เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก – ตอนที่ 355 เธอมีความสัมพันธ์กับท่านประธานาธิบดีจริงหรือ

อ่านนิยายจีนเรื่อง เจ้าสาวจอมจุ้นขอลุ้นรัก ตอนที่ 355 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

อวี๋หมินหมิ่นอึกอักก่อนพูดออกมา “ท่านประธานาธิบดีคะ ความเป็นจริงมันซับซ้อนกว่ากฎหมายนะคะ ตอนเด็กๆ ฉันโดนซ้อมเป็นประจำ แม่จะอุ้มฉันและน้องชายออกจากบ้านทุกครั้งแล้วพวกเราก็จะกลับไปเมื่อพ่อสงบสติอารมณ์ลงแล้ว แค่นี้ถือว่าเรื่องเล็ก ที่เคยโดนหนักสุดคือฉันต้องไปนอนโรงพยาบาล ถูกเย็บที่เข่าสิบเจ็ดเข็มและนั่นถือเป็นเรื่องธรรมดาสำหรับฉัน พ่อฉันติดการพนันและฉันก็ชินกับมันแล้ว ดังนั้น แค่นี้ไม่รู้สึกอะไรหรอกค่ะ ไม่จำเป็นต้องรบกวนพวกคุณ ฉันไปก่อนนะคะ”

 

 

กู้จิ้งหมิงมองอวี๋หมินหมิ่น เธอแค่แตะริมฝีปากตัวเอง หยิบกระเป๋าและเดินออกไป

 

 

อันที่จริง เธอรู้ว่าพ่อของเธอคงตื่นเต้นมากเกินไปจนเป็นสาเหตุให้เขารีบแจ้นมาที่นี่

 

 

ตอนแรกที่เธอรู้ว่าตัวเองหลับนอนกับกู้จิ้งหมิง เธอรู้สึกเช่นกันว่าโลกของเธอได้เปลี่ยนไป

 

 

คืนนั้นเธอเมาและได้ยินเสียงอะไรบางอย่าง หลังจากนั้นเธอโดนทุบจนสลบไปและถูกพาเข้าไปในห้อง

 

 

เมื่อเธอตื่นขึ้น เธอพบว่ามีชายคนหนึ่งจับมือเธอไว้แน่น

 

 

เขาเองก็มีอาการมึนเมาและในความมืดนั้นเขาจัดการกดเธอลงบนเตียง

 

 

ตอนนั้นเธอไม่รู้เลยว่าเขาเป็นใคร จนกระทั่งเธอเปิดไฟและได้รู้ว่าตาบ้าคนนั้นคือกู้จิ้งหมิง เธอตกใจสุดขีดเมื่อพบว่ากำลังมองไปยังชายผู้ที่เธอเคยเห็นแต่ในทีวีเท่านั้น

 

 

กู้จิ้งหมิงยืนอยู่ข้างเตียงและหน้าตาเขาดูสำนึกผิดมองมาที่เธอ

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดกับเขาเพียงแค่อย่างเดียวในตอนนั้น เธอตะกุกตะกักถาม “มียาคุมกำเนิดมั้ย…”

 

 

กู้จิ้งหมิงดึงข้อมือของอวี๋หมินหมิ่นทันทีแล้วกดเธอลงไปบนเตียงอีกครั้ง เขาถามอย่างดุดัน “ใครส่งเธอมา”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นตอบด้วยน้ำเสียงงุนงง “หมายความว่ายังไงที่ว่าใครส่งฉันมา ฉันโดนใครไม่รู้ลากมาที่นี่ ฉันไม่เห็นว่าเขาเป็นใคร”

 

 

“เธอไม่รู้งั้นรึ” กู้จิ้งหมิงจ้องเธอตาไม่กะพริบ

 

 

อวี๋หมินหมิ่นว่า “ก็ใช่น่ะสิ ฉันไม่รู้ ฉันจะรู้ได้ยังไงล่ะ”

 

 

กู้จิ้งหมิงคงเริ่มสังเกตแล้วว่าไม่มีเสื้อผ้าบนตัวเธอเลยสักชิ้น เขาหยิบเสื้อผ้าโยนไปที่เธอ

 

 

อวี๋หมินหมิ่นคิดว่าผู้ชายคนนี้ไม่เห็นดีอย่างที่ใครเขาพูดกันสักนิด

 

 

ข้อแรก เขาไม่ได้ใกล้ชิดกับประชาชนของเขาเลยสักนิด

 

 

ข้อสอง เขาไม่เป็นมิตรแม้แต่น้อย

 

 

เธอรู้สึกเพียงว่าเขาไร้เหตุผล หยิ่งยโส เย็นชา และ…และเขาไม่ใช่ท่านประธานาธิบดีคนที่ใครต่างพูดถึงกัน

 

 

กู้จิ้งหมิงเริ่มใส่เสื้อผ้าของตัวเองพลางจ้องขณะที่เธอกำลังแต่งตัวเช่นกัน

 

 

อวี๋หมินหมิ่นอดทนกับความเจ็บปวดและใส่เสื้อผ้าของเธอ หญิงสาวได้ยินกู้จิ้งหมิงพูด “นี่เป็นแค่อุบัติเหตุ หวังว่าเธอคงเข้าใจ”

 

 

“แน่นอนค่ะ ฉันเข้าใจ” อวี๋หมินหมิ่นตอบ “นี่เป็นอุบัติเหตุจริงๆ”

 

 

“ฉันหวังว่าจะไม่ได้ยินเรื่องซุบซิบจากข้างนอกนะ” เขาหรี่ตาไปยังอวี๋หมินหมิ่น

 

 

อวี๋หมินหมิ่นมองเขารู้สึกฉุนเฉียว “แน่นอนค่ะ! ฉันไม่บอกใครเรื่องนี้หรอก ถึงจะพูดไป คุณคิดว่าจะมีใครเชื่อฉันงั้นรึ”

 

 

ถ้าเธอไปเล่าให้ใครฟังว่าเมื่อวานเธอกินเหล้าเมาแล้วบังเอิญไปนอนกับท่านประธานาธิบดี คนคงคิดว่าเธอบ้า

 

 

ตอนที่เธอกำลังจะเปิดประตู กู้จิ้งหมิงบอกให้เธอรอก่อน

 

 

หลังจากนั้น เขาเรียกหัวหน้าเลขาที่อยู่ในอาการประหลาดใจจากด้านนอกและสั่งกับเธอว่า “ส่งเธอออกไปเงียบๆ”

 

 

ในตอนนั้นอวี๋หมินหมิ่นออกไปตามทางเดินลับสักแห่ง มีบอดี้การ์ดของประธานาธิบดีตามหลังเธอดูเป็นมืออาชีพมาก มีระเบียบเและสีหน้าไร้อารมณ์ พวกเขาถูกเลือกมาเป็นพิเศษให้เป็นหน้าตาของประเทศชาติ ดังนั้นชายหนุ่มพวกนี้ดูหน้าตาดีเสียด้วย

 

 

อวี๋หมินหมิ่นรู้สึกราวกับฝันไปที่หลับนอนกับกู้จิ้งหมิงโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

เขาเป็นใคร เขาคือประธานาธิบดีของประเทศซีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในประวัติศาสตร์: กู้จิ้งหมิง

 

 

และตอนนี้พวกที่ตามหลังเธอมาคือบอดี้การ์ดของประธานาธิบดีจริงๆ พอคิดดูแล้ว มันช่างน่าเหลือเชื่ออะไรอย่างนี้

 

 

นั่นเป็นครั้งแรกที่เธอได้มีโอกาสสัมผัสใกล้ชิดกับเหล่าบอดี้การ์ดของประธานาธิบดีและหัวหน้าเลขา เธอไม่เคยคิดเลยว่าอุบัติเหตุครั้งนั้นจะทำให้เกิดเรื่องในวันนี้

 

 

อวี๋หมินหมิ่นเงยหน้ามองกู้จิ้งหมิงและพูดว่า “ฉันขอโทษจากใจจริงเรื่องพ่อ ฉันจะจัดการให้เรียบร้อยที่บ้านและจะไม่ปล่อยให้มาวุ่นวายกับคุณอีกในอนาคต”

 

 

กู้จิ้งหมิงแค่เพียงมองเธอและพยักหน้าเบาๆ

 

 

อวี๋หมินหมิ่นว่า “เอาล่ะ ฉันไปก่อนนะคะ”

 

 

เขาพยักหน้าอีกครั้ง

 

 

อวี๋หมินหมิ่นพูดกับลินดาแล้วเดินออกไป

 

 

บอดี้การ์ดประธานาธิบดีไปกันหมดแล้วและได้ออกไปจากเกลซท์ ไทล์ พาเลซ ทางฝั่งนี้แทบจะว่างเปล่าอย่างสิ้นเชิง ถึงจะมีคนถ่ายรูปอยู่ห่างๆ แต่ไม่มีใครกล้าเข้ามาใกล้

 

 

อวี๋หมินหมิ่นกำลังจะก้าวลงบันไดเมื่อจู่ๆ เธอก็รู้สึกหัวหมุนแล้วทรุดตัวลงไปบนขั้นบันได

 

 

บอดี้การ์ดประธานาธิบดีสองสามคนเข้ามาล้อมรอบตัวเธอแล้ว

 

 

อยู่ดีๆ กู้จิ้งหมิงก็เข้ามาและอุ้มอวี๋หมินหมิ่นขึ้นทันที

 

 

หน้าของเธอซีดลงและมีหยดเหงื่อเกาะอยู่บนจมูก

 

 

ลินดามองกู้จิ้งหมิงด้วยความตกใจ “ท่านคะ มีคนมากมายกำลังมองอยู่นะคะ…เราจะทำยังไงกันต่อดีคะ”

 

 

“ไม่เป็นไร ส่งเธอไปโรงพยาบาลซะ”

 

 

กู้จิ้งหมิงเงยหน้าไปมองผู้เห็นเหตุการณ์ที่ใคร่รู้ด้านนอกและพูดอย่างใจเย็น

 

 

ลินดาคิดว่ามันคงไม่เป็นอะไร พวกเขาจะบอกว่า ท่านประธานาธิบดีพบคนบาดเจ็บและส่งเธอไปโรงพยาบาล เขาเพียงห่วงใยในผู้คน ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร

 

 

แต่กู้จิ้งเจ๋อทำตามอำเภอใจเกินไป พวกเขาไม่เคยตามความคิดของเขาทัน

 

 

เมื่ออวี๋หมินหมิ่นมาถึงโรงพยาบาล เธอเห็นหน้าของนางพยาบาลใกล้เข้า “คุณคะ ตื่นแล้วเหรอคะ”

 

 

“เอ่อ ค่ะ ฉันอยู่ที่ไหน…”

 

 

“คุณอยู่ที่โรงพยาบาลค่ะ ให้ตายเถอะ ท่านประธานาธิบดีเป็นคนมาส่งคุณด้วยตัวเองเลยนะคะ”

 

 

“อะไรนะ”

 

 

กู้จิ้งหมิงรึ

 

 

ทำไมเขาถึงใจดีนักล่ะ

 

 

“ใช่ ใช่ ฉันได้เห็นประธานาธิบดีตัวจริงเป็นครั้งแรกเลยนะคะ เขาทั้งหล่อ สง่างาม และสูงอีกด้วย เขาดูเหมือนกับเพิ่งเดินออกมาจากภาพวาดยังไงยังงั้นเลย”

 

 

ใช่สิ เขาทั้งสูงและหล่อเหลา แต่เขาก็ยังวิตถารนิดๆ หยิ่งยโส เย็นชา และไร้ความรู้สึก…

 

 

ก็แค่โฉนหน้าของคนหลอกลวง อวี๋หมินหมิ่นคิด

 

 

พยาบาลกำลังตื่นเต้นเป็นพิเศษ “คุณทำยังไงถึงเป็นลมและได้ท่านประธานาธิบดีมาส่ง คุณรู้จักท่านเหรอ”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นถอนลมหายใจออกมา “ไม่รู้จักหรอกค่ะ”

 

 

“อย่างนั้นเหรอคะ เป็นไปได้ยังไงกัน คนสามัญชนอย่างพวกเราไม่มีทางได้พบท่านประธานาธิบดีในวันธรรมดาทั่วไปแน่”

 

 

“มันเป็นแค่เหตุบังเอิญน่ะ”

 

 

“ว้าว แสดงว่าคุณต้องโชคดีมาก ท่านประธานาธิบดีสูงปานนั้น มันคงรู้สึกเยี่ยมมากตอนที่เขาอุ้มคุณแบบนั้น”

 

 

“ใช่ค่ะ ดีมาก คุณยังไม่ได้บอกฉันเลยว่าเกิดอะไรขึ้นกับฉัน” อวี๋หมินหมิ่นเตือนเธอพูดอะไรอย่างอื่นไม่ออก

 

 

“โอ้ ใช่ ระดับน้ำตาลในเลือดของคุณต่ำและใบหน้าของคุณบวม คุณถูกใครทำร้ายมาหรือเปล่าคะ”

 

 

“ไม่ใช่หรอกค่ะ…ในเมื่อไม่มีอะไรรุนแรง ฉันจะขอกลับก่อน”

 

 

“นี่ คุณ…” นางพยาบาลยังมีเรื่องที่อยากจะถามเธออีกแต่ก็เห็นว่าหญิงสาวออกไปแล้ว เธอรู้สึกว่าช่างน่าเสียดายจริงเชียว

 

 

อวี๋หมินหมิ่นกลับมาที่บ้านและแม่ของเธอรีบเข้ามาถาม “พ่อเป็นยังไงบ้าง”

 

 

อวี๋หมินหมิ่นตอบอย่างไม่อยากจะพูดถึง “เขาบุกเข้าไปที่เกลซท์ ไทล์ พาเลซ แม่คิดว่าจะเกิดอะไรขึ้นล่ะ”

 

 

“โอ้ ตายจริง เขา…เขาไม่ได้ถูกยิงใช่มั้ย”

 

 

“พ่อไม่ได้ถูกยิงแต่ตอนนี้ถูกขังตัวไว้ค่ะ”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด