยฟื้นฟูชีวิตของคนที่กำลังจะตายได้อย่างง่ายได้ ดังนั้นมันจึงล้ำค่าอย่างมาก เเต่ของชิ้นนี้กลับเป็นเพียงเเค่หนึ่งในสิ่งของที่อยู่ในตำนานเพียงเท่านั้น

 

โดยทั่วไปเเล้ว น้ำทิพย์เเห่งชีวิตนั้น เเทบจะเรียกว่าไร้ประโยชน์สำหรับผู้ฝึกตนธรรมดา ๆ เเต่มันจะเป็นสิ่งมีค่ามากที่สุดสำหรับสัตว์ประหลาดอาวุโสที่อยู่มานานหลายปีเเละใกล้จะหมดสิ้นอายุไข

 

หาก น้ำทิพย์เเห่งชีวิต นี่ปรากฏขึ้นที่ทวีปดวลวิญญาณ จะต้องมีสงครามนองเลือดเกิดขึ้นมากมายเพื่อเเย่งชิงมันกันอย่างเเน่นอน

 

เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เเละจ้องมองไปที่ รูปแบบก่อตัวอันที่สาม

 

“สมบัติที่สาม คือ ทักษะลับที่ถูกเรียกว่า ทักษะกลืนพลังชีวิต”วิญญาณจ้าววิหารกล่าวตอบ

 

“ทักษะลับ!”

 

เย่เฉินเฟิง รู้ได้ในทันทีถึงคุณค่าของทักษะลับ เพราะเขาเองก็ครอบครองทักษะลับแบ่งเบาร่างกาย อย่าง ชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 อยู่ ด้วยสิ่งนี้ทำให้ร่างกายของเขาเเข็งเเกร่งเเละชดเชยจุดอ่อนที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของผู้ใช้จิตอสูร ได้

 

“ทักษะลับกลืนพลังชีวิต คือ ทักษะลับที่ใช้พลังชีวิตเป็นเครื่องสังเวยเพื่อระเบิดความเเข็งเเกร่งเเละยกระดับการบ่มเพาะพลังขึ้นได้ในระยะเวลาอันสั้น”

 

“เอาล่ะ ข้าได้บอกข้อมูลทั้งหมดเกี่ยวกับ สมบัติทั้งสามเเล้ว ได้เวลาที่เจ้าจะต้องตัดสินใจเลือกเเล้ว”วิญญาณจ้าววิหาร ได้จ้องมองไปที่ เย่เฉินเฟิง ราวกับต้องการคาดเดาว่า เย่เฉินเฟิง จะเลือกสิ่งไหน

 

ดาบสวรรค์จูเสวี่ย,น้ำทิพย์เเห่งชีวิต,เเละ ทักษะลับกลืนพลังชีวิต

 

จ้องมองไปที่ สมบัติทั้งสามชิ้น เย่เฉินเฟิง รู้สึกลังเล,ดาบสวรรค์จูเสวี่ย นั้นจะมีประโยชน์สำหรับเขามากที่สุดในปัจจุบัน เเต่คุณค่าของทักษะลับกลืนพลังชีวิตมีค่ามากกว่า ดาบสวรรค์จูเสวี่ย

 

“เอาล่ะ ? เจ้าตัดสินใจได้หรือยัง?”วิญญาณจ้าววิหารกกล่าวถาม

 

“ข้าเลือก ทักษะลับกลืนพลังชีวิต”

 

ในที่สุด เย่เฉินเฟิง ก็ตัดสินใจเลือก ทักษะลับกลืนพลังชีวิต

 

“ฮ่าฮ่า เจ้าเลือกได้ดี ในบรรดาสมบัติทั้งสาม ทักษะลับกลืนพลังชีวิต คือสมบัติที่ล้ำค่าที่สุด เเม้ว่าเจ้าจะไม่สามารถรับรู้คุณค่าที่เเท้จริงของมันได้ในตอนนี้ เเต่หลังจากที่ฝึกฝนสำเร็จเจ้าจะรู้ว่าทักษะนี้ร้ายกาจเพียงใด”

 

“นอกจากนี้ ทักษะลับ นี่ ยังสามารถเปลี่ยนเเปลงโชคชะตาของเจ้าในอนาคตได้ เจ้าพวกสิ่งมีชีวิตที่กล้าท้าทายเจ้าในอนาคตพวกมันคงมีจุดจบที่ไม่สวยเท่าใด”

 

วิญญาณจ้าววิหาร รู้สึกดีใจอย่างมากกับการเลือกของ เย่เฉินเฟิง

 

“สำหรับดาบสวรรค์จูเสวี่ย เเละ น้ำทิพย์เเห่งชีวิต ไม่ใช่ว่าเจ้าจะต้องตัดใจยอมเเพ้ไป ตราบใดที่เจ้าสามารถผ่านการประเมินขั้นสูงสุดของ วิหารศิลาเเห่งนี้ได้ เจ้าจะได้รับสองสิ่งนี้ในภายหลัง”

 

“เอาล่ะ ในเมื่อเจ้าเลือก ทักษะลับกลืนพลังชีวิต ข้าจะส่งต่อทักษะนี้ให้เจ้า เเละ ให้สิทธิ์เจ้าเข้าไปยังวิหารชั้นใน”วิญญาณจ้าววิหารได้ ส่งมอบทักษะให้กับ เย่เฉินเฟิง

 

“ขอบคุณท่านจ้าววิหาร”

 

เย่เฉินเฟิง พยักหน้าเเละรับคำภีมร์หยกมา เขาเริ่มใช้ทักษะกลืนวิญญาณในการสำรวจทันที

 

ชีวิตคือรากฐานของมนุษย์ รากฐานของมนุษย์คือพลังงานที่เเข็งเเกร่งที่สุด…

 

เย่เฉินเฟิง ได้จับใจความทักษะลับกลืนกินพลังชีวิต โชคดีที่ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์สามารถช่วยเหลือ เย่เฉินเฟิง ได้

 

นอกจากนี้ เขารู้สึกว่า ตัวเขากับพลังลับที่ซ่อนอยุ่ในทักษะลับกลืนกินพลังชีวิต มีความเกี่ยวข้องทางโชคชะตาบางอย่าง

 

“เขาสามารถจับใจความเเละเข้าใจทักษะลับกลืนกินพลังชีวิตได้รวดเร็วขนาดนี้?”

 

สองวันต่อมา วิญญาณจ้าววิหาร ก็ต้องตกใจ เมื่อพบว่า พลังชีวิตในร่างของ เย่เฉินเฟิง กำลังถูกเผาไหม้

 

“หรือว่าเขาจะมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกับเผ่าวิญญาณของข้าจริง ๆ หรือไม่ก็เขาก็คือคนที่เผ่าวิญญาณของข้ารอคอยมาโดยตลอด”เมื่อนึกถึงความเป็นไปได้ วิญญาณจ้าววิหารอดไม่ได้ที่จะรู้สึกตื่นเต้น

 

อีกสองวันต่อมา ด้วยสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ เย่เฉินเฟิง ก็ค่อย ๆ เข้าใจทักษะลับกลืนพลังชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

เเต่เพราะพลังชีวิตนั้นมีค่ามากเกินไป เย่เฉินเฟิง ไม่กล้าที่จะถลุงพลังชีวิตของเขาเพื่อทดสอบพลังของทักษะลับกลืนพลังชีวิต

 

“เจ้าสามารถฝึกฝนทักษะลับกลืนพลังชีวิตได้เเล้ว?”

 

เมื่อเห็นว่า เย่เฉินเฟิง ตื่นขึ้นมาในวันที่ 4 วิญญาณจ้าววิหารได้กล่าวอย่างคาดหวัง

 

“ข้าได้ฝึกฝนทักษะลับกลืนพลังชีวิตสำเร็จเเล้ว”เย่เฉินเฟิง พยักหน้าตอบกลับ

 

“ความสามารถพรสวรรค์โดยกำเนิดของเจ้าสูงที่สุดเท่าที่ข้าเคยเห็นมา บางทีเจ้าอาจสามารถสร้างปากฏิหาริย์เเละผ่านการประเมินขั้นสูงสุดของวิหารชั้นในได้”

 

เมื่อได้รู้ว่า เย่เฉินเฟิง สามารถฝึกฝนทักษะลับกลืนพลังชีวิตได้จริง ๆ วิญญาณจ้าววิหาร กล่าวชื่นชมอย่างไม่ลังเล

 

“ท่านจ้าววิหาร ความยากของการทดสอบขั้นสูงสุดในวิหารชั้นในนั้นยากขนาดไหนกัน?”เย่เฉินเฟิง กล่าวถาม

 

“กระประเมินทดสอบภายในวิหารชั้นในนั้น วัดความยากจากอายุของกระดูก ยิ่งอายุของกระดูกผู้ทดสอบน้อยเท่าไหร่ ความยากในการทดสอบก็จะน้อยลงตามเท่านั้น ดังนั้นข้าคิดว่าการประเมินขั้นสุดท้ายในวิหารชั้นในนั้นคงจะไม่ยากอย่างที่เจ้าคิด”

 

“เเต่ถ้าเจ้าล้มเหลวในการประเมินทดสอบเจ้าอาจจะเสียชีวิตในทันที ถ้าเจ้าผ่านการทดสอบเจ้าจะได้รับสมบัติที่ล้ำค่าที่สุดของอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเเห่งนี้ ดังนั้นเจ้าจะเข้ารับการประเมินทดสอบหรือไม่นี่ก็ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของเจ้า”วิญญาณจ้าววิหารกล่าวตอบ

 

“ท่านจ้าววิหาร ข้ายินดีรับการประเมินทดสอบขั้นสุดท้าย”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก เเละ ตอบด้วยเสียงอย่างหนักเเน่น

 

“ข้าจะเปิดทางไปสู่วิหารชั้นในให้กับเจ้า เจ้าสามารถใช้โลหิตของเจ้าเเตะบนเเท่นควบคุมในวิหารชั้นใน เเละ เจ้าจะสามารถเข้าสู่พื้นที่ทดสอบสุดท้ายได้”

 

“เด็กน้อย ข้าขอให้เจ้าโชคดี!”

 

จากนั้นช่องว่างมิติก็ปรากฏขึ้น สำหรับวิญญาณจ้าววิหาร เขาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด