เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 335 นี่คุณต้องมาเจอเรื่องน่ากลัวแบบนี้ได้ยังไง

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 335 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หัวคิ้วของหลินเช่อยับย่นด้วยความรู้สึกหดหู่ ย่นจมูกอย่างไม่พอใจ เธอรุมร้อนไปด้วยความรู้สึกที่อยากจะช่วยเขาแบ่งเบาภาระอันหนักอึ้งที่ต้องแบกรับเอาไว้ 

 

 

เมื่อหมอจัดการทำแผลเสร็จ และตรวจสอบอุปกรณ์ทุกอย่างอีกครั้ง ก่อนจะถามชายหนุ่มด้วยความระมัดระวังว่า “ท่านมีหายใจติดขัดหรือเปล่าคะ” 

 

 

“ไม่” 

 

 

“ถ้าหากว่าเจ็บแผลมากจนทนไม่ไหว เราสามารถให้ชายาต่อได้นะคะ” นายแพทย์รู้ดีว่าเนื้อที่แผลนั้นเริ่มเน่าเฟะ และนั่นจะนำมาซึ่งความเจ็บปวด 

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อเพียงแต่ขยับแขนและตอบว่า “ไม่ต้อง” 

 

 

ผู้เป็นแพทย์มองคนเจ็บด้วยความพิศวง ก่อนจะหันไปหาหลินเช่อและพูดว่า “คุณผู้หญิงคะ คุณกู้น่าทึ่งมากเลยละค่ะ ถ้าเป็นคนอื่นที่ได้รับบาดเจ็บขนาดนี้ คงจะสลบไปแล้วเพราะความเจ็บปวด คนปกติไม่มีทางที่จะรอดชีวิตจากเหตุระเบิดเมื่อวานได้เลย แต่ร่างกายของท่านแข็งแรงมากแถมพลังใจยังเปี่ยมล้น จากที่ฉันเห็นวันนี้ ท่านน่าจะพ้นขีดอันตรายเรียบร้อยแล้ว เพียงแต่ต้องระวังไม่ให้แผลติดเชื้อเท่านั้น” 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หัวใจของหลินเช่อก็ปวดหนึบขึ้นมาอีกครั้งอย่างทุกข์ทรมาน 

 

 

ใช่ เขามีพลังใจเข้มแข็งกว่าคนอื่น เพราะว่าเขาคือกู้จิ้งเจ๋อยังไงล่ะ เขาถึงต้องเข้มแข็ง 

 

 

หลินเช่อมองหน้าชายหนุ่มก่อนจะผงกหัว “ฉันเข้าใจค่ะ” 

 

 

คณะแพทย์เดินออกจากห้องไปและรีบรายงานกับคนที่อยู่ด้านนอกว่า มิสเตอร์กู้ได้สติแล้วและตอนนี้เขาปลอดภัยดี 

 

 

ที่ด้านนอก คณะแพทย์เหลียวกลับมามองกู้จิ้งเจ๋อที่เนื้อตัวเปื้อนเลือด ก่อนจะทำสีหน้าชวนฝันเมื่อพูดขึ้นว่า “คุณกู้ช่างหล่อเหลาเหลือเกิน” 

 

 

“ใช่ เขาหล่อเกินไปด้วยซ้ำ ขนาดบาดเจ็บอย่างนี้ ก็ยังดูดีอยู่นั่นเอง” 

 

 

“ฉันว่าคนที่ได้รับบาดเจ็บน่ะจะดูมีเซ็กซี่เสน่ห์แบบร้ายๆ นะ เพราะว่าพอมีเลือดเลอะเทอะเปรอะเปื้อนไปหมดแบบนั้น มันก็เลยทำให้เขายิ่งดูทรงอำนาจขึ้นไปอีก” 

 

 

“ตอนที่เขาถูกส่งตัวมาที่นี่เมื่อวาน ร่างทั้งร่างของเขาโชกไปด้วยเลือด ตอนนั้นฉันกลัวแทบแย่ ไม่คิดเลยว่าเขาจะทำเหมือนว่าทุกอย่างปกติดีได้ในตอนนี้” 

 

 

“ก็กู้จิ้งเจ๋อจะไปเหมือนคนธรรมดาได้ยังไงเล่า เขาบอกกันว่าสามพี่น้องตระกูลกู้น่ะถูกส่งตัวไปฝึกพิเศษในต่างประเทศ แน่นอนว่าพวกเขาต้องมีประสบการณ์กับการได้รับบาดเจ็บทั้งเล็กและใหญ่มาแล้วแน่ๆ บาดแผลที่ได้รับวันนี้คงเป็นแค่เรื่องขี้ผงเท่านั้นสำหรับเขาน่ะ” 

 

 

หลินเช่อได้ยินบทสนทนาที่ด้านนอกแล้วก็ถอนหายใจ เขาตกเป็นเป้าสายตาแห่งความสนใจเสมอไม่ว่าจะไปที่ไหน 

 

 

สมแล้วที่เป็นกู้จิ้งเจ๋อจริงๆ 

 

 

หลินเช่อปิดประตู เมื่อเห็นผ้าพันแผลที่ไหล่เขาถูกรัดจนแน่นหนา เธอก็เงยหน้าขึ้นมองด้วยความเห็นใจและถามเขาว่า “เจ็บมากมั้ยคะ” 

 

 

เขามองดูเธอแล้วส่ายหน้า “ไม่ต้องห่วง ไม่เจ็บหรอก” 

 

 

แต่หลินเช่อกลับส่ายหน้าและพูดว่า “มันจะไม่เจ็บได้ยังไงคะ กู้จิ้งเจ๋อ แล้วเหตุการณ์เมื่อคืนนี้น่ากลัวขนาดไหน คุณเฉียดตายมากหรือเปล่า” 

 

 

หลินเช่อถามเบาๆ ขณะเดินไปนั่งลงข้างตัวเขา เธอมองหน้าที่ค่อนข้างซีดเซียวจากการเสียเลือดมากของชายหนุ่ม 

 

 

เขาตอบเสียงขุ่นว่า “ใช่สิ ก็เพราะว่าเธอทำให้ฉันโกรธนี่” 

 

 

“ฉัน…” หลินเช่อนึกย้อนกลับไป มันก็จริงอยู่ที่ว่าเขาไม่ยอมอยู่บ้านในคืนนั้น แต่กลับไปยังวิลล่าที่ฝูซานเพราะเธอและเขามีเรื่องทะเลาะกัน 

 

 

เรื่องแบบนี้จะไม่มีทางเกิดขึ้นที่บ้านเลย เพราะการรักษาความปลอดภัยที่แน่นหนาและบอดี้การ์ดที่มีอยู่มากมาย 

 

 

ยิ่งคิดมากเท่าไหร่หลินเช่อก็ยิ่งรู้สึกผิดที่เกือบจะกลายเป็นต้นเหตุให้เขาถึงแก่ความตายมากเท่านั้น 

 

 

เธอมองหน้าเขา ก่อนจะพูดขึ้นอย่างลุแก่โทษ “ฉันขอโทษค่ะ ต่อไปฉันจะไม่ดื้อกับคุณอีกแล้ว แล้วตกลงคุณเฉียดตายจริงๆ หรือเปล่าคะ” 

 

 

ชายหนุ่มตอบ “มันเป็นระเบิดพลีชีพน่ะ คนที่ฝูซานก็เลยไม่ทันรู้ตัว แล้วก็แน่นอนว่าฉันเฉียดตายมากทีเดียว แต่ยังดี ดวงฉันยังดีแล้วก็สามารถหาที่หลบอยู่หลังโต๊ะได้” 

 

 

ถึงแม้ว่าเขาจะพาตัวเองไปหลบอยู่หลังโต๊ะได้ทัน แต่แรงระเบิดก็ยังส่งร่างเขาให้ลอยหวือออกไปพร้อมโต๊ะอยู่นั่นเอง ไหล่ของเขาได้รับบาดเจ็บสาหัสจากสะเก็ดระเบิด โต๊ะที่กำบังก็แหลกละเอียดเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อย โชคดีที่นอกจากจะช็อคจนหมดสติไปทันทีแล้ว ร่างกายของเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรอีก 

 

 

อย่างไรก็ดี เมื่อเทียบกับตัวแทนจากประเทศเอ็มที่ร่างแหลกเป็นผุยผงไปต่อหน้าต่อตาเขา เขาก็นับว่าตัวเองมีโชคอย่างมากแล้ว 

 

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น หลินเช่อก็รีบถามขึ้น “ถ้าอย่างงั้น ตัวแทนจากประเทศเอ็มล่ะคะ…เขาตายหรือเปล่า” 

 

 

“อืม” 

 

 

“ทำไมถึงได้ร้ายแรงขนาดนี้…” 

 

 

“ระเบิดนั่นระเบิดขึ้นตรงหน้าเขา…เขาไม่มีที่ให้หลบ แล้วก็เพราะว่าเขายืนอยู่ตรงหน้าฉัน ก็เลยเป็นฝ่ายรับแรงปะทะบางส่วนไปแทนด้วย เพราะอย่างนี้ฉันถึงไม่เป็นไร” คนเล่าพยายามที่จะทำให้หญิงสาวรู้สึกเสียใจกับเขามากขึ้นไปอีกด้วยการพูดว่า “ตอนนั้น ฉันคิดอยู่อย่างเดียวเท่านั้นก็คือ มันคงจะดีกว่าถ้าฉันจะตายๆ ไปซะ เธอจะได้ไม่ต้องเกลียดฉันมากขนาดนี้” 

 

 

“ฉันขอโทษค่ะ ฉันไม่ได้เกลียดคุณหรอกนะคะ…” ดวงตาของหลินเช่อเริ่มรื้นขึ้นมาอีก เมื่อเธอจินตนาการถึงภาพความสยดสยองของเหตุการณ์เมื่อคืน เธอก็ยิ่งรู้สึกว่านั่นเป็นความผิดของเธอ “ต่อไปฉันจะไม่ทำแบบนี้อีกแล้วค่ะ จริงๆ นะคะ จริงๆ…” 

 

 

ต่อให้เขาเป็นฝ่ายผิดและเข้าใจเธอผิดๆ ความปลอดภัยของเขาก็จะต้องมาเป็นอันดับหนึ่ง ถ้าความดื้อดึงของเธอทำให้เขาต้องมาตายอยู่ข้างนอกแบบนี้ละก็… 

 

 

จะไม่ได้มีแค่เธอคนเดียวที่ได้รับผลกระทบจากเรื่องนี้ 

 

 

น้ำตาของหลินเช่อไหลอาบลงมา ด้วยความรู้สึกผิด เธอหันมองเขา “ฉันขอโทษค่ะ…” 

 

 

ทีแรกกู้จิ้งเจ๋อเพียงแค่ตั้งใจว่าจะขู่ให้เธอกลัวนิดหน่อย แต่เขาไม่คิดเลยว่าเธอจะกลัวจนร้องไห้แบบนี้ 

 

 

เมื่อได้เห็นน้ำตาของเธอหยดเผาะลงบนมือเขา หัวใจของชายหนุ่มก็อ่อนยวบ เขาใช้มือแตะหน้าเธอให้เงยขึ้น 

 

 

หลินเช่อรีบยกมือขึ้นปิดหน้า ไม่อยากให้เขาเห็น “คุณมองฉันทำไมคะ ปล่อยนะ ฉันยังไม่ได้ล้างหน้าเลย ตอนนี้มันดูน่าเกลียดจะตาย” 

 

 

ชายหนุ่มขมวดคิ้ว “เอามือออกไปสิ ให้ฉันเห็นหน้าเธอหน่อย” 

 

 

“ก็ฉันไม่อยากให้เห็นนี่” 

 

 

เธอไม่ได้นอนเลยทั้งคืน สภาพตอนนี้คงซังกะตายดูไม่จืดแน่ๆ หน้าเธอตอนนี้คงทั้งหมองคล้ำและเป็นมันย่องไปหมด เธอไม่รู้เลยว่าตัวเองดูแย่แค่ไหน ยิ่งไปกว่านั้นเธอเพิ่งจะปล่อยโฮออกมา ตาก็พลอยบวมเป่งจากการร้องไห้ ตอนนี้เธอคงดูน่าเกลียดเหมือนปีศาจ 

 

 

เธอไม่อยากให้เขาเห็นเลยซักนิด 

 

 

ถึงแม้ว่าหลินเช่อจะพยายามอย่างที่สุดที่จะปกปิดใบหน้าของตัวเองเอาไว้ แต่กู้จิ้งเจ๋อก็ยังเชยคางเธอขึ้นมาได้อยู่ดี  

 

 

เขาจ้องมองเธอด้วยสายตาแน่วนิ่งไม่ไหวติง ก้มลงมองดูใบหน้าเล็กๆ ที่เป็นมันเงาด้วยคราบน้ำตา 

 

 

ในตอนนี้ ใบหน้ากระเซอะกระเซิงของเธอก็ไม่ได้มีความอัปลักษณ์เลยแม้แต่น้อย ผิวของเธอยังขาวสะอาดเรียบเนียนราวกับน้ำนม เธอเพียงแต่ดูอิดโรยกว่าปกติ ขอบตาคล้ำเป็นวง แต่เขากลับคิดว่าเธอดูน่ารักน่าใคร่เป็นที่สุด ขนตายาวของเธอกะพริบขึ้นลงเหมือนปีกผีเสื้อ มีหยาดน้ำตากลิ้งไปมาอยู่บนนั้น แสงไฟเขียวๆ ในห้องยิ่งทำให้ใบหน้าของเธอดูกระจ่างมากขึ้นไปอีก มันทั้งดูขาวสะอาด นุ่มนวล จนไม่อาจพูดได้ว่าสกปรกหมองคล้ำตรงไหนเลยซักนิดเดียว 

 

 

แล้วอยู่ๆ กู้จิ้งเจ๋อก็ไม่สนใจอีกต่อไปว่าเธอจะได้ล้างหน้าแล้วหรือเปล่า เขาประคองใบหน้าเธอไว้ แล้วประทับจูบแผ่วเบาลงไปครั้งหนึ่ง และอีกครั้งที่หน้าผาก แก้ม จมูก และริมฝีปาก ก่อนจะค่อยๆ ปล่อยตัวเธอ 

 

 

“ยัยบื้อ คนพวกนี้วางแผนที่จะซุ่มโจมตีฉันเอาไว้ตั้งนานแล้ว มันไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเธอเลยซักนิด ต่อให้คราวนี้ไม่เกิดขึ้น ไม่ช้าก็เร็ว พวกมันก็จะต้องหาโอกาสจากช่องโหว่ในการรักษาความปลอดภัยของเราได้อยู่ดีนั่นแหละ แต่จะให้ฉันเอาแต่มุดหัวอยู่ในบ้านไม่ออกไปไหนเลยมันก็เป็นไปไม่ได้ ใช่มั้ยล่ะ” 

 

 

ชายหนุ่มนึกโกรธตัวเอง เขาไม่ควรดุด่าเธอซะจนทำให้เธอตำหนิตัวเองมากขนาดนี้เลย โดยเฉพาะเมื่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นครั้งนี้ก็ไม่ได้มีอะไรเกี่ยวข้องกับเธอซักหน่อย 

 

 

แต่เขากลับทำให้เธอต้องร้องไห้ 

 

 

หลินเช่อร้อนรนใจมาตลอดทั้งคืนแล้ว เขานึกภาพไม่ออกเลยว่าเธอจะทุกข์ใจแค่ไหนที่จะต้องมาเห็นเขาในสภาพนี้ ผู้หญิงสาวอย่างเธออาจจะไม่เคยต้องประสบกับเหตุการณ์ร้ายๆ แล้วก็การบาดเจ็บที่สาหัสรุนแรงขนาดนี้มาก่อนเลยก็ได้ 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด