This Star is a bit Salty – บทที่ 11 ใครเป็นคนแต่งเพลงคนนี้กัน?

อ่านนิยายจีนเรื่อง This Star is a bit Salty ตอนที่ 11 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

หลายวันต่อมา

 

หลี่หานเด็ดมะเขือเทศขึ้นมาชิมอีกครั้ง

 

ครั้งนี้เขารู้สึกอย่างได้อย่างชัดเจนว่ารสชาติของมันนั้นอร่อยและดีกว่าครั้งก่อนมาก

 

 

ซึ่งมันแน่นอนอยู่แล้วว่ามะเขือเทศเหล่านี้จะเป็นมะเขือเทศที่อร่อยที่สุดในโลกเพราะเขาใช้แก่นแท้พืชผลกับมัน

 

ตาของหลี่หานรู้สึกเปล่งประกายด้วย จิตวิญญาณแห่งการเพาะปลูก เขาอาจจะสามารถทำฟาร์มโดยมีถนนถงเทียนอยู่ข้างหน้าด้วยความสะดวกสบาย

 

เมื่อคิดถึงชีวิตที่สวยงามและสุขสบายแบบนี้ผู้คนมักจะชอบขวนขวายมองหามัน

 

ด้วยวิธีนี้…คุณก็สามารถมีความสุขกับชีวิตได้อย่างแท้จริง

 

อย่างไรก็ตาม แก้นแท้พืชผลมีอยู่แค่ขวดเดียว ซึ่งสามารถใช้ได้อย่างมากก็หนึ่งร้อยหยด

 

แต่ถ้าหากต้องการที่จะเปิดฟาร์ม แก่นแท้พืชผลหนึ่งร้อยหยดต้องไม่พออย่างแน่นอน

 

กว่าจะเริ่มทำฟาร์มได้คงต้องรอไปอีกนาน

 

อย่างน้อยก็ต้องรอให้ระบบเปิดใช้งานได้สำเร็จซะก่อน

 

หลี่หานได้คิดดูแล้ว เขาคิดว่าระบบยังไม่ได้เปิดใช้งานอย่างแท้จริง

 

ในขณะเดียวกันก็แทบจะมั่นใจได้ว่าระบบจะเปิดใช้งานได้แน่นอน

 

 

ยิ่งไปกว่านั้นเขายังคงต้องตั้งแผงขายผักต่อไปเท่านั้น

 

ไม่เช่นนั้นระบบคงไม่มอบแก่นแท้พืชผลกับระบบกระเป๋ามิติมาให้เขาแน่นอน

 

แน่นอนว่าไม่จำเป็นต้องกังวลเกี่ยวกับการเปิดฟาร์มเพราะต้องทำทีละขั้นตอน

 

ก่อนอื่นเลยก็ต้องบอกพ่อแม่เพื่อให้พวกเขาเข้าใจและรับรู้เรื่องต่าง ๆ

 

ซึ่งแน่นอนมันง่าย ๆ

 

สุดท้ายคือเรื่องเขียนเพลง เขาจะได้หาข้ออ้างเพื่อบอกพ่อแม่ว่าการอยู่ที่หมู่บ้านทำให้เขามีแรงบันดาลใจในการเขียนเพลงดี ๆ ได้

 

ด้วยการเขียนเพลงที่ทำให้เขาได้เงินมาหนึ่งแสนหยวน พ่อแม่ของเขาจะต้องเห็นด้วยอย่างแน่นอน

 

นอกจากนี้ ด้วยรสชาติของผลไม้ที่มันดีขึ้นเขาจะต้องพยายามหาวิธีทำให้พ่อแม่ไม่แปลกใจและไม่รู้เรื่องนี้มากเกินไป

 

ดังนั้น เรื่องของการทำฟาร์มจึงไม่มีอะไรให้น่ากังวลซักเท่าไหร่

 

แต่ถ้าหากเรื่องมันใหญ่เกินไป มันจะต้องถูกสงสัยแน่ ๆ

……

 

ส่วนในเรื่องของโฆษณาของภาพยนตร์เรื่อง “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อย ๆ โดยเรื่องของหลี่หานและเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ก็ยังคงถูกพูดถึงและมีคนถกเถียงมากมาย

 

แต่หลี่หานที่เป็นบุคคลที่ถูกพูดถึงกลับไม่เคยออกมาแก้ไขความข้องใจนี้เลยยิ่งทำให้ความสงสัยของผู้คนเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ

 

โดยทีมงานของ “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” นั้นได้ออกมาพูดซ้ำอีกครั้งว่าเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” นั้นเป็นฝีมือของหลี่หานเพียงคนเดียวโดยพวกเขานั้นไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องเลยแม้แต้น้อยและพวกเขาก็ไม่ได้ตั้งใจจะใช้ชื่อเขาเพียงคนเดียวเพื่อการโฆษณา

 

แต่ทว่า ด้วยการย้ำคำพูดของทีมงาน “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” นั้นกับยิ่งทำให้ดูน่าสงสัยขึ้นไปอีก

 

 

แต่ผลสุดท้ายก็คือมีคนรู้จักภาพยนตร์เรื่อง “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” กับเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” มากขึ้น ส่วนหลี่หานพวกเขาก็แค่รู้จักในฐานะคน ๆ หนึ่ง

 

สำหรับหนัง “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก”แล้ว มันเป็นสิ่งที่ดี

 

แต่สำหรับหลี่หานอาจจะไม่ใช่

 

เพราะหลี่หานถูกตราหน้าว่าเป็น “บุคคลที่ขายชื่อเสียง”

 

โดยชื่อเสียงที่มีนั้นไม่ใช่ชื่อเสียงในด้านที่ดีซักเท่าไหร่

 

และชื่อเสียงของเขาในด้านนี้ก็จะถูกลืมในไม่ช้า

 

 

เหยียนอี้ปินและเพื่อนร่วมชั้นที่อิจฉาและไม่มีความสุขกำลังรู้สึกดีกับความโชคร้ายของเขาแต่ในขณะเดียวกันซู่หยูชิงรู้สึกเสียใจและเธอต้องการที่จะลบล้างเรื่องนี้บนอินเทอร์เน็ต

 

แต่อย่างไรก็ตามตัวต้นเหตุอย่างหลี่หานกับไม่สนใจเรื่องนี้เธอจึงทำได้แค่โกรธอยู่ภายในใจ

……

 

หลายวันต่อมาภาพยนตร์ “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” ก็ได้ถูกปล่อยออกมาอย่างเป็นทางการ

 

ผู้คนนับไม่ถ้วนกำลังเดินเข้าโรงหนัง

 

โดยผู้คนที่ต้องการที่จะฟังเพลง “จิ้งจอกขาวกับบัณฑิต” ก็จะได้ฟังเพลงอย่างสมใจหวังซักที

 

 

สำหรับพวกเขา ไม่ว่าหลี่หานจะเป็นคนแต่งเพลงหรือไม่ แต่เพลงนี้มันก็ดีมาก

 

สำหรับหลายคนในที่นี้ ด้วยเพลงดี ๆ แบบนี้ พวกเขาไม่สนว่าใครจเป็นคนแต่งขึ้นมาเลย

 

อย่างไรก็ตาม ยังมีคนอีกหลายคนที่เลือกที่จะไม่ฟังเพราะสงสัยในตัวของผู้แต่ง

 

ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นเรื่องปกติ

 

โดย “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” บอกเล่าเรื่องราวของความรักที่เจ็บปวด

 

หนึ่งคื่อจิ้งจอกขาวที่กลายร่างเป็นมนุษย์หลังฝึกฝนมาเป็นหมื่นปีและอีกหนึ่งเป็นบัณฑิตที่น่าสงสารผู้มอบชีวิตให้กับการศึกษา

 

ทั้งสองคนตกหลุมรักกัน

 

จิ้งจอกขาวเต้นรำและคลุกคลีอยู่กับบัณฑิตที่เรียนอย่างหนักมาเป็นเวลาสิบปี

 

และในที่สุดบัณฑิตก็ได้ติดชื่อสีทองกวงจงเย่าจู่

 

ในค่ำคืนที่ผู้หญิงที่อยู่ในเรือนหอไม่ใช่จิ้งจอกขาว แต่เป็นเจ้าหญิง

 

ค่ำคืนที่หิมะตกหนัก

 

ภายใต้ต้นพีชที่อยู่ไม่ไกลจากเรือนหอ สุนัขจิ้งจอกตัวขาวราวกับหิมะสวยงามกำลังเต้นรำไปพร้อมดนตรีดุจดั่งนางฟ้า

 

แต่อย่างไรก็ตาม

 

เพลงได้จบลงและจิ้งจอกขาวก็ได้หายตัวไปในความว่างเปล่า

 

คืนนั้นบัณฑิตได้ฝันบางอย่าง

 

 

แต่หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมา บัณฑิตก็น้ำตาไหลและเสียใจอย่างมาก

 

ความตั้งใจของเขาไม่ใช่การแต่งงานกับเจ้าหญิง

 

หลังจากที่บัณฑิตได้ติดชื่อทองแล้ว เจ้าหญิงก็ต้องการให้เขามาเป็นคนของเจ้าหญิง

 

โดยบัณฑิตก็ได้แต่พูดปัดไปว่าเขามีภรรยาที่ดีคอยเขาอยู่ที่บ้านอยู่แล้ว

 

เจ้าหญิงจึงบอกให้ครูของนางทำอะไรซักอย่าง และเจ้าหญิงยังได้รู้ว่าภรรยาที่บัณฑิตกล่าวอ้างมาก็คือจิ้งจอกขาวเจ้าหญิงจึงขอให้ครูของนางลบบิดเบือนความทรงจำของบัณฑิตทำให้หันมารักนางได้หรือไม่

 

เพื่อเหตุนั้นเจ้าหญิงจึงต้องแกล้งป่วยหนักและต้องการยาเพื่อที่จะมาช่วยเธอ

 

คืนก่อนที่จะเข้าเรือนหอ บัณฑิตได้เรียกจิ้งจอกขาวออกมา

 

เมื่อจิ้งจอกขาวมาถึง นางก็คิดว่าจะได้อยู่กับบัณฑิตที่เรือนหอและเติบโตไปด้วยกัน

 

แต่อย่างไรก็ตามสิ่งที่เธอได้พบกับเป็นบัณฑิตอี๋เจี้ยนที่แทงหัวใจของเธอ

 

ไม่เป็นไรถึงแม้ว่าคุณจะฆ่าฉันด้วยน้ำมือของคุณเองอย่าง น้อยก็ให้ฉันได้เต้นรำเป็นครั้งสุดท้ายสำหรับคุณ

 

 

หลังจากการเต้นรำครั้งนี้จบลง ฉันก็จะสลายหายไประหว่างสวรรค์และโลก

 

หลังจากที่ตื่นขึ้นมาจากฝัน บัณฑิตก็ได้ความทรงจำเดิมของเขากลับมา

 

เธออยู่กับฉันมาสิบปีและยังจะเติบโตไปพร้อมกันแต่ทว่าฉันกับฆ่าเธอด้วยน้ำมือของฉันก่อนที่ฉันจะไปร่วมรักกับผู้หญิงอื่นที่เรือนหอ

 

หัวใจของฉันแทบฉีกขาดออกมา!

 

ความจริงคือ

 

 

“ เมื่อจารึกรายชื่อทองคำ ชื่อเสียงและโชคลาภก็รุ่งโรจน์

 

 

หลังจากเรือนหอ หยินและหยางจะถูกแยกออกจากกันด้วยคนและผีด้วยเส้นทางที่แตกต่าง

 

ตอนที่ฉันรักคุณ คุณคือจิ้งจอกหมื่นปี

 

ตอนที่ฉันเสียคุณ คุณได้หายไป

 

คุณเต้นรำให้ฉันอีกครั้งได้ไหม

 

 

คุณคือจิ้งจอกขาวที่ผมปลดปล่อยเมื่อหนึ่งหมื่นปีก่อน

 

……”

 

โรงหนังเงียบมากโดยมีเพียงเสียงร้องเพลงก้องอยู่ในทุกมุมของโรงละคร

 

พอรู้เรื่องทั้งหมดแล้วให้ลองฟังเพลงอีกครั้ง

 

ก็จะพบว่าเพลงนี้นั้นทำให้ผู้คนที่ได้ฟังอีกครั้งรู้สึกได้ถึงอารมณ์เศร้าได้อย่างง่ายดาย

 

เพลงนี้ผสมผสานเข้ากับเนื้อหาของเรื่องได้อย่างลงตัว

 

นี่มันเป็นเพลงของจิ้งจอกขาวและบัณฑิตในเรื่องชัด ๆ

 

โดยมีจิ้งจอกขาวกับบัณฑิตร้องด้วยกัน

 

แต่แทนที่ด้วย เฉินยู่รุ่ย เซี่ยฮุย ที่เป็นนักร้อง

 

แม้ว่าเพลงนี้จะไม่ได้เป็นเพลงที่เพอร์เฟค แต่ว่าสำหรับหนัง “ความทุกข์ของภูติจิ้งจอก” มันช่างลงตัวกันอย่างน่าเหลือเชื่อ

 

และจะไม่มีเพลงไหนเพอร์เฟคไปกว่าเพลงนี้อีกแล้ว

 

เพลงนี้มันเกิดมาเพื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ชัด ๆ

 

เพราะงั้น…

 

ทุกคนในโรงหนังก็ได้ค้นพบว่าคนที่แต่งเพลงนี้มีความสามารถมากกว่าที่ทุกคนคิด!

 

เขาช่างเป็นอัจฉริยะอย่างแท้จริง

 

ไม่มีอะไรให้น่าสงสัยอีกแล้ว

 

คนที่สร้างเพลงนี้ขึ้นมา…

 

เขาเป็นใครกันแน่นะ?

……

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด