ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 41 : สอบกลางภาค

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 41 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

บทที่ 41 : สอบกลางภาค

หลังจากที่เว่ยฉีหยวนเดินเข้าไปในห้อง ผู้ช่วยของเว่ยพังเฉิงก็เดินออกไปทันทีพร้อมกับปิดประตูห้อง

นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกันแน่?”

เว่ยพังเฉิงถามขึ้นด้วยสีหน้าที่ไม่พอใจ เพราะสภาพการณ์เช่นนี้บ่งบอกว่างานที่เขาสั่งให้ไปทำนั้นล้มเหลว แล้วเขาจะพอใจได้อย่างไรกันเล่า?

พ่อครับ.. ความจริงทุกอย่างกำลังจะไปได้ด้วยดี และเป็นไปตามแผนที่พ่อวางไว้อยู่แล้ว แต่จู่ๆไอ้หมอนั่นเป็นใครมาจากไหนก็ไม่รู้ เข้ามาทำลายแผนการของพวกเราพังหมดเลย!”

มันเป็นแค่เด็กวัยรุ่นคนหนึ่ง อายุไม่น่าถึงยี่สิบปีด้วยซ้ำไป จู่ๆมันก็เดินเข้ามาในห้องประชุม แล้วก็จัดการซัดลูกน้องของผมลงไปกองกับพื้นจนสลบเหมือด แล้วก็บังคับให้กรรมการในห้องทั้งหมดเซ็นต์ยกหุ้นให้กับฉีเสี่ยวจือฟรีๆด้วย!”

แกว่าอะไรนะ?!”

เว่ยพังเฉิงร้องตะโกนออกมาเสียงดัง เพราะนั่นหมายถึงแผนการฮุบกิจการของยู๋ไห่กรุ๊ปได้ล้มเหลวลงแล้ว!

ไม่แค่นั้นนะพ่อไอ้บ้านั่นยังบังคับให้ผมเซ็นต์สัญญาที่ระบุว่า เว่ยฉีกรุ๊ปจะลงทุนกับยู๋ไห่กรุ๊ปหนึ่งร้อยล้านโดยไม่ต้องการรับผลประโยชน์ใดๆอีกด้วย!”

เวลานี้ร่างของเว่ยพังเฉิงสั่นสะท้านไปทั้งร่าง เขาคร่ำหวอดอยู่ในแวดวงธุรกิจมากนาน ยังไม่เคยเสียเปรียบให้ใครมากถึงขนาดนี้มาก่อน

มันเป็นใคร?”

นี่เป็นรูปของมันครับพ่อ!”

เว่ยฉีหยวนส่งโทรศัพท์มือถือที่มีรูปของซูอานให้กับเว่ยพังเฉิงดู เขาแอบถ่ายรูปซูอานไว้เพื่อที่จะกลับไปคิดบัญชีคราวหลัง

เว่ยฉีหยวนรีบสั่งให้ลูกน้องของตนจัดการสืบประวัติของซูอานอย่างละเอียดทันที!

จนกระทั่งผ่านไปครู่หนึ่ง ชายสวมชุดสูทสีดำก็เดินเข้ามาในห้องทำงานของเว่ยพังเฉิงด้วยสีหน้าที่ตื่นตระหนก

ได้ความยังไงบ้าง?” เว่ยพังเฉิงรีบถามขึ้นทันที

ชายสวมชุดสูทสีดำตอบกลับด้วยท่าทางเคารพนบนอบ “ท่านประธานครับ คนที่ท่านประธานให้สืบประวัติ ผมสืบมาได้แล้วครับ!”

มันเป็นใคร?”

ชายชุดดำขมวดคิ้วเล็กน้อยในขณะที่ตอบกลับไปว่า “เขาชื่อว่าซูอาน เป็นคนธรรมดาทั่วไป!”

คนธรรมดา.. เป็นไปได้ยังไง?”

เป็นความจริงครับท่านประธาน เพียงแต่.. ยังมีอีกเรื่องเกี่ยวกับซูอานที่สืบมาได้!”

เรื่องอะไรกัน?” เว่ยพังเฉิงถามขึ้นด้วยความกระวนกระวายใจ

เมื่อไม่กี่วันมานี้เอง เด็กหนุ่มคนนี้ได้ช่วยชีวิตของคุณหนูฮั๋วว่านว่านแห่งตระกูลฮั๋วไว้ได้! ”

เมื่อได้ยินเช่นนั้น สีหน้าของเว่ยพังเฉิงก็ถึงกับเปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาบ่งบอกว่าไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่ได้ยิน!

แกแน่ใจนะ?!”

แน่ใจครับท่าน!” ชายชุดดำยืนยันหนักแน่น “เรื่องนี้เกิดขึ้นที่โรงพยาบาลเจียงโจว และเวลานี้ข่าวทั้งหมดเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็ถูกสั่งปิด!”

ใบหน้าของเว่ยพังเฉิงปรากฏเม็ดเหงื่อผุดขึ้นมามากมาย เห็นได้ชัดว่าเขากำลังตกอกตกใจอย่างมาก!

เพียงแค่ฮั๋วเว่ยเฟิง เว่ยพังเฉิงก็นับว่าด้อยกว่าแล้ว แต่หากเทียบกับผู้เฒ่าฮั๋ว เว่ยพังเฉิงก็แทบไม่มีอะไรเลย!

ผู้เฒ่าฮั๋วมีหลานสาวอยู่เพียงคนเดียวเท่านั้น และเขาก็รักหลานสาวคนนี้ปานดวงใจ ในเมื่อซูอานเป็นคนช่วยชีวิตของฮั๋วว่านว่านไว้ มีหรือที่เว่ยพังเฉิงจะไม่สามารถคาดเดาได้ว่า ผู้เฒ่าฮั๋วจะซาบซึ้งบุญคุณของซูอานมากเพียงใด?

และหากเขาลงมือกับซูอาน แน่นอนว่าผู้เฒ่าฮั๋วจะต้องไม่ยอมอยู่เฉยแน่!

เร็วเข้ารีบไปบอกให้คนโอนเงินหนึ่งร้อยล้านหยวนไปที่บัญชีของยู๋ไห่กรุ๊ปเดี๋ยวนี้!”

หลังจากได้รับคำสั่งของเว่ยพังเฉิงแล้ว ชายชุดดำจึงรีบเดินออกจากห้องไปทันที

เวลานี้จึงเหลือเพียงแค่เว่ยพังเฉิงกับเว่ยฉีหยวนอยู่ในห้องตามลำพัง เว่ยพังเฉิงจ้องหน้าลูกชายด้วยสายตาดุดัน จากนั้นจึงยกมือขึ้นตบหน้าของเขาด้วยความโมโห!

จากนี้ไปอย่าได้ไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กนั่นอีก!”

เว่ยฉีหยวนเต็มไปด้วยความคับแค้นใจ แต่เขาเองก็รู้จักตระกูลฮั๋วดีว่ามีอำนาจอิทธิพลมากเพียงใด จึงได้แต่พยักหน้ารับคำสั่งของเว่ยพังเฉิงผู้เป็นพ่ออย่างเสียดาย

……

หลังจากที่ท้องฟ้าเริ่มสว่างไสว ซูอานจึงเริ่มทำการยืดเส้นยืดสายภายหลังการฝึกฝน และเมื่อเห็นว่าได้เวลาแล้ว เขาก็คว้ากระเป๋านักเรียนเดินออกจากบ้านไปทันทีหลังจากที่ขาดเรียนไปหลายวัน

และเมื่อก้าวเท้าเข้าไปในโรงเรียน ซูอานก็กลายเป็นจุดสนใจของผู้คนอีกครั้ง..

เมื่อทุกคนในโรงเรียนได้ยินว่าซูอานสามารถเล่นงานเว่ยฉีกรุ๊ปได้ ทุกคนต่างก็รู้สึกหวาดกลัวเขามากขึ้น

ทุกคนในโรงเรียนต่างก็รู้สึกว่าซูอานต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ไม่เช่นนั้นแล้วเหตุใดเว่ยฉีกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่กว่าไห่เทียนกรุ๊ปไม่รู้กี่เท่า จึงยังนิ่งเฉยปล่อยให้ซูอานเดินหายใจอยู่เช่นนี้ได้!

ทุกคนต่างก็รู้สึกว่า ต้องมีผู้มีอำนาจอิทธิพลหนุนหลังซูอานอยู่แน่ๆ!

ด้วยเหตุนี้ทุกคนจึงพยายามอยู่ให้ห่างจากซูอานให้มากที่สุด..

…..

ทันทีที่ซูอานเดินเข้ามาในห้อง เจียเหวินเวหินก็รีบวิ่งเข้าไปขอบอกขอบใจเขาทันที!

ปัญหานี้เสมือนโรคทางใจของเจียงเหวินเหวินมาตลอด เวลานี้ยู๋ไห่กรุ๊ปกลับเข้าสู่ภาวะปกติ พ่อของเธอจึงมีความสุขมาก ตัวเธอเองก็เลยมีความสุขไปด้วยเช่นกัน!

เพื่อนนักเรียนที่นั่งอยู่โต๊ะด้านหลังซูอานถึงกับอดรนทนไม่ได้ และรีบถามออกมาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

ซูอาน.. ถามจริงๆ ใครอยู่เบื้องหลังนายกันแน่เว่ยฉีกรุ๊ปถึงได้กลัวนาย?”

ซูอานยิ้มออกมาเล็กน้อยพร้อมตอบกลับไปว่า “เซียนกระมัง?”

เด็กนักเรียนชายถึงกับยิ้มเก้อ เพราะรู้ว่าซูอานไม่ต้องการตอบคำถาม จึงได้แต่นิ่งเงียบไม่กล้าถามอะไรอีก..

จู่ๆ เสียงพูดคุยกันหนวกหูในห้องเรียนก็เงียบลง เมื่อหัวหน้าครูจางเชียงเดินเข้ามา ทุกคนต่างก็กลับไปนั่งที่ของตัวเองให้เรียบร้อย

และทันทีที่จางเชียงเห็นหน้าซูอาน สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบึ้งตึงทันที พร้อมกับร้องตะโกนถามเสียงดัง

ซูอาน.. เธอขาดเรียนไปตั้งหลายวัน หายไปทำอะไรมา?”

จางเชียงตะโกนถามซูอานด้วยความโมโห และตอนนี้ก็กำลังจะจัดการกับซูอานที่ขาดเรียนไปหลายวัน

แต่ซูอานตอบกลับไปโดยไม่ไว้หน้าจางเชียง “เรื่องของข้า!”

จางเชียงได้ฟังคำตอบของซูอานก็ถึงกับโมโหอย่างมาก แต่ก็ไม่กล้าทำอะไร เพราะเวลานี้ซูอานดูเหมือนจะมีอิทธิพลมากจนเขาเองก็ไม่กล้าแตะต้อง

ฉันเป็นครูของเธอนะซูอานไม่มีสิทธิ์ถามเธอหรือยังไง?”

แต่ข้าไม่เคยนับว่าเจ้าเป็นอาจารย์ของข้า!” ซูอานตอบจางเชียงกลับไปพร้อมกับจ้องมองเขาราวกับคนโง่เขลาคนหนึ่ง

แต่ในระหว่างนั้นเอง เจียงเหวินเหวินก็ลุกขึ้นยืนตอบแทนซูอานว่า “ครูจางคะ ซูอานไม่ค่อยสบาย ก็เลยต้องนอนพักอยู่ที่บ้านสองสามวันค่ะ!”

จางเชียงได้แต่จ้องมองจางเหวินด้วยความไม่พอใจ ก่อนจะพูดออกไปว่า “การสอบกลางภาคจะเริ่มขึ้นบ่ายนี้แล้ว หวังว่าเธอคงจะเตรียมตัวมาอย่างดีสินะ?”

จางเชียงพูดขึ้นพร้อมกับจ้องมองไปทางซูอานอย่างผู้ชนะ และเขาเชื่อว่าซูอานจะต้องถูกเขาไล่ออกอย่างแน่นอน

แต่ซูอานกลับมีสีหน้าเรียบเฉย ไม่มีแม้แต่ความวิตกกังวลปรากฏให้เห็น..

….

เมื่อการสอบเริ่มต้นขึ้นในตอนบ่าย ทุกคนต่างก็แยกย้ายไปนั่งตามหมายเลขที่ตนเองได้รับ ส่วนจางเชียงก็จงใจไปยกเก้าอี้ไปนั่งใกล้ๆกับซูอาน เพื่อป้องกันไม่ให้เขาตุกติกในการสอบครั้งนี้ได้ และแทบไม่สนใจเด็กนักเรียนคนอื่นเลย

และวิชาแรกที่สอบก็คือวิชาภาษาจีน เมื่อได้กระดาษข้อสอบมา ซูอานก็เริ่มทำเขียนคำตอบลงไปในกระดาษคำตอบอย่างคล่องแคล่ว จนจางเชียงที่นั่งมองอยู่ด้านหลังถึงกับอึ้งไป แต่ก็มั่นใจว่าซูอานคงจะเขียนคำตอบมั่วๆไป จึงได้แต่พูดกระแนะกระแหนซูอานว่า

คำตอบของเธอถูกหรือเปล่าก็ไม่รู้?”

ซูอานไม่สนใจกลับคำพูดของจางเชียง และไม่ถึงสิบนาทีเขาก็ส่งกระดาษคำตอบให้จางเชียง!

ทุกคนในห้องเห็นซูอานส่งกระดาษคำตอบเร็วเช่นนั้น ต่างก็คิดว่าซูอานคงทำไม่ได้จึงรีบส่งกระดาษคำตอบคืนครูจางไป..

ครูผู้หญิงที่มาช่วยครูจางคุมสอบ รีบเดินไปหยิบกระดาษคำตอบของซูอานขึ้นมาตรวจดู และสีหน้าของครูผู้หญิงก็เต็มไปด้วยความตกใจ

ไม่ต้องไปเสียเวลาอ่านหรอก คงเขียนมั่วๆนั่นล่ะ!”

จางเชียงร้องบอกครูผู้หญิงด้วยสีหน้ามั่นอกมั่นใจ และเชื่อว่าซูอานไม่มีทางทำข้อสอบได้แน่

แต่ครูผู้หญิงกลับส่ายหน้าและตอบกลับไปว่า “เท่าที่ฉันตรวจดูคร่าวๆ อย่างน้อยๆก็ต้องได้คะแนนไม่ต่ำกว่า 130 คะแนนเลยนะคะครูจาง!”

จางเชียงแทบตกจากเก้าอี้ และรีบพูดสวนขึ้นอย่างรวดเร็ว “ครูจ้าว.. อย่าล้อเล่นดีกว่า!”

ครูจ้าวตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “นี่ครูจาง.. คุณไม่เชื่อในความสามารถของฉันเหรอคะ?”

จางเชียงได้แต่ส่ายหน้าไปมา เพราะครูจ้าวนั้นอายุมากกว่าเขา เขาจึงไม่กล้ามีปัญหากับเธอ..

แต่จางเชียงก็ยังคงไม่เชื่อว่าซูอานจะสามารถทำคะแนนได้สูงขนาดนี้ เขาเริ่มรู้สึกไม่สบาบใจ แต่ในชั่วโมงที่สองจะเป็นการสอบวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งเขาเป็นคนสอน และเขาก็ออกข้อสอบที่ยากมาก เขาจึงมั่นใจว่าซูอานจะไม่มีทางทำได้อย่างแน่นอน!

นักเรียนคนอื่นๆที่ได้รับข้อสอบไปนั้น ต่างก็ทำหน้านิ่วคิ้วขมวดกันหมด ทุกคนต่างก็มองหน้าครูจางด้วยความโมโห แต่ก็ไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้แต่ก้มหน้าก้มตาทำข้อสอบต่อไป

ทางด้านซูอานเมื่อได้รับกระดาษข้อสอบไป ก็เริ่มลงมือทำไม่หยุด..

และผ่านไปเพียงแค่สิบนาที กระดาษคำตอบของซูอานก็เต็มไปด้วยตัวเลข เว้นแต่คำถามข้อสุดท้ายเท่านั้นที่มีตัวอักษรอยู่สองสามคำซึ่งซูอานจงใจให้เป็นเช่นนั้น

เขาต้องการที่จะไม่ทำตัวให้เป็นที่สนอกสนใจของผู้คน หากเขาสามารถทำข้อสอบได้โดยไม่ผิดแม้แต่ข้อเดียว ก็อาจจะเป็นที่สงสัยของผู้คน เขาเพียงแค่ต้องการเป็นที่หนึ่งของห้องเท่านั้น!

หลังจากที่จางเชียงได้รับกระดาษคำตอบของซูอานไป เขาก็รีบนำมาตรวจดูทันที แต่แล้วสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นบิดเบี้ยวอย่างน่าเกลียด

ต่อให้ฆ่าเขาให้ตาย เขาก็ไม่อยากจะเชื่อว่านี่เป็นกระดาษคำตอบของซูอานจริงๆ!

แต่สิ่งที่ทำให้จางเชียงโมโหจนต้องทุบกำปั้นลงบนโต๊ะก็คือตัวอักษรในกระดาษคำตอบข้อสุดท้าย!

ที่ข้าไม่ตอบคำถามข้อนี้ เพราะไม่อยากได้คะแนนเต็ม!’

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด