Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – 39 – ฉันอยากจัดงานแต่งงานแบบโบราณ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก ตอนที่ 39 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

39 – ฉันอยากจัดงานแต่งงานแบบโบราณ

“ ที่ไหน” โจวเจ๋อถาม

“ เขตซิงฟามีชายคนหนึ่งและลูกสาวของเขากำลังจอดมันอยู่ฉันจำได้” ผู้หญิงคนนั้นพูดอย่างหนักแน่นว่า

“ ผู้ชายคนนั้นทะเลาะกับฉันก่อนที่ฉันจะตายฉันจึงจำได้แม่น!”

โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อยเตือนว่า“ ถ้าคุณโกหกฉันหรืออยากเล่นตลกเพื่อยืมมีดฆ่าใครสักคนต่อให้คุณเป็นผีคุณก็ต้องตายอีกครั้ง”

“ น้องชายแม้ว่าฉันจะตายไปแล้วแต่ฉันก็ยังมีความสุขดีคุณอย่าทำให้ฉันกลัวได้ไหม ตอนฉันเป็นคนอยู่ฉันก็เป็นคนดีคุณไปถามใครก็ได้ในเขตซิงฟา”

โจวเจ๋อโบกมือบอกให้เธอเงียบ

หญิงสาวคนนั้นไม่รู้ว่าโจวเจ๋อกำลังคุยกับใคร แน่นอนว่าเสียงของโจวเจ๋อก็ต่ำมากเหมือนกระซิบ

“ ดูเหมือนว่าเพื่อนคนหนึ่งบอกผมบอกว่ามีครอบครัวหนึ่งในเขตซิงฟาที่เลี้ยงสุนัขแบบนี้อยู่คุณสามารถไปหามันได้ที่นั่น” โจวเจ๋อกล่าว

“จริงๆ? ฉันจะไปตอนนี้เลย”

หลังจากที่หญิงสาวพูดจบเธอก็หยิบกระเป๋าเงินออกมาและเตรียมจะมอบเงินให้เขา

“ ผมแค่อยากช่วยเท่านั้นผมจะไม่รับเงินของคุณ”

“ มันเป็นคำขอบคุณสำหรับข้อมูลอันมีค่า” หญิงสาวหยิบเงิน 500 หยวนออกมาและต้องการมอบมันให้กับโจวเจ๋อ

“ รอจนกว่าคุณจะพบมันค่อยเอามาให้ก็ไม่สาย” โจวเจ๋อปฏิเสธที่จะรับเงิน

“ ถ้าอย่างนั้นฉันต้องขอบคุณเถ้าแก่จริงๆ”

หญิงสาวเช็ดน้ำตาแล้วรีบออกจากร้านหนังสือ

“ ช่างเป็นผู้หญิงที่ดี บางทีฉันก็อยากให้เธอเป็นลูกสาวของฉันจริงๆ ” หญิงวัยกลางคนคนนั้นยังคงนั่งอยู่บนพื้นกระเบื้องของร้านหนังสือ

โจวเจ๋อนั่งหลังเคาน์เตอร์อีกครั้งและหยิบกรรไกรตัดเล็บออกมาตกแต่งเล็บของตัวเองต่อไป

“ น้องชายร้านหนังสือของคุณอยู่ที่นี่ดูเหมือนว่ากิจการจะไม่ดีเลย?” หญิงวัยกลางคนๆนั้นเริ่มชวนคุยต่อไป

จู่ๆโจวเจ๋อก็จำอะไรบางอย่างได้และถามว่า

“ อยากไปไหม ข้างล่าง”

ผู้หญิงคนนั้นตัวแข็งไปชั่วขณะและดูเหมือนจะไม่เข้าใจ

“ ที่ที่คุณควรไป” โจวเจ๋อจำได้ว่าตอนนี้เขาเป็นยมทูตแบบพาร์ทไทม์อยู่

“ ไม่ลงไปได้ไหม” ผู้หญิงคนนั้นรู้สึกอายเล็กน้อย

“ ลูกชายของฉันสอบเข้ามหาลัยปีนี้ฉันอยากฟังผลการสอบของเขาก่อนค่อยไป”

ช่างเป็นแม่ที่น่าสงสาร

“ ถ้าลูกชายของคุณรู้ว่าแม่ไม่ไปไหนเพราะว่าเป็นห่วงเขาเขาคงไม่มีสมาธิในการอ่านหนังสือแน่ๆ” โจวเจ๋อกล่าว

การที่คนธรรมดาจะอาศัยอยู่กับผีเป็นระยะเวลานานๆมันจะทำให้คนคนนั้นเจ็บป่วยได้อย่างง่ายๆ

“ ถ้าอย่างนั้นก็ได้” เธอพูดออกมาด้วยความรู้สึกเสียใจ

“ ไปกันเถอะ” โจวเจ๋อโบกมือและขี้เกียจพูดอะไร

เด็กหญิงตัวน้อยบอกว่าเขามีอิสระที่จะทำอะไรก็ได้ตามที่เขาต้องการตราบใดที่เขาทำตัวเป็นผู้ส่งดวงวิญญาณในบางครั้ง

อย่างไรก็ตามเธอไม่ได้บอกเขาว่าภายใน 1 เดือนจะต้องส่งวิญญาณพวกนี้ไปที่เส้นทางหวงเฉียนมากเท่าไหร่

“ น้องชายคุณกลับมาเป็นมนุษย์ได้อย่างไร” ผู้หญิงคนนั้นพูดด้วยความสงสัย

โจวเจ๋อขมวดคิ้วเล็กน้อยสายตาของเขาดุดันขึ้น ร่างกายของผู้หญิงคนนั้นสั่นเทาสองสามครั้งและเธอไม่กล้าพูดอีกต่อไป

หลังจากนั้นประมาณ 15 นาทีผู้หญิงคนนั้นก็หายไปจากร้านอย่างไร้ร่องรอย

หลังจากที่เธอจากไปโจวเจ๋อก็เดินไปพลิกม้านั่งที่ฝั่งตรงข้ามของเคาน์เตอร์เพื่อนั่งลง

“ ในที่สุดก็ทำงานชิ้นแรกสำเร็จสักที”

โจวเจ๋อถอนหายใจเขารู้สึกว่าอารมณ์ของตัวเองตอนนี้กำลังดีขึ้นเรื่อยๆ และคาดหวังว่าการช่วยเหลือผู้หญิงคนนี้อาจทำให้มีเรื่องอะไรดีๆเกิดขึ้นกับเขาก็ได้

ยังไงซะตอนนี้เขาก็ถือได้ว่าเป็นพนักงานของสวรรค์โดยตรง แล้วมีเหรอที่สวรรค์จะปล่อยให้เขาทำงานแบบฟรีๆ?

หลังจากคิดได้แบบนี้โจวเจ๋อก็เดินออกจากร้านหนังสือและหยิบบุหรี่ออกมาสูบ ซูชิงหลางก็เดินออกมาสูบบุหรี่เช่นกันดูเหมือนว่าเขาเพิ่งจะทำความสะอาดร้านเสร็จ

เขาเดินออกมาในชุดผ้ากันเปื้อน เขามองไปที่โจวเจ๋อแล้วก็นั่งยองๆข้างๆโจวเจ๋อพร้อมกับสูบบุหรี่ไปด้วย

ชายสองคนนั่งอยู่อย่างเหงาๆในค่ำคืนที่ไร้ผู้คน

“ เด็กผู้หญิงคนนั้นแม่ของเธอมารับแล้วเหรอ?” ซูชิงหลางถาม

“ เธอกลับไปแล้ว ลงไปข้างล่าง” โจวเจ๋อตอบ

“ โอ้ลงไป!” ซูชิงหลางถอนหายใจอย่างโล่งอก “ หลังจากลงไปแล้วคงเป็นเรื่องยากมากที่จะกลับมาอีก”

“ ฉันไม่รู้” โจวเจ๋อส่ายหัว

ดังที่เด็กหญิงตัวน้อยกล่าว โจวเจ๋อเดินอยู่ในถนนหวงเฉวียนแค่แป๊บเดียวดังนั้นเขาจึงไม่รู้จักนรกดีพอ

“ มันหน้าตาเป็นยังไง?” ซูชิงหลางถามพร้อมกับสูบบุหรี่เข้าไปคำใหญ่

“ ผมก็ไม่รู้มากนัก ผมอยู่ที่นั่นไม่นาน”

ไม่มีอะไรจะให้คุยกัน แต่เมื่อทั้งคู่กลับไปที่ร้านก็รู้สึกน่าเบื่อมากขึ้น หลังจากนั้นทั้งสองก็เดินออกมาสูบบุหรี่มวนที่ 2

“ แล้วภรรยาของพี่ล่ะ” ซูชิงหลางถาม

“แยกกันอยู่” โจวเจ๋อหน้ามุ่ย

“ เฮ้อ”

จากนั้นก็เกิดความเงียบอีกครั้ง

หลังจากนั้นพวกเขาก็หยิบบุหรี่ตัวที่สามออกมา

“ ฉันจะกลับบ้านเกิดสักพักแล้วฉันจะทำน้ำบ๊วยเปรี้ยวมาให้พี่ด้วย”

“ ขอบคุณ คุณไม่ใช่คนท้องถิ่นเหรอ?”

“ ฉันอยู่แถบทะเลนู่น” ซูชิงหลางตอบพร้อมกับชี้ไปทิศใต้

เมิ่งไห่เป็นมณฑลที่อยู่ด้านใต้ของตงเฉิง

“ ญาติคนหนึ่งของฉันแต่งงานพูดตามตรงฉันก็ไม่อยากไปหรอกนะ แต่ฉันไม่ไปไม่ได้ไม่ว่าจะอย่างไรพวกเราก็โตขึ้นมาด้วยกัน”

“ เขาอยากให้คุณเป็นเพื่อนเจ้าสาวหรือเปล่า” โจวเจ๋อเย้ยหยัน

“ ใช่เพื่อนเจ้าสาว…” ซูชิงหลางตอบออกมาแบบไม่คิดหลังจากนั้นเมื่อนึกขึ้นได้เขาก็มองไปที่โจวเจ๋อด้วยสายตาดุดัน

“ ผมเป็นผู้ชาย”

“ ในชีวิตก่อนคุณเคยแต่งงานหรือเปล่า” จู่ๆซูชิงหลางก็ถามขึ้น

“ ไม่” โจวเจ๋อตอบ

“ เทียบกับตอนนี้ที่มีภรรยาคุณรู้สึกว่าอะไรดีกว่ากัน”

“ เธอกำลังหมางเมินฉันอยู่”

โจวเจ๋อหยุดชั่วคราวไม่ดำเนินบทสนทนาต่อ

“ฉันมีชีวิตอยู่เพื่อพ่อแม่มาโดยตลอด ตอนนี้ฉันอยากจะค้นหาชีวิตของตัวเองบ้าง บางทีฉันอาจจะต้องเริ่มคุยกับผู้หญิงสักคน”

“ ……..” โจวเจ๋อมองเขาด้วยสายตาแปลกๆ

“ เฮ้ตอนนี้ฉันอายุยังน้อย สักวันหนึ่งฉันก็ต้องมีแฟนแล้วแต่งงานเหมือนคนอื่นๆ”

“ นายไม่ได้เป็นตุ๊ดเหรอ?” โจวเจ๋อถาม

“ เป็นตุ๊ดแล้วแต่งงานไม่ได้หรือไง? หุบปากไปเลยไม่งั้นพรุ่งนี้จะไม่มีอะไรกิน!”

โจวเจ๋อพยักหน้าและหุบปาก

“ ฉันกำลังวางแผนจัดงานแต่งงานแบบโบราณย้อนยุค ฉันไม่ต้องการรถหรูแต่จะเช่าเกี้ยวขนาดใหญ่เพื่อไปรับเจ้าสาวเหมือนกับในหนัง ส่วนฉันจะขี่ม้าอีกตัวนำหน้าขบวนในชุดฮั่นฝู บรรยากาศนั้นพี่เข้าใจใช่ไหม”

โจวเจ๋อยื่นมือและชี้ไปข้างหน้า

“ แบบนั้นหรือเปล่า”

ซูชิงหลางแข็งตัวชั่วขณะดวงตาของเขาหรี่ไปข้างหน้าและพูดว่า

“มันคืออะไร?”

“ คุณมองไม่เห็นเหรอ” โจวเจ๋อถาม

ใบหน้าของซูชิงหลางแข็งค้างและรีบวิ่งกลับเข้าไปในร้านทันที เขาล้วงบางสิ่งบางอย่างออกมาจากตู้พร้อมกับถูมันเข้าไปในตาของตัวเองก่อนจะวิ่งออกมาข้างนอก

ข้างหน้าของทั้งสองคนเป็นถนนร้างและมีเกี้ยวแปดเหลี่ยมสีแดงกำลังเดินมาทางนี้

มีชายคนหนึ่งถือเชือกสีแดงเดินนำหน้าเกี้ยวมงกุฎสีแดงที่มีลักษณะล้ำค่าสวมอยู่บนศีรษะของเขา คนแบกเกี้ยวทั้งแปดเคลื่อนไหวอย่างสม่ำเสมอ

เมื่อเดินไปข้างหน้าเก้าก้าวพวกเขาก็จะหยุดและเดินถอยหลังหนึ่งก้าวเสมอ

การเคลื่อนไหวของพวกเขาพร้อมเพียงและดูน่าสนุกสนาน

แต่การปรากฏตัวขึ้นอย่างกะทันหันในยามค่ำคืนอันเงียบสงบของพวกเขาก็เพียงพอที่จะทำให้ทุกคนที่พบเห็นต่างรู้สึกหวาดกลัวไปถึงข้างใน

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด