เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 262 ความหลงใหลของฉันที่มีต่อเธอในโรงหนัง

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 262 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 262 ความหลงใหลของฉันที่มีต่อเธอในโรงหนัง

 

 

หลินเช่อรู้สึกตัวแล้วว่ามีสายตากำลังมองมาทางเธอ และหญิงสาวก็นึกแปลกใจ เพราะเธอคิดว่าเธอน่าอำพรางตัวเองได้ดีพอแล้วเสียอีก ทำไมทุกคนถึงยังรู้ได้อีก แต่แล้วเธอก็ได้เห็นว่า จุดที่ทุกคนกำลังหันมองดูอยู่นั้นไม่ใช่เธอ

 

 

แต่เป็นกู้จิ้งเจ๋อต่างหาก

 

 

ชายหนุ่มยืนสูงเด่นเป็นสง่าแม้ว่าจะสวมเสื้อผ้าเรียบง่ายไม่สะดุดตา แต่เขาก็ยังเปล่งประกายยิ่งกว่าคนอื่นๆ ที่อยู่รอบตัว

 

 

สายตาทุกคู่ต่างพากันจับจ้องไปที่เขา ด้วยเหตุนี้ไม่ว่าหลินเช่อจะพยายามปกปิดตัวตนอย่างไรก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี เพราะยังไงทุกคนก็สามารถสังเกตเห็นความแตกต่างได้ชัดเจน

 

 

หลินเช่อหันไปมองคนต้นเรื่องอย่างหัวเสีย

 

 

ทำไมเขาจะต้องหล่อแล้วก็มีเสน่ห์ขนาดนี้ด้วยนะ คุณสมบัติแบบนี้ก็นับว่าเป็นข้อเสียเหมือนกัน

 

 

ด้วยเหตุนี้หลินเช่อจึงไม่ยอมร่ำไรอีกต่อไป เธอรีบเลือกหนังที่จะดูอย่างรวดเร็วและลากตัวคนหล่อเกินพิกัดเข้าโรงหนังทันที

 

 

ในความมืดด้านใน ไม่มีใครมองเห็นอะไรได้ถนัดนัก

 

 

ขณะเดินเข้าไป กู้จิ้งเจ๋อเห็นคนอื่นๆ ต่างก็จับมือและโอบกอดกัน

 

 

เขาจึงเดินตามและจับมือหลินเช่อบ้าง

 

 

ถึงแม้ว่าโดยนิสัยส่วนตัวแล้ว เขาไม่ชอบทำอะไรที่เป็นการแสดงความรักใกล้ชิดแบบนี้ในที่สาธารณะ

 

 

แต่เขากลับไม่รู้สึกแบบนั้นเมื่อได้จับมือหลินเช่อตอนนี้

 

 

ตอนนี้มันกำลังกลายเป็นอุปนิสัยใหม่ที่เขาไม่คุ้นเคย

 

 

เขาคิดว่าหลินเช่อเป็นภรรยาของเขา และไม่มีใครมีสิทธิ์ที่จะมาตำหนิอะไรถ้าหากเขาจะจับมือภรรยาตัวเอง เมื่อคิดดังนี้ กู้จิ้งเจ๋อก็เดินจูงมือหลินเช่อเข้าไปในโรงหนัง

 

 

หญิงสาวกอดถังป๊อปคอร์นในมือข้างหนึ่ง จับมือกู้จิ้งเจ๋อด้วยมืออีกข้างหนึ่ง ที่นั่งของพวกเขาอยู่ทางด้านหลัง ป๊อปคอร์นในถังของหลินเช่อนั้นเยอะจนแทบล้นเพราะพนักงานขายเห็นความหล่อของกู้จิ้งเจ๋อแล้ว ก็อดแถมเพิ่มให้หญิงสาวคนซื้อไม่ได้ หลินเช่อคิดว่านี่ช่างเป็นโลกที่คนมองกันแต่ภายนอกเสียจริงๆ

 

 

หลินเช่อเคี้ยวป๊อปคอร์นอย่างเพลิดเพลินและหันไปยิ้มให้ชายหนุ่ม “คุณหันมองอะไรอยู่เหรอคะ อย่าบอกนะว่าคุณไม่เคยเข้าโรงหนังน่ะ”

 

 

หลินเช่อถามเมื่อเธอเห็นเขาเหลียวมองไปรอบๆ ด้วยท่าทีสงสัยใคร่รู้

 

 

“ก็ใช่น่ะสิ เธอรู้รึเปล่าว่าที่บ้านเรามีโฮมเธียเตอร์น่ะ ถ้าเธออยากดูอะไรละก็ เราดูได้เหมือนอยู่ในโรงหนังเลยนะ”

 

 

หลินเช่อเถียง “แต่ความรู้สึกมันต่างกันนะคะ”

 

 

“แถมเก้าอี้ยังสบายกว่าที่นี่ด้วย”

 

 

“คุณไม่เข้าใจ กู้จิ้งเจ๋อ ไม่เห็นเหรอคะว่านี่คือบรรยากาศโรงหนังของจริง มันมืดจนคุณมองไม่เห็นอะไรเลย ฮิๆ บรรยากาศแบบนี้นี่แหละค่ะที่ทำให้คุณอยากจะกอดและจูบกัน…”

 

 

ชายหนุ่มหันไปมองหน้ารอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของหลินเช่อแล้วเขาก็เข้าใจได้ทันที ไอ้ที่ว่า ‘กอดและจูบ’ เนี่ย ไม่ได้หมายถึงการ ‘กอดและจูบ’ ธรรมดา

 

 

“เราจะกอดจูบกันที่ไหนก็ได้ ทำที่บ้าน ในโรงแรม หรือที่ไหนก็ได้”

 

 

“ฮ่า แล้วมันเป็นยังไงล่ะคะ นี่ไงล่ะคุณไม่เข้าใจเลยซักนิด การได้ทำเรื่องซุกซนเล็กๆ น้อยๆ บ้างในที่ที่มีคนอยู่เต็มไปหมดแบบนี้น่ะมันน่าตื่นเต้นออกจะตาย เหมือนที่เขาบอกกันไงล่ะคะ ว่าเมียน้อยน่ะเร้าใจกว่าเมียหลวง ส่วนกิ๊กเร้าใจกว่าเมียน้อย ผลไม้ต้องห้ามน่ะหอมหวานกว่าเสมอนั่นแหละค่ะ เพราะแบบนี้คนถึงได้รู้สึกว่ามันน่าตื่นเต้นดีเวลาที่ได้แอบทำอะไร”

 

 

“…” นี่เป็นคำพูดของผู้หญิงหรือนี่

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรู้มาตลอดว่าหลินเช่อค่อนข้างสัปดนก็จริง แต่เธอก็มีขีดจำกัดอยู่ แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะชัดเจนแล้วว่า ไม่ใช่เลยซักนิด เธอไม่มีขีดจำกัดอะไรทั้งนั้น!

 

 

ชายหนุ่มลดเสียงลงต่ำ “แปลว่าเธอชอบแบบนี้เหรอ”

 

 

“…” หลินเช่อลนลานอธิบาย “ฉันไม่ชอบซักหน่อย ขอพูดให้เข้าใจนะคะ ฉันแค่บอกว่าคนอื่นเขาชอบกันเท่านั้นเอง”

 

 

“ไม่เป็นไร ฉันเข้าใจว่าเธอเองก็มีงานอดิเรกพิเศษของเธอ ถ้าเธออยากให้ฉันร่วมมือด้วย ฉันก็ยินดีจะร่วมมือด้วยความเต็มใจ” ขณะที่พูด หลินเช่อก็รู้สึกได้ถึงมือใหญ่ที่ลูบไล้มาบนต้นขา

 

 

อะไรกันเนี่ย…

 

 

หญิงสาวร้อง “อีตาบ้า ฉันไม่ได้พูดแบบนั้นซักหน่อย!” เธอรีบปัดมือเขาออก

 

 

ชายหนุ่มแสยะยิ้ม

 

 

“ฉันกำลังเผยแพร่ความรู้ให้คุณต่างหากล่ะคะ ให้ตายสิ นี่คุณออกเดตกับผู้หญิงยังไงเนี่ย คุณมีแฟนแต่กลับไม่รู้เรื่องอะไรแบบนี้เลยได้ยังไงกันคะ”

 

 

“เราไม่ดูหนัง” กู้จิ้งเจ๋อบอก

 

 

“ถ้างั้นแล้วพวกคุณทำอะไรล่ะ นั่งมองหน้ากันทุกวันอย่างงี้เหรอคะ”

 

 

“ไม่ใช่อยู่แล้ว เราก็ไปดูดนตรี ดื่มชา ฟังเพลง กินอาหารแล้วก็ไปดูคอนเสิร์ต”

 

 

“หยุด หยุด พอที ฉันเข้าใจละ พวกคุณนี่น่าเบื่อเป็นบ้า ฉันละสงสารคุณหนูโม่จริงจริ๊ง…”

 

 

นี่เธอมาเจอผู้ชายทื่อมะลื่อขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ เขาไม่รู้อะไรซักอย่าง

 

 

ที่สำคัญคือโม่ฮุ่ยหลิงก็ไม่ยักร้องขอเรื่องพวกนี้เสียด้วย

 

 

กู้จิ้งเจ๋อชะงัก เมื่อนึกย้อนกลับไป เขากับโม่ฮุ่ยหลิงก็ไม่เคยทำอะไรที่น่าจดจำด้วยกันเลยจริงๆ เสียด้วย

 

 

ถึงแม้ว่าจะคบหากันมานานหลายปี แต่เขาก็จำไม่ได้ว่าเคยมีอะไรเกิดขึ้นระหว่างเขากับเธอบ้าง

 

 

ชายหนุ่มจึงหันมามองหลินเช่อและพูดเรียบๆ ว่า “ที่ผ่านมาฉันไม่ค่อยได้สนใจเรื่องการออกเดตเท่าไหร่ แล้วก็ไม่ค่อยคิดด้วยว่าคู่เดตของฉันจะรู้สึกยังไง ต่อไปฉันจะปรับปรุงตัวในเรื่องนี้”

 

 

หลินเช่อรู้สึกได้ว่าเขาคว้ามือเธอขึ้นไป

 

 

ชายหนุ่มพูดต่อ “ต่อไป ฉันจะคอยถามถึงสิ่งที่เธอชอบให้มากขึ้น”

 

 

หัวใจหลินเช่ออุ่นวาบ เธอมองหน้าเขา “อันที่จริงไม่จำเป็นต้องทำแบบนั้นหรอกค่ะ…ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดเรื่องนี้…”

 

 

สีหน้าจริงจังของเขาดูเหมือนจะเป็นคำมั่นสัญญาอันหนักแน่น ริมฝีปากของเขาขยับยิ้มน้อยๆ ดวงตาเป็นประกายเหมือนอัญมณีสีเข้มในความมืดที่ไม่มีใครกล้าจะจ้องมองเข้าไปตรงๆ

 

 

เพราะการมองตาคู่นั้นอาจทำให้คนมองรู้สึกเหมือนถูกดูดเข้าไปในห้วงเสน่ห์อันร้ายกาจของเขาได้ในทันที

 

 

กู้จิ้งเจ๋อรู้สึกว่าเขาไม่เคยใส่ใจเอาเลยจริงๆ เมื่อตอนที่เขายังอยู่กับโม่ฮุ่ยหลิง

 

 

เขาไม่เคยสังเกตอารมณ์ความรู้สึกของเธอ ไม่เคยทำคิดว่าการทำให้เธอมีความสุขจะทำให้เขามีความสุขด้วย

 

 

ชายหนุ่มตวัดสายตามาหาหลินเช่อ และค่อยๆ เชยคางเธอแผ่วเบา

 

 

ในความมืด แสงจากจอภาพยนตร์สาดส่องมาเป็นระยะ ริมฝีปากของเขาเผยอขึ้น ลิ้นเขาปาดไล้ไปบนริมฝีปากเธอก่อนจะแทรกเข้าไป

 

 

เขาจูบเก่งขึ้นทุกที

 

 

แล้วก็ดูเหมือนจะคุ้นเคยกับจุดอ่อนไหวในร่างกายเธอมากขึ้นแล้วด้วย นิ้วเขาลากไล่ลงไป คลึงเคล้นและควานหาพื้นที่บริเวณซอกขาของหลินเช่อ

 

 

หญิงสาวนึกกลัวตัวเอง นี่เธอกลายเป็นผู้หญิงมากตัณหาแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน

 

 

แต่เมื่อชายหนุ่มถอนลิ้นกลับออกไป เธอก็รู้สึกผิดหวัง เธอควบคุมตัวเองไม่ได้อีกแล้ว หญิงสาวอ้าปากและเริ่มค้นหาริมฝีปากอิ่มเต็มของเขาแทน

 

 

ลิ้นของเขารู้สึกได้ถึงการเคลื่อนไหวของเธอ และมันก็ยิ่งจุดความรู้สึกให้ร้อนแรงขึ้น

 

 

นี่มันอึดอัดสิ้นดี แต่เธอก็ยังต้องการอีก

 

 

หลินเช่อแทบอยากจะครางออกมา

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด