เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 74 อย่าขยับ นอนนิ่งๆ สิ

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 74 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ประตูห้องนอนปิดลง

 

 

หลินเช่อตวัดสายตาเขียวปั๊ดไปยังกู้จิ้งเจ๋อที่ยังคงทำหน้าตาเรียบเฉยเป็นปกติ

 

 

ชายหนุ่มเลิกคิ้ว “ทำไมล่ะ”

 

 

หลินเช่อกระทืบเท้าปึงปัง “เชอะ”

 

 

เธอคว้าชุดนอนแล้วรีบพุ่งเข้าห้องน้ำ

 

 

เขามองเธอลนลานออกไปพลางกลั้นยิ้ม

 

 

อย่างไรก็ตามเขาก็อดเสียใจนิดๆ ไม่ได้เมื่อเหลียวกลับไปมองชุดนอนเนื้อบางที่มีมากมายหลายสีหลายแบบพวกนั้น

 

 

รูปร่างเธอออกจะดี ใส่ชุดนอนพวกนี้แล้วคงจะดูสวยไม่เบาเลยทีเดียว

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหยิบเสื้อผ้าขึ้นมาแล้วมองดูด้วยความรู้สึกเสียดายเล็กน้อย เขาได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก แล้วหลินเช่อก็ก้าวออกมา

 

 

เมื่อได้เปลี่ยนชุด หญิงสาวก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก

 

 

ชุดนอนที่เธอสวมอยู่เป็นชุดนอนผ้าลินินตัวยาวที่ไม่ได้เน้นทรวดทรงให้เห็นแม้แต่น้อย ทำให้เธอดูราวกับถังน้ำ

 

 

หลินเช่อคิดว่ามันเป็นชุดที่วิเศษทีเดียว

 

 

กู้จิ้งเจ๋อโยนชุดนอนในมือทิ้งแล้วหรี่ตามองดูชุดที่อยู่บนตัวหญิงสาว

 

 

แม่สาวใช้พวกนี้…ไปหาชุดแบบนี้มาจากไหนให้เจ้าหล่อนกันนะ

 

 

หลินเช่อเดินกลับไปที่เตียงอย่างสบายอารมณ์ เธอนั่งลงแล้วยกขาขึ้นไขว่ห้างก่อนจะหันไปหยิบกรรไกรตัดเล็บมาและลงมือเล็มเล็บเท้าด้วยท่าทางไม่ใส่ใจอะไร

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองดูอีกฝ่ายด้วยความงงงัน

 

 

ขาเรียวยาวขาวผ่องของเธอไขว้กันอยู่ ตรงกลางระหว่างท่อนขาทั้งสองนั้น ชายหนุ่มสามารถมองเห็นกางเกงในสีขาวของเธอได้อย่างชัดเจน จากรอยแยกเล็กๆ นั้น เขามองเห็นรูปทรงสามเหลี่ยมของชุดชั้นในขลิบริมด้วยลูกไม้และลายดอกไม้ มันกดลงบนผิวเนื้อเธอจนทิ้งร่องรอยเอาไว้ ขาของเธอที่พาดไขว้กันอยู่ กู้จิ้งเจ๋อไม่อาจห้ามตัวเองไม่ให้เดินเข้าไปใกล้เธอมากขึ้นอีกสักสองสามก้าวได้ เขารู้สึกหงุดหงิดกับท่านั่งที่ไม่ระวังตัวของเธอ แต่ก็ไม่สามารถละสายตาจากเธอได้ เขานึกอยากให้เธอขยับตัวอีกเพื่อให้เนื้อหนังนุ่มเนียนที่อยู่ใต้ชุดนั้นยิ่งเผยออกมาให้เห็นมากขึ้นกว่านี้

 

 

จนกระทั่งตัดเล็บเสร็จ หลินเช่อก็ใช้มือจับเท้าและเป่ามัน ขณะที่หญิงสาวยกเท้าขึ้นสูงนั้นเอง อะไรต่อมิได้ที่อยู่ใต้ชุดก็ปรากฏชัดแก่สายตา

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกถึงคลื่นของความปลุกเร้าที่แผ่กระจายไปทั่วช่องท้อง และเขาไม่อาจทนกับมันได้อีกต่อไปแล้ว

 

 

“หลินเช่อ เธอจะช่วยนั่งให้มันเหมือนผู้หญิงหน่อยได้มั้ย”

 

 

หลินเช่อเงยหน้า “ฉันทำอะไรเหรอคะ”

 

 

“เธอทำอะไรเหรอ อยากรู้หรือเปล่าล่ะ” กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว

 

 

ก่อนที่หญิงสาวจะทันได้โต้ตอบ เขาก็เดินมาถึงตัวเธอแล้ว

 

 

เขาก้มหน้าลงมา แขนทั้งสองข้างเอื้อมออกมาแนบข้างตัวเธอ เขาครอบครองร่างเล็กบางของเธอเอาไว้ในวงแขน ดูเหมือนว่าแค่ออกแรงเพียงเล็กน้อย เธอก็จะถูกผลักให้ล้มลงได้แล้ว

 

 

ดวงตาของหลินเช่อไหววูบ เธอมองดูชายที่อยู่ๆ ก็พรวดพราดเข้ามาใกล้ ตอนนี้เขาอยู่ตรงหน้าเธอแล้ว สายตาของเขาลึกล้ำและเต็มไปด้วยลับลมคมใน

 

 

เขาจับจ้องมาที่หน้าอกเธอ สายตานั้นให้ความรู้สึกเหมือนมือใหญ่ของเขากำลังตะโบมโลมไล้ลงมา ด้วยความอึดอัด หลินเช่ออยากให้เขาถอยออกไปสักหน่อย

 

 

“คุณจะทำอะไรน่ะ” หลินเช่อตาเป็นประกายด้วยความตกใจ

 

 

“เธอยั่วฉันก่อนนะ” กลิ่นลมหายใจของเขาเหมือนดอกกล้วยไม้

 

 

“คุณ…ฉันเปล่าซะหน่อย!”

 

 

“อย่าใส่เสื้อผ้าแบบนี้อีกเวลาที่เธออยู่ใกล้ๆ ผู้ชาย” สายตาของเขาเหมือนจะเป็นคำเตือน มันกวาดมองไปทั่วร่างเธอ เสียงของเขาทุ้มต่ำและแหบพร่าเหมือนเสียงเซลโล่อันไพเราะ

 

 

“ทะ ทำไมล่ะ”

 

 

“เพราะว่า…มันถอดง่ายน่ะสิ” สายตาเขาเลาะเล็มไปตามชายเสื้อ ราวกับว่าจะสามารถมองทะลุเนื้อผ้าเข้าไปถึงเนื้อตัวเธอได้

 

 

หลินเช่อตัวแข็งทื่อ

 

 

ในนาทีต่อมา แขนยาวของเขาก็คว้าเธอมาไว้ในอ้อมอก

 

 

หลินเช่อช็อกสนิท เธอโงนเงนและล้มลงใส่ผ้าห่มนุ่มๆ บนเตียง เธอคว้ามือเขาแล้วดิ้นรนอย่างสุดชีวิต “กู้จิ้งเจ๋อ นี่คุณกำลังทำตัวเป็นอันธพาลอยู่นะคะ!”

 

 

“ชู่ว อย่าขยับ” แขนยาวของเขาเอื้อมออกมาและกอดตระกองไว้รอบร่างเธอ

 

 

เสียงชวนฟังของเขาเหมือนเวทมนตร์ที่ก้องกังวานอยู่ในหู เป็นเหมือนมนต์เสน่ห์อันแสนวิเศษ “ไม่อย่างนั้นฉันจะทำตัวเป็นอันธพาลจริงๆ แล้วนะ”

 

 

“แต่…” เมื่อหลินเช่อพยายามจะขยับตัว เธอก็สัมผัสถึงบางอย่างที่อยู่ด้านหลังของเธอได้อย่างชัดเจน มันกำลังแข็งขึงขึ้นมาเบียดร่างเธออยู่

 

 

หญิงสาวตัวแข็งทื่อ ดวงตาเบิกกว้างเมื่อนึกออกว่ามันคืออะไร หัวใจเธอกระตุกโลด คราวนี้หลินเช่อไม่กล้าขยับอีกแล้ว

 

 

กู้จิ้งเจ๋อกอดเธอเอาไว้ในอ้อมอกอย่างนั้น “เอาล่ะ นั่นแหละ หลับซะ”

 

 

“อะไรนะ…”

 

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ฉันบอกให้เธอหลับซะไงล่ะ ไม่เข้าใจเหรอ”

 

 

“แต่ว่าฉัน…”

 

 

“หรือเธออยากจะออกกำลังก่อนนอนล่ะ” เขาแทบจะขบติ่งหูเธอขณะที่พึมพำออกมา น้ำเสียงยั่วเย้าของเขาบ่งบอกว่าเขากำลังพูดถึงการออกกำลังกายอีกรูปแบบหนึ่ง

 

 

ร่างกายของหลินเช่อทั้งแข็งทื่อและเครียดเกร็ง เธอรู้สึกได้ถึงเลือดลมที่ดูเหมือนจะไหลย้อนทิศทางอยู่ในตัว สมองของเธอก็พลอยเป็นไปด้วย ตอนนี้เธอก็รู้สึกพร่ามึนไปหมด

 

 

“ไม่ต้องค่ะ ไม่ต้อง นอนเถอะ” เธอรีบบอก

 

 

เธอนอนอยู่ในอ้อมกอดของเขาแบบนั้นเนิ่นนาน หลินเช่อเริ่มโล่งใจเมื่อเธอรู้สึกได้ว่าสิ่งที่แข็งขึงอยู่ข้างหลังนั้น ค่อยๆ อ่อนตัวลงอย่างช้าๆ ในที่สุด

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกได้ว่าผู้หญิงที่อยู่ในอ้อมแขนของเขาค่อยๆ รู้สึกผ่อนคลายมากขึ้น ลมหายใจที่หอบถี่ในทีแรกของเธอค่อยๆ สม่ำเสมอขึ้นจากเสียงที่เขาได้ยิน

 

 

ตัวเขาเองก็ค่อยๆ ผ่อนคลายร่างกายช้าๆ แม้ว่าร่างกายบางส่วนจะไม่ได้ผ่อนคลายลงอย่างรวดเร็วเหมือนส่วนอื่นก็ตาม

 

 

เขาถอนหายใจออกมาเสียงดัง เมื่อมองดูหญิงสาวที่หลับสนิทอยู่ในวงแขน เขาจึงค่อยๆ ขยับเพื่อเปลี่ยนท่านอนให้ตัวเอง

 

 

เมื่อก้มหน้าลง เขายังคงได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยอ้อยอิ่งออกมาจากเส้นผมของเธอ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหลับตาลงอย่างยากเย็นยิ่ง

 

 

แม่นี่เป็นผู้หญิงที่โง่เง่าเต่าตุ่นที่สุดเลยจริงๆ …

 

 

 

 

วันต่อมา

 

 

เมื่อหลินเช่อตื่นขึ้น เธอก็ได้เห็นว่ากู้จิ้งเจ๋อลุกจากเตียงไปแล้ว

 

 

หญิงสาวรีบวิ่งออกมา จากทางเดินที่ทอดไปยังห้องรับประทานอาหาร เธอก็เห็นเขากำลังนั่งกินอาหารเช้าอยู่

 

 

แต่สีหน้าของชายหนุ่มดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ราวกับว่าเมื่อคืนนอนหลับไม่เต็มที่นัก

 

 

หลินเช่อเดินเข้าไปหาด้วยความรู้สึกผิด เธอจำได้ว่าเมื่อคืนเธอผล็อยหลับไปในอ้อมแขนเขา แต่มาตอนนี้เธอก็ลืมไปแล้วว่าเกิดอะไรขึ้นบ้างหลังจากนั้น เธอจึงเอ่ยถามเขา “ทำไมเหรอคะ เมื่อคืนฉันนอนไม่เรียบร้อยเหรอ บอกตามตรงว่าฉันเป็นคนค่อนข้างจะนอนดิ้นน่ะค่ะ…”

 

 

“เปล่า” ชายหนุ่มขยับแขนอย่างปวดเมื่อย

 

 

นี่เป็นผลมาจากการที่เขาแทบไม่ขยับแขนเลยตลอดทั้งคืน

 

 

สาวใช้รีบเข้ามาเสิร์ฟอาหารเช้าให้หลินเช่อ เธอเงยหน้าขึ้นและบอกขอบคุณอย่างสุภาพ

 

 

หลังจากรับประทานอาหารเรียบร้อย หลินเช่อคิดว่าจะไปทำงาน แต่กู้จิ้งเจ๋อพูดขึ้นว่า “วันนี้ฉันจะพาเธอไปด้วย ไปกันเถอะ”

 

 

หลินเช่อรีบลุกพรวดขึ้นโดยเร็ว “จริงเหรอคะ งั้นฉันไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ”

 

 

ขณะที่มองตามคนที่วิ่งโครมครามเข้าไปข้างใน ชายหนุ่มก็ส่ายหน้าอย่างระอาใจแต่ไม่พูดอะไร

 

 

กิริยามารยาทของเธอเป็นม้าดีดกะโหลกแบบนี้อยู่เสมอ

 

 

สาวใช้ยิ้มขณะเข้ามาจัดการเก็บกวาดโต๊ะอาหาร หล่อนพูดขึ้นว่า “ท่านคะ เราต้องเปลี่ยนเสื้อผ้าทั้งหมดที่คุณผู้หญิงท่านส่งมาให้คุณผู้หญิงเหรอคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนึกภาพชุดนอนสุดวาบหวิวเหล่านั้นขึ้นมา “โยนมันทิ้งไปซะให้หมด”

 

 

“ได้ค่ะ แต่น่าเสียดายจังนะคะ ทุกตัวเป็นขนาดตัวของคุณผู้หญิงหมดเลย”

 

 

สาวใช้ยังพูดต่อไป “ชุดนอนตัวอื่นที่เหลือก็ถูกเอาไปทิ้งหมดแล้ว”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อพยักหน้า เมื่อได้ยินเสียงหลินเช่อเอะอะมะเทิ่งอยู่ข้างใน ทุกคนก็เข้าใจได้ว่าเธอกำลังพยายามหาเสื้อผ้าที่จะใส่อยู่นั่นเอง

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบ่นอุบ “เป็นคนซุ่มซ่ามเสียจริง”

 

 

สาวใช้ยิ้มแล้วบอกว่า “ทุกคนก็ต้องมีข้อเสียกันทั้งนั้นค่ะ คุณผู้หญิงเองเป็นคนดี เพราะฉะนั้นจะซุ่มซ่ามไปหน่อยก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ”

 

 

“เธอเป็นคนดีงั้นเหรอ” กู้จิ้งเจ๋อเลิกคิ้ว

 

 

สาวใช้ตอบ “ใช่ค่ะ คุณผู้หญิงเป็นกันเองกับทุกคน เธอปฏิบัติต่อคนใช้อย่างพวกเราเหมือนกับคนในครอบครัวของเธอเอง ไม่ว่าเราจะทำอะไร เธอก็จะคอยบอกแต่ว่าดีแล้วๆ หลายครั้งที่เธอยกเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่ให้พวกเราด้วยค่ะ ยังมีอีกตอนที่เธอกลับมาพร้อมอาหารเย็น เธอก็ไม่เคยลืมที่จะเอามาฝากพวกเราด้วย เธอเป็นคนน่ารักมากจริงๆ นะคะ”

 

 

หลินเช่อเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวออกมาอย่างรวดเร็ว ชายหนุ่มหันไปมองอย่างเงียบๆ เขาหรี่ตาและพินิจดูเธออย่างละเอียดลออ

 

 

หลินเช่อเดินออกมาและถามด้วยสุ้มเสียงแปลกใจ “มีอะไรเหรอคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อลุกขึ้น หยิบเสื้อนอกขึ้นสวมด้วยท่าทีสบายๆ “ไม่มีอะไร ไปกันเถอะ”

 

 

หลินเช่อยังไม่ต้องไปร่วมกิจการกรรมโปรโมตซีรีส์ในวันนี้ เธอจึงแต่งกายด้วยเสื้อผ้าธรรมดาๆ แต่ถ้าจะต้องเข้าไปที่บริษัทละก็ เธอจะแต่งตัวด้วยความพิถีพิถันมากขึ้นและแต่งหน้าด้วย

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด