เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ – ตอนที่ 293-294

อ่านนิยายจีนเรื่อง เธอเปลี่ยนไปเป็นเจ้าพ่อ ตอนที่ 293-294 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

大姐大 บทที่ 293 เจี่ยนหยุ่นโม่ทุบตีเจี่ยนหยุ่นน่าว

เจี่ยนหยู่หมินและเจี่ยนหยู่เจี๋ยจับหยูซีและเริ่มทรมานหยูซี

“หยูซี เกิดอะไรขึ้น หรือมีคนเล่นเป็นคนชั่วเหรอ” เจี่ยนหยู่หมินทำสีหน้าฆ่าคนตาย

“ใช่ หยูซี นายบอกฉันตรงๆได้เลย” เจี่ยนหยู่เจี๋ยกำหมัดแน่นดูเหมือนว่าเขากำลังจะชกใครสักคน

สองพี่น้องขนาบข้างหยูซีทั้งซ้ายและขวาราวกับว่าถ้าเขาไม่อธิบายมาให้ละเอียดตรงไปตรงมา เขาจะถูกทุบตี

“ไม่ น้องสาวอีหลิงเป็นคนเริ่มต้น” หยูซีอธิบายอย่างรวดเร็ว

“นายกำลังพูดเรื่องอะไร นายกำลังพูดเรื่องไร้สาระอะไร” เจี่ยนหยู่หมินล็อคคอของหยูซีด้วยใบหน้าดุร้าย

“มันเป็นเรื่องจริง น้องสาวอีหลิงที่สั่งให้นายท่านเชิ่งถอดเสื้อผ้า …”

ฟ้าเป็นพยาน สิ่งที่หยูซีพูดนั้นเป็นความจริงแท้

“ไม่ เป็นไปไม่ได้ น้องสาวอีหลิงต้องไม่สนใจรูปร่างเขาแน่นอน” เจี่ยนหยู่หมินเชื่อมั่นอย่างมาก

อ่านตอนล่าสุดที่ my-novel.co หรือ www.thai-novel.com

“ถูกต้อง” เจี่ยนหยู่เจี๋ยทั้งโกรธและอิจฉา

น้องสาวคงไม่ถูกหลอกโดยพวกเจ้าปึศาจ อันธพาลนั่นจริงๆใช่ไหม

ยังไม่คุยเรื่องเป็นแฟนด้วย ใช่ไหม

ไม่ ไม่ ไม่อย่างแน่นอน

“ไม่ ไม่ น้องสาวอีหลิงไม่ได้สนใจรูปร่างหายากของนายท่านเชิ่ง” หยูซีอธิบายอย่างรวดเร็ว “นายท่านเชิ่งได้รับบาดเจ็บ และน้องสาวอีหลิงก็ช่วยจัดการกับบาดแผลให้”

กลับกลายเป็นว่าที่เห็นภาพนั้นเป็นเพราะว่าเธอต้องจัดการกับบาดแผลเท่านั้น

ประโยคนี้ค่อยคลายอารมณ์ของสองพี่น้อง เจี่ยนหยู่หมิน เจี่ยนหยู่เจี๋ย ลงได้สำเร็จ

โชคดีที่อาหารจานเด็กน้อยบ้านของฉันยังไม่ถูกกิน

ยังไงก็ตามแม้ว่าจะมีเหตุผล สุดท้ายก็ยังเป็นน้องสาวของพวกเขาที่เห็น มันยังไม่เข้าท่านัก

ดังนั้นสายตาของสองพี่น้องที่มองไปยังจ๋ายหวินเชิ่งจึงเป็นศัตรูมากขึ้นกว่าแต่ก่อน

จากม่านไม้ไผ่สไตล์ญี่ปุ่น เจี่ยนอีหลิงแช่ตัวในสระน้ำพุร้อนอีกด้านหนึ่ง ก็ได้ยินเสียงเจี่ยนหยู่หมินและพวกอย่างชัดเจน

ทุกคนต่างหัวเราะคิกคัก ความรู้สึกมีชีวิตชีวาและใกล้ชิดแบบนี้ เป็นสิ่งที่เจี่ยนอีหลิงไม่เคยสัมผัสมาก่อน

ความรู้สึกนี้ ดูเหมือนว่า … ดีมาก

###

ก่อนที่จะมืด คู่สามีภรรยาเจี่ยนชูฉิงเวินน่วนและลูกชายทั้งสองก็มาถึงวิลล่าน้ำพุร้อนในที่สุด

เมื่อพวกเขามาถึง เจี่ยนอีหลิงก็กำลังแช่น้ำพุร้อน ดังนั้นพวกเขาจึงเห็นเพียงปู่เจี่ยนย่าเจี่ยนและเจี่ยนหยุ่นโม่

แม้ว่าเจี่ยนหยุ่นโม่จะบอกว่าอย่าให้เขาเห็นเจี่ยนหยุ่นน่าวในช่วงเวลานี้ แต่พี่น้องก็ยังได้พบกัน

ผลก็คือ เจี่ยนหยุ่นน่าวถูกเจี่ยนหยุ่นโม่ทุบตีจนล้มลงไปบนพื้น

ในห้องสไตล์ญี่ปุ่นของวิลล่าน้ำพุร้อน เจี่ยนหยุ่นน่าวล้มลงอยู่บนพื้นและหมัดของเจี่ยนหยุ่นโม่ก็ต่อยเขาอย่างหนัก

คนที่ปกติจะนุ่มนวลประดุจหยก ถ่อมตัวและสุภาพมาโดยตลอด เจี่ยนหยุ่นโม่ ลงไม้ลงมือกับน้องชายของเขาเป็นครั้งแรก

เจี่ยนหยุ่นเฉิงอยู่ตรงนั้นและเขาก็ไม่ได้หยุดมัน

เจี่ยนหยุ่นน่าวก็ไม่ได้ต่อต้านเช่นกัน ปล่อยให้หมัดของเจี่ยนหยุ่นโม่ระดมเข้าใส่เขา

เจี่ยนหยุ่นโม่หลีกเลี่ยงมือที่ได้รับบาดเจ็บ ต่อยไปยังใบหน้าและร่างกายเขา

หมัดแล้วหมัดเล่า

ต่อยอย่างหนักบนเลือดเนื้อ

รูปลักษณ์ของเจี่ยนหยุ่นโม่ดูน่ากลัวอยู่บ้าง

หลังจากชกไปหลายครั้ง เจี่ยนหยุ่นโม่ก็มองไปที่เจี่ยนหยุ่นน่าวซึ่งมีรอยฟกช้ำและบวม ตกอยู่ในความงงงัน

หลังจากที่สติกลับคืนมา เขาก็ปล่อยเจี่ยนหยุ่นน่าวแล้วค่อยลุกขึ้นช้าๆ

“พี่ชายรอง ต่อยผมอีก ต่อยผมให้มากกว่านี้” เจี่ยนหยุ่นน่าวเต็มใจที่จะให้เจี่ยนหยุ่นโม่ทุบตี

เมื่อเทียบกับการถูกทุบตีโดยพี่ชายรอง การที่เสี่ยวหลิงไม่มีท่าทางโกรธหรือระคายเคืองทำให้เขาอึดอัดยิ่งกว่า

ใช่ นั่นเป็นเพราะความห่วงใย

เมื่อไม่สนใจอีกต่อไปเท่านั้นจึงจะทำตัวแปลกแยกและเฉยเมย สูญเสียความอารมณ์และความรู้สึกที่มีต่อกัน

เจี่ยนหยุ่นโม่ปล่อยมือจากเจี่ยนหยุ่นน่าวปล่อยให้เขาลุกขึ้น

เจี่ยนหยุ่นเฉิงช่วยเจี่ยนหยุ่นน่าวลุกขึ้นแล้วพูดกับเจี่ยนหยุ่นโม่ว่า “ถ้านายต่อยน้องชายแล้วยังไม่พอใจ นายสามารถต่อยฉันได้อีก ฉันก็ผิดไม่น้อยไปกว่าน้องชาย”

บทที่ 294เจี่ยนหยุ่นน่าวขอโทษ

เจี่ยนหยุ่นโม่ได้ฟื้นคืนความเยือกเย็น ใบหน้าที่อ่อนโยนของเขาดูเคร่งขรึมกว่าแต่ก่อน

เขามองไปที่เจี่ยนหยุ่นเฉิงและเจี่ยนหยุ่นน่าวด้วยความเศร้าลึกๆที่ซ่อนอยู่ในดวงตาของเขา

“พี่ชายใหญ่ นี่ไม่ใช่คำถามที่ว่าฉันจะต่อยใคร เพราะฉันต่อยใครไปก็ไม่มีประโยชน์ และไม่สามารถเปลี่ยนแปลงความจริงที่ว่าเสี่ยวหลิงได้รับความบอบช้ำทางจิตใจ”

เจี่ยนหยุ่นโม่เป็นทุกข์ใจที่ไม่ได้รับความไว้วางใจจากเจี่ยนอีหลิง

แต่ไม่ว่าเขาจะทุกข์เพียงใด สิ่งที่เขาสามารถทำได้เพื่อเธอก็ยังมีข้อจำกัดอยู่มาก

ไม่ว่าจะเป็นการตีเจี่ยนหยุ่นน่าว หรือการตีเจี่ยนหยุ่นเฉิง มันล้วนไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งที่เกิดขึ้นได้

สิ่งที่เขาต้องทำไม่ใช่การระบายอารมณ์ของตัวเอง แต่เป็นที่ว่าจะทำให้สาวน้อยรู้สึกดีขึ้นได้ยังไง

แต่เขาเองก็ตกอยู่ในสถานการณ์นั้น เขากลัวว่าเขาจะทำร้ายเธอถ้าเขาเข้าใกล้เธอมากเกินไป

“ฉันรู้” เจี่ยนหยุ่นเฉิงเข้าใจความหมายของเจี่ยนหยุ่นโม่

เจี่ยนหยุ่นน่าวสัญญากับเจี่ยนหยุ่นโม่ว่า “พี่ชายรองฉันจะชดเชยความผิดพลาดที่ทำไป ไม่ว่าน้องสาวจะโกรธหรือเสียอารมณ์ ฉันก็ … สมควรที่จะได้รับ …”

ครั้งหนึ่งเจี่ยนอีหลิงก็ต้องทนทุกข์ทรมานจากความโกรธของเขาเช่นกัน

ตอนนั้นพวกเขารู้สึกว่านี่คือสิ่งที่เจี่ยนอีหลิงสมควรได้รับ

เจี่ยนหยุ่นโม่ไม่ตอบ คำตอบของเขาไม่สำคัญ

สามพี่น้องออกจากห้อง ในเวลานี้เจี่ยนอีหลิงก็ออกมาจากบ่อน้ำพุร้อนหลังจากแช่ตัวแล้ว

เธอใส่ชุดกิโมโนที่นายหญิงผู้เฒ่าเตรียมไว้ให้เธอล่วงหน้า

ในชุดกิโมโนลายดอกไม้สีม่วงดอกใหญ่ ผมยาวสลวยที่เพิ่งสระสยายลงมาถึงเอว

เท้าเล็กๆขาวละเอียดเปิดเผยออกสู่ด้านนอก

ในห้องมีเพียงสามพี่น้อง พ่อแม่เจี่ยน และเจี่ยนอีหลิง

ครอบครัวเจี่ยนชูฉิงมีหกคน หลังจากผ่านไปนาน พวกเขาก็ได้กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง

เวินน่วนก้าวไปข้างหน้าและกอดเจี่ยนอีหลิงเบาๆไว้ในอ้อมแขน

“เสี่ยวหลิง แม่พ่อกับพี่ๆมาช้า”

น้ำเสียงขอโทษอย่างแรง แต่คำขอโทษนี้ไม่ใช่เพราะวันนี้มา “ช้า”

“อือ” เจี่ยนอีหลิงตอบด้วยเสียงกระซิบ

เมื่อเผชิญกับอ้อมกอดของเวินน่วน ปฏิกิริยาของเจี่ยนอีหลิงยังคงค่อนข้างแข็งกระด้าง

แต่เจี่ยนอีหลิงไม่ได้ผลักออก เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นและสัมผัสแปลกๆจากร่างกายที่ส่งผ่านมาจากร่างกายของเวินน่วน

“วันนี้ลูกดูดีมากเลยนะ สาวน้อยของเราโตแล้ว”

“ย่าเลือกให้” เจี่ยนอีหลิงสวมชุดกิโมโนเป็นครั้งแรก

ตอนนี้เจี่ยนหยุ่นน่าวก็เข้ามาหาเจี่ยนอีหลิง

ในเมื่อนี่มีแต่คนในครอบครัว เขาจะถือโอกาสนี้ขอโทษเจี่ยนอีหลิงที่เขาไม่สามารถหาโอกาสนี้ได้มาเป็นเวลาหลายวันแล้ว

“เสี่ยวหลิง ฉันขอโทษ ฉัน….ฉัน ฉันเข้าใจผิด ฉัน ฉันทำร้ายเธอ ……”

เจี่ยนหยุ่นน่าวพูดประโยคนี้ ในใจเขารู้สึกประหม่า จนถึงกับกลัว

“นายไม่จำเป็นต้องขอโทษฉัน รักษามือให้ดีและอย่าทำร้ายคนครอบครัวอีก”

เจี่ยนอีหลิงมองไปที่เจี่ยนหยุ่นน่าว ดวงตาเธอสดใสเหมือนทะเลสาบที่สงบและเยือกเย็น

เพราะมันเยือกเย็นเกินไป มันทำให้หัวใจของคนอื่นๆในห้องเจ็บปวดขึ้น

ในความเป็นจริง ทุกสิ่งนี้ได้มีการคาดการณ์ล่วงหน้าไว้แล้วว่าเจี่ยนอีหลิงจะตอบสนองเช่นนี้ เมื่อเผชิญหน้ากับคำขอโทษของเจี่ยนหยุ่นน่าว

แต่เมื่อพวกเขาได้ยินมันจริงๆ พวกเขาก็ยังคงรู้สึกเจ็บปวดจากการถูกทิ่มแทงไปถึงหัวใจ

พูดไม่ออกไปชั่วขณะ คนทั้งห้าในห้องต่างก็ได้แต่มองไปที่เจี่ยนอีหลิง

สถานการณ์นี้ทำให้เจี่ยนอีหลิงไม่สบายใจอย่างมาก สายตาของเจี่ยนอีหลิงก็ได้แต่ตกไปที่เจี่ยนหยุ่นโม่ในห้าคนนั้น

เจี่ยนหยุ่นโม่เห็นความกังวลในดวงตาของน้องสาว เขาจึงเดินมาข้างหน้าและพูดเบาๆกับเจี่ยนอีหลิงว่า “ไปกินข้าวกันเถอะ ปู่ย่ากำลังรอเราอยู่”

เจี่ยนอีหลิงพยักหน้า

เจี่ยนหยุ่นโม่ออกไปจากห้องพร้อมกับเจี่ยนอีหลิง ช่วยเหลือเจี่ยนอีหลิงจากสถานการณ์ที่น่าอึดอัดที่แฝงอยู่ในนั้น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด