I Found A Planet – ตอนที่ 38
38 กลไกระดับอะตอม
ในต่อมาในช่วงพักเที่ยงในแผนกการผลิตของบริษัท Commercial Aircraft Corporation เฉินกังพยายามแก้ไขปริศนาของเขาอยู่
“ ระวังหน่อยนะช่างเจิ้ง! มันเป็นของขวัญจากลูกชายของผม อย่าทำให้มันเสียล่ะ” เฉินกังยืนอยู่ใกล้กับห้องปฏิบัติการเตือนให้ช่างคนหนึ่ง รู้ว่านาฬิกานี้มีความสำคัญอย่างไรแม้ว่าจะเป็นเพียงแค่นาฬิการาคา 12 หยวนก็ตาม
“ ฉันเข้าใจแล้ว หยุดกระวนกระวายสักที่ ฉันเป็นช่างที่เก่งที่สุดในเมืองนี้เลยนะ ฉันรู้ว่าฉันกำลังทำอะไรอยู่ แต่ถ้านายคิดไม่ไว้ใจฉัน ก็หาคนอื่นมาทำแทน” ช่างเจิ้งวางไขควงลงแล้วมองที่เฉินกังจากหางตาของเขา ดูเหมือนเขาจะไม่พอใจและกำลังโมโหที่เฉินกังเข้ามาสั่งนู้นนี้นั้นกับเขา เขานั้นเป็นช่างเทคนิคที่ดีที่สุดและอาวุโสที่สุดในภาควิชาออกแบบและพัฒนาอุปกรณ์ชุดล้อทุกคนเชื่อฟังเขาและทำตามที่เขาพูดแม้ว่าเขาจะมาจากครอบครัวที่ยากจนและจบไม่สูงมาก แม้แต่หัวหน้านักออกแบบในแผนกก็ยังต้องเรียกเขาว่า“ พี่เจิ้งเหอ” ทุกครั้งที่เห็นเขา
ช่างเจิ้งเหอคิดว่ารองประธานของบริษัท อย่างเฉินกังเป็นคนมีความรู้เลยตกลงที่จะช่วยเฉินกังไขปริศนา เมื่อเฉินกังมาขอให้เขาช่วยก่อหน้านี้หนึ่งวัน แต่ใครจะรู้ว่ามันกับยุ่งยากกว่าที่เขาคิด?
“ ผมขอโทษจริง ช่างเจิ้ง ผมจะยืนอยู่ห่างๆและปล่อยให้คุณได้ลองแก้ไขมันดู” เฉินกังขอโทษอย่างรวดเร็ว ความจริงก็คือเขาไม่สามารถทำงานนี้ด้วยตัวเองได้ จริงๆแล้วเฉินกังเองก็สามารถทำงานนี้ได้อยู่ แต่สายตาของเขานั้นแย่ลงด้วยวัยที่เพิ่มมากขึ้นอีกทั้งนาฬิกาเรือนนี้มีสกรูยึดแปดตัวรอบ ๆ นาฬิกาที่เล็กมาก เล็กกว่าเส้นผมและอยากที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ เขาไม่มีทางเลือกนอกจากขอความช่วยเหลือจากช่างเจิ้งซึ่งเป็นมือดีที่สุดในฝ่ายผลิตไอรีนโนเวล
เมื่อเห็นว่าเฉินกังได้ออกไปยืนเงียบๆ ช่างเจิ้งก็สบายใจขึ้น เขาหยิบไขควงที่เล็กที่สุดและเริ่มคลายเกลียวนาฬิกา ด้านหน้าเขาอย่างระมัดระวังพยายามที่จะดูโครงสร้างที่ซับซ้อนและการออกแบบด้านใน
มันทำให้เฉินกังถึงกับกลั้นหายใจขณะที่เขากำลังสังเกตการทำงานของช่างเจิ้ง ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความเบิกบานใจ อย่างไรก็ตามสภาพจิตใจของเขาไม่สอดคล้องกับใบหน้าของเขา ด้านในของเฉินกังนั้นเต็มไปด้วยความกังวลมากมาย
ความจริง…จะถูกเปิดเผยในไม่ช้า
เขายังไม่อยากเชื่อว่านาฬิกาเช่นนี้จะราคา 12 หยวน เพราะตั้งแต่เขาได้รับมันมาจากลูกชายของเขาเมือสองเดือนที่แล้ว นาฬิกาเลื่อนนี้ไม่เคยหยุดเดินอีกทั้งเวลายังเดินเที่ยงตรงมาก ไม่มีการเบี่ยงเบนของเวลาเลยสักครั้ง! มันทำงานเหมือนกับนาฬิกาดิจิตอลที่ต้องใส่ถ่าน แต่นี้มันนาฬิกาออโต้เมติกเชิงกลที่จำเป็นต้องใส่มันอยู่ตลอดเวลาถึงเวลาจะเดินได้เที่ยงตรง! แต่ถึงกระนั้นมันก็มีโอกาสทำให้เวลาขาดเคลื่อนได้
ตัวอย่างเช่น โรเล็ก เป็นแบรนด์นาฬิกาเชิงกลที่มีชื่อเสียงระดับโลกมีความเบี่ยงเบนของเวลาอยู่ที่± 30 วินาทีในทุก ๆ 24 ชั่วโมง ลองจิน แบรนด์นาฬิกาหรูระดับสูงที่สุดในสวิตเซอร์แลนด์ซึ่งส่วนใหญ่ผลิตและออกแบบตามความต้องการของลูกค้า เมื่อสังเกตดูผู้ผลิตนาฬิกาชั้นนำต่างมีทำนาฬิกาที่มีการเบี่ยงเบนเวลาอย่างน้อย ก็สองนาทีต่อเดือน
แต่แบรนด์นาฬิกาที่ได้รับการยอมรับในระดับสากลเหล่านี้ก็ไม่ได้มีอะไรเทียบกับนาฬิการาคา 12 หยวน ที่เฉินกังได้รับมาจากลูกชายเขาเลย เพราะต้องนี้เขาสังเกตว่านาฬิกาของเขาไม่มีเวลาคาดเคลื่อนเลยแม้หลังจากผ่านไปสองเดือน! ในความเป็นจริงเขาสังเกตเห็นบางสิ่งที่แปลกเกี่ยวกับนาฬิกา เพราะมันมีความแม่นยำสูงนี้ในช่วงสองสัปดาห์แรก แต่เขาไม่ได้สนใจอะไรมากในตอนแรก
นั่นคือจนกระทั่งอีกหนึ่งเดือนต่อมาเมื่อนาฬิกายังคงเดินได้ตรงแม่นยำอย่างสมบูรณ์ จากนั้นในที่สุดเขาก็เอาจริงเอาจังและรู้ว่ามันผิดวิสัยของนาฬิกาที่ใช้กลไกในการเดินเวลาของนาฬิกา ความอยากรู้อยากเห็นภายในตัวเฉินกังยิ่งมากขึ้นทุกที่ในเดือนถัดมาทำให้เขาตัดสินใจที่จะตรวจสอบและดูว่าการทำงานของนาฬิกานี้เป็นอย่างไร
ในฐานะที่เป็นช่างเทคนิคอาวุโสในการออกแบบและพัฒนาชุดล้อ“ ทำไมนาฬิกาเลื่อนนี้ถึงมีความแม่ยำเช่นนี้” นี่น่าจะเป็นคำที่แสดงถึงข้อสงสัยของเฉินกังได้ นอกจากนั้นอาชีพของเขายังช่วยให้เขาพัฒนาความสามารถในการใส่ใจในรายละเอียดซึ่งทำให้เฉินกังนั้นเป็นคนที่คล่องแคล่ว อีกทั้งเป็นคนที่เน้นความถูกต้องและแม่นยำมาก
ตอนนี้เขาตรวจสอบเวลาบนนาฬิกาทุกวัน …
ทำให้ช่วงเดือนที่ผ่านมาเขาดูเหนื่อยๆเพราะเฉินกังใช้เวลาทั้งหมดไปกับการจ้องนาฬิกา! ตอนนี้ถึงเวลาที่เขาจะต้องเลิกพฤติกรรมพวกนี้แล้วและค้นหาว่าเกิดอะไรขึ้นกับนาฬิกาหลังจากที่เอาฝาหลังออกมา!
ความสามารถในการส่องกล้องเล็กของช่างเทคนิคเจิ้งเหอจริงๆคือสุดยอด สองชั่วโมงต่อมาสกรูทั้งหมดที่อยู่รอบ ๆ นาฬิกาถูกคลายเกลียวออก ฝาหลังคาร์บอนไฟเบอร์เปิดออกอย่างช้าๆ ด้านหน้าของเฉินก๊วนและช่างเทคนิคเจิ้งเป็นสีสดใสของการเคลื่อนไหวล้อเฟืองและมันดูสมดุลมาก ด้านในมีแสงที่ส่องสว่างพุ่งขึ้นมาบนใบหน้าของพวกเขาด้วยจากแสงสะท้อนสีเงินไอรีนโนเวล
ช่างเจิ้งถึงกับตะลึง “ ฉัน…ตอนนี้ฉันบอกว่ามีส่วนประกอบอย่างน้อย 10,000 ชิ้นในนาฬิกาเรือนนี้!” มีชิ้นส่วนเล็ก ๆ หลายชิ้นที่สามารถมองเห็นได้ในกล้องจุลทรรศน์ระดับอุตสาหกรรมเท่านั้น
ด้วยความช่วยเหลือของกล้องจุลทรรศน์ตอนนี้ชิ้นส่วนที่ไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า มันดูเหมือนโรงงานที่พนักงานกำลังทำงานกันยุ่งมากซึ่งล้อเฟืองทั้งหมดทำงานร่วมกันอย่างกลมกลืน
ทันใดนั้นหลังจากอุปกรณ์ที่ไม่เหมือนใครและชัดเจนซึ่งมีขนาดเท่านิ้วหัวแม่มือเฉินกันก็เห็นด้วยตาของเขาเอง มันน่าทึ่งและเฉินกังก็ได้รับคำตอบว่าทำไมนาฬิกาเกรดก็อปที่ลูกเขาซื้อให้ จึงมีความแม่นยำอย่างไม่น่าเชื่อเช่นนี้
“ นาฬิกาอะตอมมิค! ฉันเขาใจแล้วนาฬิกาเรือนนี้มันมีกลไกในระดับอะตอมทำให้นาฬิกานั้นมีความแม่นยำสูงมาก!”
ในหน้าจอแสดงผลมันมีชิ้นส่วนขนาดเล็กเท่ากับเม็ดข้าวบนพื้นผิวของนาฬิกาอะตอม บนหน้าจอมีจำนวนบรรทัดยาว: 9192601770 ซึ่งระบุจำนวนครั้งที่อะตอมของซีเซียมสั่นสะเทือนต่อวินาทีประมาณการคำนวณเวลาเบี่ยงเบนของนาฬิกาอะตอมซึ่งน้อยกว่าหนึ่งวินาทีใน 100,000 ปี
“ นี่เป็นสิ่งที่ไม่น่าจะมีได้ในโลกแห่งนี้!” เฉินกังส่ายหัวอย่างรุนแรง “ เป็นไปได้อย่างไรที่นาฬิกาอะตอมอย่างงั้นหรอ? แม้แต่กล่องที่เล็กที่สุดในโลกก็คือที่สามารถส่องกลไกในกล่องดนตรีได้ลงไปอีกสิบเท่ายังไม่สามารถมองเห็นกลไกด้านในได้ทั้งหมด!แล้วคงไม่มีกล้องจุลทรรศ์ใดในโลกสามารถมองเห็นกลไกในนาฬิกาเรือนนี้ได้”
ช่างเทคนิคเจิ้งก็ตกตะลึงอย่างมาก เขาพึมพำกับตัวเองพร้อมกับมือที่สั่น “ นี้มันอาจมาจากแถวๆประเทศตะวันตกก็ได้ มันจะเป็นไปได้ยังไงกัน เราได้ใช้เวลา 30-40 ปีในการทำงานทั้งวันทั้งคืน เพื่อแข่งขันกับพวกนี้ นี่หมายความว่าเรายังคงต้องใช้เวลาอีก 30 ปีกว่าจะถึงความเป็นไปได้ในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูงมีที่มาจากประเทศแถบตะวันตกมีอยู่แล้ว” ปัญหาคือช่างเทคนิคเจิ้งอายุ 60 ปีแล้ว เขาจะเป็นอย่างไรเมื่อประเทศของเขาเอาชนะประเทศที่เหลือได้? ปรากฎว่าช่างเจิ้งคิดว่าตัวอักษรภาษาอังกฤษบนนาฬิกาหมายความว่ามันเป็นผลงานชิ้นเอกนี้มาจากโลกตะวันตก ซึ่งหมายความว่าช่องว่างขนาดใหญ่ในการพัฒนาระหว่างประเทศของเขาและประเทศตะวันตกจะอยู่ห่างกันมากขึ้นในเวลาอันใกล้นี้
แต่อย่างไรก็ดี ช่วงเวลานี้เป็นช่วงเวลาที่เหมาะสม พวกเขาเป็นเพียงสองคนที่กำลังมึนงงกับสิ่งนี้และดูสับสนเป็นอย่างมาก สำหรับเฉินแก๊งกัน เรื่องนี้ทำให้เขาสับสนและประหลาดใจถึงที่สุด เขาแปลกใจว่านาฬิการาคา 12 หยวน จากร้านข้างทางมันมีเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำขนาดนี้เลยหรอ …
“ แสดงว่ามันต้องมีนาฬิกาเลื่อนนี้มากกว่า 1 เรือน ! เป็นไปได้ที่ฉันอาจจะหาเรือนที่สองเรือนที่สามเจอ…จากนั้นฉันจะสามารถเข้าใจเทคโนโลยีที่อยู่เบื้องหลังนาฬิกาขั้นสูงนี้ได้!”
เมื่อรู้ว่าสิ่งนี้มีค่าเหลือเกินเฉินกังก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและโทรออก
“ อย่างงั้นผมต้องโทรหาลูกชายของผมและถามว่าคนขายนาฬิกาเรือนนี้อยู่ที่ไหนกัน!”
…
ที่สำนักบริหารอุตสาหกรรมและการพาณิชย์โดยมีเพียงโทรศัพท์จากแม่ของเฉินจินผู้คนในสำนักงานสามารถประมวลผลเอกสารของเขาได้อย่างมีประสิทธิภาพไอรีนโนเวล โดยปกติขั้นตอนจะใช้เวลาสามวันทำการ แต่เฉินจินจะได้รับใบอนุญาตของเขาภายในหนึ่งวัน
ผู้อำนวยการคนหนึ่งเป็นเป็นเพื่อนของแม่ของเฉินจินเธอชื่อ ดงเหล่ย อายุ 40 ปี เป็นผู้หญิงวัยกลางคนที่มีเสน่ห์ ผู้อำนวยการหญิงคนนี้ช่างพูดเก่งและดูน่าหลงใหล เธอถามคำถามสองสามข้อในขณะที่จัดการกับเอกสารของเฉินจิน:
“ หลานเฉิน อะไรที่อยากทำให้หลานตัดสินใจเปิดร้านขายเครื่องประดับกัน?
“ หลานเปิดร้านนี้เพียงตัวคนเดียวใช่ไหม? มันเป็นร้านค้าขนาดใหญ่และเป็นธุรกิจแรกของหลาน หลานแน่ใจหรือว่าหลานสามารถทำมันได้
“ ครอบครัวของหลานได้ช่วยเหลืออะไรบางไหม”
เฉินจินตอบคำถามทั้งหมดของเธอทีละคน เขาบอกว่าเขาเริ่มต้นร้านขายเครื่องประดับด้วยตัวเอง ใช่แล้วและเขามีเงินมากมายในการเปิดกิจการโดยไม่ต้องขอเงินจากพ่อแม่ของเขาเลย เขายังจ้างคนมาจัดการร้าน มันเป็นความจริงที่เขาไม่ได้รู้อะไรมากมายเกี่ยวกับอุตสาหกรรม แต่เขาก็เต็มใจที่จะเรียนรู้จากคนที่ทำเพื่อให้บรรลุเป้าหมายของเขา!
ดงเหล่ยพยักหน้า ด้วยทัศนคติและความมั่นใจของเด็กตรงหน้า เธอรู้ว่าเธอพูดถูก! ! เขาค่อนข้างเป็นชายหนุ่มที่มีความคิดแผนและความทะเยอทะยาน แน่นอนว่าเขาไม่เก่งด้านวิชาการ แต่เขาก็มีความสุภาพและเป็นระเบียบ เขาสร้างความประทับใจที่ดีมากเมื่อเทียบกับชายหนุ่มคนอื่นๆจากครอบครัวที่ร่ำรวยที่มีใบรับรองผลการเรียนดีเยี่ยมและเฉินจินเองก็มีหน้าตาที่มีเสน่ห์น่าดึงดูด
ยิ่งกว่านั้นเขาไม่โอ้อวดเกี่ยวกับตัวเองหรือดื่มด่ำกับการพูดคุยที่คิดว่าตัวเองเก่งกว่าคนอื่นมีมากกว่าคนอื่น และยังมีแผนในการแก้ไขเมื่อมันจะมีปัญหาเกิดขึ้นในอนาคต เขานั้นเหมาะสมและพร้อมที่จะทำธุรกิจจริงๆ
ดงเหล่ยชอบเขาจริงๆ แต่เธอก็สับสนในเวลาเดียวกัน เขาเป็นเด็กผู้ชายที่ติดแม่จริงๆหรอ? ต้องมีความเข้าใจผิดระหว่างหลินหลินกับเขาบ้าง ผู้หญิงที่ฉลาดอย่างผู้อำนวยการ เธอจะไม่เลี้ยงลูกชายแบบนั้นใช่ไหม ต้องมีความเข้าใจผิดบางอย่างๆแน่นอน!
ดงเหลี่ยเคยไปที่นั่นทำอย่างนั้น; เธอรู้ว่าความประทับใจแรกไม่น่าเชื่อถือเสมอเมื่อมาถึงการออกเดท มันไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะทุกอย่างในวันเดียว เมื่อเธอมาเจอเฉินจินกับตัว เธอก็ตัดสินใจว่าเฉินจินนั้นดีพอสำหรับลูกสาวของเธอ …
หลังจากที่ใบอนุญาตของเฉินจินได้รับการอนุมัติดงเหล่ยก็ส่งมันให้กัลเฉินจินหยิบโทรศัพท์ของเธอออกมาแล้วพูดว่า“ นี่หลานเฉิน น้าขอเพิ่มหลานในวีแชทได้ไหมเผื่อว่าจะได้ติดต่อกัน ถ้าหลานต้องการความช่วยเหลือ”
เฉินจินรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง “ ขอบคุณมากคุณน้ามากครับ ผมขอบคุณมากจริง! ให้ผมพาน้าไปทานอาหารค่ำในวันนี้นะครับ! “
“ยินดีมาก. หลานทำดีแล้วทำต่อไป. ขอให้โชคดี.” ดงเหล่ยยิ้ม
“ เจอกันใหม่นะครับคุณน้า ผมขอตัวก่อน” จากนั้นเฉินจินก็เอาใบอนุญาตใส่กระเป๋าเอกสารของเขาอย่างจริงจังเดินออกจากสำนักงานพร้อมกับยิ้มกว้างบนใบหน้าของเขา
กริ๊ง กริ๊ง!
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น มันเป็นเบอร์พ่อของเขา
“ ลูกมาที่ออฟฟิศของพ่อหน่อยได้ไหม? พ่อมีสิ่งสำคัญที่จะต้องถามลูก รีบหน่อยนะ”
คอมเม้นต์