เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 204 นี่คือรางวัลของเธอ แม่คนขี้เมา

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 204 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

เฉินโยวหรานคอยดึงทึ้งแขนมารดาอยู่ข้างหลังเป็นพัลวัน แต่พ่อลูกคู่นั้นดูจะชอบใจที่ได้ยินเรื่องหน้าที่การงานของหญิงสาว 

 

 

โดยชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นก่อนว่า “ผมเองก็ได้ยินเรื่องที่คุณทำงานในกู้ อินดัสทรีมาเหมือนกัน ไม่เลวเลยนะครับ ผมเองก็ส่งประวัติการทำงานเข้าไปแล้ว และคิดว่าคงจะได้เข้าทำงานที่นั่นในอีกไม่ช้า คุณทำอยู่แผนกไหนเหรอครับ ผมคิดว่าคงจะเป็นแผนกที่เข้าไม่ยากซักเท่าไหร่ละมัง ผมมีญาติทำงานอยู่ฝ่ายประชาสัมพันธ์ที่นั่น เราเพิ่งเจอกันเมื่อวันก่อนนี่เอง” 

 

 

ฮ่าๆ 

 

 

เฉินโยวหรานกลอกตาอยู่ในใจ 

 

 

คราวนี้ผู้เป็นพ่อของชายหนุ่มเป็นฝ่ายเอ่ยขึ้นบ้าง “ใช่แล้วละ ที่กู้ อินดัสทรี่น่ะขาดแคลนคนเก่งมีฝีมือจากต่างประเทศเหมือนอย่างลูกชายจอมอัจฉริยะของเรา รับรองได้ว่าเขาจะต้องถูกจ้างเข้าไปทำงานที่นั่น แล้วทีนี้พวกเธอทั้งสองคนก็จะได้ทำงานที่เดียวกัน ไม่ดีหรอกรึ จะได้มีคนคอยดูแลเธอด้วยน่ะ” 

 

 

เฉินโยวหรานยังกลอกตาต่อไม่หยุด 

 

 

คนเป็นพ่อยังพูดต่อไปอีก “หลังแต่งงานกันแล้วก็อาจจะเป็นปัญหาหน่อย งานที่แผนกของเธอในกู้ อินดัสทรี่ยุ่งมากหรือเปล่า ที่นั่นเป็นบริษัทใหญ่ ฉันได้ยินมาว่าทั้งปริมาณงานและความเครียดน่ะสูงมากเลยทีเดียว กลายเป็นปัญหาสำหรับผู้หญิงที่ทำงานอยู่ที่นั่นถ้าเกิดต้องแต่งงานขึ้นมา” 

 

 

เมื่อเฉินโยวหรานได้ยินก็รีบร้องขึ้นทันที “ใช่ค่ะ ใช่ ใช่ ฉันคิดว่าคนอย่างฉันที่ใช้เส้นเข้าไปทำงานที่นั่นไม่คู่ควรกับเกาไคเช็งของคุณลุงหรอกค่ะ บางทีคุณลุงน่าจะลองมองหาคนอื่นดู…” 

 

 

“…” มารดาของเกาไคเช็งหันขวับมาทำตาเขียวใส่ลูกสาว เรียกว่าถ้าใช้สายตาฆ่าคนได้หล่อนคงทำไปแล้ว 

 

 

แต่เฉินโยวหรานไม่สนใจในการดูตัวครั้งนี้จริงๆ โดยเฉพาะกับผู้ชายที่ขี้อวดตัวเองขนาดนี้ 

 

 

หลังจากที่ทั้งคู่กลับไป มารดาของเธอก็หันไปฉวยไม้ปัดขนไก่และวิ่งไล่หวดลูกสาวไปรอบบ้าน 

 

 

หล่อนตะโกนลั่นๆ “ดูเข้าสิ ผู้ชายดีออกขนาดนั้นแกยังจะปฏิเสธเขาได้ แกคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน แกคิดว่าเดี๋ยวนี้ได้ทำงานที่กู้ อินดัสทรี่แล้วจะมาปีกกล้าขาแข็งงั้นเรอะ หรือว่าแกยังรักอยู่กับไอ้หนุ่มโจวนั่น อย่าให้ฉันรู้นะว่าแกยังคอยไล่ตามมันอยู่น่ะ” 

 

 

เฉินโยวหรานรีบเผ่นเข้าห้องตัวเองและล็อกประตูทันที ก่อนจะหันมาร้องบอกว่า “ต่อให้แม่ตีหนูให้ตาย หนูก็ไม่ยอมให้แม่จับคู่ให้แบบนี้หรอก! อะไรกันน่ะ หนูเพิ่งจะอายุแค่นี้เองนะ จะรีบให้แต่งงานออกไปทำไมกัน” 

 

 

“ฉันไม่สน! ถ้าแกไม่ยอมไปดูตัวภายในวันพรุ่งนี้ ฉันจะตีแกให้ตาย แล้วถ้าผู้ชายคนใหม่มาและแกยังทำตัวแบบนี้อีกละก็ ฉันจะไม่ยอมทนอีกต่อไปแน่ๆ!” 

 

 

เฉินโยวหรานจึงต้องยอมรับปากมารดา 

 

 

คืนนั้น ซีรีส์ของหลินเช่อถ่ายทำเสร็จเรียบร้อยในที่สุด 

 

 

ในงานเลี้ยงปิดกล้อง ทุกคนต่างพากันชูแก้ว 

 

 

หลินเช่อยืนอยู่ตรงกลางและได้รับการชื่นชมจากผู้กำกับเป็นอันดี 

 

 

“นักแสดงนำหญิงของเราเป็นมืออาชีพโดยแท้ ทีมงานทุกคนรู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับนักแสดงแบบนี้ เราไม่เคยรู้สึกเหน็ดเหนื่อยกับการถ่ายทำเลยแม้แต่น้อย แต่กลับรู้สึกสนุกมากที่ได้ทำงานนี้” 

 

 

บรรดานักแสดงชายที่ได้รับบทรองๆ ทั้งหลายต่างพากันทำหน้าเหยียดหยาม 

 

 

ผู้กำกับเอาแต่ชื่นชมนักแสดงหญิงมากเสียจนกลายเป็นเรื่องสูญเปล่า 

 

 

ทั้งหมดนี้เป็นเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ผู้กำกับรู้สึกช็อกกับเหตุการณ์มากเสียจนต้องคอยพร่ำชมหลินเช่อเพื่อเป็นการเอาอกเอาใจ 

 

 

แต่ถึงกระนั้น ทุกคนก็ยังคงสงสัย พวกเขาไม่รู้ว่าผู้ชายที่อยู่เบื้องหลังหลินเช่อเป็นใครกันแน่ 

 

 

ทว่าทีมงานทุกคนต่างก็ชื่นชอบหญิงสาวเป็นอันดี ตลอดระยะเวลาหลายปีที่ทำงานมา หลินเช่อคือหนึ่งในนักแสดงที่เขาอยากจะร่วมงานต่อด้วยหลังจากนี้ไป เพราะว่าเธอไม่สร้างปัญหาปวดหัวและไม่ยโสโอหังเอาแต่ใจ ในตอนแรก เมื่อทุกคนได้เห็นว่าเธอมีผู้มีอิทธิพลใหญ่เป็นแบ็คอัป พวกเขาก็รู้สึกริษยาเธออยู่ราวสองสามวัน แต่หลังจากนั้น เมื่อพวกเขาเห็นว่าหลินเช่อยังคงทำตัวเป็นปกติ และดูจะไม่ได้เดือดร้อนอะไรกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น อีกไม่กี่วันต่อมา ทุกคนจึงปฏิบัติกับเธอเหมือนปกติ 

 

 

ด้วยเหตุนี้ ในงานเลี้ยงปิดกล้อง ทุกคนจึงพร้อมใจกันดื่มฉลองให้กับเธอ 

 

 

เพียงไม่นาน หญิงสาวก็เริ่มจะเมา 

 

 

ด้วยสติที่ยังพอมีเหลือหลงเหลือ หลินเช่อรีบโทรหากู้จิ้งเจ๋อทันที 

 

 

“สามีคะ…คุณทำอะไรอยู่น่ะ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อฟังเสียงอีกฝ่ายแล้วก็บอกได้ในทันทีว่าเธอเมาแล้ว 

 

 

“งานเลี้ยงเธอเลิกหรือยังล่ะ อยู่ที่นั่นแหละ อย่าไปไหน เดี๋ยวฉันจะไปรับ” 

 

 

“เลิกแล้วละค่ะ คุณสามี แต่ฉันคิดว่าฉันเดินไม่ไหวแล้วละ ขาฉันอยู่ไหนก็ไม่รู้เนี่ย” 

 

 

“โอเค อยู่ตรงนั้นอย่าไปไหนนะ!” กู้จิ้งเจ๋อนึกระอาใจ และรีบออกมาทันที ด้วยเกรงว่าเธอจะเมาและทำเรื่องบ้าบออะไรเข้าที่นั่น 

 

 

เขาเคยเป็นประจักษ์พยานความเมามายไร้สติของเธอมาก่อนหน้านี้แล้ว เมื่อคิดว่าหลินเช่ออาจจะหลุดปากพูดอะไรไร้สาระออกไป หรือทำตัวพิลึกพิลั่นกับใครคนอื่นเข้า ชายหนุ่มก็ไม่สบอารมณ์นัก 

 

 

หลินเช่อมักจะเกาะแกะนัวเนียคนอื่นเวลาที่เธอเมามาย และเข้าไปกอดใครต่อใครไปทั่วโดยไม่ระวังตัว กู้จิ้งเจ๋อจึงไม่ชอบให้หญิงสาวเมามายเวลาที่เธออยู่นอกบ้านตามลำพัง 

 

 

ไม่ช้า เขาก็มาถึงสถานที่จัดงาน 

 

 

โชคดีที่คนในบริษัทของหลินเช่อเองก็กลัวว่าจะมีอะไรเกิดขึ้นกับเธอเช่นกัน พวกเขาจึงส่งคนมาคอยเฝ้าดูเธอเอาไว้ไม่ให้คลาดสายตา ส่วนทางด้านหลินเช่อเองก็ไม่ได้ดูแย่เท่าไหร่ เธอเพียงแต่นั่งอยู่ริมถนนและคอยมองซ้ายขวาอย่างระมัดระวัง ดูใสซื่อและน่ารักน่าเอ็นดูเหมือนเด็ก 

 

 

ฤทธิ์เหล้าทำให้หญิงสาวทำตัวเหมือนเด็กน้อยๆ ดวงตาของเธอฉายแววไร้เดียงสา 

 

 

ไม่ช้ารถก็เข้าไปรับตัวเธอมา 

 

 

เมื่อได้เห็นกู้จิ้งเจ๋อ หลินเช่อก็กระโจนเข้าใส่ “สามีขา มาแล้วเหรอ” 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อนึกระอาใจ เขาจับมือเธอไว้และสั่งว่า “นั่งนิ่งๆ สิ คาดเข็มขัดซะด้วย เดี๋ยวฉันจะพากลับบ้าน” 

 

 

วันนี้เขาไม่มีคนขับรถ ชายหนุ่มเป็นผู้ขับมาเอง ส่วนหลินเช่อก็นั่งบนเบาะข้างคนขับ 

 

 

“โอ้” หลินเช่องึมงำ เธอก้มลงคาดเข็มขัดอย่างว่าง่าย และเอนหลังพิงเบาะนั่งอย่างง่วงงุน 

 

 

ชายหนุ่มหันไปมองและยิ้ม ก่อนจะขับรถกลับบ้าน 

 

 

ระหว่างทาง ศีรษะของหลินเช่อคอยพยักหงุบหงับราวกับกำลังสัปหงก เป็นกิริยาที่มองแล้วน่าขันเป็นอย่างยิ่ง 

 

 

ไม่ช้า รถก็แล่นมาจอดลงตรงหน้าคฤหาสน์ตระกูลกู้ 

 

 

“เอาละ อย่าเพิ่งหลับตรงนี้ เดี๋ยวเป็นหวัด” กู้จิ้งเจ๋อบอกก่อนจะโน้มตัวมาปลดเข็มขัดนิรภัยให้ 

 

 

หลินเช่อพรวดพราดตื่นขึ้นมา และรู้สึกได้ว่าศีรษะของชายหนุ่มกำลังอยู่ใกล้ๆ 

 

 

กลิ่นกายของบุรุษเพศที่แฝงด้วยความแข็งแกร่งลอยมาแตะจมูก 

 

 

ชายหนุ่มยิ้ม สายตาเลื่อนมาจับที่หน้าอกของเธอ 

 

 

เสื้อผ้าที่หลินเช่อสวมอยู่ค่อนข้างบางเบา และยิ่งมีเข็มขัดนิรภัยพาดกลางอก สัดส่วนทรวดทรงก็ยิ่งโดดเด่นเห็นชัดเจน 

 

 

เมื่อเธอรู้สึกได้ว่าเขากำลังมองตรงไหน หลินเช่อก็รีบยกมือขึ้นบังหน้าอกของตัวเองทันที ก่อนจะแหวใส่ว่า “คนโรคจิต คุณนี่มันโรคจิตชัดๆ มองอะไรอยู่น่ะ!” 

 

 

มุมปากของชายหนุ่มกระตุกขึ้นเป็นรอยยิ้ม เขาเงยหน้าขึ้นและพูดว่า “ก็ในเมื่อเรียกฉันว่าโรคจิตออกอย่างนี้แล้ว ยังจะมาถามอีกทำไมล่ะว่าฉันมองอะไรอยู่ ยังไม่ชัดอีกหรือไง” 

 

 

หลินเช่อกำลังเมา และดวงตาของเธอก็ฉายแววของความพร่ามึนชัดเจน แค่นั้นก็พอแล้วที่จะทำให้ผู้ชายคนไหนก็ตามที่ได้เห็นรู้สึกตื่นเต้น 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจึงเอ่ยขึ้นว่า “ต่อไปอย่าเที่ยวไปเมาโดยไม่ระวังตัวแบบนี้ข้างนอกอีกล่ะ” 

 

 

“อะไรนะคะ” หญิงสาวไม่เข้าใจสิ่งที่เขาพูด 

 

 

พริบตาต่อมา ร่างบางของเธอก็ถูกยกจากเบาะนั่งขึ้นไปไว้บนร่างใหญ่ 

 

 

หน้าเธอประจันกับใบหน้าเขา ขาเธอกางคร่อมร่างเขา ตาต่อตามองตรงสบกันลึกซึ้ง 

 

 

“คะ…คุณทำอะไรคะนี่” 

 

 

“ฟังฉันนะ ต่อไปนี้เธอไม่ได้รับอนุญาตให้ไปเมาอยู่ข้างนอกแบบนี้อีกแล้ว” เขานิ่งคิดไปครู่หนึ่งก่อนจะเสริมว่า “ยกเว้นแต่ว่าฉันจะไปด้วย” 

 

 

“โอเค…” เมื่อถูกเขาจ้องมองมาขนาดนี้ หญิงสาวก็คิดอะไรไม่ออก ทำได้แค่เพียงตอบตกลงในทุกอย่างที่เขาสั่งมา 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อว่า “ดีมาก เป็นเด็กดี ฉันจะให้รางวัล” 

 

 

“รางวัลอะไรคะ” หญิงสาวเอียงศีรษะถามอย่างไม่ได้สนใจ 

 

 

แล้วริมฝีปากเขาก็เคลื่อนเข้ามาใกล้ 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด