I Found A Planet – ตอนที่ 54

อ่านนิยายจีนเรื่อง I Found A Planet ตอนที่ 54 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

54 ฉันค้นพบฐานทัพทหาร

การที่เฉินจินตัดสินใจจ้างมืออาชีพให้มาทำงานด้านเทคโนโลยีถือว่าเป็นเรื่องที่ดีมากเพราะการพัฒนาหุ่นยนต์นั้นเป็นงานที่ซับซ้อน ซึ่งมันต้องใช้ความเชียวชาญด้านการจัดการแผงวงจรไฟฟ้าต่างๆ และเกี่ยวข้องกับพวกชิปที่มีชิ้นส่วนเล็กๆสำหรับการผลิตและการควบคุมหุ่นยนตร์การผลิตแบบไร้สาย เป็นต้น ตัดภาพมาที่เฉินจินเองก็เป็นเพียงคนธรรมดาที่ไม่ได้เข้าใจอะไรลึกซึ้งมากเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้มากนัก เขามีเพียงความรู้พื้นฐานเพียงเล็กน้อยเท่านั้น แน่นอนว่าถึงแม้เข้าจะเคยเรียนเรื่องเหล่านี้มาก็แต่เหมือนวัยรุ่นทั่วไปที่หลังเรียนจบความรู้ทั้งหมดที่เฉินจินมีก็ได้คืนอาจารย์ที่สอนเขาไปจนหมดแล้ว แต่อย่างไรก็ตามเฉินจินเองก็สามารถกับมารื้อฟื้นความรู้เหล่านี้ได้ แต่อาจจะต้องใช้เวลาหลายปีกว่าเขาจะกลายเป็นมืออาชีพด้านนี้

และถือว่าโชคยังดีทีมทำงานของเฉินจินส่วนใหญ่นั้นมีประสบการณ์ไม่น้อยกว่า 6 ปีสำหรับการสร้างหุ่นยนตร์ทั้งนั้น พวกเขาได้สร้างหุ่นยนต์หลายร้อยตัวตั้งแต่เรียนสมัยมัธยมจนถึงมหาวิทยาลัยรวมไปพวกเขาซ่อมแซมหุ่นยนตร์มานับไม่ถ้วน แต่ละคนนั้นมีความเก่งในด้านต่างๆแต่ต่างกันซึ่งเป็นความพิเศษในแต่ละด้าน เช่น กัปตันซู่ยงจี้เก่งในการเขียนโปรแกรมสำหรับอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์เขาสามารถดูแลระบบได้เกือบทุกขั้นตอนของกระบวนการการเขียนโปรแกรม; รองกัปตันโจวคุนเองก็เป็นระดับท๊อปแวววง ด้านวงจรไฟฟ้ากระแสตรงและกระแสสลับซึ่งถือเป็นยอดฝีมือในการจัดการระบบวงจร เขาเองยังมีความสามารถครอบคลุมทุกสิ่งที่จำเป็นต้องทำบนเมนบอร์ดทั้งหมดของหุ่นยนตร์ หรือ ระบบอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภท วูเล่ยซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญในการใช้งานเครื่องจักร เช่นเครื่องมือเครื่องจักรซีเอ็นซีเครื่องมือเครื่องกดและอื่น ๆ รับผิดชอบการผลิตชิ้นส่วนที่จำเป็นทั้งหมด จางซีเหว่ย เป็นสมาชิกที่มีค่าของทีม เพราะเขาเป็นคนที่เก่งที่สุดในการดัดแปลงหุ่นยนต์ และเทสเตอร์(ฝ่ายตรวจสอบคุณภาพ) ที่ยอดเยี่ยม สมาชิกหญิงสองคนที่เหลือร คนแรกเป็นยอดฝีมือในการออกแบบพิมพ์เขียวและแผนภาพวงจรในขณะที่ อีกคนเก่งในการเข้ารหัสการสื่อสาร(การเขียนโค๊ต)และ ตั้งค่าไฟล์วอร์สำหรับการป้องการความปลอดภัยของข้อมูล

ในช่วงเวลาสั้นๆนี้ ทุกคนในทีมล้วนมีบทบาทสำคัญในการขับเคลื่อนโครงการที่เฉินจินวางไว้ การตัดสินใจในการพัฒนาโครงการ ทำให้ทุกคนมีส่วนร่วมอย่างเต็มที่ในงานที่พวกเขาได้มอบหมายเพื่อตอบสนองความต้องการและให้บรรลุผลถึงป้าหมายของโครงการที่เฉินจินได้วางแผนไว้ทั้งหมด

สำหรับเฉินจินเอง เขาไม่เคยขอให้ใครต้องมาทำงานล่วงเวลา แต่ทีมทำงานกับยังฝังตัวอยู่ในที่โรงงานเอง โดยเฉลี่ยพวกเขาจะทำงาน 11 ชั่วโมงต่อวัน หกครึ่งวันต่อสัปดาห์ เพราะสำหรับพวกเขาการพัฒนาหุ่นยนต์ก็เหมือนกับการประดิษฐ์ของเล่น กระบวนการนี้อาจท้าทายและต้องใช้เวลา รวมถึงความพยายามเป็นอย่างมาก แต่มันก็สนุกและทำให้พวกเขามีความสุขได้ ถึงแม้ภาระงานจะหนักมาก แต่มันก็น่าพอใจ ไม่มีงานอื่นที่จะทำให้พวกเขาประสบความสำเร็จและมีความสุขในงานได้ขนาดนี้อีกแล้ว

ในฐานะเจ้าของบริษัทเฉินจินเองก็ได้มีการพูดคุยสร้างความสัมพันธ์กับทีมเพื่อไม่ให้พวกเขาเกิดความเครียดมากจนเกินไปอีกทั้งมันช่วยให้เฉินจินได้รับรู้กระบวนการต่าง เฉินจินตั้งใจเรียนรู้เหมือนฟองน้ำดูดซับความรู้มากมายขณะที่เขาทำงานกับทีม ตัวอย่างเช่นเขาได้เรียนรู้จากซู่ยงจี้ เกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมฮาร์ดแวร์และเฉินจินพยายามเขียนโค้ดสองสามบรรทัดซึ่งทำให้เขามีความเข้าใจในการคำนวณอย่างลึกซึ้ง นอกจากนั้นเขายังได้ฝึกฝนการทำวงจรไฟฟ้ากับโจวคุน อย่างไรก็ตามการวางวงจรนั้นยุ่งยาก เพราะมันต้องใช้กับกระบวนการทั้งหมดในการพัฒนาเมนบอร์ด เฉินจินจึงเปลี่ยนใจไปสนใจเรื่องอื่นเพราะไม่เข้าใจในการจัดการระบบวงจรที่ยุ่งเยิงเช่นนี้ได้ และ เฉินจินเองก็รู้สึกผิดหวังกับตัวเองว่าทำไมเขาจึงไม่เข้าใจระบบวงจรเหล่านี้สักที

“ ฉันพอจะรู้เหตุผลแล้วล่ะ ก็เพราะหัวฉันมันไม่รับเรื่องที่ซับซ้อนขนาดนี้ ฉันยอมแพ้ดีกว่า” เฉินจินส่ายหัวในขณะที่เขายอมจำนนต่อกระบวนการที่ซับซ้อนนี้

“เจ้านายเฉิน แค่นี้คุณก็เก่งมากแล้ว แค่คุณสามารถตั้งบริษัทและสร้างพิมพ์เขียวได้ก็ถือว่ายอดเยี่ยมมาก มันแสดงให้เห็นว่าคุณมีศักยภาพที่จะเป็นนักออกแบบเครื่องกลมากกว่า ผมจะแนะนำคุณทีละขั้นตอนก็ได้ เพราะไม่ใช่วงจรเหล่านี้จะยากไปส่ะทั้งหมดในการสร้างเข้าใจ มีบางอย่างที่คุณสามารถเข้าใจได้อย่างรวดเร็วและกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ ” โจวคุนรู้สึกประทับใจอย่างมากและสังเกตว่าเจ้านายของเขาเป็นเพชรที่หยาบอยู่ เขารู้ว่าเฉินจินนั้นมีความสามารถในการจัดการโครงสร้างเครื่องจักรกลที่ซับซ้อน และเป็นคนที่มุ่งมั่นมาก เมื่อพูดถึงการทำงาน เฉินจินสามารถทำงานให้เสร็จโดยไม่มีข้อผิดพลาดเลยหรือทำให้ชิ้นส่วนบางชิ้นหายไป

นอกจากนี้เฉินจินยังสามารถผลิตชิ้นส่วนบางส่วนที่มีโครงสร้างอย่างง่ายที่ได้มาตรฐานตามด้วยหลังจากเรียนรู้วิธีการใช้งานเครื่องมือเครื่อง ซีเอ็นซี จาก วูเว่ย ถ้าพูดแบบสั้นๆ โจวคุนคิดว่าเขาจะเสียดายมากถ้าไม่ได้นำเพชรอย่างเฉินจินมาเจียระไนให้เป็นเพชรเม็ดงานเม็ดนี้ เพราะตอนนี้เฉินจินเข้าใจทักษะทั้งหมดที่จะต้องใช้สร้างหุ่นยนตร์ที่เฉินจินกำลังจะสร้างคล้ายกับว่าเขาเป็นส่วนหนึ่งสำคัญของหุ่นยนตร์ไปแล้วในตอนนี้

ถึงแม้โจวคุนจะรู้จักเฉินจินได้ไม่นาน แต่เฉินจินได้รับทักษะที่ยอดเยี่ยมจากเขาแล้ว รวมไปถึงว่าเฉินจินมีแบบพิมพ์เขียวหลายสิบชุดอยู่ในมือ ถึงแม้ว่าจะไม่มีใครรู้ว่าเฉินจิน เขาแค่หลอกพิมพ์เขียนทับลงบนกระดาษตามท ที่ AI อลิซ ได้ฉายภาพโคร่งร่างไว้ ซึ่งเฉินจินรู้ดีว่านี้ไม่ใช่ความสามารถของเขา

“ ลืมเรื่องพวกนี้ไปเถอะ ฉันไม่สามารถทำมันได้จริง ฉันจะไปลองทำอย่างอื่น วงจรพวกนี้ทำให้ฉันปวดหัวมากๆ” เฉินจินโบกมือให้โจวคุนและปฏิเสธข้อเสนอที่โจวคุนเสนอมาในทันที

ในตอนท้ายของวันในฐานะเจ้าของบริษัท สิ่งที่เขาต้องทำก็คือทำให้แน่ใจว่าทีมจะเดินหน้าทำงานไปในทิศทางที่ถูกต้อง บางทีเฉินจินอาจจะได้เรียนรู้ทักษะใหม่หนึ่งหรือสองทักษะไปพร้อมๆกันด้วย แต่โดยหลักแล้วบุคลากรด้านการวิจัยและพัฒนาควรทำงานที่เฉินจ้างมาให้พวกเขาทำ เช่นเดียวกับ จ๊อบ ผู้ก่อตั้ง บริษัท ฟูด ที่มีชื่อเสียงซึ่งไม่รู้เรื่องการเขียนโค้ดเลน แต่เขาก็สร้างตำนานขึ้นมาได้ และมันก็เป็นเป้าหมายของเฉินจินที่จะกลายเป็นคนที่เหมือนเขาคนนั้น

จากนั้นต้องขอบคุณทีมที่ยอดเยี่ยมที่พวกเขาจะสร้างหุ่นยนต์ต้นแบบตัวแรกขึ้นมา“วาวา” จะถูกสร้างขึ้นจนเสร็จในเวลาไม่ถึงเดือน ในไม่ช้าพวกเขาจะสามารถทำการทดสอบต้นแบบตัวนี้ได้

ตัดภาพมาที่ฐานบัญชาการบนดาวเคราะห์ไฮเออร์แอลฟา ช่วงนี้เขาไม่ค่อยได้เข้ามาในฐานบัญชาการ เนื่องจากเขายุ่งอยู่กับการพัฒนาหุ่นยนตร์เครื่องดูดฝุ่นบนโลก ดังนั้นวันนี้เขาจึงเข้ามาตรวจดูที่ฐานบัญชาการเพื่อดูว่ามีอะไรเปลี่ยนแปลงไปจากเดิมหรือไม่

“ เจ้านายเราค้นพบสิ่งสำคัญ! ทีมเดินทางของเราพบบางสิ่งที่งดงามทางฝั่งตะวันตกของฐานเมื่อวานนี้!” ดาหลินรีบเข้ามาที่เฉินจินเพื่อรายงานข่าวที่ใหญ่นี้

“อะไร? นายพบอะไร” ดวงตาของเขาเบิกกว้างเมื่อได้ยินข่าวนี้

“ ทีมสำรวจของเราพบฐานทัพทหารในแผนที่ ห่างออกไป 380 กม. ทางตะวันตกของฐานทัพของเรา!”

“ ฐานทหารหรือไม่?” แน่นอนว่าเมื่อเฉินจินได้ยินเช่นนั้นมันทำให้หัวใจของเฉินจินเหมือนจะกระโดดออกมาจากอก เขาตื่นเต้นมาก ในความเป็นจริงเขาได้สำรวจรอบฐานบัญชาการของเขาแล้ว หลังจากเฉินจินพบแผนที่“เมลิก้า” ประเทศหนึ่งในแผนที่ที่ดูใหญ่มาก ก่อนที่มันจะถูกทำลายล้างออกไป เฉินจินนั้นมีความเข้าใจอย่างคร่าวๆเกี่ยวกับลักษณะทางภูมิศาสตร์รอบๆดาวดวงนี้

เนื่องจาก AI อลิซได้เก็บแผนที่ดิจิตอลที่แม่นยำอย่างยิ่งซึ่งครอบคลุมแม้แต่เมืองเล็กๆที่มีประชากรกว่า 100 คนหลังจากที่มีการนำอุปกรณ์บางส่วนที่ถอดออกไปในช่วงแรกกลับคืนซุปเบอร์ความพิวเตอร์ เฉินจินเองก็พบ ฐานทัพลึกลับและสถานที่สำคัญทางการทหาร ในทางทฤษฎีสนามบินเมืองและเหมืองในเมลิก้าทุกแห่งสามารถพบได้ง่ายตราบใดที่คุณเดินทางไปตามแท๊กต่างๆบนแผนที่ดิจิตอล

แม้ว่ามันน่าเสียดายที่ทุกสิ่งในไฮเออร์อแลฟาถูกฝังอยู่ในทรายหนาสีเหลืองทับถมจนหมดหลังจากสงครามเกิดขึ้นและฤดูหนาวจากนิวเคลียร์ยาวนานถึง 20 ปี ดาวดวงนี้จึงมีพื้นที่ๆไม่สมบูรณ์มากนักเนื่องจากพื้นที่ขนาดใหญ่กลายเป็นสนามรบ และถูกทิ้งร้าง สิ่งเดียวที่คุณจะได้จากแผนที่ก็คือทะเลแห่งทะเลทรายที่ไม่รู้จบ

อย่างไรก็ตามไม่ต้องสงสัยเลยว่าทีมหาฐานทัพทหารทางฝั่งตะวันตกของฐานบัญชาการเจอได้อย่างไร เพราะมันกินพื้นที่ขนาดใหญ่มาก! แน่นอนมันปรากฏบนแผนที่ดิจิตอลด้วย ในอีกทางหนึ่งก็ต้องมีเหตุผลว่าทำไมมีสนามรบในหุบเขาขนาดใหญ่ครอบคลุมในซากปรักหักพังหุ่นยนต์นับพันห่างไป 30 กิโลเมตรไปทางตะวันตกเฉียงเหนือของฐานบัญชาการ

ยิ่งไปกว่านั้นสำหรับแบตเตอรี่ประสิทธิภาพสูงมันไม่น่าเป็นไปได้ที่หุ่นยนต์จะเดินทางได้ไกล 500 กิโลเมตร; ดังนั้นเฉินจินจะต้องมี “ฐานหรือค่ายพักแรมเพิ่มบางจุด” ภายในระยะ 500 กม.นี้ ที่หุ่นยนต์จะสามารถซ่อมแซมและเติมพลังงานได้ มันแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่พวกมันจะเดินทางไปได้ไกลกว่า 500 กม. โดยไม่หยุดพัก

เฉินจินส่งทีมสำรวจออกไปทางตะวันตกของฐานบัญชาการเมื่อสามเดือนก่อนเพื่อค้นหาสิ่งนี้; ในที่สุดทีมก็ไม่ทำให้ผิดหวังและกลับมาอย่างภาคภูมิใจหลังภารกิจที่ทำสำเร็จ

“ อลิซทำการผ่าตัดผังเมืองของเมืองฟอร์ตเวิร์ธ และจัดสรรหุ่นยนต์ 100 ตัวและรถขนย้าย 20 คันไปยังฐานทัพทหาร – ชาร์จเต็มแล้วได้โปรดนำแบตเตอรี่เสริมสามชุดมาด้วย!”

เริ่มการปล้นได้!

“ รับทราบเจ้านาย” อลิซตอบ

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด