เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 146 ฉันเลิกกับเขานานแล้ว

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 146 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

กู้จิ้งเจ๋อคว้ามือเธอไว้ก่อนที่จะค่อยๆ ปล่อยลง

 

 

ถ้าหากมันเป็นเพียงแค่ความต้องการตามธรรมชาติ แล้วทำไมความรู้สึกเหล่านั้นมันถึงหายไปหมดเมื่อเขาได้ยินเธอพูดแบบนั้นล่ะ

 

 

เขามองเธอและบอกว่า “ฉันขอโทษ ถ้าเธอไม่ต้องการ ฉันก็จะไม่บังคับเธอ”

 

 

เขาไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ในมุมของหลินเช่อมาก่อนเลย

 

 

เพราะคำพูดของเฉินอวี่เฉิงแท้ๆ และคำพูดประโยคนั้นนั่นแหละที่ทำให้เขาคิดปรารถนาในตัวเธอและไม่ยอมทำความเข้าใจความรู้สึกของตัวเอง

 

 

ซึ่งมันไม่ยุติธรรมสำหรับหลินเช่อเลยแม้แต่น้อย

 

 

เขาจึงพูดต่อไปว่า “ฉันขอสัญญากับเธอว่า ตราบใดที่ฉันยังไม่เข้าใจในตัวเองอย่างถ่องแท้ ฉันจะไม่แตะต้องเธอแบบนี้อีกต่อไป”

 

 

หลินเช่อชะงัก เงยหน้ามองเขา รู้สึกซาบซึ้งใจเป็นที่สุด

 

 

ผู้ชายส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นสิ่งมีชีวิตที่ทำตามคำบงการของร่างกายส่วนล่างกันทั้งสิ้น

 

 

แต่ถ้าเขาเริ่มคิดที่จะใช้ร่างกายส่วนบนเพื่อเธอแบบนี้แล้วละก็…นั่นหมายความว่าลึกลงไปข้างใน เขาก็ยังแคร์เธออยู่สินะ

 

 

ความใส่ใจเพียงเล็กน้อยแค่นี้ก็ทำให้หัวใจของหลินเช่อเป็นสุขได้แล้ว

 

 

เธอเป็นคนที่พอใจกับอะไรง่ายเสียจริง แค่ความพยายามเล็กๆ นี่ก็ทำให้เธอซึ้งใจได้แล้ว

 

 

“แต่ถ้าเธอโกรธเพราะโม่ฮุ่ยหลิงให้ของขวัญฉันแล้วละก็ฉันบอกได้เลยนะว่า…”

 

 

เขาก้าวเข้ามาหาและดึงตู้เก็บของให้เปิดออก

 

 

ในนั้นเต็มไปด้วยกล่องมากมายหลายขนาดอัดกันอยู่แน่นขนัด หลินเช่อเห็นแล้วก็ต้องตกใจ

 

 

เมื่อได้เห็นกล่องของขวัญสวยงามเหล่านั้น เธอก็อดถามออกไปไม่ได้ว่า “ของขวัญพวกนี้คืออะไรกันคะ ดูเหมือนว่าจะยังไม่มีกล่องไหนถูกเปิดเลยด้วย”

 

 

ชายหนุ่มมองกล่องของขวัญที่จมฝุ่นอยู่ในนั้นแล้วตอบว่า “บางกล่องก็แกะแล้วแต่ส่วนใหญ่จะถูกทิ้งเอาไว้อย่างนั้น ทั้งหมดนี่คือของขวัญที่โม่ฮุ่ยหลิงมอบให้ฉันตลอดช่วงหลายปีที่ผ่านมา”

 

 

หลินเช่อมองดูด้วยความพิศวง “แล้วทำไมคุณถึงเอาของขวัญทั้งหมดมาทิ้งไว้ในนี้ละคะ”

 

 

เขาตอบว่า “ฮุ่ยหลิงให้ของขวัญฉันเยอะแยะมากมายในทุกปี แต่ฉันไม่เคยใช้มันเลยสักอย่างเดียว แล้วฉันก็ไม่มีเวลาที่จะมาจัดการกับมันด้วย แต่ฮุ่ยหลิงก็ยังยัดเยียดมันให้ฉันมากขึ้นและมากขึ้นโดยไม่สนใจว่าฉันจะใช้มันหรือเปล่า เพราะอย่างนั้นฉันก็เลยแค่เอามันมาเก็บไว้ที่นี่ ของขวัญกล่องที่เธอเห็นนั่นเป็นเพราะว่าฉันยังไม่มีเวลาเอามันมาเก็บในนี้เท่านั้นเอง”

 

 

ที่เป็นแบบนี้ก็แสดงว่าโม่ฮุ่ยหลิงไม่เคยสนใจอย่างแท้จริง เธอไม่สังเกตเลยสักนิดว่าเขาต้องการของขวัญเหล่านี้หรือเปล่า และก็ยังซื้อหามามอบให้เขาอยู่อย่างไม่ขาดสาย เธอไม่สนใจด้วยว่าเขาจะปฏิเสธมัน ก็แค่ส่งมันมาให้อย่างไม่ไยดีใดๆ ถ้าเขาไม่ยอมรับ เธอก็จะโกรธอยู่นานและตัดพ้อว่าเพราะเขาไม่รักเธอแล้ว เธอเป็นคนเอาแต่ใจตัวเองแบบนั้นนั่นแหละ

 

 

หลินเช่อยังไม่ค่อยเข้าใจนัก “ว้าว นี่เป็นของแพงๆ ทั้งนั้นเลยนะคะ แล้วก็ยังเป็นของขวัญด้วย…”

 

 

กู้จิ้งเจ๋ออธิบายว่า “ตอนแรกๆ ฉันก็ตอบขอบคุณเธอกลับไปทุกครั้ง แต่ในที่สุดฉันก็ได้รู้ว่ามันเป็นการเสียเวลาเกินไป เพราะฉันมักยุ่งเป็นพิเศษในช่วงเทศกาลสำคัญต่างๆ ฉันต้องเดินทางไปต่างประเทศเพื่อติดต่อธุรกิจ ใช้เวลาอยู่บนเครื่องบินคราวละหลายๆ วัน และไม่มีเวลาที่จะให้ของขวัญเธอเป็นการตอบแทน ฉันก็เลยได้แต่เอามันกองรวมกันไว้ที่นี่แล้วก็รอว่าเมื่อไหร่ฉันจะมีเวลากลับมาจัดการมัน”

 

 

หลินเช่ออดคิดไม่ได้ว่าโม่ฮุ่ยหลิงเป็นผู้หญิงที่น่ากลัวทีเดียว

 

 

นี่หล่อนใช้เงินไปมากแค่ไหนกับของขวัญพวกนี้กันนะ

 

 

แต่ก็นั่นแหละ สำหรับคนรวยแล้วคงแตกต่างกันมากเมื่อเทียบกับคนจนๆ อย่างพวกเธอ

 

 

หลินเช่อเองแม้อยากจะให้ของขวัญแต่เธอก็ไม่ได้มีเงินมากนัก และเธอก็คิดว่าการให้ของขวัญควรจะเป็นสิ่งที่ทำจากใจ ตราบใดที่เป็นการให้ด้วยความตั้งใจแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องประโคมข้าวของราคาแพงลิบให้อยู่ตลอดเวลาแบบนี้ แค่ของใช้ในชีวิตประจำวันธรรมดาๆ หรือของที่มีประโยชน์ก็เพียงพอแล้ว

 

 

หญิงสาวกวาดสายตาไปก็ได้เห็นเข็มกลัดเนกไท สร้อยข้อมือ เนกไท รองเท้า และข้าวของอีกแทบทุกประเภทในตู้ใบนั้น

 

 

เธอบอกได้ทันทีว่าทุกชิ้นล้วนเป็นของแบรนด์เนมที่ทุกคนจะต้องอิจฉาเมื่อได้เห็น

 

 

“ถ้ามีคนเห็นว่าคุณมีคนรักแบบนี้ละก็ คุณไม่รู้หรอกค่ะว่าคนอื่นเขาจะอิจฉาคุณกันแค่ไหนน่ะ”

 

 

“คนรักอะไรกัน” ชายหนุ่มถามหน้าตาย

 

 

หลินเช่อหันขวับไป “เธอไม่ใช่คนรักคุณหรอกเหรอคะ ก็เห็นเธอใช้เวลาไปกับคุณตั้งเยอะแยะ แถมข้าวของพวกนี้ก็ยังมีราคามหาศาลอีกต่างหาก”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “ตอนแรก ฉันก็มีความสุขดีอยู่หรอก แต่หลังจากนั้นฉันก็ได้รู้แล้วว่าเขาพยายามให้ข้าวของฉันอย่างไม่ขาดสายเพราะเขาคิดว่ามันทำให้ฉันมีความสุข แต่ยิ่งเขาให้ฉันมากเท่าไหร่ ข้าวของพวกนี้ก็มีความหมายน้อยลงทุกที ฮุ่ยหลิงแค่สั่งให้คนไปซื้อมันมาให้เท่านั้น และฉันก็ไม่ได้ต้องการมันเลยสักนิดด้วย ฉันคิดว่าฉันไม่ได้สนใจมันอีกต่อไปแล้วน่ะ”

 

 

หลินเช่อคิดว่าการให้จากหัวใจนั่นแหละที่ทำให้ของขวัญนั้นสำคัญ ไม่อย่างนั้นแล้วมันก็จะกลายเป็นแค่การให้ทั่วๆ ไปตามวาระที่ปราศจากความหมายไปในที่สุด

 

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “ใครบอกกันว่าฮุ่ยหลิงเป็นคนรักของฉันน่ะ”

 

 

หลินเช่อมองเขาด้วยสายตาประหลาด “ก็แล้วไม่ใช่เหรอคะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อตอบว่า “อันที่จริงฉันบอกเขาไปตั้งแต่แรกแล้วล่ะ ว่าเขาสามารถไปหาผู้ชายคนอื่นได้หลังจากที่ฉันแต่งงานแล้ว แต่เขากลับไม่ยอมทำแบบนั้น ฉันก็เลยพูดกับเขาไปแล้วอย่างชัดเจนว่าฉันเป็นผู้ชายที่มีภรรยาแล้ว และไม่สามารถมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับเขาได้อีกต่อไป เขาไม่ได้เป็นคนรักของฉันมาตั้งนานแล้วล่ะ”

 

 

หลินเช่ออ้าปากค้างด้วยความตกตะลึง

 

 

เธอไม่คาดคิดมาก่อนเลยว่าเขาจะเล่าทุกอย่างให้เธอฟังแบบนี้

 

 

นี่เขาเคลียร์กับโม่ฮุ่ยหลิงชัดเจนแล้วอย่างนั้นเหรอ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อหรี่ตามอง “อย่าบอกนะว่าเธอคิดว่าฉันเป็นผู้ชายที่แย่ขนาดนั้นน่ะ”

 

 

“ฉันนึกว่าเราจะหย่ากันไม่ช้าก็เร็วอย่างที่คุณบอก แล้วคุณก็จะกลับไปคบกับเธอต่อนี่คะ”

 

 

“ฉันเลือกที่จะพูดความจริง เพราะฉันไม่ต้องการทำให้โม่ฮุ่ยหลิงต้องเสียเวลาอีกต่อไป แล้วก็ไม่อยากทำให้เธอต้องอับอายด้วย ถ้าฉันยังคบหาเขาอย่างใกล้ชิดสนิทสนมต่อเหมือนที่ผ่านมา คนอื่นเขาจะมองเธอยังไงล่ะ อย่าห่วงเลย ฉันไม่ทำแบบนั้นกับเธอหรอก”

 

 

หลินเช่อซาบซึ้งเสียจนพูดอะไรไม่ถูก

 

 

เขาเป็นคนดีจริงๆ

 

 

หรือบางที อาจจะเป็นเธอเองที่พอใจกับอะไรง่ายๆ แค่นี้

 

 

เธอคิดจริงๆ ว่าทั้งเขากับโม่ฮุ่ยหลิงยังคบหากันอยู่และทำให้เธอรู้สึกอึดอัดใจแทบแย่ที่จะต้องตกอยู่ในสถานะนี้ แต่ตอนนี้เธอกลับรู้สึกดีขึ้นมาก แค่เขาอุตส่าห์คิดถึงเธอแบบนี้ ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้เธอประทับใจ

 

 

หลินเช่อโพล่งออกไปว่า “กู้จิ้งเจ๋อคะ…ฉัน…ทำไมถึงไม่…”

 

 

หญิงสาวก้มหน้างุด ใบหน้าแดงระเรื่อ และบอกว่า “ฉันจะใช้มือทำให้คุณก็ได้นะ…ไม่อย่างงั้นคุณอาจจะอึดอัดที่ต้องทนอยู่แบบนี้”

 

 

ชายหนุ่มคิดว่าตัวเองหูฝาดไปเสียอีก

 

 

แต่ก็ไม่

 

 

เขามองดูหน้าแดงๆ ของเธอ เมื่อหลินเช่อเป็นคนคิดและพูดขึ้นมาเองแบบนี้ ร่างกายของเขาก็หยุดรับฟังคำสั่งและเริ่มขยายตัวขึ้นมาอีกครั้ง

 

 

เขาอยากจะปฏิเสธ แต่ร่างกายกลับทรยศความคิดนั้นเสียนี่

 

 

หลินเช่อนั้นเผลอหลุดปากออกไปด้วยรู้สึกซาบซึ้งในความดีของเขา แต่เมื่อได้เห็นร่างกายท่อนล่างของชายหนุ่มที่เริ่มโป่งนูนออกมา เธอก็เริ่มที่จะนึกเสียใจ

 

 

“ลองใส่ให้ฉันดูหน่อยสิ ได้รึเปล่า”

 

 

หลินเช่อหันไปมองแล้วก็ยิ่งรู้สึกขัดเขินหนักขึ้นกว่าเดิมหลายเท่า

 

 

สิ่งที่เขาบอกให้เธอใส่ก็คือส่วนหนึ่งของ ‘อุปกรณ์’ ที่เฉินโยวหรานส่งมาให้นั่นเอง มันเป็นผ้าก็จริง แต่ก็บอบบางเสียจนแทบจะเรียกได้ว่าแค่ห้อยติดอยู่กับเนื้อตัวเท่านั้น

 

 

นี่เธอเสนอให้เขาเพียงคืบ แต่เขากลับจะเอาถึงศอกทีเดียว

 

 

แต่ถึงกระนั้น หลินเช่อก็เคลิ้มคล้อยไปกับคำพูดเขา หญิงสาวตอบตกลงโดยที่แทบจะไม่ต้องคิด…

 

 

ในห้องน้ำ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อปลดกระดุมชุดนอนและนั่งลงบนเตียง เขาแทบทนอยู่นิ่งๆ ไม่ได้ จนกระทั่งเมื่อเวลาผ่านไปได้ครู่หนึ่งเขาก็ได้ยินเสียงประตูห้องน้ำเปิดออก จึงรีบหันไปมองอย่างรวดเร็ว

 

 

หลินเช่อพยายามจะปกปิดจุดสำคัญบนเรือนร่างไม่ให้เห็น แต่นั่นยิ่งทำให้เธอดูเซ็กซี่มากขึ้นไปอีก

 

 

ดวงตาของเขาเต้นระริกเมื่อจ้องมองเธอ ก่อนที่ความพึงใจในสายตานั้นแปรเปลี่ยนเป็นความปรารถนาต้องการ…

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด