I Found A Planet – ตอนที่ 25 พ่อคน

อ่านนิยายจีนเรื่อง I Found A Planet ตอนที่ 25 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 25 พ่อคน
ณ อู่ซ่อมรถยนต์ เฉินจินเริ่มเรียนรู้ทักษะที่จำเป็นในการซ่อมรถยนต์
จากจ้าวซินเพื่อนของเขา
“ที่จริงแล้วชิ้นส่วนที่พังหลาย ๆ อย่างมันไม่ได้ซ่อมยากเย็นเท่าไร
มันก็แค่เปลี่ยนอะไหล่ใหม่ก็ทำให้รถกลับมาวิ่งได้แล้ว หรือบางครั้ง
มันก็มีเทคนิคง่าย ๆ บางอย่าง ตัวอย่างเช่นหินติดอยู่ในดอกยางทำ
ให้เกิดเสียงเสียดสีจนมันเกิดเสียงดัง แต่หินนั้นมันหลุดออกมายาก
วิธีที่ดีที่สุดเพื่อช่วยในการลดเสียงรบกวนไม่ใช่การเปลี่ยนยาง แต่
เพียงติดตั้งโฟมดูดเสียงในยาง มันจะช่วยแก้ปัญหานี้ได้ เมื่อเครื่องยนต์
รถยนต์สั่น หรือมีอาการสะท้านอย่างแรงเมื่อเริ่มสตาร์ทอาจเนื่องมาจาก
การขาดกำลังไฟจากกระบอกสูบเครื่องยนต์ที่ผิดพลาด สิ่งนี้เกิดจาก
การสะสมของคาร์บอนหรือระบบจุดระเบิดอายุการใช้งาน ต้องใช้
ความเร็วสูงหรือเปลี่ยนหัวเทียนเท่านั้น มันอาจยากตอนสตาร์ทรถ
ในช่วงฤดูหนาว ซึ่งมักเกิดจากแรงดันไฟฟ้าและแบตเตอรี่ต่ำ เตรียม
อ่างน้ำร้อนแล้วเทลงบนแบตเตอรี่เพื่อเพิ่มอุณหภูมิ เมื่อรถสตาร์ทให้
ขับรถไปที่ร้านซ่อมเพื่อตรวจสอบแบตเตอรี่ทันที”
ในตลอดการสอนจ้าวซินแทบจะไม่ได้ทำงานของเขาเลย เขาพยายาม
ถ่ายทอดประสบการณ์และเทคนิคมากมายของเขาให้กับเฉินจิน เฉิน
จินเองก็มุ่งมั่นและตั้งใจฟังเอามาก ๆ เขาผงกหัวของเขาซ้ำ ๆ รู้สึกว่า
เขาได้เรียนรู้อะไรมากมายจาการเรียนรู้ในครั้งนี้
ในระหว่างการเรียนเขาก็ยังตั้งคำถามขึ้นมามากมาย “จ้าวซิน นายคิด
ว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถมาแทนที่รถยนต์เบนซินได้ไหม?”
“อืม…ในปัจจุบันฉันยังไม่ชัวร์นะว่ามันจะแทนกันได้ เพราะใน
ปัจจุบันรถยนต์ไฟฟ้านั้นยังมีข้อด้อยมากกว่ารถยนต์เบนซินอยู่มาก
ในหลาย ๆ เรื่อง ฉันคิดว่ารถยนต์เบนซินน่าจะยังอยู่ต่อไปอีกอย่าง
น้อย 50 ปีถึงจะได้”
“แล้วนายไม่คิดว่าองค์ประกอบของรถยนต์ไฟฟ้ามันดีกว่ารถยนต์
เบนซินหรอ? มันสามารถขับเคลื่อนได้โดยไม่ต้องมีวงจรการไหล
ของน้ำมันที่ซับซ้อนและยังเป็นระบบเครื่องสันดาปแบบดั้งเดิม อีก
ทั้งกระปุกเกียร์ก็ไม่ใช่ของที่จำเป็นอีกต่อไป นอกจากนี้มันยังง่ายต่อ
การซ่อมแซมมากกว่ารถยนต์เบนซินและมีอัตราเร่งที่ดีกว่ามาก
ยกเว้นเรื่องของกระบวนการชาร์จไฟที่ค่อนยุ่งยากจุดอื่น ๆ ทั้งหมด
นี้น่าจะเป็นประโยชน์ของมัน”
จ้าวซินส่ายหัว “จริง ๆ แล้วฉันคิดว่ารถยนต์เป็นพาหนะที่ต้องถูก
ควบคุมความเร็วและจัดการความเร็วให้เหมาะสม ถึงแม้รถยนต์ไฟฟ้า
จะสะดวกสบายในการออกตัวและเร่งความเร็วได้ตลอดเวลา แต่
รถยนต์ไฟฟ้าก็ยังเสียเปรียบที่ขั้นตอนการชาร์จที่ช้าและไม่สามารถ
เดินทางต่อเนื่องเป็นระยะทางไกลได้ คนที่เข้าใจรถยนต์จริง ๆ จะไม่
ชอบรถยนต์ไฟฟ้าสักเท่าไร”
เฉินจินถามว่า “จะทำอย่างไรถ้าแบตเตอรี่รถยนต์ไฟฟ้ามีประสิทธิภาพ
สูงกว่าน้ำมันเบนซิน และยังจับคู่กับระบบการชาร์จที่รวดเร็วซึ่ง
สามารถส่งผลให้ชาร์จเต็มได้ภายใน 15 นาที นายคิดยังไงกับรถยนต์
ไฟฟ้าประเภทนั้นบ้าง”
จ้าวซินหยุดการเคลื่อนไหวของมือทันที หลังจากช่วงเวลาแห่งความ
เงียบงันเขาพูดว่า “มันคืออนาคต อนาคตที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันจะ
ล้าสมัยไป!”
เฉินจินถือประแจไว้ในมือแล้วพูดว่า “จ้าวซินพอจะมีใครที่ฉันจะ
ปรึกษาได้ในศูนย์แห่งนี้ไหมเกี่ยวกับการซ่อมรถไฟฟ้า? ฉันอยาก
เรียนรู้การซ่อมรถไฟฟ้าจากขา”
จ้าวซินรู้สึกประหลาดใจและมองเขาด้วยท่าทางแปลก ๆ “นายไม่คิด
ว่ารถยนต์ไฟฟ้าสามารถแทนที่รถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้จริง ๆ ใช่ไหม
อย่างที่ฉันบอกไปแล้วว่าต้องใช้เวลาอย่างน้อย 50 ปีถึงมันจะเกิดขึ้น
นอกจากนี้จำนวนรถยนต์ไฟฟ้าที่จดทะเบียนภายในประเทศของเรา
นั้นมีน้อยกว่า 1,000,000 คัน หากเรียนเรียนรู้การซ่อมแซมรถไฟฟ้า
อย่างเดียวนายอาจจะอดตายจากการไม่มีลูกค้ามาซ่อมรถของนายได้
นะ”
“ฉันไม่ต้องการหาเงินจากทักษะพวกนี้อยู่แล้ว ฉันแค่สนใจรถยนต์
ไฟฟ้าและต้องการที่จะเข้าใจมันมากกว่านี้” รถยนต์ทุกคันในดาว
ไฮเออร์แอลฟาเองก็วิ่งด้วยกระแสไฟฟ้า เห็นได้ชัดว่าทักษะการ
ซ่อมแซมรถที่ใช้น้ำมันเบนซินนั้นไม่จำเป็นสำหรับเฉินจินเลยเมื่อ
เขาต้องเข้าไปอยู่ในดาวไฮเออร์แอลฟา
จ้าวซินถึงกับโมโหนิดหน่อยเขาพูดว่า “โอเค หัวหน้าช่างซันเป็น
ผู้เชี่ยวชาญในการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้า นายไปเรียนรู้จากเขา ไป!” ใน
ใจจ้าวซินคิดว่าการซ่อมรถยนต์ไฟฟ้าเป็นกระบวนการที่ง่ายกว่า
หรือยังไง เฉินจินแกคิดอะไรอยู่กันแน่?
หัวหน้าช่างซันเป็นชายวัยกลางคน จ้าวซินพาเฉินจินไปที่โรงรถที่
อยู่ติดกันซึ่งมีการซ่อมแซมรถยนต์ไฟฟ้าเพื่อที่เขาจะได้เริ่มเรียนรู้
วิธีการซ่อมแซมพวกรถไฟฟ้าเหล่านี้

รถสปอร์ตสีแดงที่เต็มไปด้วยรอบขีดข่วนรอบรถ กันชนหน้ามีรอย
บุบลึกลงไปจนถึงตัวรถ
มันเหมือนกับว่ารถคันนี้พึงเบรคกะทันหันและไปชนกับรถข้างหน้า
กะทันหัน ตอนนี้รถสปอร์ตสีแดงลอยอยู่บนเครื่องยกไปครึ่งเมตร
และหยุดนิ่งต่อหน้าเฉินจินและจ้าวซิน ชายหนุ่มสวมเสื้อผ้าสไตล์
ฮิปฮอปและใบหูเต็มไปด้วยต่างหูก้าวออกจากรถ การแสดงออกของ
เขาเหมือนพวกจิ๊กโก๋ยุค 90 แต่ก็ดูตลกในคร่าวเดียวกัน
“เรื่องเดิม ๆ ซ่อมรถแข่งแชมป์เฟอร์รารี เมื่อวานฉันชนะอีกแล้ว พี่
ซิน ตั้งแต่พี่หยุดแข่งรถ ฉันก็ชนะการแข่งมาสามครั้งจนได้ฉายา
‘เรซคิง’ ” ขณะที่เขาพูดชายหนุ่มรีบวิ่งไปหาจ้าวซินผู้ซึ่งกำลังซ่อม
รถอย่างตั้งใจ
จ้าวซินเองก็ไม่ได้ว่าอะไรเขาในขณะที่เขายังคงมุ่งมั่นทำงานต่อไป
พนักงานของศูนย์ยานยนต์แห่งนี้ส่วนใหญ่นั้นเป็นผู้ชาย “พี่ซิน คุณ
จะลงแข่งเรซคิงครั้งใหม่นี้ใช่มั้ย”
“รางวัลสำหรับการชนะเรสคิงมันตั้ง 1,000,000 หยวนเลยนะ พี่
น่าจะเหมาะสมกับรางวัลนี้!”
พนักงานหญิงที่มีหน้าตาน่ารักเอนกายลงมา “พี่ซิงซิง ครั้งหน้าก็พา
ฉันไปบ้างนะ? ฉันสามารถเป็นตุ๊กตาหน้ารถให้พี่ได้อยู่นะ”
“พี่ซิงซิงผมเอง หวู่หลิงฮงกวง ผมต้องการเรียนรู้การแข่งรถจากพี่”
การแสดงออกเช่นนี้มาจากเหล่าาผู้คนที่กำลังยืนล้อมตัวเขาอยู่ ผู้ชาย
ที่ชื่อ “พี่ซิงซิง” สนุกกับสิ่งนี้มาก นั่งบนฝากระโปรงรถของเขาเขา
เริ่มคุยโว “มันไม่ใช่ปัญหาถ้าพวกนายอยากจะเรียนรู้วิธีการแข่งรถ
จากฉัน แต่ถ้าเธอต้องการที่มานั่งรถเจ้าลมกรดของฉันล่ะก็ ต้องให้
ฉันจูบเธอก่อน” เขาโน้มตัวเข้าหาพนักงานหญิงและจูบหวาน ๆ เมื่อ
มองอีกครั้งที่จ้าวซินที่ยังคงซ่อมรถยนต์อยู่ชายคนนั้นจึงเปล่งเสียง
ของเขาออกมาดัง “จริง ๆ แล้วถ้า พวกนายต้องการพูดถึงทักษะการ
แข่งของพี่ซินที่เคยเป็นแชมป์ก็ไม่มีปัญหา! แต่เนื่องจากเขาไม่ได้
แข่งรถบนถนนทางโค้งตัวเอสในการรายการแข่งขันการดริฟอีกแล้ว
พี่ซินนั้นเลิกแข่งไปสองสามเดือนแล้ว พี่ซินพี่ควรกลับไปแข่ง! ทุก
คนคิดถึงพี่มาก! เป็นไปไม่ได้ที่การจัดการแข่งขันนี้จะไม่มีพี่”
จ้าวซินนั้นเป็นนักแข่งรถใต้ดิน เขาเองรู้จักกับมืออาชีพมากมายใน
การแข่งรถ แม้แต่นักแข่งที่มาจากต่างประเทศที่พยายามหาเขา การ
แข่งขันในแต่ละครั้งมันน่าตื่นเต้นอย่างยิ่งและมันแถบจะทำให้อะดรี
นะลีนในร่างกายพุ่งออกมา
แต่ถ้าไม่มีจ้าวซินในการแข่งขันหลายรอบ ๆ ที่ผ่านมาก วงการแข่ง
รถใต้ดินมันก็เงียบลงภายในเวลาเพียงสามเดือนจนถึงจุดที่มีผู้เข้าร่วม
เหลือเพียง 10 คนหรือมากกว่านั้นที่แข่งกันเพื่อความสนุกสนานเท่านั้น
แม้แต่คนอย่าง “พี่ซิงซิง” ที่มีทักษะการขับธรรมดาก็สามารถคว้า
ตำแหน่ง “เรซคิง” ได้สามครั้ง ใคร ๆ จะนึกว่าวงการนี้จะซบเซาได้
ขนาดนี้
“ถังซิง นายช่วยหุบปากและหยุดชวนสามีของฉันไปทำอะไร ไร้สาระ
สักที” อยู่ดี ๆ ก็มีเสียงที่เต็มไปด้วยอารมณ์โมโหดังขึ้นมา คนที่ยืนมุง
กันอยู่ก็ได้แต่หันหน้าหนีและเดินออกจากวงกันไป ถังซิงเองก็ปิดปาก
ของเขาอย่างรวดเร็ว พนักงานแยกย้ายกันทันทีพวกเขากลับไปที่
ตำแหน่งหน้าที่ของเขาอย่างรวดเร็ว
เจ้านายหญิงมาแล้ว!
ถูกต้องแล้ว แม้ว่าจ้าวซินอายุแค่ 25 แต่เขาก็แต่งงานแล้ว นอกจากนี้
เขาแต่งงานทันทีหลังจากเรียนจบมหาวิทยาลัย จนถึงปัจจุบันเขา
แต่งงานมาเกือบสี่ปีแล้ว
ที่จริงแล้วมีจุดพีคของเรื่องนี้มีอยู่ว่า จ้าวซินมีแฟนขณะที่เขาเรียน
มหาวิทยาลัยและพวกเขารักกันมาก แฟนสาวของเขาก็สวยมากเช่นกัน
และเธอสวยระดับต้น ๆ ของมหาวิทยาลัย นอกจากนี้เธอมีบุคลิกที่ดี
พวกเขาทั้งสองเปรียบเหมือนคู่พระนางในละครและเป็นคู่รักที่น่า
อิจฉาในมหาวิทยาลัย ทันทีหลังจากสำเร็จการศึกษาทั้งคู่ตัดสินใจจด
ทะเบียนสมรสเพราะความรักที่ค่อนข้างลงตัว พวกเขาต้องการใช้
ชีวิตร่วมกันด้วยความหวานชื่นแห่งความรักและอยู่ด้วยกันตลอดไป
แต่ในที่สุดก็มีก็เกิดเรื่องขึ้นอยู่เล็กน้อย จ้าวซินไม่ได้แต่งงานกับ
แฟนสาวของเขา เจ้าสาวเปลี่ยนเป็นคนอื่น เป็นเพราะหลังจากรู้ว่า
เขามาจากครอบครัวที่ร่ำรวยมาก ทำให้สินสอดเจ้าสาวเพิ่มขึ้นใน
นาทีสุดท้าย ตอนแรกทางครอบครัวของแฟนสาวของเขาขอเงิน
สินสอด 500,000 หยวน และรถหนึ่งคัน ตอนนี้พวกเขาต้องการ
5,000,000 หยวน และบ้าน
เงิน 5,000,000 หยวนสำหรับพ่อแม่เป็นการแสดงความกตัญญูและ
บ้านสำหรับน้องชายของเธอที่จะใช้เป็นบ้านของเขาหลังจากที่เขา
แต่งงาน เมื่อเจอกับคำขอที่ไร้สาระเช่นนี้ คิดว่าเธอจะปฏิเสธในนาม
ของจ้าวซิน แต่เธอไม่ได้พูดอะไรออกมาเลย ในทางตรงกันข้ามเธอ
ยังพยายามเกลี้ยกล่อมจ้าวซินเพื่อให้ยอมรับความต้องการของพ่อแม่
ของเธอ เธออยู่ข้างพ่อแม่ของเธอและแสดงออกอย่างชัดเจนมาก
ในขณะนี้พิธีแต่งงานกำลังจะเริ่มขึ้น ครอบครัวของจ้าวซินกำลังเผชิญ
กับแขกและยังไม่เจอเจ้าสาว เหตุการณ์ในครั้งนั้นสร้างความไม่พอใจ
อย่างมากกับครอบครัวของจ้าวซิน ดูเหมือนว่ามันเป็นขายหน้าครั้ง
ใหญ่ของเขาเองและครอบครัว วินาทีกลายเป็นนาทีและครอบครัว
ของเจ้าสาวยังคงปฏิเสธที่จะต่อรองเรื่องสินสอด จ้าวซินไม่พอใจ
อย่างมาก ไม่ใช่ว่าเขาทนไม่ได้ที่จะให้เงิน 5,000,000 หยวน และ
บ้าน แต่เขาไม่สามารถทนต่อความโลภได้ วิธีที่ครอบครัวของเจ้าสาว
พยายามใช้ประโยชน์จากเขานั้นน่าเกลียดและน่าขยะแขยง!
ตอนนี้พวกเขาต้องการออกจากงานแต่งมาก ๆ ในเวลานั้นเฉินจินทำ
หน้าที่คนปรึกษาและคนแนะนำให้รู้จักหญิงสาวคนหนึ่ง มันทำให้
จ้าวซินตาสว่างขึ้นทันที “จางหนานอยู่แถว ๆ นี้ เธอแอบหลงรักนาย
มา 6 ปีแล้ว ทำไมนายไม่เรียกเธอมาแต่งงานด้วย เพื่อให้งานแต่งงาน
นี้เสร็จสิ้นสักที”
เฉินจินคุ้นเคยกับจางหนานและรู้ว่าเธอมีความรู้สึกดี ๆ ต่อจ้าวซิน
อยู่เสมอ มิฉะนั้นแล้วทำไมเธอถึงต้องสมัครเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย
สายอาชีพที่ด้อยกว่าเมื่อผลการเรียนของเธอติดอันดับท็อป 3 ของ
โรงเรียน?
“ไม่เป็นไรฉันไม่ต้องการผู้หญิงคนนี้อีกแล้ว ฉันอยากแต่งงานกับ
จางหนาน!” บ่ายวันนั้นก่อนที่จะเริ่มพิธีแต่งงาน จ้าวซินและเฉินจิน
ขับรถออกมาจากบ้านเจ้าสาวและไปที่บ้านของจางหนาน ที่นั่นพวก
เขาเห็นจางหนานกำลังร้องไห้อยู่
จ้าวซินคุกเข่าข้างหนึ่งแล้วยื่นแหวนเพชร เขามอบมันให้กับเธอและ
ถามว่า “จางหนานคุณจะแต่งงานกับผมไหม”
จางหนานตกตะลึงอย่างมาก หลังจากทำความเข้าใจกับสถานการณ์
เธอเริ่มร้องไห้ด้วยความปิติยินดีและตะโกนว่า “ได้ฉันจะแต่งงานกับ
คุณ!”
งานแต่งงานดำเนินไปอย่างราบรื่น หลังจากการแต่งงานสิ้นสุดลง
แฟนสาวและครอบครัวของเธอก็ได้รู้ความจริงที่ว่าเจ้าสาวเป็นผู้หญิง
อีกคน เมื่อถึงจุดนั้นพวกเขาก็เริ่มกรีดร้องขึ้นในขณะที่ครอบครัว
ของเจ้าสาวเองถึงกับช๊อค ทั้งครอบครัวทำตัวราวกับว่าพวกเขาป่ วย
เป็นโรคจิต พวกเขาเหล่านั้นทำได้แต่หัวเราะเพียงเท่านั้น
และจางหนานก็ได้แต่งงานกับจ้าวซินในฐานะสามีและภรรยา เธอ
แต่งงานกับความรักที่เธอต้องการมากที่สุด ไม่ต้องสงสัยเลยว่าจาง
หนานรู้สึกขอบคุณเฉินจินอย่างมากที่ได้พยายามอย่างมากในการทำ
ให้เธอได้แต่งงานกับสามีของเธอทั้งหมดนี้ เธอให้ซองสีแดงมูลค่า
50,000 หยวน ซึ่งเป็นซองที่ใหญ่ที่สุด ในเวลาปกติเธอจะพบกับเฉิน
จินเธอก็จะมารยาทดีและพยายามทำตัวดีกับเฉินจินเช่นกัน เมื่อพบว่า
เฉินจินอยู่ในอู่ซ่อมรถจางหนานก็มาทักทายเขา “เฮ้ เฉินจิน นายมา
ทำอะไรที่นี่”
เฉินจินถือประแจด้วยมือที่เต็มไปด้วยน้ำมันเครื่องเช็ดเหงื่อบนหัว
ของเขาและตอบว่า “โอ้พี่สาว ก่อนหน้านี้ฉันสนใจเรื่องการซ่อมรถ
นะ เลยมาขอเรียนรู้เพิ่มเติมที่นี้”
จางหนานพูดพร้อมกับยิ้มว่า “เอาล่ะ พักก่อน ไปทานอาหารกลางวัน
กันฉันจะแสดงฝีมือการทำอาหารของฉันให้ดู”
ถึงแม้เธอจะดูเป็นผู้หญิงธรรมดา อย่างไรก็ตามรอยยิ้มของเธอน่า
ดึงดูดใจมาก มันทำให้เธอรู้สึกไม่ถือตัว ตามที่จ้าวซินเคยบอก อาหาร
ของเธออร่อยมาก เทียบแล้วพอกับเชฟชั้นนำของประเทศ
“อืม” เฉินจินพยักหน้า หลังจากคุยกันซักพักเขาก็อดไม่ได้ที่จะถาม
คำถามของเขาว่า “พี่สาว ฉันได้ยินจากคนที่นั่นว่าจ้าวซินไม่ได้แข่ง
รถมาสามเดือนแล้ว เขาไม่ได้ใช้ทักษะการดัดแปลงรถของเขาเพื่อ
การแข่งรถหรอ? ทำไมเขาไม่ลงไปแข่งรถเลยล่ะ” ปกติจ้าวซินนั้น
ชอบแข่งรถจะตาย ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไป?
“อืม…” จางหนานเขิน ขณะที่เธอกำลังจะพูด ทันใดนั้นเธอกุมท้อง
แน่น
เฉินจินดูเหมือนจะเข้าใจอะไรบางอย่าง “พี่สาว, คุณ…”
เธอพยักหน้าตอบว่า “สามเดือนแล้ว จ้าวซิน…กำลังจะเป็นพ่อคน”
เมื่อริมฝีปากของเธอยิ้มเธอแก้มของเธอก็แดงอย่างมีความสุข
“อ๋อ มันเป็นอย่างงี้นี้เอง” เฉินจินเข้าใจทันที

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด