Special District 9 เขตพิเศษที่ 9 – ตอนที่ 163 ความดํามืด
Special District 9 ตอนที่ 163 ความดํามืด
เมื่อเปิดประตูเข้าไปจึงพบว่าผู้กํากับหลีไม่อยู่ในห้องทํางาน
รองผู้กํากับต่งหันมามองเขา “ทําไมไม่เคาะประตูก่อน?”
“งี่เง่าสิ้นดี! ผมยอมไม่ได้!” ฉินอวี่ตะโกนด้วยความโกรธ“ยอมให้ประกันตัวมันได้ไง?! ไร้สาระ!”
“มันไม่ใช่การตัดสินใจของเรา นั่นเป็นคําตัดสินของสํานักงานตํารวจและอัยการ”
“คุณล้อเล่นกับผมเหรอ?” ฉินอวชี้ที่ตัวเองขณะโวยวายด้วยความโกรธ “ถ้าเราจับมันไม่ได้ตั้งแต่แรกก็น่าจะบอกกันตรงๆสิ! ราใช้เวลานานมากในการหาหลักฐานปิดคดี แต่พวกคุณก็ปล่อยให้มันถูกประกันตัวไปได้! นี่หมายความว่าไงกัน?”
รองผู้กํากับต่งนิ่งเงียบ
“นี่มันบ้าชัดๆ!” ฉินอวี่ขุ่นเคืองอย่างมากจนแทบจะคุมอา รมณ์ตัวเองไม่ได้“คุณรู้ตั้งแต่แรกแล้วใช่ไหมว่าเป็นไปไม่ได้ที่ เราจะจับมัน?แต่ก็ยังปล่อยให้พวกเราจับหมอนั่นเพื่อเตือน ให้หรูเวินเซิ่งอยู่ห่างๆหยวนเค่อ!”
รองผู้กํากับต่งยังไม่พูดอะไร
“นั่นคือสิ่งที่ลุงหลี่กําลังคิดอยู่เหรอ?!” ฉินอวี่เรียกร้องคําตอบด้วยความโกรธ
รองผู้กํากับต่งมองฉินอวี่ครู่หนึ่งและพูดออกมาในที่สุด“รู้ไหมว่าสํานักงานตํารวจนครบาลรัฐพื้นทมิฬปฏิเสธคําสั่งจากกองบัญชาการตํารวจในเจียงหนานกี่ครั้งแล้ว?”
ฉินอวี่ยังคงจ้องรองผู้กํากับต่งด้วยความโกรธแค้น
“ขอแค่ครั้งเดียว….ครั้งเดียวในประวัติศาสตร์กับเรื่องแบบนี้!” รองผู้กํากับต่งชี้นิ้วขึ้นขณะพูด “เราทําทุกอย่างเท่าที่ จะทําได้แล้ว นี่เป็นผลลัพธ์ที่สร้างโดยสังคมแบบนี้ ไม่มี ใครทําอะไรกับมันได้ เข้าใจรึเปล่า?!”
ฉินอวี่กําหมัดแน่นด้วยความโกรธ
“ถึงนายจะลาออกเพราะความโกรธ และให้คนพวกนั้นช่วยจับหลู่เหย้าแต่นั่นจะเปลี่ยนผลลัพธ์ได้เหรอ?” รองผู้กํากับต่งถามอีกครั้ง
ทั้งสองเงียบไป
ทันใดนั้นงูเหว่ยก็เปิดประตูเข้ามาอย่างรวดเร็วและตะโกนใส่ฉินอวี่ “เขาได้เซ็นชื่อในเอกสารประกันตัวแล้วและกําลังจะออกไป! ลุงตั้งก็อยู่ที่นั่นด้วย ตอนนี้ยังไม่รู้ว่าเขาคิดจะทําอะไร”
ฉินอวี่ชําเลืองมองรองผู้กํากับต่งก่อนรีบออกจากห้องทํางานไป
สิบนาทีต่อมาที่ทางเข้าสํานักงานตํารวจ
รถใหม่เอี่ยมสี่คันจอดเรียงรายกันอยู่ริมถนน ชายแปดคนยืนสูบบุหรี่คุยกันอย่างสบายใจ
หมู่เหย้าไม่ได้ออกไปทันทีหลังจากเซ็นเอกสารการประกันตัวเขากลับยืนอยู่ที่ทางเข้าและจุดบุหรี่สูบ
“ไอ้เวรนั่นเป็นฆาตกรนะ! ปล่อยมันไปง่ายๆได้ยังไง?” ลุงตั้งโวยวายด้วยความโกรธแค้นในห้องรับรองของสํานัก งานตํารวจ “ไม่ละอายใจบ้างรึไง?! ปล่อยให้ฆาตกรเดินลอ ยหน้าลอยตาออกไปทั้งๆ ที่พวกคุณใส่เครื่องแบบเต็มยศแบบนี้ถูกต้องแล้วเหรอ?!”
เสียงตะโกนของเขาดังก้องทั่วอาคาร เจ้าหน้าที่หลายคนรวมไปถึงเด็กฝึกงานพากันมามุงดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
ฉินอวี่ รู้เหว่ยและคนอื่นที่รีบลงไปไม่มีใครกล้าสู้หน้าลุงตั้ง
–
พอหรู่เหย้าเห็นฉินอวีจึงยิ้มให้และตะโกนจากทางเข้า “ยังเหลือขั้นตอนอะไรอีกไหม? ถ้าไม่มีฉันจะไปแล้วนะ”.
“ไอ้ฆาตกร ฉันจะฆ่าแก!” ลุงตุ่งพุ่งออกไปอย่างบ้าคลั่ง
“ลุงตั้ง!” ฉินอวี่ตะโกนพลางวิ่งไปห้ามลุง
ความโกลาหลเกิดขึ้นในทันใด ทนายความพร้อมกับชายอีกสองสามคนปราดเข้ามาปกป้องหภู่เหย้าและพาเขาลงจากบันไดสํานักงานตํารวจอย่างปลอดภัย
ฉินอวี่รั้งลุงตั้งไว้ “อย่าทําแบบนี้เลยครับ!ลุงใจเย็นก่อน”
หรู่เหย้ายืนอยู่ชั้นล่างผลักทนายออกด้านข้างและมองนอวีด้วยท่าที่จองหอง “ฟาดฉันด้วยกระบองคงสนุกมากท่า?”
ฉินอวี่จ้องกลับไปที่หมู่เหย้าโดยไม่คิดโต้ตอบ
“ฉันจะฆ่าแก!”
่ ่
ลุงตั้งผลักฉินอวี่ออกและรีบลงบันไดไปหมายจะจับตัวหรูเหย้า
พวกชายที่ยืนอยู่ข้างรถรีบวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วและผลักลุงตั้งล้มลง
“พี่หญ่ พ่อของพี่ต้องการให้กลับเดี๋ยวนี้เลย” ลูกน้องคนหนึ่งบอกหรู่เหย้า
แต่หรู่เหย้ายังคงยืนสูบบุหรี่และมองไปที่ฉินอวอย่างหยิ่งผยอง “ชอบไขคดีนักเหรอ?”
“เออ! หนีได้ก็หนีไปสิไอ้เวร!” งูเหว่ยตะโกนจากด้านหลัง “คอยดูพวกฉันยังมีโอกาสอีกเยอะที่จะจับแกเข้าตาราง!”
“เฮอะ!” หมู่เหย้าหัวเราะ “ใช่ แกพูดถูกมีโอกาสอีกตั้งเยอะนี่นา…ไปกันเถอะ!”
หลังพูดจบเขาก็ขึ้นรถที่มีคนคุ้มกันมากมายรอบตัว
ลุงตั้งจ้องแผ่นหลังของหรู่เหย้าอย่างสิ้นหวังเขาทรุดกับพื้นหิมะขณะคร่ําครวญ “โลกบัดซบอะไรอย่างนี้การอยู่ในสังคมแบบนี้มันหมายความว่ายังไงกัน?!”
“บรื้น!”
ทันใดนั้นเสียงเร่งเครื่องยนต์ก็ดังขึ้นบนถนนรถจี๊ปดัดแปลงพุ่งไปข้างหน้าเหมือนวัวบ้าและแล่นขึ้นบนทางเท้า
“ลุงตึง!”
่ ่
ฉินอวี่ตะโกนออกมาสุดเสียงด้วยความกลัวกับสิ่งที่จะเกิดขึ้นต่อไป
“โครม!”
เสียงโครมดังสนั่นลุงตั้งที่ทรุดตัวอยู่บนพื้นหิมะเมื่อครู่ถูกชนกระเด็นไปในอากาศก่อนกระแทกเข้ากับขั้นบันไดของสํานักงานตํารวจอย่างแรง
“เบรกรถคันนี้พัง! หลีกไป!” คนในรถตะโกน
รถคันดังกล่าวยังไม่ได้หยุดแค่นั้นมันพุ่งไปหาลุงตั้งอีกครั้ง
“โครม!”
ลุงตังถูกชนซ้ําสอง ร่างของเขาถูกบี้ระหว่างรถกับผนังทางเข้าสํานักงานตํารวจ
ผู้คนในเหตุการณ์สี่สิบกว่าชีวิตต่างตกตะลึงอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้นพวกเขาไม่เคยพบเห็นอะไรน่ากลัวอย่างนี้ มาก่อน!
เพียงครู่เดียวทุกอย่างกลับเงียบสงัดเสียจนได้ยินแม้แต่เสียงเข็มตก
หรู่เหย้าที่นั่งอยู่ในรถโบกมือไปทางฉินอวี่ “ชอบไขคดีไม่ ใช่รึไง?แกควรจะดีใจนะ! เอ้า รีบสอบสวนมันซะสิ! เสร็จ แล้วก็โทรมาด้วยฉันจะได้ยกธงขึ้นฉลองการปิดคดีของแกไง!”
ฝูงชนอ้าปากค้างมองหรู่เหย้า ไม่คาดคิดว่าหรู่เหย้าจะกล้าท้าทายถึงเพียงนี้
“ไปกลับเว้ย!”
หรู่เหย้าทิ้งรอยยิ้มโรคจิตไว้ขณะมองไปทางฉินอวี่ จากนั้นเขาค่อยๆแง้มประตูรถปิดอย่างสบายใจ
ที่บันไดของสํานักงานตํารวจ
เด็กหนุ่มเปิดประตูรถออกมายกมือแล้วคุกเข่ากับพื้นก่อนตะโกนด้วยเสียงสั่นเทา “ฉันไม่ได้ตั้งใจ…ไม่ได้ตั้งใจจริงๆ นะ! ฉะ.ฉันขโมยรถมาเลยไม่รู้ว่าเบรกไม่ทํางาน! อีกอย่า งพื้นมันลื่นเกินไปฉันเลยควบคุมไม่ได้…”
ฉินอวีจ้องไปที่เด็กหนุ่มด้วยสายตาว่างเปล่า เขาไม่รู้สึกโกรธแต่กลับเป็นความตกใจแทน
เขาไม่เข้าใจว่าเขตพิเศษที่เก้ามีกฎหมายบังคับใช้หลายอย่างแท้ๆแต่บางครั้งก็ดูเหมือนจะป่าเถื่อนยิ่งกว่าเขตพัฒนา ที่ไม่ได้รับการดูแลเสียอีก
ลุงซึ่งเสียชีวิตคาที่ขณะดวงตายังเบิกโพลงเขาจากโลกนี้ไปทั้งที่หัวใจยังเต็มไปด้วยความโกรธและสิ้นหวัง
่ ่
หนึ่งชั่วโมงต่อมา
หรูเวินเซิงฟาดหวู่เหย้าด้วยเข็มขัดหนังสองเส้นจากนั้นก็ชี้หน้าด่าอีกฝ่ายซึ่งคุกเข่าอยู่กับพื้น “ไอ้ลูกเวรรู้ไหมฉันต้อง เสียไปเท่าไหร่กับเรื่องโง่ๆที่แกทําลงไป ห้ะ?!”
หลู่เหย้าถูกฟาดจนสติเลือนราง เขาคุกเข่ากับพื้นโดยไม่กล้าพูดอะไร
่ ่
“ครอบครัวนั่นยังมีใครอีกไหมที่มันจะเอาผิดกับแกได้อีก?” หรู่เป็นเชิงถามด้วยเสียงหอบเหนื่อย
“ยังมีเด็ก…และก็อีแก่คนหนึ่ง” หรู่เหย้าตอบด้วยน้ําเสียงระโหยโรยแรง
“เวรละ! แกนี่มันฉลาดจริงๆ จับตาดูมันให้ดีถ้ามันเกิดบ้า ขึ้นมาแกจะลําบากอีกเข้าใจไหม?” หรูเวินเซิงถ่มน้ําลายพลางเตะเข้าที่หน้าของหรู่เหย้า “ฉันจะไม่ตามใจแกอีกแล้ว! ถ้ายังพิสูจน์ตัวเองไม่ได้แกก็จะเป็นไอ้สัตว์เลี้ยงไร้ประโย ชน์แค่นั้น!”
หวูเวินเพิ่งทิ้งคําพูดนั้นแล้วเดินขึ้นไปชั้นบนกลางดึก
ฉินอวี่นั่งอยู่ในที่ทํางาน เหม่อมองเพดานขณะจมอยู่กับคําพูดสุดท้ายของลุงตั้งและฉากการตายของเขา
ด้วยไฟที่ลุกโชนในใจ เขากําหมัดแน่นและตัดสินใจกดส่งข้อความถึงฉีหลิน
ในขณะเดียวกัน
หรู่เหย้าทําความสะอาดบาดแผลและพันผ้าพันแผลในโรงพยาบาลและเตรียมส่งคนไปที่บ้านของลุงตั้งทันใดนั้นโทรศัพท์ก็ดังขึ้น
“ฮัลโหล?”
่ ่
“ต้าจินเป็นพี่น้องกับนายใช่ไหม? มันเป็นหนี้ฉันอยู่และตอนนี้ดูเหมือนจะยังจ่ายคืนไม่ได้…นายจะช่วยรึเปล่า? ถ้าไม่ฉันคงต้องจัดการมันด้วยวิธีของฉันแล้วล่ะ”
หรู่เหย้ามึนงงไปครู่หนึ่งและนึกในใจว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้น“นายหมายความว่าไง? พยายามจะเอาเงินจากฉันเหรอ?”
“ต้าจินบอกฉันว่านายช่วยมันได้”อาเชียวตอบ
“เฮอะ! ดี! ดีจริงๆ ฉันจะช่วยเอง! นายอยู่ที่ไหนล่ะ? ฉันจะส่งเงินไปให้!”
“ฉันอยู่ที่แหล่งทิ้งขยะของฮ่งเจียง”
หลังพูดจบอาเซียวจึงวางสาย
คอมเม้นต์