เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 182

อ่านนิยายจีนเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ ตอนที่ 182 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

大姐大 บทที่ 182 คุณรู้จักเจี่ยนอีหลิงด้วยเหรอ

“ใช่ ผมได้ยินว่า ก่อนหน้านี้คุณนักศึกษาฉินพบกับคนใหญ่คนโตในวงการอินเตอร์เน็ตใช่ไหม คนในแวดวงอินเตอร์เน็ตต่างประเทศติดต่อคุณบ้างไหน”

“ไม่เลยครับ อาจารย์คงจะเข้าใจผิด คนที่ติดต่อกับคนในวงการอินเตอร์เน็ตต่างประเทศน่าจะเป็นเจี่ยนหยุ่นเฉิงที่จบจากโรงเรียนที่นี่มากกว่า”

ฉินชวนตอบอย่างใจเย็น

“โอ ใช่ๆ” หัวหน้าฝ่ายยิ้ม

เจี่ยนหยุ่นเฉิงจบจากโรงเรียนมัธยนเชิ่งหัวจริง แต่นั่นก็เป็นช่วงเวลาก่อนหน้า ซึ่งตอนที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงยังอยู่ในโรงเรียนมัธยมเชิ่งหัวนั้น เขายังไม่ได้เป็นหัวหน้าฝ่าย

แถมยังมีเจี่ยนหยุ่นโม่ที่กล่าวกันว่าเป็นอัจฉริยะอีกด้วย ซึ่งตอนนี้เขาไดัไปศึกษาต่อในฐานะนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาที่มหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง และครูสอนพิเศษของเขาก็เป็นถึงนักชีววิทยาระดับแนวหน้าจากต่างประเทศ

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ หัวหน้าฝ่ายก็อดไม่ได้ที่จะคิดถึงเจี่ยนอีหลิง

พวกเขาล้วนเป็นลูกหลานตระกูลเจี่ยน ทำไมความแตกต่างระหว่างพี่ชายกับน้องสาวถึงกว้างมากมายขนาดนี้

และในช่วงที่เขาอยู่ในตำแหน่งนี้ เขากลับไม่ได้พบเจอกับอัจฉริยะแบบเจี่ยนหยุ่นเฉิงกับเจี่ยนหยุ่นโม่ แต่กลับพบเจอกับเจี่ยนอีหลิงซึ่งเป็นคนที่สร้างความไม่มั่นใจให้กับเขามากที่สุด

เขาทำบาปอะไรมาถึงต้องได้รับผลเช่นนี้

หัวหน้าฝ่ายเดินเป็นเพื่อนฉินชวนไปจนถึงหอประชุม

เขายิ้มกว้างไปตลอดทาง และทุกคนก็รู้ว่าเขากำลังอารมณ์ดี

เมื่อฉินชวนไปถึงหอประชุม ที่แห่งนั้นก็เต็มไปด้วยนักเรียนมัธยมชั้นปีที่สามเรียบร้อยแล้ว

โม่ชืออวิ้นก็อยู่ในกลุ่มพวกเขาเช่นเดียวกัน เธอไม่ได้มีแผนที่จะมาที่นี่และต้องการจะอยู่ที่ห้องเรียนเพื่อทำแบบทดสอบการแข่งขัน

แต่เมื่อถึงเวลา ชูชาก็ลากตัวเธอออกมาที่นี่

ไม่นานนักหลังจากที่ชูชากับโม่ชืออวิ้นได้ทะเลาะกันครั้งก่อนนั้น ชูชาก็ได้เป็นฝ่ายเริ่มต้นขอโทษโม่ชืออวิ้น

โม่ชืออวิ้นไม่ได้สนใจอะไรมากนัก เธอจึงยกโทษให้ด้วยอัธยาศัยอันดี

โม่ชืออวิ้นรู้สึกว่าเธอไม่จำเป็นต้องสร้างความสัมพันธ์ที่เลวร้ายกับชูชา เธอไม้ต้องการสร้างศัตรูในห้องเรียนให้กับตัวเอง และเธอไม่ต้องการที่จะเป็นคนที่ถูกรังเกียจเช่นเดียวกับเจี่ยนอีหลิง

แม้ว่าโม่ชืออวิ้นจะอยู่ที่นี่ เธอก็ยังตั้งใจที่จะใช้เวลานี้ในการเรียนไปด้วย ดังนั้นเธอจึงนำเอาแบบทดสอบการแข่งขันเคมีมาด้วย

เธอได้ยินว่าคนที่มาบรรยายในวันนี้ก็ยังคงเป็นนักศึกษามหาวิทยาลัยทั้งยังเก่งมาก เพื่อนร่วมชั้นของเธอได้ประเมินเขาไว้อย่างสูง ตอนแรกโม่ชืออวิ้นยังคิดว่าเป็นแค่เพียงคำร่ำลือ

แต่เมื่อเธอเห็นฉินชวนด้วยตัวเอง เธอก็ตระหนักรู้ขึ้นมาว่าผู้คนไม่ได้ประเมินเขาเกินจริงเลย

และสิ่งที่ฉินชวนพูดนั้นก็ไม่ได้เหมือนกับบรรดาศาสตราจารย์แก่ๆที่ชอบพูดมากและโอ้อวด เขาพูดได้อย่างมีเหตุผล

โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสำเร็จของเขาในวันนี้ไม่ได้มาจากฐานะอิทธิพลของครอบครัว แต่มาจากความพยายามของเขาเอง

นี่เป็นสิ่งที่โม่ชืออวิ้นชื่นชมมากที่สุด

นี่เป็นสิ่งที่เธอหวังว่าเธอจะสามารถทำได้

โม่ชืออวิ้นถูกฉินชวนดึงดูดความสนใจไว้โดยไม่รู้ตัว และแบบทดสอบเคมีที่เธอนำมาด้วยก็ไม่ได้เปิดขึ้นมาอีกเลย

เมื่อจบการกล่าวสุนทรพจน์ โม่ชืออวิ้นได้ปรบมือให้จากใจ และเฝ้ามองฉินชวนจากไป

เมื่อจบการกล่าวสุนทรพจน์แล้วก็ถึงเวลาพักเที่ยง

หัวหน้าฝ่ายเชื้อเชิญฉินชวนให้มารับประทานอาหารที่โรงอาหารของโรงเรียน

ฉินชวนเห็นเจี่ยนอีหลิงในโรงอาหาร

เธอดูเหมือนไม่ค่อยสนใจที่จะแต่งตัวเท่าไหร่นัก เธอมักจะสวมเสื้อสีขาวกางเกงขายาวสีดำ เธอสวมเสื้อผ้าแบบนี้มาตั้งแต่เขาเห็นเธอครั้งแรก และผมที่ยาวถึงเอวของเธอนั้นก็จะเกล้าเป็นหางม้า ดูสดใสสะอาดตา

ใบหน้าขาว บอบบาง และไว้ตัว

ดวงตาเธอกระจ่างสดใส โดดเด่นถึงที่สุด

เมื่อฉินชวนมองไปที่เจี่ยนอีหลิง หัวหน้าฝ่ายก็ถามด้วยความอยากรู้ว่า “คุณนักศึกษาฉินชวน คุณรู้จักเจี่ยนอีหลิงด้วยเหรอ”

“ครับ” ฉินชวนไม่ได้ปฏิเสธ

“โอ คุณนักศึกษาฉินพบกับเจี่ยนอีหลิงได้ยังไง”

“อ๋อ ผมได้ติวพิเศชให้กับเธอก่อนหน้านี้ แต่ผมไม่คิดว่าเธอจำเป็นต้องติวเพิ่มแต่อย่างใด” ฉินชวนตอบ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด