เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 309 เลือกข้าง

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 309 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 309 เลือกข้าง

 

 

ทุกคนต่างก็มองดูทั้งสองโต้เถียงกันและอดรู้สึกสงสัยไม่ได้

 

 

อวี๋หมินหมิ่นไม่ได้คิดอะไรมากนัก เพราะหลินเช่อมักจะดีกับทุกคนเป็นปกติอยู่แล้ว ในขณะที่คนอื่นๆ ก็ยังอดกังขากันไม่ได้อยู่นั่นเอง แต่จะว่าไปกู้จิ้งอวี่ก็ดีกับหลินเช่อมากจริงๆ

 

 

จนกระทั่งทั้งคู่เดินออกไปแล้ว แต่ทุกคนก็ยังคงซุบซิบกันถึงเรื่องนี้ไม่ขาดปาก

 

 

“นี่ระหว่างหลินเช่อกับกู้จิ้งอวี่น่ะไม่มีอะไรกันจริงๆ เหรอ”

 

 

“ก็ไม่มีน่ะสิ พวกเขาปฏิเสธออกมาแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ”

 

 

“แต่ฉันว่ากู้จิ้งอวี่ดีกับหล่อนมากนะ แล้วก็ดูสนิทกันมากด้วยเวลาที่คุยกันน่ะ กู้จิ้งอวี่ไม่เคยยิ้มให้ใครแบบนั้นเลย แล้วนี่พอหลินเช่อกลับมา เขาก็รีบตรงดิ่งมาหาเธอทันทีเลยด้วย”

 

 

“ใครจะรู้ล่ะ แต่พวกเขาก็ไม่ได้ทำอะไรที่ดูใกล้ชิดกันแบบคนรักนะ ฉันเห็นเวลาที่พวกเขาคุยกัน ต่างคนก็ต่างนั่งห่างกัน แต่น่าจะชัดเจนอยู่นะว่าเป็นแค่เพื่อนกันน่ะ”

 

 

“ตอนนี้พวกเขาก็ทำท่าว่าเป็นเพื่อนกันต่อหน้าคนอื่นน่ะสิ ใครจะรู้ว่าลับหลังจะมีอะไรเกิดขึ้นบ้าง บางทีพวกเขาอาจจะ…ฮิๆ …”

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนกัดฟันแน่นขณะที่นั่งฟังอยู่ข้างหลัง

 

 

เธอเป็นถึงดาราใหญ่ที่ได้มาร่วมแสดงในหนังของกู้จิ้งอวี่ แต่ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาถูกสาวรุ่นน้องขโมยซีนไปแบบนี้ ตอนนี้ไม่ว่าใครก็เอาแต่พูดถึงหลินเช่อ ไม่มีใครสนใจฉินเสี่ยวหยวนเลยซักนิด

 

 

วันต่อมา โปสเตอร์แรกของภาพยนตร์ถูกเผยแพร่ออกไป

 

 

หลินเช่อเห็นโปสเตอร์แล้วก็คิดว่ามันดูดีมากทีเดียว ไอเดียของกู้จิ้งอวี่ไม่เคยเลยที่จะกลายเป็นเรื่องน่าเบื่อ

 

 

หลินเช่อนั้นอยู่ตรงกลางภาพพอดี ผมยาวปลิวไสว ดูสวยและเปล่งประกายไปด้วยความอาจหาญ

 

 

ที่ด้านนอก ฉินเสี่ยวหยวนกำลังอาละวาดหนัก

 

 

เหตุผลก็คือเพราะชื่อของหล่อนถูกวางเอาไว้ด้านหลังชื่อของหลินเช่อในโปสเตอร์

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนรีบตรงเข้าไปหาผู้กำกับเพื่อเผชิญหน้ากับเขาทันที “ฉันอยู่ในวงการนี้มานานกว่านังหลินเช่อ ฉันชนะรางวัลมามากกว่าจำนวนหนังที่แม่นั่นเคยแสดงด้วยซ้ำ คุณกล้าดียังไงถึงได้ใส่ชื่อฉันเอาไว้ข้างหลังแม่นั่นน่ะ แล้วแบบนี้ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน”

 

 

ผู้กำกับตอบว่า “นี่…เรื่องตำแหน่งชื่อนี่ ถึงยังไงชื่อของพวกคุณก็ถูกวางไว้ใกล้กันแล้วไม่ใช่หรือครับ”

 

 

“แต่การเอาชื่อนังนั้นขึ้นก่อนฉันมันเป็นเรื่องผิด ฉัน ฉินเสี่ยวหยวน มีชื่อเสียงมานานหลายปี ไม่รู้เหรอว่าฉันมีพลังดึงดูดแค่ไหน ไม่รู้เหรอว่าฉันสามารถทำเงินให้กับหนังเรื่องนี้ได้เท่าไหร่ แล้วนี่จะให้ฉันยอมใส่ชื่อไว้หลังนังนั่นได้ยังไงกัน”

 

 

ผู้กำกับยืนตัวแข็งขณะที่ฉินเสี่ยวหยวนยังคงฟาดงวงฟาดงาไม่หยุด เขาตอบออกไปได้เพียงแค่ว่า “ถึงยังไงโปสเตอร์นี่ก็ออกมาแล้ว คุณก็ช่วยทนๆ ไป…”

 

 

“ใครจะยอมทนกับเรื่องนี้มิทราบ จะต้องมีการแก้ไขตำแหน่งชื่อเท่านั้น! แล้วก็ต้องรีบแก้เดี๋ยวนี้ด้วย ถ้าจะต้องใช้เงินจัดการกับเรื่องนี้ก็บอกฉันมา!”

 

 

หลินเช่อ หยางหลิงซิน และอวี๋หมินหมิ่นยืนมองอยู่ข้างหลัง

 

 

ผู้กำกับกำลังตกที่นั่งลำบากทีเดียว

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนพ่นลมฟึดฟัด จนเมื่อหมุนตัวกลับมาและได้เห็นหลินเช่อ หญิงสาวก็เริ่มขบเขี้ยวเคี้ยวฟันอีกครั้ง

 

 

“แกมองอะไรหลินเช่อ มีใครบ้างที่ไม่รู้ว่าแกได้บทนี้มาเพราะว่าความใกล้ชิดสนิทสนมกับใครบางคนน่ะ นี่แกคิดจริงๆ เหรอว่าจะข้ามหน้าข้ามตาฉันไปได้ แค่เพราะว่าแกได้เล่นบทนี้น่ะ ฉันจะบอกอะไรให้นะ ในเรื่องนี้น่ะ ฉันได้ปรากฏตัวบนจอมากกว่าแกด้วยซ้ำ”

 

 

หลินเช่อมองตอบอีกฝ่าย “พี่เสี่ยวหยวนคะ มันก็แค่ชื่อเท่านั้น ไม่สำคัญหรอกค่ะว่าใครจะได้ขึ้นชื่อก่อนหรือหลังน่ะ”

 

 

เมื่อฉินเสี่ยวหยวนได้ยินดังนั้น หล่อนก็รีบตอบสวนกลับไปทันทีว่า “งั้นก็เยี่ยมเลย แกพูดเองนะ ในเมื่อแกไม่สนใจ งั้นชื่อของแกก็ต้องไปอยู่ข้างหลัง!”

 

 

หลินเช่อว่า “ฉันแค่โฟกัสไปที่การแสดงในเรื่องเท่านั้น ส่วนเรื่องที่เหลือ ฉันยินดีที่จะทำตามคำสั่งของคนอื่นค่ะ”

 

 

“ฮ่าๆ แหม ทำพูดจาเป็นผู้ใหญ่ซะระรื่นหูเชียวนะ ทำเหมือนกับว่าฉากหน้าแกไม่แคร์ แต่กลับไปวางแผนลับหลังฉัน ฉันจะบอกอะไรให้นะ ฉันน่ะอยู่วงการนี้มาหลายปีแล้ว อย่าคิดว่าฉันไม่รู้เรื่องมารยาทของแก”

 

 

หลินเช่อพูดอะไรไม่ออก เธอไม่รู้ว่าจะสามารถพูดอะไรเพื่อให้ทุกอย่างดีขึ้นได้

 

 

ผู้กำกับเองก็ทำอะไรไม่ถูก ด้วยตัวเขาเองก็ไม่อยากจะทำอะไรที่เป็นการล่วงเกินฉินเสี่ยวหยวนซึ่งเป็นดาราแถวหน้า จากที่พูด หล่อนก็คงจะมีความสามารถไม่น้อยทีเดียว ถึงได้สามารถพาตัวเองมาได้ไกลขนาดนี้ ส่วนหลินเช่อนั้น…

 

 

เธอเป็นนักแสดงนำหญิงของเรื่องนี้ ไอ้การจะให้ชื่อของเธอไปอยู่ข้างหลังก็ดูไม่น่าจะเหมาะสมอีกนั่นแหละ

 

 

ผู้กำกับทำอะไรไม่ถูกขณะมองมายังหลินเช่อ “ฟังนะ หลินเช่อ เรื่องตำแหน่งชื่อบนโปสเตอร์นั่น…”

 

 

หลินเช่อรีบบอก “ฉันไม่เป็นไรหรอกค่ะ บทนักแสดงนำหญิงเขาไม่ได้วัดกันที่ตำแหน่งของชื่อซักหน่อยนี่คะ”

 

 

ใครก็ตามที่ต้องประชันกับนักแสดงนำชายของเรื่อง ก็คือนักแสดงนำหญิงของเรื่อง และการที่จะได้ปรากฏตัวบนจอมากแค่ไหนนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง ความสำคัญของระยะเวลาที่ปรากฏตัวบนจอ เป็นปัจจัยหนึ่งที่ใช้ในการตัดสินใจว่าใครคือนักแสดงนำหญิง

 

 

อวี๋หมินหมิ่นแทรกเข้ามาว่า “จริงค่ะ เราเองก็ต้องไว้หน้าพี่เสี่ยวหยวนด้วยนะคะ ถ้าเธออยากให้ชื่อของเธอขึ้นก่อน ก็ให้เป็นไปตามนั้นเถอะค่ะ”

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนพ่นลมพรืด พลางเชิดหน้า ในขณะที่เธอกำลังจะอ้าปากพูดกับผู้กำกับนั้นเอง เสียงหนึ่งก็ดังก้องมาจากทางด้านหลัง “เกิดอะไรขึ้นหรือ”

 

 

เมื่อทุกคนหันไป พวกเขาก็ได้เห็นกู้จิ้งอวี่ที่กำลังเดินตรงมา ไม่มีใครรู้ว่าเขามาถึงตั้งแต่เมื่อไหร่

 

 

ผู้กำกับรีบเดินเข้าไปหาและบอกว่า “จิ้งอวี่ แค่ปัญหาเรื่องโปสเตอร์นิดหน่อยน่ะ…”

 

 

ผู้กำกับลดเสียงให้เบาลงและพยายามอธิบายสถานการณ์ที่เกิดขึ้นให้ชายหนุ่มฟัง

 

 

กู้จิ้งอวี่ขมวดคิ้ว เขาหันไปมองฉินเสี่ยวหยวน ก่อนจะหันไปมองหลินเช่อ

 

 

หลินเช่อไม่ได้มีท่าทีเดือดร้อนใดๆ ทั้งสิ้น ส่วนฉินเสี่ยวหยวนนั้น กำลังเชิดหน้าสูงด้วยท่าที่หยิ่งยโส

 

 

กู้จิ้งอวี่พ่นลมออกมาเบาๆ ก่อนจะค่อยๆ วางโปสเตอร์ลงข้างตัว เขาหันหน้าไปหาทุกคนและพูดว่า “หลินเช่อคือนักแสดงนำของเรื่อง ในขณะที่ฉินเสี่ยวหยวนเป็นนักแสดงสมทบ มันเป็นแบบนี้มาตั้งแต่ต้น และในฐานะนักแสดงนำหญิง ตามกฎของวงการนี้ก็จะต้องใส่ชื่อของหลินเช่อไว้ข้างหน้า คุณจะบอกว่าตัวเองเป็นผู้มีประสบการณ์ในวงการนี้ได้ยังไง ในเมื่อเรื่องเล็กๆ แค่นี้ก็ยังต้องมาเถียงกันน่ะ หลินเช่อไม่รู้เรื่องนี้เพราะเธอยังเป็นนักแสดงหน้าใหม่ แต่พวกคุณที่เหลือล่ะ ยังเป็นหน้าใหม่กันอยู่หรือไง”

 

 

ทุกคนต่างพากันอึกอักอยู่ครู่ใหญ่

 

 

หลินเช่อเงยหน้าขึ้นและมองไปยังกู้จิ้งอวี่

 

 

ชายหนุ่มยังคงพูดต่อไปอย่างเป็นปกติว่า “เราจะใช้โปสเตอร์ตามนี้ ฉันได้ตรวจสอบดูแล้ว และฉันก็พอใจกับรายละเอียดทุกอย่างที่เห็น ไม่จำเป็นที่จะต้องเปลี่ยนแปลงอะไรทั้งสิ้น”

 

 

“นี่คุณ…” ฉินเสี่ยวหยวนแย้งขึ้น “กู้จิ้งอวี่ ทั้งบทบาทของฉันในวงการนี้ แล้วก็ความสามารถในการทำเงินในบ็อกซ์ออฟฟิศของฉันมันโดดเด่นกว่าของแม่นั่นอย่างเห็นได้ชัด อีกอย่าง ฉันเองก็อยู่ในวงการนี้มาหลายปีแล้ว ฉันจะเอาหน้าไปไว้ที่ไหนถ้าชื่อฉันต้องอยู่ต่อท้ายดาราหน้าใหม่แบบนั้นน่ะ”

 

 

กู้จิ้งอวี่หันหน้ามา หรี่ตาให้ฉินเสี่ยวหยวน “โอเค ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเสียหน้ามากจริงๆ คุณจะขอถอนตัวออกจากหนังเรื่องนี้ก็ได้นะครับ ผมเองก็อยากจะเห็นเหมือนกันว่าหนังของผมจะทำเงินได้แค่ไหนถ้าไม่มีคุณ”

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนชะงัก หน้าเผือดสีในทันที

 

 

ด้วยความโกรธจัดในช่วงเวลานั้น ทำให้เธอกำลังจะหลุดปากออกมาว่าเธอจะขอถอนตัว

 

 

แต่บรรดาคนที่ยืนอยู่ข้างหลังต่างก็ไม่อยากให้เธอทำเช่นนั้น

 

 

“พี่เสี่ยวหยวนคะ อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องที่ผลกระทบที่จะตามมาว่าพี่จะต้องสูญเสียขนาดไหนถ้าต้องถอนตัวจากหนังเรื่องนี้ไปเลยนะคะ นี่เรากำลังพูดถึงกู้จิ้งอวี่กันอยู่ ถ้าพี่ล่วงเกินเขาแบบนี้ ต่อไปใครจะกล้าจ้างพี่ล่ะคะ”

 

 

ฉินเสี่ยวหยวนจ้องมองกู้จิ้งอวี่ที่อยู่ตรงหน้า เธอโกรธเสียแทบจะทนไม่ได้ในตอนนี้

 

 

แต่ลึกๆ ในใจเธอก็รู้ดีว่า เธอไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

 

 

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่าจะจวนเจียนจะระเบิดโทสะขนาดไหน หญิงสาวก็จำต้องบังคับตัวเองให้สงบลง เธอเกลียดความจริงที่ว่า เธอกำลังทำงานอยู่กับกู้จิ้งอวี่ที่เห็นได้ชัดว่าเข้าข้างหลินเช่ออย่างออกนอกหน้าทีเดียว

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด