เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] – ตอนที่ 50 วางเงินเดิมพันเพิ่มอีกสองแสน

อ่านนิยายจีนเรื่อง เซียนอมตะ 2,500 ปี 我只有两千五百岁 ตอนที่ 50 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 50 วางเงินเดิมพันเพิ่มอีกสองแสน

“คำตอบนั้นง่ายมาก”

ซูเย่พูดพร้อมกับยิ้มกว้าง “และคำตอบนั้นก็คือ…”

ภายใต้การจ้องมองของทุกคน ซูเย่มองหน้าเน็ตไอดอลเจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ที่เริ่มต้นนับถอยหลังด้วยใบหน้าบิดเบี้ยว เขาตอบในขณะที่รอยยิ้มยังคงอยู่บนใบหน้า “ข้อ D”

ยังเหลือเวลาให้คิดอีกตั้งเยอะนี่นา

ทำไมถึงรีบตอบนะ!

“นี่มันคำถามที่มีหลายคำตอบไม่ใช่หรือไง!”

ซูชือลุกขึ้นยืนตะโกนเตือน

จินฟานก็กำลังมองหน้าซูเย่ด้วยความร้อนใจเช่นกัน สีหน้าของชายหนุ่มบอกชัดเจนว่าเขาอยากให้ซูเย่เพิ่มคำตอบมากกว่า 1 ข้อ

ในเพจถ่ายทอดสด ชาวเน็ตต่างก็ร้อนใจไม่แพ้กัน!

ก็ไหนว่านี่คือคำถามที่มีหลายคำตอบไม่ใช่หรือไง ทำไมชายหนุ่มเจ้าของบัญชีคนเก็บขยะถึงเลือกคำตอบแค่ข้อเดียว?

อย่างน้อยก็ต้องตอบสองข้อขึ้นไปสิ!

“ผู้ใดต่อไปนี้มีความเสี่ยงต่อการเป็นไข้หวัดหมูมากที่สุด?”

“A. ผู้สูงอายุ B. เด็กแรกเกิด C. ผู้หญิง D. คนหนุ่มสาว”

ทำไมถึงเลือกตอบข้อ D ความน่าจะเป็นมันควรจะเป็นเด็กแรกเกิดกับผู้สูงอายุไม่ใช่หรือไง!

ซูเย่ยังคงมองหน้าคนตั้งคำถามด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม

“หมดเวลา”

เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ยิ้มมุมปากด้วยความพอใจ “เพื่อนของนายพูดถูกนะ ฉันต้องเตือนก่อนว่านี่คือคำถามที่อาจมีหลายคำตอบ ทำไมนายถึงเลือกตอบแค่ข้อเดียว? ฉันจะให้โอกาสนายได้ตอบอีกครั้ง”

“ตอบอีกครั้งฉันก็จะตอบเหมือนเดิม”

ซูเย่พยักหน้า

“แน่ใจนะ?”

เจ้าของนามแฝงถามออกมาอีกครั้ง

“แน่ใจ”

ซูเย่พยักหน้าอีกครั้ง

เมื่อเห็นว่าซูเย่ไม่เปลี่ยนคำตอบ ทุกสายตาก็หันไปจ้องมองที่ใบหน้าของอีกฝ่ายด้วยความอยากรู้ว่าคนเก็บขยะจะตอบถูกหรือไม่?

นี่คือคำถามตัดสินเงินรางวัล 100,000 หยวน

เน็ตไอดอลชื่อดังไม่พูดอะไร

เขามองหน้าซูเย่ รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป หัวใจเต้นรัวเร็วอยู่ในอก

ทำไมถึงตอบคำถามออกมาด้วยความมั่นใจขนาดนี้ ไอ้หมอนี่มันแน่ใจคำตอบแล้วจริง ๆ หรือ?

ฉันอุตส่าห์ปั่นหัวนายด้วยการบอกว่ามันอาจจะมีหลายคำตอบ ทำไมถึงไม่ลังเลเลยสักนิด?

เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ยิ้มอีกครั้งและส่ายหน้า

เขาเอื้อมมือออกไปวางไว้บนกองเงิน 100,000 หยวนที่อยู่บนโต๊ะ

เมื่อเห็นดังนั้น

ทุกคนก็ต้องถอนหายใจออกมาด้วยความเสียดาย เพราะเข้าใจว่าเจ้าของบัญชีคนเก็บขยะตอบผิด

แต่ที่ไหนได้

ฝ่ายผู้ท้าชิงผลักเงินกองนั้นไปไว้ตรงหน้าซูเย่และพูดออกมาพร้อมกับถอนหายใจว่า

“นายชนะแล้ว!”

ชนะอย่างนั้นหรือ?

ซูเย่เป็นฝ่ายชนะ?!

ซูชือกับจินฟานที่ลุกขึ้นยืนอยู่หลังกล้องต่างก็ตกตะลึงจนทำอะไรไม่ถูก

ซูเย่ชนะแล้ว!

คำตอบมีแค่ข้อ D ข้อเดียวจริง ๆ หรือ?

ในเพจถ่ายทอดสด ผู้คนมากมายที่ชมเหตุการณ์ต่างก็รู้สึกประหลาดใจไม่แพ้กัน

“บ้าไปแล้ว! คำตอบมีแค่ข้อเดียวจริงๆ ด้วย ทำไมโรคไข้หวัดหมูถึงเล่นงานแต่คนหนุ่มสาววะ? เป็นโรคที่ประหลาดชิบ”

“555 ฉลาดสมกับเป็นคนเก็บขยะ! เขาไม่ได้โกงพวกเราจริง ๆ ด้วย สุดยอดไปเลย!”

“ก็ไหนว่ามันมีหลายคำตอบไม่ใช่หรือไง?”

“เป็นฉัน ฉันก็คงเลือกตอบ 2 ข้อไปแล้ว”

“เลิกพูดไร้สาระกันได้แล้วน่า ท่านเทพปรากฏตัวแล้ว ยังไม่รีบคุกเข่าแสดงความเคารพอีก!”

ความคิดเห็นจำนวนมากปรากฏขึ้นบนหน้าจอถ่ายทอดสด

การกดให้ของขวัญแก่ผู้ถ่ายทอดสดก็เพิ่มมากขึ้นเช่นกัน

นับว่าคำถามสุดท้ายมีจุดหักมุมที่ไม่คาดคิด

ไม่มีใครคิดเลยว่าการตอบเพียงข้อเดียวจะเป็นคำตอบที่ถูกต้อง

ยิ่งไปกว่านั้น มันยังดูเหมือนคำตอบที่ไม่น่าเป็นไปได้มากที่สุดอีกด้วย!

“คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” สมควรถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะคนหนึ่ง

แต่เขาไม่รู้ตัวเลยว่าตนเองกำลังจะต้องมาเจอกับผู้ที่ฉลาดมากกว่า!

ในกลุ่มคนดูที่รับชมการถ่ายทอดสดอยู่หลายแสนคนขณะนี้ พวกเขาต่างพร้อมใจกันอุทานออกมาด้วยประโยคเดียวว่า คนเก็บขยะโคตรเก่งเลยแฮะ!

“ขอบใจ”

ซูเย่ลุกขึ้นยืน กำลังจะหยิบเงินกองนั้น

แต่เมื่อมือของเขาสัมผัสลงไปบนกองเงิน เน็ตไอดอลหนุ่มกลับดึงเงินกลับไปหน้าตาเฉย

“เดี๋ยวก่อนสิ”

หืม?

ซูเย่มองหน้าอีกฝ่ายด้วยความไม่เข้าใจ

ซูชือ จินฟานและผู้ที่รับชมการถ่ายทอดสดต่างก็จ้องมองอีกฝ่าย ด้วยความสงสัยเช่นกัน

เจ้าของนามแฝง มองหน้าซูเย่ และพูดว่า “ลองตอบคำถามอีกสักรอบดูเป็นไง?”

“ฉันจะเพิ่มเงินรางวัลให้นายอีกหนึ่งแสน”

“เงิน 100,000 นี้เป็นของนายแล้ว”

“ในการตอบคำถามรอบต่อไป ถ้านายตอบได้หมดทุกข้ออีกครั้ง ฉันจะเพิ่มให้นายอีกหนึ่งแสน”

ดวงตาของเน็ตไอดอลหนุ่มเป็นประกายวาวโรจน์

เขาก็ไม่ได้อยากทำแบบนี้หรอก!

เงิน 100,000 หยวนสำหรับเขามันไม่ได้มีค่าอะไรเลย แต่ศักดิ์ศรีที่เสียไปนี่สิมันประเมินค่าไม่ได้

ครั้งนี้เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” มั่นใจว่าชายหนุ่มเจ้าของบัญชีคนเก็บขยะต้องไม่มีทางตอบคำถามของเขาได้ถูกต้องอีกแล้ว

เพราะหมอนั่นจะตอบคำถามที่ยากกว่าเดิมได้อย่างไร?

ทุกคนตกอยู่ภายใต้ความตกตะลึง

ซูเย่จ้องมองเข้าไปในดวงตาที่เป็นประกายแวววาวของผู้ตั้งคำถาม และเขารู้ดีว่านี่เป็นแววตาของนักพนัน

เมื่อพ่ายแพ้การเดิมพัน แทนที่จะหยุดเล่น กลับเพิ่มเงินเดิมพันมากขึ้นกว่าเดิมเสียอย่างนั้น

หลังจากคิดอยู่เล็กน้อย ซูเย่ก็ส่ายศีรษะปฏิเสธ

เขาไม่อยากเล่นต่อแล้ว

“ฉันเพิ่มให้อีก 200,000 เลยก็ได้!”

อีกฝ่ายเพิ่มเงินรางวัลด้วยความร้อนรน เขากำหมัดแน่น ดวงตาจ้องมองไปที่ซูเย่ ความมุ่งร้ายในแววตายิ่งทำให้สามารถรู้สึกได้ชัดเจนมากกว่าเดิม

“จะเอาอย่างนั้นก็ได้!”

ซูเย่พยักหน้าตอบรับและนั่งลงในที่สุด

หลีกเลี่ยงไม่ได้แล้วสิ เพราะขืนปฏิเสธต่อไป ซูเย่รู้ดีว่าอีกฝ่ายอาจตามรังควานเขาไม่เลิกรา

เอาล่ะ? ทีนี้จะทำยังไงต่อดีล่ะ?

เจ้าของนามแฝงถึงกับชะงักไปเล็กน้อยกับความเปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหันของซูเย่

ทำไมอยู่ดี ๆ ถึงตอบตกลงเนี่ย?

นายมันหน้าเงินขนาดนี้เลยเหรอ?

แต่ช่างมันเถอะ อย่าไปสนใจเลย

แค่รับปากว่าจะเล่นต่อก็พอแล้ว!

เงินไม่ใช่สิ่งสำคัญ ชัยชนะต่างหากที่สำคัญมากกว่า!

ฝ่ายผู้ท้าชิงพลันนั่งลงที่เดิมและหยิบ iPad ขึ้นมาเปิดดูหมวดหมู่คำถาม

ซูเย่ยังคงรับประทานหม้อไฟต่อไปด้วยความใจเย็น

ซูชือกับจินฟานหันมองหน้ากันในขณะที่หย่อนก้นกลับลงไปนั่งที่เดิม ถึงอย่างไรซูเย่ก็ได้เงิน 100,000 แรกมาแล้ว ส่วนเงินเดิมพันอีก 200,000 หยวนในรอบนี้ก็ถือว่าเป็นกำไร

ถึงพวกเขาจะแน่ใจว่าชายหนุ่มเจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” คงเลือกคำถามที่ยากกว่าเดิม แต่ก็ใช่ว่าซูเย่จะไม่มีความหวังเสียทีเดียว

“สุดยอดไปเลย!”

ชาวเน็ตอุทานออกมาด้วยความตื่นเต้น พวกเขาไม่คิดเลยว่าการรับชมถ่ายทอดสดในครั้งนี้จะคุ้มค่าถึงขนาดนี้

ทุกคนรู้สึกเหมือนกับถูกลอตเตอรี่อย่างไรอย่างนั้น!

“สู้ ๆ นะ คนเก็บขยะ!”

“สู้เขานะ ท่านเทพ พวกเราจะเป็นกำลังใจให้!”

ข้อความที่ปรากฏขึ้นบนหน้าจอถ่ายทอดสดมีแต่คนให้กำลังใจซูเย่

การถ่ายทอดสดยิ่งดำเนินไปเท่าไหร่ จำนวนของขวัญที่คนดูมอบมาให้ ก็ยิ่งเพิ่มมากขึ้นเท่านั้น

“เรียบร้อย”

“คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” วาง iPad กลับลงไปก่อนสูดหายใจลึกและเงยหน้ามองมาที่ซูเย่

เขาได้ 10 คำถามครบแล้ว

ชายหนุ่มแทบจะรอไม่ไหวที่จะได้ถามออกไป

ครั้งนี้แหละ ไอ้คนเก็บขยะมันจะต้องได้รับรู้รสชาติของความพ่ายแพ้ซะบ้าง

“คำถามข้อแรก!”

อีกฝ่ายไม่อยากจะเสียเวลาอีกแล้ว ดังนั้น เขาจึงถามคำถามออกมาทันที

“ในการแข่งขันวิ่งข้ามรั้วชายระยะทาง 110 เมตร มีรั้วอยู่ทั้งหมดเท่าไหร่?”

“ข้อ A. 9 รั้ว ข้อ B. 10 รั้ว ข้อ C. 11 รั้ว”

ซูเย่ที่กำลังรับประทานหม้อไฟตอบอย่างรวดเร็วว่า “ข้อ B 10 รั้ว”

“คำถามข้อที่ 2!”

เจ้าของนามแฝงชำเลืองมองหน้าฝ่ายตรงข้ามและถามต่อไป

“ในภาพยนตร์เรื่องโจโฉแตกทัพเรือ ประโยคดังของหลินจื้อหลิงที่พูดว่า “เมิ่งเมิ่ง ลุกขึ้นมา” แท้ที่จริงแล้ว “เมิ่งเมิ่ง” เป็นสัตว์ชนิดใด?”

อ่านคำถามจบแล้ว

แต่ชายหนุ่มยังไม่ทันอ่านตัวเลือกคำตอบ ซูเย่ก็ชิงตอบเสียก่อน และมันก็เป็นคำตอบที่ถูกต้อง!

“คำถามข้อที่ 3!”

“เศษผิวหนังจากนิ้วมือมนุษย์ที่เล็กที่สุดเท่าที่เคยมีการตรวจวัด มีขนาดอยู่ที่เท่าไหร่?”

“13 นาโนเมตร”

ซูเย่ยังสามารถตอบได้โดยไม่ต้องรอฟังตัวเลือกคำตอบแม้แต่น้อย

เจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ถึงกับต้องขมวดคิ้วแล้ว

เดิมทีเขาอยากจะเล่นงานซูเย่ด้วยการชิงถามคำถามให้เร็ว รบกวนสมาธิฝ่ายตรงข้าม ทำให้ฝ่ายตรงข้ามไม่มีเวลาได้ประมวลคำตอบให้แน่ชัด

แต่คิดไม่ถึงเลยจริง ๆ

เขายังไม่ทันเอ่ยตัวเลือกคำตอบด้วยซ้ำ

เจ้าของบัญชีคนเก็บขยะโต้ตอบกลับมาด้วยการไม่รอฟังตัวเลือกคำตอบจากเขา

และกลายเป็นฝ่ายผู้ท้าชิงที่ตั้งตัวไม่ทันไปเสียเอง

เขาถึงกับต้องรีบสูดหายใจเข้าลึก ๆ เพื่อสงบสติอารมณ์และถามคำถามต่อไป

“คำถามข้อที่ 4…”

ความเร็วในการพูดเร็วมากกว่า 3 คำถามแรกเสียอีก

“คำถามข้อที่ 5…”

ซูชือ จินฟาน และบรรดาคนดูในเพจถ่ายทอดสด ต่างก็ได้แต่เบิกตาโตด้วยความประหลาดใจกับสิ่งที่กำลังเกิดขึ้น

พวกเขาเข้าใจว่าการตอบคำถามรอบนี้ต้องมีความเชื่องช้ามากกว่ารอบแรก

เพราะคำถามมีความยากกว่า ก็ต้องใช้เวลาคิดนานกว่า

แต่ทำไมมันถึงเร็วกว่าเดิมอีกละเนี่ย?!

คนถามว่าถามเร็วแล้ว แต่คนตอบตอบเร็วยิ่งกว่า

เพียงพริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วถึง 5 คำถาม

ทุกคนไม่มีเวลาได้ละสายตาไปทางอื่น นอกจากจ้องมองใบหน้าของซูเย่สลับกับใบหน้าของเน็ตไอดอลหนุ่ม

ซูชือกับจินฟานหันมองหน้ากันด้วยแววตาตื่นเต้น ถ้ายังเป็นเช่นนี้ต่อไป เงินอีก 200,000 หยวนก้อนนั้น ไม่มีทางหลุดมือซูเย่ของพวกเขาไปเด็ดขาด

ดังนั้น สองหนุ่มจึงได้แต่หันไปจ้องมองหม้อไฟบนโต๊ะอาหาร

ด้วยความหิวโหย…

คำถามข้อที่ 6 ผ่านไปและตามด้วยคำถามข้อที่ 7!

การถาม และการตอบยังคงรวดเร็วเช่นเดิม

บัดนี้ การแข่งขันดำเนินมาถึงโค้งสุดท้ายแล้ว

ไม่ว่าจะเป็นใคร แม้แต่ตัวเจ้าของนามแฝง “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” เอง ต่างก็มีความคิดเห็นเหมือนกันว่า

สมองของ “คนเก็บขยะ” ต้องเป็นระดับอัจฉริยะขนาดไหนกันนะ?

ทำไมถึงได้มีความรอบรู้เยอะขนาดนี้?

เขารู้คำตอบพวกนี้ได้อย่างไร?

ทำไมถึงไม่เคยตอบผิดเลย?

“คำถามข้อที่ 8!”

ในขณะที่ทุกคนกำลังตกตะลึงในความชาญฉลาดของซูเย่

คำถามก็ดำเนินมาถึงข้อ 8 แล้ว

ฝ่ายผู้ท้าชิงสูดหายใจลึก ๆ สลัดความมึนงงและสับสนออกไปจากหัว และเริ่มต้นถามคำถามต่อไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

“เกือบจะถึงคำถามข้อสุดท้ายแล้ว คำถามข้อนี้มีอยู่ว่า อาจารย์หวังซึ่งเป็นหัวหน้าคณะอาจารย์มาสอนนักศึกษาสายกว่ากำหนด สร้างความไม่พอใจให้แก่นักศึกษาในชั้นเรียนเป็นอย่างมาก เกิดการโต้เถียงกันอย่างรุนแรงและนักศึกษาในชั้นเรียนก็มีหนึ่งคนที่ถูกอาจารย์หวังทำร้ายร่างกาย จนถึงกับต้องส่งไปตรวจสอบอาการบาดเจ็บที่โรงพยาบาล คำถามก็คือ อาจารย์หวังกระทำความผิดแรกต่อนักศึกษาคนนั้นด้วยกฎหมายข้อใด?”

“ข้อ A. ละเมิดสิทธิการศึกษา ข้อ B. ทำร้ายร่างกาย และจิตใจผู้อื่น ข้อ C. กักขังหน่วงเหนี่ยวอิสรภาพ ข้อ D. ละเมิดสิทธิส่วนบุคคล”

นี่คือคำถามที่เกี่ยวข้องกับด้านกฎหมาย

นี่คือไม้ตายที่ อีกฝ่ายตั้งใจจะนำมาใช้กับคนเก็บขยะในรอบนี้โดยเฉพาะ

เขาคาดหวังกับคำถามนี้เอาไว้มากทีเดียว

แต่อย่างไรก็ตาม

“คำตอบคือข้อ A”

ซูเย่สามารถตอบได้โดยไม่ต้องคิด

ด้วยสีหน้าที่สงบสุขุมเช่นเคย

“ขนาดคำถามเกี่ยวกับกฎหมาย นายยังรู้อีกเหรอเนี่ย?”

เมื่อเห็นสีหน้าที่เรียบเฉยของซูเย่ ฝ่ายผู้ท้าชิงก็เริ่มรู้สึกหมดหวังขึ้นมาแล้ว

ซูเย่ยิ้มเล็กน้อย ใช้ตะเกียบคีบเนื้อหมูจุ่มลงไปในหม้อไฟ

เจ้าของนามแฝงไม่มีเวลาให้เปลี่ยนคำถามใหม่อีกแล้ว เขามีแต่ต้องเดินหน้าต่อไปเท่านั้น ในขณะที่ซูเย่ยังคงรับประทานอาหารต่อไปอย่างไม่รู้ร้อนรู้หนาว แม้ว่าเพื่อน ๆ ทั้งสองคนจะจ้องมองด้วยแววตาหิวโหยมากก็ตาม

ยังเหลือคำถามอีก 2 ข้อ

ซูชือกับจินฟานหันมองหน้ากัน แววตาเป็นประกายวิบวับด้วยความหวัง

“คำถามข้อที่ 9”

“สถานที่ใดในโลกนี้ที่ระบุตามกฎหมายให้ภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาประจำชาติ?”

ฝ่ายผู้ท้าชิง มองหน้าซูเย่ไม่ละสายตา

เมื่อได้ยินคำถาม ทุกคนก็อดตกตะลึงไม่ได้

นี่มันคำถามประเภทไหนกัน คำถามก็ชัดเจนอยู่แล้วไม่ใช่หรือ ประเทศที่มีภาษาญี่ปุ่นเป็นภาษาประจำชาติก็คือเกาะญี่ปุ่นไงล่ะ!

มันจะเป็นที่อื่นไปได้ยังไง

ซูเย่ตอบออกมาโดยทันที

“เกาะอาเงาร์”

เมื่อได้ยินคำตอบ ทุกคนก็ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม

แม้แต่ซูชือกับจินฟานก็ยังมีสีหน้าเปลี่ยนแปลงไปทันที เพราะคิดว่าซูเย่ตอบผิด

แต่ในวินาทีต่อมา

“นายก็รู้คำตอบข้อนี้ด้วยเหรอ?”

เสียงของอีกฝ่ายถามออกมาด้วยความเหลือเชื่อ

“พอดีฉันเป็นคนชอบอ่านหนังสือน่ะ”

ซูเย่ตอบยิ้ม ๆ

“เฮ้ย?!!”

“เชี่ย?!”

“คำตอบไม่ใช่เกาะญี่ปุ่นเหรอ?”

“เป็นไปได้ยังไง?”

ชาวเน็ตจำนวนมากมึนงงไปกับการสนทนาระหว่างชายหนุ่มทั้งสองคน ตกลงว่าเกาะอาเงาร์เป็นคำตอบที่ถูกต้องอย่างนั้นหรือ?

พวกเขารีบหาข้อมูลโดยเร็วไว

และผลของการตรวจสอบก็คือ…

เป็นเกาะอาเงาร์จริง ๆ ด้วย

เกาะแห่งนั้นมีกฎหมายระบุเอาไว้ว่าภาษาญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในภาษาประจำชาติของพวกเขา และในโลกนี้ก็มีแต่เพียงเกาะอาเงาร์แห่งเดียวเท่านั้น ที่ระบุกฎหมายเช่นนี้ขึ้นมา

แต่สิ่งที่น่าเหลือเชื่อมากกว่านั้นก็คือ

ถึงจะมีภาษาญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในภาษาทางการ แต่ชาวเกาะกลับไม่มีใครพูดภาษาญี่ปุ่นได้เลยสักคนเดียว!

แล้วคนเก็บขยะตอบถูกได้อย่างไรกัน?

ทุกสายตาจ้องมองไปยังซูเย่ที่นั่งอยู่ทางซ้ายมือของหน้าจอ พวกเขาต่างก็ตั้งคำถามด้วยความสงสัยเช่นเดียวกับ “คำพูดที่ไม่เคยคิด ที่จริงก็คือยาพิษ” ว่าชายหนุ่มรู้คำตอบได้อย่างไร

เมื่อซูชือกับจินฟานเห็นว่าซูเย่ตอบได้ถูกต้อง พวกเขาก็ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก ซูเย่ของพวกเขาไม่มีทางตอบผิดอยู่แล้ว!

“คำถามข้อสุดท้าย”

เจ้าของนามแฝงส่ายหน้าและถอนหายใจ พูดว่า “คำถามข้อนี้จะเกี่ยวข้องกับความรู้รอบตัว ถ้านายตอบถูกเงินพวกนี้จะเป็นของนาย”

เขานำเงิน 200,000 หยวนออกมาจากกระเป๋าเป้ที่ตั้งอยู่ข้างตัว และนำเงินทั้งหมดไปกองไว้ตรงหน้าซูเย่

เมื่อได้ยินดังนั้น

ทุกคนก็กลั้นหายใจรอฟังคำถามด้วยความตื่นเต้น

ฝ่ายผู้ท้าชิงได้ถามออกมาแล้วว่า

“ในการ์ตูนเรื่อง “แมวกับหนู” ฉบับที่ฉายปี 1965 ตัวละครเจ้าของบ้าน ปรากฏตัวครั้งแรกในตอนที่เท่าไหร่?”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด