Eight Desolate Sword God – ตอนที่ 142 พลังงานชั่วร้าย

อ่านนิยายจีนเรื่อง Eight Desolate Sword God ตอนที่ 141 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ในที่สุดข้าก็ตัดผ่านระดับขั้นพลังสักที”

 

5 วันผ่านไป เย่เฉินเฟิง ได้ตัดผ่านระดับขั้นพลัง ทำให้ พลังวิญญาณในร่างกายของเขา เพิ่มมากขึ้นกว่าเเต่ก่อนมาก เขาได้ลองทดสอบ ฝ่ามือทลายเมฆา โจมตีไปที่ผนังพื้นที่เเรงโน้มถ่วงนี้อีกครั้ง

 

“ปั้ง”

 

ผนังพื้นที่เเรงโน้มถ่วง ได้สั่นไหวเล็กน้อย ภายใต้พลังของ ฝ่ามือทลายเมฆา เเต่มันก็ยังไม่เพียงพอที่จะทำลายมันได้

 

“กำเเพงพื้นที่เเรงโน้มถ่วงนี่เเข็งเเกร่งเกินไป ดูเหมือนความหวังของข้า คงมีเเต่จะต้องลองปรับเเต่ง ผลไม้ปีศาจโลหิต ทั้งสองลูกนั่นดู ไม่อย่างนั้นข้าคงจะต้องตายอยู่ที่นี่”

 

เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมา เขาได้หยิบผลไม้ปีศาจโลหิต ออกมาจากถุงจักรวาลของเขา

 

ผลไม้ปีศาจโลหิต เป็นผลไม้ปีศาจ ที่อันตราย หากจิตใจไม่เเข็งเเกร่งพอ ก็จะสูญเสียการควบคุม เเละกลายเป็นร่างวิญญาณที่สามารถเคลื่อนไหวได้ เพียงเท่านั้น

 

“ผลไม้ปีศาจโลหิต ทุกอย่างขึ้นอยู่กับเจ้าเเล้ว”เย่เฉินเฟิง สูดลมหายใจเข้าลึก จากนั้น เขาก็ส่งผลไม้ปีศาจโลหิต เข้าไปในกระเพาะอาหารของเขาโดยตรง

 

“ฟุ่บ!”

 

ทันใดนั้นพละกำลังความเเข็งเเกร่งของ เย่เฉินเฟิง ก็ปะทุออกมาจากร่างกายของเขา เส้นชีพจร เเละ หลอดเลือดภายในร่าง ได้ฉีกขาดออกจากกัน โลหิตจำนวนมาก ได้หลั่งไหลออกมาจากร่างกายของเขาอย่างไม่สามารถควบคุมได้

 

เผชิญหน้ากับความรุนเเรงเช่นนี้ หากเป็นคนปกติทั่วไปคงจะกรีดร้องจนอยากจะตายไปนานเเล้ว เเต่ เย่เฉินเฟิง ไม่ใช่คนปกติทั่วไป เขาได้อาศัยความเเข็งเเกร่งของร่างกายของเขา เพื่อเเบกรับความเสียหายทั้งหมด

 

ในเวลานี้ เย่เฉินเฟิง ได้พยายามอย่างมากในการฟื้นฟูรักษาอาการบาดเจ็บของตัวเอง

 

“กรีด…”

 

ทันใดนั้น เสียงที่รุนเเรงราวกับเสียงฟ้าร้องของสวรรค์ ได้ระเบิดขึ้นภายในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง เสียงที่รุนเเรงเหล่านั้นได้ทำลาย เเก้วหูของ เย่เฉินเฟิง จนมีโลหิตจำนวนมากไหลออกมา

 

“เจ้าผลไม้ปีศาจโลหิตนี่ มันร้ายกาจขนาดนี้เลยงั้นเหรอ”

 

เห็นผลไม้ปีศาจโลหิต กรีดร้องออกมา เย่เฉินเฟิง เเทบจะหมดสติลง เเต่เขาไม่สามารถทำได้

 

ในตอนนี้ เย่เฉินเฟิง ได้มองเห็นภาพลวงตามากมาย ที่กำลังหลอกหลอนจิตวิญญาณของเขาทำให้เขารู้สึกสับสน

 

เย่เฉินเฟิง ได้ควบเเน่น สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ของเขาอย่างรวดเร็ว เพื่อดูดกลืนพลังงานชั่วร้ายเหล่านี้

 

“สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์!”

 

ในตอนนี้ เย่เฉินเฟิง ได้พยายามควบคุมสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์เพื่อกลืนกิน พลังงานชั่วร้ายจำนวนมากที่ อยู่ในจิตใจของเขา

 

“ฟู่ว…”

 

สมองขนาดใหญ่ ได้ปรากฏขึ้นบนทะเลจิตวิญญาณของ เย่เฉินเฟิง จากนั้นพลังงานการกลืนกินที่รุนเเรงก็หลั่งไหลไปตามสายโลหิตของเขา

 

ไม่นาน พลังชั่วร้าย ที่อยู่ในร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ก็ถูกกลืนกินหายไป เเต่ทว่า พลังงานชั่วร้ายเหล่านั้น กำลังต่อต้าน การกลืนกินของ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ เกิดการต่อสู้กัน

 

การปะทะกันของทั้งสองระหว่าง พลังงานชั่วร้าย เเละ สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ทำให้ เย่เฉินเฟิง รู้สึกปวดหัวมาก ราวกับว่า ศีรษะของเขากำลังจะระเบิดออกเวลาใดก็ได้

 

เเต่ เย่เฉินเฟิง ค่อนข้างมุ่งมั่น เขาขบฟันเเน่น เเละอดทนต่อความเจ็บปวดครั้งยิ่งใหญ่ เเละ พยายาม ฝึกฝนจุดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6 ของเขา เพื่อทำให้ความรุนเเรงเหล่านี้เลือนหายไป

 

เขาไม่รู้ว่า จะต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ กว่า สมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ จะสยบพลังงานชั่วร้ายให้อ่อนเเอลงได้ เเต่ตอนนี้ โลหิตจำนวนมาก ได้ไหลออกมาจากทวารทั้ง 7 ของ เย่เฉินเฟิง

 

“ในที่สุดสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ก็สามารถกลืนกินพลังงานชั่วร้ายเหล่านั้นได้”

 

ผ่านไปไม่นาน เย่เฉินเฟิง ได้ถอนหายใจออกมา พลังงานชั่วร้าย ได้ถูกกลืนกินโดยสมองกลืนกินศักดิ์สิทธิ์ ร่างกายของ เย่เฉินเฟิง ตอนนี้อ่อนเเอมาก เขาควบคุมพลังวิญญาณที่มีอยู่ในร่างกายรวมถึงโลหิต เพื่อฝึกฝนจุดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ทั้ง 6

 

เเม้ว่ากระบวนการปรับเเต่งนั้น จะเจ็บปวดอย่างมาก เเต่ เย่เฉินเฟิง ก็ไม่ยอมเเพ้ หากเขาไม่สามารถประสบความสำเร็จในการปรับเเต่งจุดชีพจรศักดิ์สิทธิ์ของเขาได้ เขาจะตกตายในพื้นที่เเรงโน้มถ่วงเเห่งนี้

 

“ไม่…ข้าจะไม่ยอมเเพ้ ข้าจะต้องประสบความสำเร็จเเละปรับเเต่งชีพจรศักดิ์สิทธิ์ให้ได้”เย่เฉินเฟิง กัดริมฝีปากของเขา เเละพยายามผลักดันตัวเองอยู่ตลอดเวลา เพื่ออดทนความเจ็บปวด

 

เวลาได้ล่วงเลยผ่านไปอีกประมาณ 4 วัน เย่เฉินเฟิง ที่อดทนอดกลั้นอย่างสุดหัวใจ ในที่สุด ก็สามารถประสบความสำเร็จในขั้นปรับเเต่งพละกำลังได้ ความเเข็งเเกร่งทางร่างกายของเขาตอนนี้เพิ่มมากขึ้นกว่า 100,000 จิน

 

“ในที่สุด ข้าก็ปรับเเต่งพลังของ ผลไม้ปีศาจโลหิต จนหมด เเละ ประสบความสำเร็จเล็ก ๆ น้อย ๆ ในขั้นปรับเเต่งพละกำลัง”เย่เฉินเฟิง ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก เขาได้หยิบโอสถฟื้นวิญญาณออกมาจากถุงจักรวาลเเละกลืนมันลงไป

 

หลังจากผ่านไปครึ่งวัน เย่เฉินเฟิง ก็นำผลไม้ปีศาจโลหิต ผลที่สองออกมา เเละ น้ำเข้าปากโดยไม่ลังเล เขาได้อดทนความเจ็บปวดจำนวนมาก เเละปรับเเต่งพลังงานของผลไม้ปีศาจโลหิตต่อไป

 

เช่นเดียวกัน ขณะที่ เย่เฉินเฟิง อยู่ในพื้นที่เเรงโน้มถ่วง เเละอดทนกับความเจ็บปวดที่มนุษย์ธรรมดาไม่สามารถทนได้ ในที่สุด ก็ครบกำหนดหนึ่งเดือน ที่อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริงเเห่งนี้ จะถูกปิด ฟู่เหยาเยว่ เเละ คนอื่น ๆ กำลังถูกส่งออกมายังโลกภายนอก

 

“ครบกำหนด หนึ่งเดือนเเล้ว ในที่สุด พวก เฉินชางเทียน ก็กำลังจะออกมา ไม่รู้ว่าพวกเขาจะเก็บเกี่ยวอะไรดี ๆ ได้บ้าง?”

 

ปรมาจารย์จ้าวตำหนักเทียน ได้จ้องมองไปที่พื้นที่มิติอวกาศอย่างคาดหวัง

 

“ออกมากันเเล้ว!”

 

หลังจากผ่านไปครู่นึง เงาร่าง ๆ นึง ก็ปรากฏออกมา

 

เป็น ฟู่เหยาเยว่ เธอได้ออกมาจาก อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง เป็นคนเเรก หลังจากมองไปที่พื้นที่โดยรอบเเละไม่เห็นร่างของ เย่เฉินเฟิง เธอก็รู้สึกเป็นห่วงเขาเล็กน้อย

 

อย่างไรก็ตาม เธอได้ตัดสินใจ เดินไปที่เบื้องหน้าของ ปรมาจารย์จ้าวตำหนักเทียน เเละ ยื่นส่งอาวุธวิญญาณปฐพีขั้นกลางให้กับเขาเเล้วพูดว่า”ท่านปรมาจารย์จ้าวตำหนัก นี่คือสิ่งที่ข้าได้รับในอาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง เป็นอาวุธวิญญาณปฐพีขั้นกลาง”

 

“อาวุธวิญญาณปฐพีขั้นกลาง!”ปรมาจารย์เทียน จ้องมองไปที่ อาวุธวิญญาณนั่น เเละ เต็มไปด้วยความยินดี เขารับเอาขวานใหญ่มาจาก ฟู่เหยาเยว่ เเละ เก็บมันไปอย่างรวดเร็ว”ฟู่เหยาเยว่ บอกข้ามาว่าเจ้าต้องการสิ่งใด?”

 

“ข้าไม่รู้ว่า ข้าพอจะกลายเป็นศิษย์หลักของ ท่านปรมาจารย์เทียน ได้หรือไม่”ฟู่เหยาเยว่ ได้กล่าวพูดออกมา หลังจากนั้น เธอก็โชว์ปราณดาบ 2 ชั้น

 

“ปราณดาบ!”

 

เมื่อ ปรมาจารย์จ้าวตำหนักเทียน เห็น ฟู่เหยาเยว่ สามารถสร้างปราณดาบ 2 ชั้นได้ สีหน้าของเขาก็ตกใจอย่างมาก

 

ทักษะปราณดาบนั้นคือพรสวรรค์ที่มีเเต่นักดาบเเท้จริงเท่านั้นที่จะสามารถเข้าใจมันได้ ดังนั้น ผู้ที่สามารถตระหนักได้ในปราณดาบอนาคตของพวกเขานั้นไร้ขีดจำกัด

 

“ข้าตกลงยอมรับเงื่อนไข หลังจากเสร็จธุระที่นี่ เจ้าตามข้ากลับไปที่นิกายเพลิงผลาญฟ้า หลังจากเจ้าตัดผ่านกลายเป็นผู้ใช้จิตอสูรระดับสวรรค์ ข้าจะรับเจ้าเป็นศิษย์หลัก”

 

“ขอบคุณท่านอาจารย์!”ฟู่เหยาเยว่ ได้ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หลังจากได้ยิน คำตอบจากปรมาจารย์จ้าวตำหนักเทียน เท่านี้ เธอก็ไม่ต้องกังวลการเเก้เเค้นจาก พวกคนจากนิกายหุบเขาวายุคลั่ง เเละ หุบเขาวิหคอัสนี เเล้ว

 

“ท่านอาจารย์ ท่านไม่สามารถรับเธอเป็นศิษย์หลักได้”

 

หลังจากนั้น เฉินชางเทียน ก็ออกมาจาก อาณาจักรลับวิญญาณเเท้จริง หลังจากได้ยิน ว่าปรมาจารย์จ้าวตำหนัก เทียน ตกลงยอมรับ ฟู่เหยาเยว่ เป็นศิษย์หลัก เขาก็ได้กล่าวห้ามทันที

 

“ทำไมกัน?”

 

ปรมาจารย์จ้าวตำหนักเทียน ไม่รู้ว่า โหย่วซานเสียน เเละ คนอื่น ๆ เสียชีวิตในอาณาจักรลับวิญญาณ ดังนั้นเขาจึงขมวดคิ้วเเน่นเเละกล่าวถาม

 

“เป็น เย่เฉินเฟิง เเละ ฟู่เหยาเยว่ พวกเขาสมรู้ร่วมคิดกันฆ่า ซานเสียน”เฉินชางเทียน กล่าวพูดอย่างรวดเร็ว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด