พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ – ตอนที่ 55

อ่านนิยายจีนเรื่อง พ่อบ้านจักรพรรดิปีศาจ ตอนที่ 55 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

“นั่นคือทางขึ้นภูเขา”

ขอทานกับจั๋วฝานโผล่หัวผ่านพุ่มไม้เพื่อมองทางเดินแคบ

จั๋วฝานมองไปข้างหน้า ขมวดคิ้วเมื่อเห็นผู้บ่มเพาะหลอมกระดูก 30 คน

ด้วยพลังของเขากับจันทร์คลั่ง แถมด้วยความช่วยเหลือของทารกโลหิต มันไม่ยากที่จะบุกทะลวง แต่การทำแบบนั้นโดยไม่มีใครสังเกตเห็นคือปัญหา

เสียงดังที่นี่ย่อมดึงดูดความสนใจจากโหยวหมิงกู่ และเนื่องจากยอดฝีมือระดับนภาของตระกูลเสวี่ยกำลังไล่ล่าเขา เขาจึงยากที่จะออกไปได้แบบเป็นๆ

หลังคิดอย่างถี่ถ้วน จั๋วฝานก็ส่ายหัว เขาต้องพึ่งพาขอทานน้อยถ้าเขาอยากเข้าไปในเทือกเขา

“เสี่ยวหนิง อุโมงค์ลับอยู่ไหน?”

จั๋วฝานมองขอทานน้อย อีกฝ่ายยังรู้สึกกลัวกับสิ่งที่เขาทำก่อนหน้านี้ เขาไม่ร้องแต่ยังพูดตะกุกตะกัก

“มะ-มากับข้า”

จั๋วฝานพูดไม่ออก[ทำไมเด็กนี่ถึงขี้ขลาดกว่าหนูเสียอีก?นับตั้งแต่เขาเห็นสิ่งที่ข้าทำ เขาก็ร้องไห้ไม่หยุดจากความกลัว]

[พวกเขาเป็นศัตรูที่ไล่ล่าเจ้า ไม่ใช่ตระกูลเจ้า เจ้าจะร้องไห้ไปเพื่อ?]

จั๋วฝานลอบบ่นแต่ก็ปลงกับชะตากรรมเขา ใครบอกให้เขาตอบรับข้อตกลงของเด็กนี่?เขาจินตนาการได้ว่าหลังเขาติดตามขอทานน้อยไปภูเขา เขาต้องเจอกับสัตว์อสูรดุร้ายขณะที่ขอทานเอาแต่นั่งร้องไห้ข้างๆ

จั๋วฝานถอนหายใจ เดินทางขอทานผ่านป่ามืด หลังเดินอยู๋นาน พวกเขาก็พบอุโมงค์แคบข้างลำธารลับ

“นะ-นี่แหละ”ขอทานบังคับให้ตัวเองหยุดสะอื้น แต่ตัวยังสั่น”ตะ-ตอนข้าเด็ก ข้าเคยเล่นกับพ่อและพี่ๆของข้าในป่านี้!”

จั๋วฝานเลิกคิ้วขณะตรวจสอบถ้ำกับสภาพแวดล้อม มันเป็นสถานที่ห่างไกลที่มีแค่คนพื้นเมืองถึงรู้

เขาเดาว่าขอทานน้อยต้องพบถ้ำนี้ตอนเล่นกับพี่ๆแน่ ไม่งั้นโหยวหมิงกู่คงปิดผนึกไปแล้วถ้ารู้

“เอาล่ะ เสี่ยวหนิง นำไปก่อน ข้าจะตามหลังเจ้าเอง!’

จั๋วฝานตะโกนขณะผลักขอทานน้อยเข้าไป เขาไม่คิดว่าสถานที่นี้จะมีกับดัก แต่ประสบการณ์ก็ยังทำให้เขาระวัง

ขอทานน้อยรู้ความหมายและกลอกตาด้วยความโกรธ กระทืบเท้าเข้าไป

ทันใดนั้น เสียงตะโกนลั่นก็ดังขึ้น

“หนิงเอ๋อร์ หยุด!’

ซวบ!

ด้วยเสียงลม ร่างใหญ่ขวางทางทั้งคู่ ชายวัย 40 ร่างกายกำยำแต่งตัวหรูหราปรากฏ ดวงตาโตของเขาเต็มไปด้วยพลังของยอดฝีมือ

“ยอดฝีมือหลอมกระดูกขั้นสูงสุด!”

จั๋วฝานขมวดคิ้ว”หรือว่าเจ้าคือผู้นำตระกูลเสวี่ย เสวี่ยว่านหลง?”

“ตาดี!”

เสวี่ยวว่านหลงชม”เป็นเจ้าสินะที่ทำร้ายลูกชายคนโตของข้า เสวี่ยกัง?”

“ถูกแล้ว”จั๋วฝานยิ้ม”เขาอยากเอาคนของข้าไป การไว้ชีวิตเขานับเป็นความเมตตาแล้ว!”

“อะไรนะ ของเจ้า?”

เสวี่ยว่านหลงตกใจ หันไปมองขอทานน้อย ขอทานน้อยหน้าแดงขณะหลบหลังจั๋วฝาน

สีหน้าของเขาแปลกไป

“ท่านพ่อ!”

เสียงตะโกนดังขึ้น คนหนุ่มในชุดขาวปรากฏข้างเสวี่ยว่านหลง”ฮ่าๆๆ ข้ารู้ว่าหนิงเอ๋อร์ต้องมาซ่อนตัวที่นี่”

“พ่อ ให้ข้าช่วยท่านพาตัวหนิงเอ๋อร์กลับ!”

คนหนุ่มดูตื่นเต้น เขาไม่สนใจจั๋วฝานและบินไปหาขอทานน้อย

[บัดซบ เด็กนี่บังอาจทำเหมือนข้าเป็นอากาศ!]

จั๋วฝานหรี่ตา และลอบสาปแช่ง เมื่อชายหนุ่มกำลังจะถึงตัวเขา เขาก็ส่งฝ่ามือออกไป

ชายหนุ่มรู้สึกถึงพลังปราณและเส้นเลือดของเขาก็ฉีกขาด วินาทีแห่งความเป็นความตาย จั๋วฝานได้ยื่นมือไปกุมคอเขาไว้

“เจ้าทำอะไร?”เสวี่ยว่านหลงคำราม

เขาไม่คิดว่าลูกชายเขาจะโดนจับง่ายๆแบบนี้

พูดตามตรง เขาเห็นว่าจั๋วฝานเป็นแค่ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นห้าและยังห่างไกลกับการทำลายลูกชายคนโตของเขา

แต่ตอนนี้เขารู้แล้ว

เทียบกับลูกๆที่เขาชุบเลี้ยงในตระกูล จั๋วฝานคล้ายกับสัตว์ประหลาดที่อาบเลือด เขาอ่อนแอกว่า แต่จังหวะลงมือกลับสมบูรณ์แบบและเด็ดขาด

ต่อหน้าจั๋วฝาน ลูกชายของเขาเหมือนกับดอกไม้ในเรือน

จั๋วฝานยกชายหนุ่มขึ้นสูง”ผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นห้า เขาคงเป็นลูกชายคนที่สองของเจ้า เสวี่ยหลินสินะ?”

“ปล่อยตัวเขาซะ ไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้า!”เสวี่ยว่านหลงคำรามด้วยความโกรธ

จั๋วฝานส่ายหัว”ถ้าข้าทำตามที่เจ้าว่า ข้าจะยิ่งตายเร็วขึ้นนะสิ!”

“ผู้นำตระกูลเสวี่ย ไม่ว่าเจ้าจะมีความแค้นอะไรกับเสี่ยวหนิง แต่เขาเป็นคนของข้าแล้ว ข้าหวังว่าเจ้าจะเข้าใจจุดนี้ อย่า…”

มือของจั๋วฝานออกแรงบีบและเสวี่ยหลินก็ขาดอากาศ”อย่าบีบบังคับให้ลูกชายเจ้าต้องเป็นศพ!”

“ไม่!”

ขอทานน้อยตะโกนก่อนเสวี่ยว่านหลงจะได้ตอบ คว้าแขนจั๋วฝานและอ้อนวอนเขาด้วยสายตา

จั๋วฝานตกตะลึง[ขอทานน้อยนี่ต้องเป็นบ้าไปแน่ๆ ทำไมเขาถึงอยากปล่อยศัตรูไป?]

เสวี่ยว่านหลงจ้องทั้งคู่ด้วยสายตาซับซ้อน แต่ในไม่ช้าก็สงบลงและตัดสินใจได้

เขาจ้องจั๋วฝาน

“เจ้าหนู เจ้าชื่ออะไร?”เสวี่ยว่านหลงถาม

จั๋วฝานิย้ม”ข้ามีชื่อเดียวและไม่กลัวการล้างแค้นของเจ้า และก็ไม่กลัวที่จะป่าวประกาศชื่อข้า ชื่อของข้าคือจั๋วฝาน!”

“ได้ จั๋วฝาน!เจ้าอยากปกป้องเขาสินะ?”เสวี่ยว่านหลงชี้ขอทานน้อย

จั๋วฝานแค่นเสียง”เขาเป็นคนของข้า ข้าย่อมปกป้อง!’

“ดี งั้นมาเดิมพันกัน เจ้าจะปล่อยลูกชายข้าไปและรับการโจมตีสิบครั้งจากข้า ถ้าเจ้าชนะ ข้าจะไม่สนใจเขาอีก เจ้าว่าไง?”

จั๋วฝานหรี่ตา พิจารณาข้อเสนอ จากนั้นก็แสยะยิ้มพลางโยนเสวี่ยหลินไป

“เจ้าไม่กลัวว่าข้าจะกลับคำพูดงั้นหรือ?”

จั๋วฝานหัวเราะ”ถ้าข้าอยากฆ่าเขา เจ้าไม่มีทางหยุดข้าได้!”

“พูดจาใหญ่โต!”เสวี่ยว่านหลงโกรธ”รับไปซะ!”

เขาระเบิดพลังหลอมกระดูกขั้นสูงสุดออกมา แต่จั๋วฝานกลับดูเหมือนไม่รู้สึกกดดันเลย

คิ้วของเสวี่ยว่านหลงสั่น เขาลอบชื่นชมจั๋วฝาน

แต่ก่อนเขาจะถึงตัวจั๋วฝาน อีกฝ่ายกลับพุ่งใส่เขาก่อน

[ต่อให้เด็กนี่จะเป็นอัจฉริยะ มันก็ไม่มีทางทำร้ายผู้บ่มเพาะหลอมกระดูกได้!ทำไม..]

เขาเห็นว่ามือของจั๋วฝานเปล่งแสงและจันทร์คลั่งก็ปรากฏ

จั๋วฝานที่อาบด้วยแสงสีเงินเร่งความเร็วขึ้น ปรากฏต่อหน้าเสวี่ยว่านหลงในชั่วพริบตา

“สมบัติมารระดับสาม?”

เสวี่ยว่านหลงตกใจและพยายามหลบ

แต่แสงสีแดงกลับพุ่งออกจากตัวจั๋วฝาน เล็งไปที่เสวี่ยว่านหลง

“รับไป!”

จั๋วฝานแสยะยิ้ม

แต่ก่อนทารกโลหิตจะเข้าตัวเสวี่ยว่านหลง มันก็โดนดีดออกมา เมื่อมันดีดออก จั๋วฝานก็รู้สึกได้ถึงสายใยโลหิตจากการเชื่อมต่อกับมัน มือของเขาขยับและสะบัดจันทร์คลั่งออกไป

แสงสีเงินพุ่งผ่านหน้าเสวี่ยว่านหลง

เมื่อทั้งคู่หยุด จั๋วฝานก็ได้ยืน ณ จุดเดิมที่เสวี่ยว่านหลงยืน เขาวางแผนเอาชีวิตของเสวี่ยว่านหลงในการโจมตีเดียวด้วยการใช้ทารกโลหิตกับจันทร์คลั่ง

แต่ไม่คาดคิด ทารกโลหิตกลับโดนดีดออกมา

เขาหันไปเห็นว่าหน้าอกของเสวี่ยว่านหลงเปล่งแสงและตะโกน”สมบัติมารป้องกันระดับสอง?”

หัวใจของเขาหนักอึ้ง

ต่อหน้าสมบัติมารป้องกันเช่นนั้น ทารกโลหิตของเขาเปล่าประโยชน์ เขาพึ่งพาได้แค่จันทร์คลั่งในการต่อสู้นี้

ขณะที่จั๋วฝานกำลังรู้สึกหนักใจ ขากรรไกรของเสวี่ยว่านหลงกลับตกลงด้วยความตกใจ

เขาไม่คิดเลยว่าเด็กระดับกลั่นลมปราณขั้นห้าจะมีพลังน่ากลัวได้ถึงขนาดนี้ ถ้าเขารู้ตัวสายเกินไป หัวของเขาคงหลุดไปแล้ว

เมื่อนึกถึงที่เขาเดิมพันกับจั๋วฝาน เขาก็รู้สึกหนาวสั่นลงกระดูกสันหลัง

[ช่างหัวมัน ขอแค่ข้ายังเก็บหัวไว้ได้หลังสิบกระบวนท่าก็พอแล้ว!]

จากนั้นเขาก็มองเกราะเหล็กบนหน้าอก และถอนหายใจ ขอบคุณที่พ่อเขาเตือนเขาว่าชายที่พาตัวหนิงเอ๋อร์ไปอาจเป็นยอดฝีมือ เขาจึงสวมเกราะนี้

เขาไม่ชัดเจนว่าทารกโลหิตคืออะไร แต่เขารู้ว่าความตายจะมาถึงเมื่อมันเข้าตัวเขา

จากนั้นเขาก็หันไปมองจั๋วฝาน ผู้กำลังมองเขาราวกับจะเขมือบเขา และเหงื่อเย็นก็ไหลออกมา

นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้พบกับคู่ต่อสู้ที่น่ากลัวเช่นนี้ ยิ่งไปกว่านั้น อีกฝ่ายยังเป็นผู้บ่มเพาะกลั่นลมปราณขั้นห้า!

“บัดซบ เด็กนี่เป็นสัตว์ประหลาดหรือยังไง?”เขากัดฟัน …

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด