เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 219 เธอจะต้องกลายเป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลกู้

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 219 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

สายตาของชายหนุ่มเหลือบไปมองหลินเช่อ เขาไม่ได้ปฏิเสธความอยากมีลูกกับเธอ เพียงแต่เขาไม่เคยคิดเรื่องการมีทายาทมาก่อนเลย

 

 

ด้วยเหตุนี้ชายหนุ่มจึงเพียงแต่มองหน้าผู้เป็นมารดา และเดินไปหาหลินเช่อ

 

 

มู่หว่านฉิงยิ้มน้อยๆ เธอชินเสียแล้วกับนิสัยแบบนี้ของบุตรชาย จึงได้แต่ยิ้มพลางมองดูทั้งสองคน

 

 

ที่บ้าน ทุกคนกำลังพูดคุยกันถึงการจัดงานฉลองเทศกาลปีใหม่

 

 

เนื่องจากตระกูลกู้เป็นครอบครัวใหญ่ พวกเขาจึงต้องตระเตรียมงานเลี้ยงส่งท้ายปีกันแต่เนิ่นๆ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อและหลินเช่อเพียงแต่นั่งและรับฟัง เพราะบุคคลที่เป็นหัวเรือใหญ่ในการจัดงานครั้งนี้คือมู่หว่านฉิง

 

 

หลินเช่อเฝ้าดูแม่สามีที่คอยจัดการรายละเอียดต่างๆ อย่างคล่องแคล่ว จนกระทั่งทุกอย่างถูกตระเตรียมเป็นที่เรียบร้อย ในตอนนั้นเองที่เธอได้รู้ว่า อันที่จริงแล้วการเป็นสมาชิกของตระกูลกู้ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับใครทั้งสิ้น แม้กระทั่งแม่สามีของเธอที่ดูเหมือนจะไม่ต้องกระดิกตัวทำอะไร ก็ยังเก่งกาจสามารถขนาดนี้

 

 

หลินเช่ออดเอ่ยชมไม่ได้ “คุณแม่คะ คุณแม่เก่งสุดยอดไปเลยค่ะ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อบอก “เธอคิดว่าการเป็นคุณนายใหญ่ของตระกูลกู้เป็นของง่ายๆ งั้นเหรอ แม่เป็นคนจัดการกับเรื่องสัพเพเหระทุกอย่างในบ้านหลังนี้ เธอทำมานานจนคุ้นเคยแล้วละ”

 

 

“อา ฉันคิดว่าคุณแม่ไม่ต้องทำอะไรเลยซะอีกค่ะ”

 

 

“คิดได้แค่นั้นเนี่ยนะ ยัยบื้อ” เขาเอื้อมมือออกไปเคาะหัวเธอดังโป๊ก

 

 

หลินเช่อหน้าเบ้ ทำไมเขาจะต้องถึงเนื้อถึงตัวเธอกับทุกเรื่องเลยด้วยนะ

 

 

ไม่ช้า มู่หว่านฉิงก็จังสังเกตท่าทีของสองสามีภรรยาได้ และเดินเข้ามาบอกว่า “นั่งฟังกันเบื่อแย่เลย ถ้าไม่มีอะไรแล้ว พวกเธอก็กลับกันไปแล้วละจ้ะ”

 

 

หลินเช่อหันไปมองอีกฝ่ายด้วยสายตาชื่นชม “คุณแม่คะ คุณแม่เก่งสุดยอดไปเลยค่ะ”

 

 

มู่หว่านฉิงหัวเราะและมองหน้าลูกสะใภ้ “แม่น่ะแก่ตัวลงแล้วหัวก็เริ่มที่จะไม่แล่นแล้วละจ้ะ มีอะไรที่เรียนรู้ได้ก็รีบเรียนรู้ซะตอนนี้นะ เพราะสุดท้ายเรื่องพวกนี้จะกลายเป็นหน้าที่ของเธอในอนาคตนะจ๊ะ”

 

 

“โอ๊ย” หลินเช่อร้อง หันไปมองหญิงผู้สูงวัยกว่าและถามว่า “หนูจะทำทั้งหมดนี่ได้ยังไงกันคะ”

 

 

มู่หว่านฉิงตอบ “ก็ต้องค่อยๆ หัดเรียนรู้ไปจ้ะ มันไม่ได้ยากเท่าไหร่หรอก แค่คอยควบคุมดูแลคนใช้ในบ้าน ห้องครัว แล้วก็เรื่องจุกๆ จิกๆ ของสามพี่น้องนั่นแล้วก็คนแก่ในบ้านเท่านั้นเอง แต่ต้องระวังนะจ๊ะ กุญแจของบ้านนี่เธอจะต้องเป็นคนถือเท่านั้น”

 

 

หลินเช่อนิ่งอั้น “หนูไม่รู้ว่าจะจัดการยังไงนี่คะ แถมหนูยังไม่เก่งเลขอีกต่างหาก สอบทีไรก็ตกทุกที”

 

 

มู่หว่านฉิงว่า “งั้นเหรอจ๊ะ…แต่อีกหน่อยเมื่อจิ้งเจ๋อมารับสืบทอดธุรกิจของครอบครัวต่อ ทุกอย่างของตระกูลกู้ก็จะตกเป็นของเขา ในเมื่อเธอแต่งงานกับจิ้งเจ๋อ เธอก็จะต้องมารับสืบทอดหน้าที่คุณนายใหญ่ต่อไป ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ ไม่เก่งเลขก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่ เมื่อถึงเวลา จิ้งเจ๋อจะสอนเธอเองนั่นแหละ”

 

 

“…” หลินเช่อรู้สึกเหมือนมีภูเขาหนักๆ มาทับอก

 

 

เธอไม่เคยคิดมาก่อนว่าการแต่งงานกับกู้จิ้งเจ๋อจะตามมาด้วยการต้องมารับหน้าที่แม่บ้านให้กับครอบครัวใหญ่อย่างตระกูลกู้เช่นนี้

 

 

เมื่อเดินทางกลับบ้านพร้อมกู้จิ้งเจ๋อ เธอก็ดึงเสื้อเขาพร้อมคร่ำครวญว่า “ฉันไม่รู้เลย ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำทั้งหมดนี่ได้ยังไง บอกฉันหน่อยสิคะ เราจะทำยังไงกันดี ถ้าฉันต้องรับผิดชอบทั้งหมดนี่ในอนาคต ฉันต้องตายแน่ๆ”

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อด้วยความแปลกใจ

 

 

ปกติแล้วถ้าเป็นผู้หญิงคนอื่น เมื่อได้ยินว่าเธอจะได้เป็นคุณนายใหญ่ประจำตระกูลกู้ละก็ คนอื่นคงจะยินดีปรีดา ดีใจเสียจนแทบข่มตาไม่หลับ

 

 

แต่ผู้หญิงตรงหน้าเขากลับทำท่าขนพองสยองเกล้า และพยายามหาทางที่จะหลบเลี่ยงตำแหน่งนี้

 

 

กู้จิ้งเจ๋อจับแขนเธอไว้แล้วยึดให้หยุดดิ้นยุกยิก จ้องลึกเข้าไปในดวงตาเธอและถามว่า “เธออยากรู้รึเปล่าว่าหน้าที่หลักของคุณนายใหญ่ประจำตระกูลกู้คืออะไร”

 

 

หลินเช่อเบิกตากว้าง รอให้เขาพูดต่อด้วยความอยากรู้สุดใจ

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อกระเถิบเข้ามาใกล้และกระซิบใส่หูว่า “ก็คอยรับใช้นายท่านประจำตระกูลกู้ให้ดีไงล่ะ โดยเฉพาะบนเตียงนอน…”

 

 

“…”

 

 

นายท่านประจำตระกูลกู้นี่ ก็ตัวเขาเองไม่ใช่เหรอ

 

 

กู้จิ้งเจ๋อยิ้มเจ้าเล่ห์ “ตั้งใจทำหน้าที่นั้นให้ดี แล้วเธอก็จะได้เป็นคุณนายที่ยอดเยี่ยมในอนาคตยังไงล่ะ”

 

 

ทำไมเมื่อก่อนเธอถึงไม่รู้เลยนะว่าเขาจะเป็นคนนิสัยเสียขนาดนี้!

 

 

กู้จิ้งเจ๋อมองหลินเช่อที่ทำหน้าตูมบูดบึ้งขึ้นมาทันควัน เธอบุ้ยปากและทำท่ากระฟัดกระเฟียดใส่เขา มันทำให้เธอทั้งดูงี่เง่าแล้วก็น่ามองไปพร้อมกัน

 

 

เขาไม่เคยพบเจอผู้หญิงที่คิดอะไรง่ายๆ แบบหลินเช่อมาก่อน ถ้าเพียงแต่เธอได้เจอกับคนที่รู้อะไรมากกว่าเธอสักหน่อย เธอก็พร้อมที่จะชื่นชมยกย่องคนคนนั้นในทันที สิ่งนี้ทำให้เขาประหลาดใจอย่างมาก

 

 

ในช่วงต้นปี งานประชุมประจำปีของบริษัทก็ถูกจัดเตรียมขึ้น

 

 

เมื่อหลินเช่อเองก็ได้รับคำเชิญไปร่วมงานด้วย เธอจึงเตรียมตัวเป็นอย่างดีสำหรับงานนี้

 

 

แขกที่ได้รับเชิญมาร่วมงานส่วนใหญ่ล้วนแต่เป็นดาราคนดังของทางบริษัท เช่นเดียวกับหุ้นส่วนและนักลงทุนทั้งหลาย

 

 

หลินเช่อเริ่มจิตตกทันทีเมื่อได้เห็นรายชื่อแขกขณะอยู่ในห้องแต่งตัว “วันนี้ฉันจะได้เจอดาราระดับท็อปของบริษัทอย่างฉินเสี่ยวหยวนด้วยนะ”

 

 

“ใช่แล้ว ถึงแม้ว่าเธอจะงานยุ่งอยู่ตลอด และไม่ค่อยได้มาที่บริษัทเท่าไหร่ รวมถึงไม่เคยมาร่วมงานประชุมใดๆ ที่บริษัทเลย แต่เธอก็ยังกลับมาร่วมงานประจำปีนี่ทุกปี” อวี๋หมินหมิ่นว่า

 

 

“แล้วก็ซ่งซูไห่ด้วย ฉันจำได้ว่าตอนที่เข้ามาทำงานที่บริษัทใหม่ๆ ฉันสมัครเป็นผู้ช่วยเธอด้วยนะคะ แต่ไม่ได้”

 

 

“อย่าตื่นเต้นมากไปนักเลย เธอเองก็เป็นดาราแล้วนะ หัดทำตัวให้สมเป็นดาราหน่อยสิ อีกหน่อยเธอจะดังกว่าพวกเขาอีกนะ”

 

 

“จะเป็นไปได้ยังไงกันคะ พวกเขาน่ะเป็นดาราระดับท็อปขนาดนั้นแล้ว แต่ฉันเพิ่งจะได้แสดงบทนำละครแค่เรื่องเดียวเอง จะเอาฉันไปเทียบกับพวกเขาได้ยังไงคะ”

 

 

“ในอนาคตเธอยังจะได้เล่นละครอีกหลายเรื่อง แล้วก็แน่นอนว่าเธอจะค่อยๆ มีชื่อเสียงมากกว่าพวกเขาขึ้นมาทีละน้อยเองนั่นแหละ” อวี๋หมินหมิ่นมองดูหลินเช่อผู้ใสซื่อและพูดต่อไปว่า “ระวังหน่อยก็แล้วกัน อย่าไปใกล้ชิดกับพวกเขามากนัก”

 

 

ด้วยอุปนิสัยของหลินเช่อนั้น ควรที่จะระวังไม่ให้โดนพวกรุ่นพี่ที่มีชั้นเชิงกว่ายั่วยุเอาได้ อวี๋หมินหมิ่นคิดอย่างเป็นกังวล

 

 

ไม่ช้า ก็ถึงเวลางานเริ่ม

 

 

หลินเช่อหอบหิ้วชุดกระโปรงของตัวเองและเดินเข้ามายังโรงแรมที่ทางบริษัทจองเอาไว้จัดงาน ที่ชั้นบนถูกประดับประดาอย่างวิจิตร ถึงแม้ว่านี่จะเป็นงานเลี้ยงภายใน แต่ก็มีแฟนๆ หลายคนที่ได้ข่าวและมายืนรอกันแน่นขนัด ทำเอาด้านล่างของโรงแรมปั่นป่วนโกลาหลไม่น้อย

 

 

ก่อนที่หลินเช่อจะเข้าไปด้านใน เธอก็ได้เห็นทีมผู้บริหารระดับสูงของบริษัทเดินทางมาถึงเข้าพอดี ทุกคนล้วนแต่เป็นคนสำคัญในวงการ และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะได้เห็นหน้าค่าตาพวกเขา ตอนนี้ที่ทุกคนเดินทางมาถึงแล้ว หลินเช่อยิ่งกังวลหนัก

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพยายามให้กำลังใจอยู่ข้างๆ “นี่เธอลืมไปแล้วหรือไงว่าเธอเองก็เป็นคุณผู้หญิงกู้นะ เธออยู่กับกู้จิ้งเจ๋อทุกวัน แล้วก็เคยเจอผู้คนมาก็มากหน้าหลายตา แล้วจะมาจิตตกอะไรกันตอนนี้ล่ะ”

 

 

หลินเช่อแย้งว่า “แหม พี่ก็ไม่ตื่นเต้นสิคะ ก็พี่อยู่ที่บริษัทนี้มาตั้งหลายปี แล้วก็เคยเข้าประชุมเจอคนพวกนี้เป็นประจำอยู่แล้ว พี่ก็ไม่ตื่นเต้นอะไรสิคะ แต่นี่เป็นครั้งแรกของฉัน ถึงตอนนี้ฉันไม่รู้ว่าจะพูดอะไรแล้ว”

 

 

เมื่ออวี๋หมินหมิ่นได้ยินก็ดุใส่ “งั้นเวลาที่ฉันเจอกู้จิ้งเจ๋อ ฉันก็คิดแบบเธอเหมือนกันนี่แหละ ไม่สิ แย่กว่าเธอซะอีก อย่างน้อยเธอก็แค่ได้เจอผู้บริหารระดับสูงของวงการ แต่ของเธอน่ะคือกู้จิ้งเจ๋อเลยนะ เธอรู้รึเปล่าว่ามีคนในประเทศนี้มากแค่ไหนที่อยากเจอเขาน่ะ เธอรู้สึกเปล่าว่าฉันกลัวแค่ไหนตอนที่ต้องยืนอยู่ต่อหน้าเขา นั่นมันแย่ยิ่งกว่าสภาพที่เธอเจอตอนนี้อีกนะ”

 

 

“จริงหรือคะ” หลินเช่อกะพริบตา บางทีอาจเป็นเพราะเธอนอนกับเขามาตั้งแต่แรก ก็เลยไม่เคยนึกกลัวเรื่องที่จะต้องมายืนข้างๆ เขา

 

 

แล้วหลินเช่อก็ร้องลั่นขึ้นอีกครั้ง “ว้าว ฉันเห็นซ่งซูไห่แล้ว!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด