จุติข้ามโลก Reincarnation Paradise – ตอนที่ 47 ความตาย
ตอนที่47 ความตาย
ณ เวลากลางคืน ดวงจันทร์เด่นสง่าอยู่กลางท้องฟ้า
เขต14 ศูนย์กลางของถนนตะวันตก
ที่นี่มีชื่อเสียงอย่างมากของทั้งเมืองโตเกียว ว่าตกดึกจะเป็นสถานที่รวบตัวกันของผีปอบ
ซึ่งที่พวกมันมารวมตัวกันนี้ก็เพื่อฆ่าและกินกันเอง เพื่อให้เห็นว่าใครแข็งแกร่งที่สุด
ความแตกต่างของผีปอบนั้นไม่มีอะไรมากนอกจากความแข็งแกร่ง
เวลาตอนนี้คือประมาณ สองทุ่มครึ่ง ผีปอบส่วนมากก็เตรียมตัวกันมาพร้อม
“เบียคุยะ นี่มันจะไม่เป็นปัญหาจริงๆหรอ?”
มาโดะมองไปมองมารอบตัวด้วยความกลัวเหมือนคนเป็นโรคประสาท
“เห้อววว” ซูเซียวหาว “ไม่ต้องกังวล แค่ทำตามแผน”
“เบียคุยะ ฉันมีคำถาม”
“หืม?”
“ควิกเก้ คุณอยู่ไหน? เราจะต้องสู้กับพวกผีปอบไม่ช้าก็เร็ว”
“ผมไม่จำเป็นต้องใช้ควิกเก้”
เมื่อมาโดะได้ยินแบบนั้นก็งงมาก
“ทำไมหล่ะ?”
“เอาหน่า อะคิระ แค่ยืนอยู่นี่แหล่ะ”
ซูเซียวจับไหล่มาโดะ หลังจากนั้นก็กระโดดขึ้นไปบนชั้นสองหายตัวไปทันที
“เบียคุยะ? เบียคุยะ!!”
ในตอนนี้เธอเข้าใจเลยว่าเธอต้องทำอะไร แน่นอนว่าเธอคือเหยื่อล่อ!
ด้วยฝีมือของมาโดะขณะนี้ถ้าหากเจอกับผีปอบระดับ B เธอก็ยังพอสู้ได้ แต่ถ้าหากเจอระดับ A ตายแน่นอน
และเมื่อมาโดะกลัวมาก เริ่มที่จะวิ่งหนี ดวงตาสีแดงก็ตื่นขึ้นรอบตัวเต็มไปหมด
1 2 3 … 7 ผีปอบ!
เธอตายแน่นอนถ้าหากซูเซียวยังไม่เข้ามาช่วย
ทันใดนั้นมาโดะก็เปิดกระเป๋าในมือเพื่อนำควิกเก้ที่ดูคล้ายกับแส้ ซึ่งมีชื่อว่า อะมาซึ ขึ้นมา
“ผู้ตรวจตราผีปอบ!”
“ทำไมผู้ตรวจตราถึงมาอยู่ที่นี่?”
“งั้นก็จัดการเลยเถอะ ตอนนี้ยังมีเวลา ข้าเองก็ยังไม่เคยกินผู้ตรวจตรามาก่อน”
ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมพวกผีปอบยังคงนิ่งไม่สู้กันเอง อาจคงเป็นเพราะว่าจะมีพลังงานบางอย่างแปลกๆที่นี่ก็ได้ที่คอยควบคุมเหตุการณ์ทั้งหมดเอาไว้ พวกมันจะไม่สู้กันเองจนกว่าจะเวลาสามทุ่ม
“เอาสิ เธอคนนี้ไม่น่าจะแข็งแกร่งนะ”
ผีปอบเดินเข้ามารวมตัวกันมากขึ้น จนมากกว่าหนึ่งโหลแล้ว
มาโดะหัวใจเต้นเร็วมาก เธอรู้ดีว่าไม่มีทางหนี
“ดูเหมือนว่าเธอจะทำตามแผนได้นะ”
ซูเซียวพูดขึ้นมาจากบนหลังคา
เมื่อมาโดะได้ยินเสียงซูเซียว เธอก็โล่งอกขึ้นมาบ้าง เพราะว่า CCG สองคนจะจัดการกับเหล่าผีปอบมากมายขนาดนี้ได้ด้วยงั้นหรอ?
“ใครหน่ะ?”
“ผู้ตรวจตรางั้นเรอะ?”
ผีปอบทั้งหมดที่ยืนอยู่ตรงนี้จ้องมองซูเซียว
แต่ซูเซียวนั้นเป็นคนที่มีจิตอาฆาตอยู่แล้ว เมื่อพวกผีปอบเห็นก็รู้ทันทีว่านี่ไม่หมู
“14ตัวเองงั้นหรอ ห้านาทีก็เพียงพอมั้ง”
ซูเซียวกระโดดลงมาและค่อยๆเดินอย่างช้าๆ และไวขึ้นเรื่อยๆจนตัวเบลอหายไปทันที
สิบ รินคาคุ และ บิคาคุ กระหน่ำโจมตีซูเซ๊ยว
ในตอนนี้ซูเซียวแทบจะเกือบพลาดท่าให้แก่เหล่าคากุเนะที่โจมตีมาทั้งหลาย
เมื่อเห็นสิ่งที่เกิดขึ้นมาโดะก็ตกใจมาก แต่เธอยังมีสติ เธอกำแส้ไว้แน่นและพุ่งเข้าใส่ผีปอบระดับ A
คากุสีแดงเข้ม พุ่งห่อล้อมซูเซียวเอาไว้ แต่แสงดาบที่สว่างไสวก็พุ่งพัดผ่านแสงราตรียามค่ำคืน
ซูเซียวเปิดใช้สกิว ชิงกางหยิง
คากุเนะทั้งสิบถูกฟันขาดทันที จนลอยหายเป็นควันไปในอากาศ
เหล่าผีปอบที่ถูกตัดคากุเนะไปก็กรีดร้องจ้องมองซูเซียด้วยความกลัว
ซูเซียวรีบพุ่งเข้าไปข้างหน้าผีปอบระดับ A และฟันเข้าที่คอด้วยดราก้อนแฟลชทันที
หัวกระเด็นขึ้นไปกลางอากาศ ทีละหัวต่อหัว ภายในเวลาเสี้ยววิ
หลังจากนั้นเหล่าผีปอบก็รีบวิ่งหนีกระเจิง
“โง่!”
การหลบหนีหันหลังให้ศัตรูยังไงก็ตายสถานเดียว!
ผีปอบสิบสองตัวและคนหนึ่งคน ในตอนนี้เหลือเพียงผีปอบแปดตัวและมาโดะเท่านั้น
ภายในเวลาไม่ถึง 20วินาที ก็เหลือผีปอบอยู่8 ตัวเท่านั้น
“เป็นไปไม่ได้ ทำไมถึงมีมนุษย์ที่แข็งแกร่งแบบนี้ปรากฏตัวที่นี่! ทำไมไม่มีใครทำอะไรเลย???”
หลังจากโวยวาย พวกผีปอบก็วิ่งหนีกระเจิง
ซูเซียวก็ตามฆ่าเรียงราย
เสียงกรีดร้องเจ็บปวด ดังไปทั่วถนน
พวกผีปอบก็ไม่ได้โง่จนเกินไป พวกมันวิ่งหนีไปคนละทาง
จนท้ายที่สุดซูเซียวก็สามารถตามฆ่าได้แค่ 6 เท่านั้น มีเพียงสองที่หนีรอดไปได้
ในเวลานี้ มาโดะก็กำลังสู้กับผีปอบระดับ A อยู่ ตัวนึก ซึ่งผีปอบตัวนี้ไม่ได้กลัวอะไรมาโดะ แต่ที่กลัวก็คือชายที่มากับมาโดะซึ่งไม่ต่างกับเทพแห่งสงคราม
“ได้โปรด ปล่อยผมไปเถอะ”
ทันใดนั้นผีปอบก็พูดขอร้องชีวิตขึ้นมา ซึ่งทำให้มาโดะเองงงมาก
แต่เมื่อมาโดะมองไปรอบๆก็เข้าใจสถานการณ์แล้วว่าทำไม
ซูเซียวกำลังนั่งอยู่บนศพผีปอบและดูดบุหรี่รอ ดาบในมือที่เลือดติดอยู่ก็กำลังไหลรินอย่างน่าสยอง
มาโดะเองก็งงมากมาย ขณะที่เธอกำลังสู้กับผีปอบตัวเดียว แต่ซูเซียวกับจัดการที่เหลือจนหมด
“ตัวท้ายตรงนั้นหน่ะ ถ้ากล้าวิ่งนี้ ข้าจะหั่นเจ้าเป็นชิ้นๆ”
ซูเซียวมองผีปอบตัวสุดท้ายที่เหลืออยู่ เพื่อต้องการใช้ผีปอบตัวนี้เป็นเหยื่อล่อตัวต่อไป เพราะการที่ให้คู่หูของเขามาเป็นเหยื่อล่อนั้นไม่ใช่เรื่องดีเลย
คอมเม้นต์