ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 44 : คนธรรมดา เช่นเจ้า ไม่อยู่ในสายตาของข้า!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 44 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

 

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 44 : คนธรรมดา เช่นเจ้า ไม่อยู่ในสายตาของข้า!

 

บทที่ 44 : คนธรรมดาเช่นเจ้า ไม่อยู่ในสายตาของข้า!

 

ฮั่วว่านว่านกําลังนั่งอยู่ในร้านกาแฟหรูหราแห่งหนึ่ง ข้างกายเธอมีสาวน้อยหน้าตาสะสวยนั่งอยู่ด้วย แต่ความสวยของเธอก็นับว่ายังด้อยกว่าฮั่วว่านว่านอยู่ดี

 

ตรงข้ามชั่วว่านว่านมีชายหนุ่มหน้าตาดีสองคนอายุราวยี่สิบปีนั่งอยู่ด้วย..

 

ทั้งคู่เป็นชายหนุ่มที่มาจากครอบครัวร่ำรวย ชายหนุ่มที่นั่งตรงข้ามฮัวว่านว่านนั้นเป็นลูกชายเจ้าของบริษัทแห่งหนึ่งในเมืองเจียงโจวและครอบครัวของเขาก็มีทรัพย์สินหลายพันล้าน

 

ส่วนอีกคนนั้นชื่อว่าหยวนจิ๋วซื้อมาจากครอบครัวที่ร่ํารวยยิ่งกว่า และเป็นทายาทโดยตรงของตระกูลหยวน นอกจากนั้นคนในตระกูลของเขายังมีตําแหน่งสําคัญๆในกองทัพและการเมืองด้วย 

หยวนจิ๋วชื่อยังเป็นสมาชิกที่อายุน้อยที่สุดของหน่วยรบพิเศษเจี้ยนเตาประจําเจียงหนานอีกด้วย!

 

หน่วยรบเจี้ยนเตานี้ขึ้นตรงกับผู้บัญชาการทหารสูง สุดของกองทัพ และทหารในหน่วยนี้ล้วนแล้วแต่มียศตั้งแต่พันตรีขึ้นไป

 

อนาคตของชายหนุ่มผู้นี้แน่นอนว่าย่อมต้องมีแต่ความรุ่งเรือง และก้าวหน้า และชายหนุ่มที่เพียบพร้อมเช่นนี้ย่อมเป็นที่หมายตาของหญิงสาวมากมาย เพราะไม่เพียงมีพื้นฐานครอบครัวที่ดี แต่ยังมีอนาคตไกล และที่สําคัญหยวนจิ๋วชื่อยังมีใบหน้าที่หล่อเหลามากด้วย!

 

หลังจากวางสายจากเหล่าฮั่วแล้ว ฮัวว่านว่านกับทุกคนว่า “ฉัน ตองขอตัวกลับก่อนแล้ว โทรมาบอกให้รีบกลับมีเรื่องเซอร์ไพรส์ฉัน!”

 

หยวนจิ๋วชื่อยิ้มออกมาพร้อมกับพูดขึ้นว่า “งั้นต้องรีบกลับเพราะ ผู้เฒ่าฮัวโทรมาตามด้วยตัวเอง ฝากทักทายผู้เฒ่าฮั่วด้วยล่ะ!”

ความสัมพันธ์ระหว่างฮั่วว่านว่านกับหยวนจิ๋วชื่อนั้นไม่ธรรมดา ทั้งคู่เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก และทุกคนในเจียงโจวต่างก็รู้ว่าทั้ง สองคนต่างก็จะต้องมาเป็นทายาทผู้ดูแลกิจการของทั้งสองตระกูลในวันข้างหน้า

 

ทั้งคู่ต่างก็ชอบพอกัน และรอคอยเพียงแค่เวลาที่เหมาะสมเท่านั้น

 

“ว่านว่าน.. ผมมีอะไรจะบอกคุณ!”

 

ดวงตาคมกริบของหยวนจิ๋วชื่อและใบหน้าหล่อเหลาของเขานั้นจับจ้องแน่วแน่อยู่ที่ใบหน้างดงามของฮั่วว่านว่าน

 

“เรื่องอะไรเหรอ?”

 

ฮัวว่านว่านแก้มแดงขึ้นมาทันที และกําลังคาดเดาคําตอบอยู่

ในใจ

 

“ผมบอกพ่อเรื่องที่จะมาสู่ของคุณแล้วนะ”

 

เคร้ง..

 

ช้อนในมือของเพื่อนผู้หญิงที่นั่งอยู่ข้างฮัวว่านว่านหล่นลงไปในแก้วกาแฟ ใบหน้าของเธอซีดเผือด แต่ก็รีบยิ้มออกมาและพูดขึ้นว่า

 

“ขอแสดงความยินดีด้วย ฉันกําลังรอเป็นเพื่อนเจ้าสาวให้เธออยู่พอดีเลย..”

 

“เสี่ยวเมิ่ง พูดเพ้อเจ้ออะไรกัน?”

 

แม้ฮัวว่านว่านจะทําเป็นตําหนิเพื่อนเสียงดัง แต่ใบหน้าของเธอนั้นกลับแดง… เห็นชัดว่ากําลังเขินอาย

 

“ผมบอกไว้ก่อน ยังไงก็ต้องรอให้คุณโตขึ้นอีกหนึ่งปี ผมถึงจะให้พ่อไปหมั้นคุณไว้”

 

“พูดเพ้อเจ้ออะไรกัน? ฉันไปดีกว่า!”

 

ชั่วว่านว่านเขินอายจนต้องรีบคว้ากระเป๋าหลุยส์ของตัวเองวิ่งออกจากร้านทันที!

ฮัวว่านว่านขับรถ Ferrari 458 สีแดงที่จอดไว้ด้านนอกออกไปอย่างรวดเร็ว และรถFerrari 458 ของเธอนั้นก็ราคาแพงกว่ารถ Bentley ของโจวเทียนห่าวไม่รู้กี่เท่า

ทันทีที่ขับรถเข้าไปจอดหน้าบ้าน ก็มีคนมาขับรถเข้าไปเก็บให้ส่วนฮัวว่านว่านก็รีบวิ่งเข้าไปในบ้านพร้อมกับร้องตะโกนเสียงดัง 

 

“ปู่คะ มีเรื่องด่วนอะไรคะถึงได้โทรตามหนูกลับมาแบบนี้?”

 

แต่เมื่อเข้าไปในห้องรับแขกและเห็นหน้าซูอาน สีหน้าของฮัวว่านว่านก็เปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วนทันที เพราะซูอานเป็นคนช่วยชีวิตเธอไว้แท้ๆ แต่ในวันที่ออกจากโรงพยาบาล เธอกลับไปเตะเขาเข้าด้วยความเข้าใจผิด ทําให้เธอยังคงรู้สึกผิดมาจนถึงตอนนี้

 

แต่เมื่อเห็นแววตาสงบนิ่งไร้อารมณ์ความรู้สึกที่จ้องมองมาทางตนนั้น จู่ๆความรู้สึกไม่ชอบก็ปรากฏขึ้นในใจของเธอทันที

 

ซูอานจ้องมองฮั่วว่านว่านที่กําลังสวมแว่นตาดํา และนั่นทําให้เธอดูเป็นเด็กสาวกํากั่นเจ้าอารมณ์มากยิ่งขึ้น

 

“ว่านว่าน.. มานั่งตรงนี้เร็วเข้า!”

 

เหล่าฮัวจัดแจงให้ฮัวว่านว่านเข้ามานั่งข้างซูอานทันที หลังจากทําท่าลังเลเล็กน้อย เธอก็เดินกระแทกเท้าไปนั่งข้างซูอานอย่างขัดใจ

 

“หลานปู่ นี่คือท่าทางของคนของหลานเมื่อพบเจอผู้มีพระคุณงั้นรึ?” เหล่าฮัวเห็นท่าทางของฮัวว่านว่านก็ได้แต่ร้องบอกด้วยสีหน้าเหนื่อยใจ

 

ชั่วว่านว่านขมวดคิ้วเล็กน้อย จากนั้นจึงหันไปทางซูอานพร้อมกับยื่นมือเรียวยาวออกไปข้างหนึ่ง และพูดกับซูอานว่า

“ขอบคุณมาก!”

 

ฮัวว่านว่านทําตามอย่างว่าง่าย เพราะนี่คือมารยาทที่ตระกูลใหญ่ๆต่างก็ต้องปลูกฝังลูกหลานของตนเอง

 

ซูอานยื่นมืออกไปจับฝ่ามือของฮัวว่านว่านพร้อมกับเขย่า “ไม่เป็นไร.. ถือเป็นการตอบแทนเหล่าฮั่ว!”

จากนั้นห้องทั้งห้องก็เงียบขึ้นมาอีก และต่างคนต่างก็มีทีท่ากระอักกระอ่วน ในที่สุดเหล่าฮั่วจึงเป็นฝ่ายพูดขึ้นทําลายความเงียบ

“ที่ปู่เรียกหลานมาวันนี้ก็เพราะมีเรื่องสํา คัญต้องการจะบอกกับหลาน!”

“พูดมาเลยค่ะปู่!”

 

ฮัวว่านว่านตอบกลับด้วยสีหน้าจริงจัง และกําลังรอฟังอย่างใจจดใจจ่อ

 

“เรื่องนี้เกี่ยวพันกับการแต่งงานของหลาน หลานตั้งใจฟังให้ดีล่ะ

 

หลังจากได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของฮั่วว่านว่านก็เปลี่ยนเป็นแดงก่ำขึ้นมาทันที ในใจก็ได้แต่คิดว่าที่แท้หยวนจิ๋วชื่อก็ได้แอบมาคุยเรื่องนี้กับปู่ของเธอไว้นานแล้ว

 

“หากปู่จะจัดการเรื่องนี้ให้หลานมีข้อขัดข้องอะไรมั้ย?”

 

“ปู่คะ หนูยังเด็กอยู่เลย!” ฮั่วว่านว่านทําท่าทางเก้อเขินเอียงอายราวกับเด็กน้อยก่อนจะพูดต่อว่า “ควรรอให้หนูโตเป็นผู้ใหญ่กว่านี้ก่อน..”

 

“เรื่องการแต่งงานรอหลานโตกว่านี้แล้วค่อยจัดการ แต่ต้องพูดคุยเจรจาตกลงกันไว้ก่อน”

 

เหล่าชั่วตอบพร้อมกับหันไปทางซูอาน แล้วถามขึ้นด้วยน้ำเสียงจริงจัง “หลานคิดว่าซูอานเป็นยังไงบ้าง?”

 

ฮัวว่านว่านทําหน้างุนงง และได้แต่คิดในใจว่าเกี่ยวอะไรกับซูอาน? แต่ก็ตอบปู่ของเธอไปว่า “เขาเป็นคนดีมากหนูซาบซึ้งบุญคุณของเขาที่ช่วยชีวิตหนูไว้”

 

“เอาล่ะ.. ที่ปู่เรียกหลานมาในวันนี้ ก็เพื่อจะมาคุยเรื่องการแต่งงานระหว่างหลานกับซูอาน!”

 

ฮั่วว่านว่านตกใจจนแทบตกจากโซฟา เธอคิดไม่ถึงว่าปู่ของเธอจะจับคู่ให้เธอกับซูอานเช่นนี้

 

“ถ้าหลานตกลง ปู่ก็จะจัดการหมั้นกันไว้ก่อน รอให้หลานโตถึงค่อยจัดการเรื่องแต่งงาน”

ฮัวว่านว่านรีบปฏิเสธทันที “หนูไม่ตกลง!”

สีหน้าของฮั่วว่านว่านเต็มไปด้วยความโกรธเกรี้ยว เมื่อรู้ว่าปู่ของเธอกําลังจะหมั้นหมายเธอให้กับซูอาน และความโกรธเกรี้ยวของเธอนั้นก็ไม่ได้เกิดขึ้นเพราะรู้สึกรังเกียจซูอานแต่อย่างใด แต่เธอโกรธเพราะคิดว่าซูอานเป็นต้นเหตุของเรื่องนี้นั่นเอง

 

ส่วนซูอานเมื่อเห็นท่าทางโกรธเกรี้ยวของฮัวว่านว่านนั้นก็ได้แต่นึกดีใจ เพราะเขาเองก็ไม่ได้รู้สึกอะไรกับเธอเช่นกัน

 

“ซูอาน ฉันซาบซึ้งบุญคุณของคุณที่ช่วยชีวิตฉันไว้ แต่กรุณาอย่ายกเอาบุณคุณมาบีบบังคับฉันแบบนี้?”

 

ซูอานจ้องมองฮัวว่านว่านด้วยแววตาโกรธเกรี้ยว และไม่หลงเหลือความรู้สึกซาบซึ้งใจให้กับซูอานอีกเลย

 

เหล่าฮั่วรีบพูดขึ้นด้วยใบหน้าผิดหวัง “เรื่องนี้เป็นความคิดของปู่เอง ไม่เกี่ยวกับซูอาน!”

 

“หึ! คนน่ารังเกียจ คิดจะใช้ปู่มากดดันฉันเหรอ ฝันไปเถอะ!”

 

ฮั่วว่านว่านลุกขึ้นยืนร้องตะโกนใส่หน้าซูอาน แต่กลับถูกเหล่าฮั่ว ตําหนิเสียงดัง “ว่านว่าน! หลานจะบ้าไปแล้วเหรอ โตขนาดนี้แล้วยังจะเอาแต่ใจอีก!”

 

ใบหน้าของเหล่าฮั่วเวลานี้เคร่งเครียดอย่างมาก เห็นได้ชัดว่าเขากําลังโมโหสุดขีด และนั่นทําให้ฮัวว่านว่านถึงกับโมโหจนต้องร้องไห้ออกมา

 

“คุณปู่!”

ฮัวว่านว่านใช้วิธีร้องไห้เป็นเด็ก และเป็นวิธีที่ใช้ได้ผลเสมอกับปู่ของเธอ แต่ครั้งนี้ผู้เฒ่าฮัวกลับนิ่งเฉยไม่ตามใจเช่นเคย

“ปู่ทําเพราะหวังดีกับหลาน ซูอานไม่ดีตรงไหน?”

“หากไม่นับเรื่องทะเลาะกันเพราะเข้าใจผิดคราวนั้น นอกจาก เขาจะช่วยชีวิตของหลานแล้ว วรยุทธของเขายังเหนือกว่าปู่ มากนัก!”

 

“แต่หนูไม่ได้ชอบเขานี่คะ? นี่มันยุคสมัยใหม่แล้วนะคะคุณปู่ ไม่มีใครเขาคลุมถุงชนกันอีกแล้ว!”

 

ซูอานได้แต่นั่งนิ่งเงียบไม่พูดไม่จา และกําลังดูสองปู่หลานทะเลาะกัน..

 

“อย่าลืมว่าตระกูลฮั่วเป็นตระกูลใหญ่ไม่ใช่ครอบครัวธรรมดาทั่วไป เพราะฉะนั้นการตัดสินใจภายในตระกูลเป็นหน้าที่ของปู่”

 

ผู้เฒ่าฮั่วตอบกลับไปด้วยสีหน้าเคร่งเครียด ในขณะเดียวกันก็จ้องมองฮัวว่านว่านด้วยความโมโห

 

ถูกต้องแล้ว นี่คือตระกูลใหญ่ ตระกูลที่ผู้คนต่างก็ให้ความเคารพนับถือ และเป็นตระกูลที่มีหน้ามีตาในสังคม!

 

และหากตระกูลใหญ่เหล่านี้ต้องการที่จะรักษาความยิ่งใหญ่นี้ไว้ ย่อมหมายถึงบางสิ่งบางอย่างที่จะต้องเป็นไปตามความเหมาะสมของผู้มีอํานาจในตระกูล และเรื่องแต่งงานของคนในตระกูลก็ถือเป็นเรื่องจําเป็น

 

ฮัวว่านว่านเข้าใจเรื่องนี้ดี แต่เธอไม่ได้ชอบซูอาน เธอชอบหยวน จิ๋วชื่อ จึงได้ถามปู่ของเธอออกไปว่า

 

“ตระกูลหยวนก็เป็นตระกูลใหญ่ หยวนจื่อซิ่วเองก็มีตําแหน่งถึง พันตรี ด้อยกว่าซูอานตรงไหน?” ฮัวว่านว่านตอบโต้ปู่ของเธอ พร้อมกับปรายตามองซูอานด้วยแววตาเหยียดหยัน

 

“หึ! ปู่ตั้งใจที่จะฝากซูอานเข้าไปอยู่ในกองทัพเหมือนกัน ถึงตอนนั้นด้วยความสามารถของเขา อีกห้าปีต้องได้ขึ้นเป็นพันเอกแน่ อนาคตของเขาจะก้าวหน้าอีกไม่รู้เท่าไหร่ต่อเท่าไหร่”

 

ฮั่วว่านว่านถึงกับนิ่งอึ้งไปเมื่อได้ยินคําเช่นนั้น เพราะรู้ว่าปู่ของเธอสามารถทําเช่นนั้นได้ และการที่มีคนในครอบครัวมียศทางทหารที่สูง ก็จะเป็นหน้าเป็นตาให้กับวงศ์ตระกูลด้วย

 

แต่ลุงของหยวนจิ๋วชื่อก็อยู่ในกองทัพเหมือนกัน เมื่อคิดได้เช่นนี้ฮัวว่านว่านจึงตัดสินใจตอบปู่ของเธอไปว่า

 

“ปู่คะ หนูกับพี่จิ๋วชื่อชอบพอกัน และพี่จิ๋วชื่อก็บอกกับหนูว่าจะ มาส่งผู้ใหญ่มาหมั้นหมายหนูเร็วๆนี้!”

“หยวยจิ๋วซ่องั้นรึ?”

 

ผู้เฒ่าชั่วไม่นึกประหลาดใจเท่าไหร่ เพราะทั้งสองคนต่างก็เป็น เพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ผู้เฒ่าฮัวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง. ตระกูลหยวนนับว่าเป็นตระกูลใหญ่ตระกูลหนึ่ง หากสองตระกูลได้ดองกัน ต่างฝ่ายต่างก็จะได้รับผลประโยชน์มากมายที่เดียว 

แต่ซูอานก็เปรียบเสมือนม้ามืด และด้วยความสามารถของซูอาน แม้แต่ตัวผู้เฒ่าฮัวเองยังไม่อาจประเมินได้ว่าเขาจะมีอนาคตที่รุ่งโรจน์และยิ่งใหญ่มากเพียงใด?

ระหว่างที่ผู้เฒ่าฮัวกําลังชั่งน้ำหนักอยู่นั้น ซูอานก็ลุกขึ้นยืน พร้อมกับพูดขึ้นด้วยสีหน้าสงบนิ่ง

 

“เหล่าฮัว ได้เวลาที่ข้าควรต้องกลับแล้ว อีกอย่าง นี่ก็ไม่ใช่ความคิดของข้า!”

 

เมื่อได้ยินซูอานเอ่ยออกมาเช่นนั้น เหล่าฮัวก็ถึงกับพูดขึ้นด้วยความไม่พอใจ “เธอจะไปไหน? เรายังคุยเรื่องนี้ไม่เสร็จเลย!”

 

“ยังมีอะไรไม่ชัดเจนอีกเล่า ในเมื่อหลานสาวของเจ้าไม่ได้ชอบข้า!”

“ใครบอกว่าว่านว่านไม่ชอบเธอ เพียงแต่หลานสาวของฉันยังไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับเธอมากนัก รอให้พวกเธอทั้งสองได้มีโอกาสใกล้ชิดกันกว่านี้ รับรองว่าว่านว่านต้องหลงรักเธอหัวปักหัวปำ แน่!”

 

ฮัวว่านว่านหันไปมองซูอานพร้อมตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ฉันไม่มีทางแต่งงานกับคุณแน่!”

 

ซูอานคร้านที่จะอธิบายอะไรอีกเพราะเห็นว่าไม่มีประโยชน์อะไร เขาช่วยชีวิตของเธอ และนั่นก็เป็นการตอบแทนความดีที่เหล่าฮั่วมีต่อเขาเท่านั้น และที่เขามาที่นี่ก็เพราะเหล่าฮัวบอกว่าค้นพบดินแดนพลังชีวิตแล้ว.. ก็เท่านั้นเอง!

 

“ว่านว่าน.. ซูอานไม่ดีตรงไหน? คบๆกันไปเดี๋ยวหลานก็จะรักเขาเองล่ะ!”

ฮั่วว่านว่านเห็นปู่ของเธอยังคงรบเร้าเช่นนั้น เธอก็รีบบีบน้ำตาราวกับเด็กอีก..

 

“ไม่ต้องบีบน้ำตา ยังไงๆหลานก็ต้องทําตามที่ปู่สั่ง!” ผู้เฒ่าชั่วตัดสินใจบังคับหลานสาวสุดที่รักของตนเอง

 

“นี่มันยุคสมัยไหนแล้วคะ ถ้าปู่ยังจะบังคับหนูอีก หนูจะฆ่าตัวตาย!” ฮัวว่านว่านโต้เถียงอย่างไม่ยอมแพ้

 

“ได้ถ้างั้นก็ตายให้ปู่ดูเดี๋ยวนี้เลย!”

เหล่าฮั่วรู้ดีว่าหลานสาวของเธอนั้นเป็นเด็กสาวเอาแต่ใจ และมัก ใช้วิธีนี้เรียกร้องให้ทุกคนทําตามความต้องการของเธอ เขาจึงไม่ได้รู้สึกตกใจกับคําขู่ของฮัวว่านว่านนัก

 

และเมื่อฮัวว่านว่านได้ยินปู่ของเธอยืนกรานเสียงแข็งเช่นนั้น เธอก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม!

 

“เหล่าฮัว อย่าทําแบบนี้เลย! ความรักเป็นเรื่องที่ไม่อาจบังคับผืน ใจกันได้ และข้าเองก็มิได้มีใจให้นางเช่นกัน!”

 

ในที่สุดซูอานก็ตัดสินใจพูดความรู้สึกของตนเองออกไป และฮัวว่านว่านก็ไม่ได้มีความหมายอะไรกับเขาจริงๆ

 

แต่เมื่อฮั่วว่านว่านได้ฟังคําตอบของซูอาน เธอก็ยิ่งโมโหมากกว่าเดิม เพราะคิดว่าซูอานทําเช่นนี้เพื่อจงใจหักหน้าตัวเองเพราะไม่สามารถทําให้ผู้เฒ่าฮัวบีบบังคับเธอได้สําเร็จ!

 

ฮัวว่านว่านหยุดร้องไห้ทันที เธอจ้องหน้าซูอานราวกับจะกินเลือดกินเนื้อพร้อมกับร้องตะโกนใส่หน้าเขาว่า

 

“ฉันหลงคิดว่าคุณเป็นคนดี แต่คิดไม่ถึงว่าจะชั่วช้าขนาดนี้!”

 

“ข้าชั่วช้าเช่นใด? นี่เจ้าคงคิดว่าเรื่องนี้เป็นความคิดของข้า

สินะ!”

 

“จะไม่ใช่ความคิดของนายได้ยังไงกัน? ไม่งั้นนายจะมาบ้านปู่ของฉันทําไม?”

 

เหล่าฮัวโกรธจนตัวสั่น เขาร้องตะโกนสั่งฮั่วว่านว่านพร้อมกับกระทืบเท้าดังปัง “ว่านว่านหยุดเดี๋ยวนี้นะ! กล้าพูดกับผู้มีพระคุณแบบนี้ได้ยังไงกัน?”

 

“เหล่าฮั่ว หยุดพูดเรื่องนี้กันได้แล้ว! ข้าเหนื่อยมากแล้วขอตัวก่อน!” พูดจบ. ซูอานก็เดินออกจากบ้านไปทันทีโดยไม่สนใจคําทัดทานของเหล่าฮัวอีก

 

ฮัวว่านว่านเห็นซูอานจะหนีไปดื้อๆเช่นนั้น เธอจึง รีบตรงไปที่รถเฟอรารี่ 458สีแดงของตนขับตามซูอานออกไปทันที

 

ซูอานกําลังเดินมองท้องฟ้าไปอย่างสงบจึงไม่ทันสังเกตเห็นรถที่ พุ่งมาจอดขวางหน้าไว้ ฮัวว่านว่านก้าวลงมาจากรถพร้อมกับจ้องมองซูอานด้วยความเดือดดาล

 

“ซูอาน นี่นายคิดจะทําอะไรกันแน่?!”

 

“อย่าคิดที่จะใช้วิธีน่ารังเกียจนี้ทําให้ฉันต้องยอมเชื่อฟังนาย!”

 

“แต่วิธีน่ารังเกียจนี้ เป็นความคิดของปู่เจ้าไม่ใช่ข้า!” ซูอานตอบโต้กลับไปอย่างเหนื่อยใจ

 

“หึ! อย่าคิดว่าฉันไม่รู้”

 

ฮั่วว่านว่านพูดพร้อมกับถอดแว่นกันแดดออก และเอื้อมมือออกไปจะจับแขนซูอาน แต่เขาดึงมือหลบเสียก่อนเธอจึงกระทืบเท้าอย่างไม่พอใจพร้อมกับร้องตะโกนว่า

 

“กลับไปกับฉันเดี๋ยวนี้ แล้วไปบอกปู่ว่านายต้องการเงินเท่าไหร่?”

 

“ข้าไม่ได้ต้องการเงิน!”

 

จากนั้นซูอานก็หมุนตัวหลบชั่วว่านว่านที่พยายามจะฉุดดึงเขาเข้าไปในบ้านให้ได้ พร้อมกับร้องตะโกนบอกเธอไปว่า

 

“ข้าจะบอกความจริงกับเจ้า.. คนธรรมดาสามัญเช่นเจ้าไม่อยู่ในสายตาของข้าแม้แต่น้อย!”

 

จากนั้นซูอานก็เดินจากไปอย่างรวดเร็วโดยไม่แม้แต่จะปรายตามองมาทางฮั่วว่านว่าน..

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด