ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 50 : จบแล้วจริงๆ!

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ตอนที่ 50 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ย้อนชีวิตพิชิตเซียน ย้อนชีวิตพิชิตเซียน – บทที่ 50 : จบแล้วจริงๆ!

 

บทที่ 50 : จบแล้วจริงๆ!

 

หยวนจิ่วซื่อเงยหน้าขึ้นมองซูอานด้วยแววตาเย็นชา สีหน้าท่าทางดุดันเยี่ยงทหารในหน่วยรบพิเศษของหยวนจิ่วซื่อ ได้เผยออกมาให้ทุกคนในงานได้เห็นกันถ้วนหน้า แต่ถึงอย่างนั้นความดุดันเยี่ยงทหารหน่วยรบของหยวนจิ่วซื่อ ก็ไม่ได้มีความหมายกับอารมณ์ความรู้สึกของซูอานเลยแม้แต่น้อย จึงแทบไม่ต้องพูดถึงความหวาดกลัวซึ่งไม่มีเลยแม้เพียงเล็กน้อย..

 

แม้ท่าทางดุดันของหยวนจิ่วซื่อจะไม่สามารถทําให้ซูอานรู้สึกกดดันได้เลยแม้แต่น้อย แต่การที่หยวนจิ่วซื่อก้าวออกมาขวางหน้าซูอานไว้เช่นนี้ ก็ทําให้เขารู้สึกไม่พอใจขึ้นมาบ้าง..

 

ซูอางจ้องหน้าหยวนจิ่วซื่อนิ่ง ก่อนจะมีคําพูดเพียงประโยคเดียวหลุดออกจากปากของเขา “ไปให้พ้น!”

 

เสียงของซูอานนั้นดังลั่นไปทั่วทั้งงาน และทุกคนที่อยู่ภายในงานต่างก็ได้ยินกันอย่างชัดเจน และถึงกับชะงักไปด้วยความตกใจ!

 

หยวนจิ่วซื่อถึงกับตกตะลึงไปเช่นกัน เพราะน้ําเสียงที่ดุดันของซูอานนั้น ทําให้เขารู้สึกเหมือนถูกกดดันอย่างบอกไม่ถูก และแม้แต่นักรบในหน่วยพิเศษอย่างเขายังรับรู้ได้ถึงความน่าเกรงขามของซูอาน

 

หยวนจิ่วซื่อจ้องมองซูอานที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจและตกใจในเวลาเดียวกัน เขารู้ได้ทันทีว่าชายหนุ่มตรงหน้าตนเองเวลานี้ ไม่ใช่คนที่เขาจะสามารถรับมือได้ง่ายๆ แต่เป็นเพราะเวลานี้เขายืนอยู่ต่อหน้าทุกคนภายในงาน จึงไม่สามารถที่จะแสดงความหวาดกลัว หรืออ่อนแอออกมาให้ผู้อื่นเห็นได้

 

“หึ! คิดจะใช้น้ําเสียงข่มขู่ฉันรึ? ฉันไม่รู้หรอกนะว่าแกจะใช้วิธีไหนทําให้ปู่ฮั่วตัดสินใจผิดพลาดไปได้ขนาดนี้ แต่ทั้งหมดล้วนเป็นความผิดของแกทั้งสิ้น!”

 

ซูอานจ้องมองหยวนจิ่วซื่อด้วยสีหน้าที่ทิ้งตึง และคร้านที่จะอธิบายอะไร

 

แต่ผู้เฒ่าฮั่วกลับรีบตะคอกใส่หยวนจิ่วซื่อทันที “จิ่วซื่อ! หยุดพูดจาไร้สาระได้แล้ว เรื่องทั้งหมดล้วนเป็นความคิดของฉันเอง ไม่เกี่ยวกับซูอานเลยแม้แต่น้อย!”

 

“ท่านปู่ฮั่ว นี่ปู่ยังจะปกป้องมันอีกเหรอครับ ว่านว่านเป็นผู้หญิงของผม และใครก็ตามที่กล้าแตะต้อง หรือทําให้ผู้หญิงของผมต้องเสียใจ มันก็ต้องเป็นศัตรูของผมไปด้วยเหมือนกัน!”

 

หยวนจิ่วซื่อร้องตะโกนออกมาด้วยความไม่พอใจ และเวลานี้ทุกคนในงานต่างก็จ้องมองเหตุการ์ที่คล้ายจะบานปลายด้วยความตกอกตกใจ

 

ฮั่วว่านว่านเห็นเช่นนั้น จึงรีบวิ่งเข้าไปกอดแขนหยวนจิ่วซื่อไว้ พร้อมกับตะโกนใส่หน้าซูอานว่า “ซูอาน ฉันหลงคิดว่านายจะเป็นคนดี แต่ความจริงแล้วนายกลับชั่วช้าอย่างที่ฉันเองก็คิดเลย!”

 

เวลานี้ผู้เฒ่าฮั่วเดือดดาลอย่างที่สุด และกําลังจะเดินตรงเข้าไปจัดการกับฮั่วว่านว่าน แต่ฮั่วเว่ยฟังได้ห้ามไว้เสียก่อน

 

ซูอานหันไปมองฮั่วว่านว่านด้วยแววตารังเกียจอย่างมาก เขาไม่เคยนึกชอบหญิงสาวคนนี้เลยแม้แต่น้อย!

 

แขกเหรื่อในงานต่างพากันลุกขึ้นยืนมองเหตุการณ์บนเวที และทุกคนต่างก็รู้ว่าศึกครั้งนี้น่าดูยิ่งนัก!

 

ตอนนี้บนเวทีได้แบ่งออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายซูอานมีผู้เฒ่าฮั่วสนับสนุน ส่วนอีกฝ่ายก็เป็นคนของตระกูลหยวน สองตระกูลล้วนแล้วแต่เป็นตระกูลใหญ่โต พวกเขาจึงทําได้เพียงแค่ยืนดูเงียบๆ และไม่ทําตัวสนับสนุนฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดโดยเด็ดขาด

“เรื่องที่นายช่วยชีวิตฉันนั้น ฉันซาบซึ้งและขอบใจ แต่ความซาบซึ้งในบุญคุณมันได้จบลงไปแล้ว! จําให้ดีว่าฉันไม่ได้รักนาย และไม่เคยรัก ต่อให้ฉันต้องตาย ฉันก็จะไม่ยอมแต่งงานกับนาย!”

 

“ระหว่างนายกับพี่จิ่วซื่อ มันแตกต่างกันยิ่งกว่าพื้นดินกับสวรรค์ซะอีก! เพาะฉะนั้นอย่าคิดเอาบุญคุณบ้าบอนี้มาบีบบังคับให้ฉันต้องแต่งงานกับนายอีก!”

 

ฮั่วว่านว่านโกรธจนลืมนึกถึงสถานที่และเวลาไป เธอลืมไปหมดสิ้นว่ากําลังอยู่ในโอกาสเช่นใด เธอลืมไปหมดสิ้นว่าซูอานได้เคยช่วยชีวิตของเธอไว้ และเห็นเขาเป็นเพียงแค่คนที่น่ารังเกียจมากคนหนึ่งเท่านั้น!

 

“แกได้ยินชัดแล้วใช่มั้ยว่าว่านว่านไม่ได้รักแกแม้แต่น้อย อย่าได้หวังว่าจะได้แตะเนื้อต้องตัวว่านว่านเลย!” หยวนจิ่วซื่อเยาะเย้ยถากถางซูอานต่อ

 

ซูอานกําหมัดแน่น ที่เขายินยอมกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก เพราะเห็นแก่ความเมตตาที่เหล่าฮั่วมีให้กับตนเองมาโดยตลอด และต้องการจะตอบแทนเขากลับคืนเท่านั้น แต่การตอบแทนย่อมต้องมีขีดจํากัดเช่นกัน เมื่อได้ฟังฮั่วว่านว่านพูดจาไร้สาระเช่นนี้ ซูอานจึงรู้สึกโกรธอย่างมาก

 

“เจ้าเปรียบข้าต่ําต้อยเพียงดิน แต่สําหรับข้า… พวกเจ้ามีค่าไม่ต่างจากมดปลวก!” ซูอานตอบกลับฮั่วว่านว่านด้วยน้ําเสียงเย็นชา และใบหน้าที่ไร้ความรู้สึก

 

หยวนจิ่วซื่อได้ยินเช่นนั้นก็รู้สึกโกรธมาก และกําลังจะพุ่งเข้าไปทําร้ายซูอาน แต่กลับถูกผู้เฒ่าฮั่วห้ามไว้เสียก่อน

 

“ซูอาน เรื่องทั้งหมดเป็นความผิดของฉันเอง! เธอกลับไปก่อน วันหลังฉันจะต้องไปขอโทษเธอด้วยตัวเองแน่!”

 

“คุณปู่คะ! ทําไมคุณปู่ต้องยอมก้มหัวให้กับเขามากขนาดนี้ ด้วยเขาเป็นเซียนมาจากสวรรค์หรือยังไงกัน?”

 

ฮั่วว่านว่านอดรนทนไม่ได้จนถึงกับพูดจาเช่นนี้กับผู้เฒ่าฮั่ว ต่อหน้าผู้คนเช่นนี้

 

ฮั่วเว่ยเฟิงเองก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่า ต่อให้ซูอานมีวรยุทธสูงส่งมากเพียงใด แต่จะสามารถเทียบได้กับตระกูลหยวนเชียวหรือ?

 

ผู้เฒ่าฮั่วได้แต่นิ่งเงียบ ฮั่วว่านว่านเองก็พูดไม่ผิดนัก แต่ถึงแม้ซูอานจะไม่ใช่เซียน แต่สําหรับเรื่องนี้เขาก็ไม่ใช่คนผิด!

 

“เรื่องทั้งหมดนี้เป็นความผิดของเจ้า!”

 

ซูอานหันไปพูดกับเหล่าฮั่วด้วยน้ําเสียงเย็นชา แววตาของเขาไม่หลงเหลือความเคารพให้กับเหล่าฮั่วอีกเลย เวลานี้มีเพียงความเย็นชาไร้ซึ่งความรู้สึกปรากฏอยู่ในแววตาของซูอานเท่านั้น เขาเอ่ยต่อด้วยน้ําเสียงเรียบเฉย..

 

“ที่ผ่านมาข้าเคารพนับถือเจ้าเพราะเจ้ามีเมตตาช่วยเหลือข้า แต่เวลานี้ ความรู้สึกซาบซึ้งนั้นได้เดือดแห้งไปหมดแล้วเช่นกัน!”

 

“ข้าไม่ได้ต้องการรางวัลจากการช่วยชีวิตฮั่วว่านว่านเลยแม้แต่น้อย แม้ข้าจะได้เห็นเรือนร่างของนาง..”

 

คําพูดของซูอานทําให้ผู้คนที่อยู่ด้านล่างต่างพากันกระซิบกระซาบกัน แม้แต่หยวนจิ่วซื่อยังหันไปถามฮั่วว่านว่านด้วยน้ําเสียงเย็นชา

 

“นี่มันเห็นเรือนร่างของเธอแล้วเหรอ?”

 

“มันเป็นการช่วยชีวิตของฉัน!”

 

“หึ! วิธีรักษาอะไรกันถึงต้องเห็นเรือนร่างแบบนั้น หรือเป็นการรักษาด้วยการรวมหยินหยางเข้าด้วยกันรึไง?”

 

หยวนจิ่วซื่อถามประชดชันด้วยความโมโห แววตาของเขาที่หันไปมองฮั่วว่านว่านนั้น ปรากฏความรังเกียจออกมาให้เห็นเล็กน้อยแล้วจึงดับไป แต่นั่นทําให้เขากลับยิ่งโมโหซูอานมากขึ้น

 

แต่ยังไม่ทันทีหยวนจิ่วซื่อจะได้พูดอะไรออกมา เสียงของซูอานก็ดังขึ้น

 

“เรื่องที่เจ้าขับรถชนข้า ข้าก็ไม่เคยเอ่ยปากบอกเหล่าฮั่วเลยสักครั้ง!”

 

“ส่วนเรื่องการหมั้นหมายระหว่างเจ้ากับข้า ข้าไม่เคยคิดอยากจะให้เกิดขึ้น แล้วเจ้ายังต้องการอะไรจากข้าอีก!”

 

ผู้เฒ่าฮั่วถึงกับชะงักทันที แล้วรีบหันกลับไปถามฮั่วว่านว่านด้วยความโมโห “นี่หลานขับรถชนซูอานเหรอ?!”

 

ฮั่วว่านว่านตกใจสุดขีด เพราะคิดไม่ถึงว่าจู่ๆ ซูอานจะพู ดทุกอย่างออกมาแบบนี้!

 

เมื่อเห็นหลานสาวนิ่งเงียบและมีสีหน้าตื่นตระหนกเช่นนั้น ผู้เฒ่าฮั่วก็สามารถสรุปได้ทันทีว่าเรื่องที่ซูอานพูดนั้นเป็นค วามจริง!

 

ใบหน้าของเหล่าฮั่วนิ่งขรึมลงยิ่งกว่าเดิมหลายเท่า และเวลานี้ร่างของเขาก็ซวนเซจนแทบยืนไม่อยู่

 

ซูอานจงใจหันไปมองหน้าฮั่วว่านว่านพร้อมกับย้ําด้วยน้ําเสียงเย็นชายิ่งกว่าเดิม “เจ้าคงคิดว่าตนเองหน้าตางดงามมากสินะ และคิดว่าข้าคงจะต้องหลงใหลในความงดงามของเจ้าใช่หรือไม่?”

 

“หึ! เจ้าฟังให้ดี ต่อให้เจ้าเอนกายนอนอยู่บนเตียงของข้า ข้าก็รังเกียจจนไม่คิดที่จะแตะเนื้อต้องตัวของเจ้าเช่นกัน!”

 

“ซูอาน. มันมากไปแล้วนะ!” ฮั่วว่านว่านร้องตะโกนออกมาด้วยความเดือดดาลอย่างที่สุด

 

หยวนจิ่วซื่อเองก็ร้องตะโกนออกมาด้วยความโมโหเช่นกัน คําพูดเช่นนี้ของซูอานไม่เพียงดูถูกตัวเขา แต่ยังทําให้ฮั่วว่านว่านเสียชื่อด้วย เขาไม่อาจทนให้ฮั่วว่านว่านต้องอับอายต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ได้

 

“แกอยากตายมากนักใช่มั้ย?”

 

แต่ซูอานกลับไม่มีท่าทีหวาดกลัว เขาหันไปยิ้มเยาะหยวนจิ่วซื่อพร้อมกับตอบไปว่า “ผู้ใดกันที่จะอยู่หรือตาย?”

 

ซูอานจับต้นขาของหยวนจิ่วซื้อ และผลักร่างของเขาตกลงไปจากเวทีทันที แต่หยวนจิ่วซื่ออก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป เขาเป็นทหารในหน่วยรบพิเศษที่ถูกฝึกฝนการต่อสู้มาเช่นกัน เมื่อหล่นลงจากเวทีไปที่พื้นจึงสามารถทรงตัวยืนอยู่ได้โดยไม่ล้มลงไป..

 

“นี่เจ้าเป็นทหารรึ?”

 

หยวนจิ่วซื่อจ้องมองซูอานด้วยสีหน้าประหลาดใจ เพราะสิ่งเท่าที่เขาสัมผัสได้นั้น ซูอานดูไม่เหมือนคนธรรมดาทั่วไป

 

“หึ! ทหารจะต่างอะไรจากมดปลวก!”

 

แต่เมื่อผู้เฒ่าฮั่วเห็นเช่นนั้น จึงรีบร้องห้ามหยวนจิ่วซื่อทันที “จิ่วซื่อ อย่าสู้กับซูอาน เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา!”

 

แต่ต่อหน้าผู้คนมากมายเช่นนี้ หยวนจิ่วซื่อมีหรือที่จะยอมเสียหน้า เขาจัดการชกกําปั้นเข้าใส่จุดสําคัญบนร่างกายของซูอานทันที

 

“หากเจ้าตาย ก็อย่าได้ตําหนิข้า!”

 

ซูอานตอบกลับและไม่คิดที่จะปราณีให้กับหยวนจิ่วซื่อเลยแม้แต่น้อย เขาเดินพลังปราณในร่างของตน และพุ่งเข้าใส่หยวนจื่อซิ่วทันที!

 

หลังจากที่หมัดสองหมัดปะทะกันสองสามครั้ง กําปั้นที่ทรงพลังของซูอานก็ได้พุ่งตรงเข้าใส่หน้าอกของหยวนจื่อ วอย่างแรง

 

หยวนจื่อซิ่วรู้สึกเจ็บแปลบขึ้นที่หน้าอกอย่างแรง และรู้สึกได้ว่ากําปั้นของตนที่ปะทะเข้ากับกําปั้นของซูอานนั้น ดูเหมือนกระดูกมือจะแตกละเอียด

 

ซูอานไม่หยุดอยู่เพียงเท่านั้น เขาใช้มือคว้าแขนของหยวนจื่อซิ่วขึ้นมา จากนั้นจึงได้ชกเข้าที่ร่างของหยวนจื่อซิ่วต่ออีกหลายหมด

 

หลังจากนั้นภาพที่ทุกคนเห็นในเวลานี้ก็คือ หลังจากที่ซู อานชกเข้าใส่หยวนจื่อซิวจนร่างลอยละลิวออกไปกลางอากาศ แล้ว ซูอานก็ยังวิ่งตามเข้าไปชกเขากลางอากาศอีกสิบกว่าหมัด เช่นกัน

 

ตอนนี้ร่างของหยวนจื่อซิ่วร่วงลงไปกองกับพื้น และเลือดสีแดงก็ไหลออกจากปากของเขาราวกับน้ํา หน้าอกของเขายุบลงไปอย่างเห็นได้ชัด และสภาพน่าจะอยู่ระหว่างความเป็นและความตาย

 

หยวนเวิ่นเทียนเห็นเช่นนั้นจึงยกมือขึ้นชี้หน้าซูอาน พร้อมกับร้องตะโกนออกมาเสียงดังด้วยความโมโห

 

“แกกล้าทําร้ายลูกชายของฉัน ตระกูลหยวนของฉัน ต้องเอาคืนแกอย่างสาสมแน่!”

 

แต่ซูอานกลับเพียงแค่ยิ้มเย้ย พร้อมกับปัดมือทั้งสองข้างไปมาโดยไม่เอ่ยออกมาแม้แต่คําเดียว จากนั้นจึงก้าวเท้าเดินออกไปทันที

 

ทุกคนในงานต่างก็พากันหลีกทางให้ซูอาน ไม่มีใครกล้ายืนขวางหน้าเขาอีกเลยหลังจากที่เห็นเขาจัดการกับหยวนจิ่วซื่อไปเมื่อครู่

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด