Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก – 66 – เธอไม่ใช่ภรรยาของคุณ

อ่านนิยายจีนเรื่อง Late Night Bookstore ร้านหนังสือยามดึก ตอนที่ 66 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

66 – เธอไม่ใช่ภรรยาของคุณ

แสงแดดยามเช้าทำให้ผู้คนรู้สึกอบอุ่นซูชิงหลางชงชาสักถ้วยและนั่งอาบแดดที่ประตูร้านพร้อมกับเก้าอี้โยก ขณะนี้ยังไม่มีใครสั่งมาซื้ออาหาร เขาจึงกำลังมีความสุขกับเวลาว่างของตัวเอง

ทันใดนั้นแท็กซี่คันหนึ่งก็จอดที่สี่แยกด้านหน้าโดยมีเด็กสาวมอปลายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ

เธอเป็นเด็กสาวที่มีใบหน้าสวยได้รูปเพียงแต่ว่าร่างกายของเธอดูอวบไปนิดนึงจึงทำให้เธอไม่สามารถเทียบกับพี่สาวได้

เมื่อหญิงสาวมาที่ประตูร้านหนังสือและเห็นว่าร้านยังไม่ได้เปิดเธอก็ยกเท้าเตะไปที่ประตูพร้อมกับตะโกนทันที

“ซูเล่อไอ้ลูกหมา ออกมาหาฉันเดี๋ยวนี้!”

แต่ไม่มีการตอบกลับ

ซูชิงหลางจิบชาแล้วพูดว่า

“เขาไปทำอะไรให้เธอโกรธแค้นเหรอ”

“พี่สาวฉันขอลาป่วยมาอาทิตย์กว่าแล้ว เธออยู่บ้านทุกวัน เธอแทบจะไม่กินอะไรเลย ต้องเป็นซูเล่อที่ทำให้พี่สาวฉันโกรธอีกแล้ว! วันนี้ยังไงเขาก็ต้องกลับบ้านแล้วไปขอโทษพี่สาวฉัน”

“พี่สาวเธอเหรอ?” ซูชิงหลางนึกถึงเหตุการณ์เมื่อคืน

“พี่สาวของเธอน่าจะเหนื่อยมากเมื่อคืนนี้”

“คุณหมายถึงอะไร?” น้องสะใภ้ตัวน้อยขมวดคิ้ว

“นี่ไม่ใช่เรื่องของเด็กน้อย รอให้เธอโตก่อนค่อยให้เพื่อนชายของเธอสอนให้” ซูชิงหลางวางท่าทางในการให้ความรู้แก่เด็กหญิงตัวน้อย

“คุณนี่แปลกจัง คุณวางท่าทางแบบนี้คิดว่าตัวเองวิเศษวิโสหน้าตาดีอย่างนั้นเหรอ! ไม่ใช่ว่าคุณเป็นตุ๊ดคนหนึ่งหรือไง?”

น้องภรรยาค้นกระเป๋าพร้อมกับหยิบบุหรี่ออกมาและจุดสูบ!

ซูชิงหลางมองเธอด้วยท่าทางตกตะลึงเล็กน้อย ไม่คิดว่าน้องภรรยาของโจวเจ๋อที่มีพี่สาวแสนดีอย่างนั้นจะทำตัวแก่แดดถึงขนาดนี้

“อย่าห่วงไปเลยพี่สาวของคุณกับซูเล่อยังคงมีความสัมพันธ์อันดีอย่างแน่นอน”

“หมายความว่าไง?”

“อย่าสนใจเรื่องนี้เลย มาให้ฉันแนะนำให้ หลังจากกลับไปเธอต้องไปบอกพี่สาวว่าคาเยนคันนั้นมีขนาดใหญ่กว่ามาเซราติ ครั้งหน้าพวกเขาควรจะทำบนคาเยนคันนั้นน่าจะสะดวกกว่า”

“มาเซราติ?” น้องภรรยาพูดด้วยความสงสัย

“ใช่ รถใหม่ของพี่สาวเธอไม่ใช่เหรอ”

“พี่สาวของฉันไม่ได้ออกจากบ้านมากว่าหนึ่งสัปดาห์แล้ว แล้วมาเซราติที่คุณว่ามันเรื่องอะไร”

น้องภรรยามองไปที่ซูชิงหลางอย่างลึกลับ จากนั้นราวกับคิดอะไรบางอย่างได้ เธอก็หันกลับมาเตะประตูร้านหนังสืออีกครั้งพร้อมกับตะโกน

“ซูเล่อ นายมีกินมีใช้ก็เพราะครอบครัวของฉัน แม้แต่ร้านหนังสือนี่ก็เป็นเงินจากพี่สาวของฉัน วันนี้นายปีกกล้าขาแข็งแล้วถึงได้ไปเกาะขาผู้หญิงรวยๆขี่รถมาเซราติอย่างนั้นเหรอ”

ปา!”

มีเสียงที่คมชัดดังมาจากข้างๆ น้องภรรยาตกใจสะดุ้งโหยง
เธอหันไปมองซูชิงหลางซึ่งนอนอยู่ข้างเธอบนเก้าอี้โยก

ถ้วยชาที่เขาจิบเมื่อสักครู่ตกลงพื้น

ซูชิงหลางอ้าปากค้างสีหน้าดูสยดสยองอย่างถึงที่สุด เขากระโดดลุกขึ้นมาจากเก้าอี้พร้อมกับเตะประตูร้านหนังสือและตะโกนอย่างคุ้มคลั่ง

“ตื่นได้แล้ว ถ้าคุณยังนอนอยู่อีกคืนนี้คุณจะตายอย่างแน่นอน!”

ไม่นานหลังจากที่ซูชิงหลางเตะประตู โจวเจ๋อก็เดินลงมาและเปิดประตูร้านหนังสือ หน้าผากของเขายังชุ่มไปด้วยเหงื่อดูเหมือนจะนอนหลับไม่สนิท

พูดตามตรงเขาเพิ่งตื่นแต่ไม่เกี่ยวกับการถูกปลุก ภาพสุดท้ายในความฝัน ผมสีดำที่พันรอบร่างกาย มันสามารถทำให้หนังศีรษะของโจวเจ๋อชาด้านไปหมด

“ซูเล่อ อธิบายมาเดี๋ยวนี้!” น้องภรรยาชี้มาที่หน้าของโจวเจ๋อ!

โจวเจ๋อพยักหน้าให้ซูชิงหลางและส่งสัญญาณให้ซูชิงหลางเข้ามา จากนั้นโจวเจ๋อก็ล็อกประตูร้านหนังสืออีกครั้ง

น้องภรรยาไม่อยากเชื่อเลยว่าพี่เขยไม่เอาไหนคนนั้นจะกล้าทำกับเธอแบบนี้!

เจ้าหญิงตัวน้อยมาที่นี่อย่างอารมณ์เสีย เธอต้องการให้พี่เขยไปปลอบใจพี่สาวของเธอ แต่หลังจากนั้นเธอก็ได้ยินเรื่องของรถมาเซราติจากซูชิงหลางมันยิ่งทำให้เธอโกรธแค้นขึ้นไปอีก

ตกลง นายคิดจะล็อคประตู ได้เชิญเลย!

น้องภรรยาก้มลงที่พื้นและหยิบเอาก้อนหินขนาดใหญ่ขึ้นมาตั้งใจจะทุบประตูกระจกร้าน แต่เมื่อเธอเงยหน้าขึ้นเธอก็มองเห็นดวงตาของโจวเจ๋อที่กำลังมองมา

ในเวลานี้มีรัศมีสีดำกระจายอยู่ภายในดวงตาของโจวเจ๋อ น้องภรรยาตัวน้อยตัวสั่นสะท้านและเดินเซถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว ฉากสยองในห้องน้ำคืนนั้นปรากฏขึ้นอีกครั้งในความคิดของเธอ

“ฝากไว้ก่อนเถอะ!”

น้องภรรยาตัวน้อยยังคงพยายามทำท่าทางดุร้ายก่อนจะรีบจากไปด้วยความตื่นตระหนก ในเวลาเดียวกันเธอยังคงบ่นอยู่ในใจว่าต้องบอกพ่อแม่ให้มาจัดการเรื่องนี้

ไม่คิดว่าเจ้าคนไม่ได้ความนี่จะแอบซ่อนผู้หญิงไว้อีกคนที่ข้างนอก!

…………

ในร้านหนังสือซูชิงหลางได้จัดระเบียบคำพูดของเขาและกลืนน้ำลายตั้งแต่เขาเข้ามา ในชีวิตของเขาเจอเรื่องราวแปลกประหลาดมาไม่น้อยแต่ในเวลานี้แววตาของเขายังเต็มไปด้วยความกลัว

เพราะในตอนนั้น เขารวมถึงไป๋อิ่งและโจวเจ๋อไม่มีใครเห็นถึงตัวตนที่แท้จริงของผู้หญิงคนนั้น!

มันน่ากลัวจริงๆ แค่คิดถึงมันขาของเขาก็สั่นสะท้านแล้ว!

ในตอนที่ดูวาไรตี้ในทีวีที่มีคนแต่งหน้าเป็นดาราเขารู้สึกว่ามันน่าสนใจมากและค่อนข้างชอบรายการแบบนี้

แต่หากในชีวิตจริงมีคนสามารถเปลี่ยนใบหน้าของตัวเองให้กลายเป็นคนในครอบครัวของคุณได้มิหนำซ้ำยังต้องการแทนที่คนเหล่านั้นคุณจะรู้สึกอย่างไร

มันคงเป็นอะไรที่แย่มาก!

“เมื่อคืนคนที่ขับรถมาเซราติไม่ใช่หมอหลิน ไม่ใช่ภรรยาของคุณ! ภรรยาของคุณไม่ได้ซื้อรถใหม่ หลังจากการสารภาพคืนนั้นของคุณ เธอยังไม่ได้ไปทำงานแม้แต่วันเดียว”

ซูชิงหลางในที่สุดก็พูดออกมา ดวงตาของโจวเจ๋อหดตัวลงเล็กน้อย เขาไม่ได้พูดอะไรแต่นั่งลงบนเก้าอี้หลังเคาน์เตอร์พร้อมกับสีหน้าครุ่นคิด

ในความฝัน ชายในเสื้อสเวตเตอร์จากเฉิงตูได้เตือนเขาแล้ว ดังนั้นแม้ว่าเขาจะประหลาดใจที่ได้ยินคำพูดของซูชิงหลางในตอนนี้ เขาก็ไม่ได้ประหลาดใจเกินไป

“คุณใจเย็นได้ยังไง” ซูชิงหลางมีสีหน้าแปลกๆ “คุณรู้หรือเปล่าว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร”

โจวเจ๋อส่ายหัว

“ตอนนั้นไม่รู้จริงๆนึกว่าเป็นหมอหลิน แต่พอมาคิดดูแล้วหลายๆอย่างมันไม่เข้าท่าเลย

จู่ๆเธอก็มาหาผมมิหนำซ้ำผมยังเกิดอารมณ์ขึ้นมาทันทีส่วนเธอก็ให้ความร่วมมือดีจนน่าเหลือเชื่อ พอมาคิดดูอีกทีมันไม่น่าจะเป็นไปได้จริงๆ”

“นั่นมันตัวอะไรกันแน่” ซูชิงหลางเม้มปากและถามอีกครั้ง “เป็นผีแบบไหน?”

“ผู้หญิงที่ระบำฝ่ามือในสระข้างถนนหวงเฉวียนในนรก เธอไม่มีหน้า” เมื่อมาถึงจุดนี้โจวเจ๋อก็รู้แจ้งในทันที

ผู้หญิงไร้หน้าที่ทำให้เขาหวาดกลัวคนนั้นเธอไม่มีใบหน้าของตัวเองแต่สามารถเปลี่ยนใบหน้าเป็นใครก็ได้!

นี่เป็นหนึ่งในมายากลเลื่องชื่อของจีน แท้ที่จริงแล้วมายากลชุดนี้ก็ได้แรงบันดาลใจมาจากสาวไร้หน้านั่นเอง!

“สาวไร้หน้า?” ซูชิงหลางขมวดคิ้ว “ดูเหมือนว่าเธอจะเกิดในราชวงศ์ชิง ว่ากันว่าเธอเป็นผีจากคนที่เสียชีวิตบนถนนหวงเฉียวเธอกำลังรอโอกาสที่จะสามารถเดินใต้ดวงอาทิตย์ได้อีกครั้ง”

“ตามที่คุณพูดนั่นแหละ” โจวเจ๋อพยักหน้าและกล่าวว่า “พยายามค้นหาเรื่องของเธอให้มากขึ้นอีกหน่อย”

“ฉันเคยอ่านเรื่องนี้นานมาแล้ว ต้องขอเวลาไปค้นหน่อย อ้อ คุณมีความสัมพันธ์กับผู้หญิงคนนั้นหรือเปล่า อย่างที่คุณพูดไป เธอมาหาคุณเพื่อยั่วยวนคุณใช่ไหม “

“ไม่” โจวเจ๋อส่ายหัวแล้วหยิบถ้วยน้ำใหม่ขึ้นมาจิบชาแล้วแสร้งทำเป็นรำลึกในเหตุการณ์เมื่อคืน “ในวินาทีสุดท้าย ผมสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติก่อน “

โจวเจ๋อไม่มีทางยอมรับว่าเหตุผลที่เขาไม่ได้มีอะไรกับผู้หญิงคนนั้นก็เพราะซูชิงหลางบอกเขาเกี่ยวกับเรื่องไร้สาระมากมายในบ่ายวันนั้น

เช่น หมวกสีเขียว DNA ของร่างกายซึ่งมันทำร้ายจิตใจของเขาเป็นอย่างมากจนไม่มีอารมณ์จะทำอะไร

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด