เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 350 เธอตกลงไปในน้ำและร้องขอความช่วยเหลือ

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 350 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลินเช่อไม่ต้องการนั่งบนม้าที่เธอเป็นคนแนะนำ แต่ลู่ชูเซี่ยดึงมือรบเร้าหลินเช่อจนเธอไม่รู้ว่าจะปฏิเสธอย่างไร 

 

 

ขณะที่ลู่ชูเซี่ยดึงหลินเช่อออกไปนั้น ผู้คนเบื้องหลังต่างมองหลินเช่อด้วยความอิจฉา “คุณชูเซี่ยเป็นนักขี่ม้าที่ยอดเยี่ยม ถ้าคุณชูเซี่ยแนะนำไม่มีผิดหวังแน่นอน”  

 

 

เมื่อเป็นเช่นนี้ กลายเป็นว่าการที่เธอปฏิเสธลู่ชูเซี่ยเหมือนหลินเช่อไม่ให้เกียรติเธอต่อหน้าคนมากมาย 

 

 

ทว่า หลินเช่อรู้สึกไม่อยากไปกับเธอเลย 

 

 

ในตอนนั้นเอง กู้จิ้งเจ๋อโผล่มาจากด้านหลังและหยุดหลินเช่อไว้ 

 

 

เขาดึงหลินเช่อให้มายืนข้างหลังเขาขณะที่มองไปยังลู่ชูเซี่ยและพูดว่า “ไม่จำเป็น ฉันจะเลือกม้าให้เธอเอง”  

 

 

ดวงตาลู่ชูเซี่ยเป็นประกายวาบและมองกลับไปที่กู้จิ้งเจ๋อ “ทำไมล่ะคะ ไม่ไว้ใจฉันเหรอ”  

 

 

“ใช่แล้ว” กู้จิ้งเจ๋อตอบอย่างไม่แยแส เขาหันหลังกลับพร้อมทั้งดึงหลินเช่อไปกับเขาด้วย 

 

 

ทุกคนมองด้วยความตกใจสุดขีดกับความเผด็จการของกู้จิ้งเจ๋อ 

 

 

เขาไม่ไว้หน้าลู่ชูเซี่ยแม้แต่น้อย 

 

 

ตัวลู่ชูเซี่ยเองก็ทำอะไรไม่ถูกเช่นกัน เธอยืนอยู่ด้านหลัง พูดไม่ออกสักคำและได้แต่ยืนดูกู้จิ้งเจ๋อพาหลินเช่อออกไป 

 

 

ลู่เป่ยเฉินมองดูและพูดกับลู่ชูเซี่ย “เป็นไงล่ะ เขาก็เป็นคนแบบนั้น เธอจะทำอะไรได้”  

 

 

กลุ่มคนด้านหลังที่ได้ยินพวกเขาคุยกันเริ่มคุยให้กันฟัง นั่นแหละสมกับเป็นกู้จิ้งเจ๋อ; เขาเป็นคนขวานผ่าซากเสมอ 

 

 

อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้คงทำให้ลู่ชูเซี่ยอับอายเป็นที่สุด 

 

 

คนสองสามคนอดปลอบใจเธอไม่ได้ “คุณชูเซี่ย ช่างมันเถอะ พวกเราไปทางโน้นและเลือกม้ากันดีกว่า 

 

 

กู้จิ้งเจ๋อเอาแต่ใจตัวเองเป็นอย่างมากที่เขาไม่สนใจตระกูลลู่แบบนั้น ทว่า ตระกูลลู่เองก็ดูเหมือนจะทำอะไรเขาไม่ได้เช่นกัน 

 

 

ลู่ชูเซี่ยโดนปฏิเสธซึ่งๆ หน้า เธอทำได้เพียงนิ่งเงียบขณะที่มองเขาเดินจากไป 

 

 

เธออยากกรีดร้องโวยวายเหมือนกัน แต่เธอรู้ว่านั่นไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา ปฏิเสธไม่ได้ว่าไม่มีอะไรแตะกู้จิ้งเจ๋อได้ 

 

 

หลินเช่อพ่นลมด้วยความโล่งอกเมื่อกู้จิ้งเจ๋อช่วยพาเธอออกมา หญิงสาวมองไปที่ม้าตรงหน้าและบอกกับกู้จิ้งเจ๋อ “ฉันขี่ม้าไม่เป็น ฉันจะทำยังไง…”  

 

 

“ไม่เป็นไร ฉันจะอยู่กับเธอเอง มีม้าตัวหนึ่งที่นี่ฉันเป็นคนเลี้ยงมาเอง; พวกเราขี่มันด้วยกันได้ มันมั่นคงพอที่จะแบกรับเราสองคน”  

 

 

“ว้าว จริงหรือคะ ดีจัง! ฮี่ๆ ฉันยังกลัวอยู่เลยว่าจะทำอะไรขายหน้าเพราะขี่ม้าไม่เป็น”  

 

 

“ฉันรู้ว่าเธอเปิ่นขนาดไหน ฉันจะปล่อยให้เธอทำตัวเองขายหน้าได้ยังไงล่ะ” เขาแตะจมูกเธอเบาๆ แล้วก็ดึงเธอตรงไปทางคอกม้า 

 

 

ผู้คนในงานเห็นกู้จิ้งเจ๋อกับหลินเช่อขี่ม้าด้วยกัน วิ่งบ้างเดินบ้างไปรอบๆ ทางหนึ่ง พวกเขาก็รู้สึกอิจฉาที่เห็นทั้งสองขี่ม้าด้วยกัน อีกทางหนึ่ง พวกเขาก็คิดว่ากู้จิ้งเจ๋อไม่แยแสอะไรจนเกินไป 

 

 

ใครจะไปคาดคิดว่าบุกคลิกของเขาเป็นแบบนี้ การพูดกับเขาก็ยากพอๆ กับการพยายามจะขึ้นสวรรค์ ทุกคนคุ้นชินแล้วกับกิริยาท่าทางของเขาซึ่งนั่นก็ยิ่งทำให้รู้สึกริษยาหลินเช่อผู้ที่อยู่บนหลังม้ากับชายหนุ่ม มองดูทั้งคู่หัวเราะคิกคักลืมโลกทั้งใบ ใครต่างพากันสงสัยว่าหญิงสาวผู้นี้มีความสามารถอะไรที่ทำให้เธอพูดคุยกับกู้จิ้งเจ๋อได้อย่างแช่มชื่นไม่มีติดขัด 

 

 

ลู่ชูเซี่ยเฝ้ามองจากด้านหลังและเริ่มรู้สึกอึดอัดในหัวใจอย่างรุนแรง เธอหยุดขี่ม้าทันทีและกลับเข้าไปด้านใน 

 

 

หลินเช่อและกู้จิ้งเจ๋อขี่ม้าอยู่สักครู่ กู้จิ้งเจ๋อกลัวว่าการขี่ม้าจะส่งผลเสียต่อร่างกายของหลินเช่อ เขาจึงต้องการให้เธอลงไปพัก 

 

 

“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ฉันยังอยากขี่ต่ออีกนิด”  

 

 

“ไม่ได้ เธอเพิ่งจะเย็บมานะ ขี่ม้าอย่างนี้ไม่ดีหรอก” เขาว่า 

 

 

หลินเช่อโซเซไปเล็กน้อยและตอบ “ได้โปรดนะคะ นั่นก็ตั้งนานแล้ว”  

 

 

“ไม่คือไม่ ตรงส่วนนั้นถูกสร้างมาพิเศษเพื่อฉัน…เธอต้องดูแลมันให้ดี” เขากระซิบแผ่วเบาที่ข้างหูเธอ 

 

 

“พอเลย” เธอใช้ศอกจิ้มเข้าที่ตัวเขา 

 

 

ทั้งสองหัวเราะและลงจากม้าด้วยกัน ไม่ได้รับรู้ว่ามีฝูงชนรอบด้านกำลังมองอยู่ 

 

 

พวกนั้นถึงกับช็อกที่มีผู้หญิงในโลกนี้กล้าถองกู้จิ้งเจ๋อ 

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อไม่โมโห กับกลายเป็นว่าเขาดูจะชอบที่โดนทำแบบนั้นและนี่ยิ่งทำให้ผู้คนตกใจมากขึ้นอีก 

 

 

เมื่อลู่เป่ยเฉินเดินมาเอ่ยว่ากู้จิ้งเหยียนเตรียมน้ำชายามบ่ายไว้ด้านในทุกคนก็เข้าไป หลินเช่อรู้สึกเบื่อ เธอจึงคิดว่าจะไปเดินเล่น หลังจากที่ส่งสายตาให้กู้จิ้งเจ๋ออยู่นาที เธอก็วิ่งยิ้มออกไป 

 

 

ที่ด้านนอก ฟาร์มม้าอากาศสดชื่นดีมาก สามารถมองเห็นแนวภูเขาห่างออกไป การได้รับแสงอาทิตย์เหมือนได้เพิ่มพลังหลังจากที่อยู่แต่ข้างในมาเนิ่นนาน 

 

 

ตอนนั้นเอง เธอเห็นลู่ชูเซี่ยกำลังตำหนิใครบางคนอยู่ด้านใน 

 

 

“ฉันสั่งให้แกทำงานง่ายๆ แค่อย่างเดียวแต่แกก็ยังโง่เง่าเหลือเกิน แม้แต่ไอ้ม้านั่นยังไม่เชื่อฟัง! ให้มันชนคนซักคนยังทำไม่ได้เลย”  

 

 

เสียงนี้คือลู่ชูเซี่ย… 

 

 

หลินเช่อเดินเข้าไปใกล้อีกนิดและเห็นเธอกำลังติเตียนสาวใช้ 

 

 

สาวใช้รีบตอบ “คุณหนู ฉันพยายามแล้วนะคะ แต่คุณกู้อยู่ใกล้เธอมากเกินไป ฉันเลี่ยงคุณเค้าไม่ได้เลยค่ะ”  

 

 

“ถ้าอย่างนั้น แกก็น่าจะชนพวกนั้นไปเลย แกกลัวอะไรฮึ”  

 

 

“ฉันกลัวว่าตระกูลลู่จะตอบคำถามว่ายังไงถ้าเราชนคุณกู้น่ะค่ะ”  

 

 

“แกไม่มีปัญญาชนกู้จิ้งเจ๋อได้หรอก แกคิดว่ากู้จิ้งเจ๋อเป็นใคร เขาจะโดนใครชนล้มง่ายๆ รึ เขาหลบได้อยู่แล้ว ดูซิ แกทำอะไรลงไป เราเกือบทำสำเร็จแล้วเชียว เกือบจะกระทืบนังมารนั่นได้แล้ว”  

 

 

ร่างกายของหลินเช่อดีดผึงขึ้นมาทันที นี่พวกเขากำลังพูดถึงม้าตัวเมื่อกี้อยู่หรือ 

 

 

วินาทีนั้นเอง เธอบังเอิญเหยียบไปบนเม็ดอาหารม้าแล้วก็มีเสียงของโดนบดดังมาจากใต้เท้า 

 

 

ลู่ชูเซี่ยหันมาเห็นหลินเช่อ 

 

 

หลินเช่อลนลานรีบหันหลังและเริ่มเดินออกมา ตรงไปข้างนอก 

 

 

ดวงตาของลู่ชูเซี่ยฉายวาบ เธอหันไปบอกสาวใช้ “กำจัดไอ้ม้านั่นและดูแลให้เรียบร้อยอย่าให้เหลือหลักฐานอะไรไว้”  

 

 

“ค่ะ คุณหนู”  

 

 

หลังจากนั้น ลู่ชูเซี่ยแกว่งแซ่ในมือเธอและเดินตามไป 

 

 

“หลินเช่อ ทำอะไรอยู่น่ะ”  

 

 

“ฉัน…ฉันกำลังเดินเล่นอยู่” เธอแกล้งทำเป็นว่าไม่ได้แอบฟังบทสนทนาของพวกเขาเมื่อครู่ เพราะไม่อยากให้ลู่ชูเซี่ยทำท่าเหมือนมีชนักติดหลังกับเธอ 

 

 

“โอ้ เดินเล่นเหรอ เมื่อกี้เธอบังเอิญได้ยินอะไรมั้ย”  

 

 

“ขอโทษนะ เธอพูดเรื่องอะไรกัน” เธอเป็นนักแสดงนะและแสดงเก่งเสียด้วย 

 

 

ลู่ชูเซี่ยยังไม่ปักใจเชื่อ หลินเช่อแค่เดินเล่นและไม่ได้ยินอะไรเลยจริงหรือ อย่างไรก็ตาม เธอคงไม่เชื่อแค่คำพูดของหลินเช่ออย่างเดียว 

 

 

“ไม่ว่าเธอได้ยินอะไรก็ตาม ฉันจะคอยดูว่าเธอจะกล้าคาบไปฟ้องกู้จิ้งเจ๋อมั้ย หลินเช่อ ฉันบอกอะไรให้นะ เธอควรจะเข้าใจไว้ซะ เห็นได้ชัดว่าตอนนี้ตระกูลกู้มีศัตรูที่คอยโจมตีกู้จิ้งเจ๋อจากที่มืด ไม่ว่าตระกูลกู้จะทรงอิทธิพลแค่ไหน พวกเขาจะยิ่งได้เปรียบกว่ามากถ้ามีตระกูลลู่คอยหนุน ไม่ว่าเธอได้ยินอะไรมา เธอคิดหรือว่ากู้จิ้งเจ๋อจะกล้าทำอะไรฉันเพื่อคนอย่างเธอ”  

 

 

หลินเช่อมองลู่ชูเซี่ย “ฉันไม่เข้าใจว่าคุณกำลังพูดเรื่องอะไร แต่…ฉันออกมานานมากแล้ว ฉันควรจะกลับเข้าไปได้แล้ว”  

 

 

เมื่อเห็นหลินเช่อเดินไป ลู่ชูเซี่ยตามมาใกล้ๆ  

 

 

หลินเช่อไม่ได้หันกลับมามองแต่วิ่งไปข้างหน้าทำเหมือนเธอไม่รู้ว่ากำลังเกิดอะไรขึ้น 

 

 

ลู่ชูเซี่ยไล่มาทันทันทีและเริ่มดึงรั้งแขนของหลินเช่อ 

 

 

หลินเช่อไม่มีทางยอมให้ใครมาแตะตัวเธอง่ายๆ เธอหันมาและเริ่มต่อสู้กับลู่ชูเซี่ย 

 

 

“นังสารเลว กล้าดียังไงมาตีฉัน! กล้าสู้ฉันกลับรึ! แกคิดว่าแกเป็นใครฮึ!  

 

 

“เธอเริ่มก่อนนะ ทำไมฉันจะตอบโต้ไม่ได้ล่ะ”  

 

 

ลู่ชูเซี่ยเห็นทะเลสาบเทียมที่สร้างไว้อยู่ไม่ไกลและความคิดชั่วร้ายก็เริ่มผุดขึ้นมาในใจเธอ เธอน่าจะโยนยัยนี่ลงทะเลสาบแล้วก็กดน้ำให้ตาย 

 

 

ยังไงเสียกู้จิ้งเจ๋อก็แค่ชอบหน้าสวยๆ ของยัยนี่ คนหน้าตาดีมีเยอะแยะไป เขาไม่กล้ามีปัญหากับตระกูลลู่เพราะผู้หญิงแค่คนเดียวหรอก 

 

 

ในเมื่อมีแผนแล้วก็ทำเสียเลย ลู่ชูเซี่ยลากหลินเช่อตรงไปทิศทางนั้นทันที 

 

 

หลินเช่อจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าผู้หญิงคนนี้วางแผนจะลากตัวเธอไปลงน้ำ 

 

 

ทว่า เธอประเมินหลินเช่อต่ำไป หลินเช่อไม่ใช่มังสวิรัติหรือองค์หญิง เธอเป็นหญิงแกร่งโตมากับการที่ต้องต่อสู้ดิ้นรน ดังนั้น ตอนนี้ ที่ข้างทะเลสาบนี่ หลินเช่อขัดขืนลู่ชูเซี่ยด้วยแรงทั้งหมดที่มี 

 

 

ลู่ชูเซี่ยไม่สามารถโยนเธอลงไปได้แม้ว่าจะใช้พละกำลังทั้งหมดที่มีแล้วก็ตาม ตอนนั้นเอง เธอรู้สึกได้ถึงแรงผลักจากหลินเช่อ จนโดนผลักแล้วเธอถึงได้ตอบโต้และรู้ว่าหลินเช่อแกล้งทำเป็นอ่อนแอเพื่อรอโอกาสนี้ 

 

 

เสี้ยววินาทีถัดมา ลู่ชูเซี่ยตกลงไปในทะเลสาบ 

 

 

“อ้า…ช่วยด้วย…ช่วยด้วย…” ลู่ชูเซี่ยตะโกน 

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด