หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร – ตอนที่ 38

อ่านนิยายจีนเรื่อง หลอมศาสตราสะท้านยุทธจักร ตอนที่ 38 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.

ตอนที่ 38

 

ผลตรวจ

 

ตุบ…..

 

ร่างของชายชราในชุดสีเทาเดินลงมาจากรถม้าด้วยท่าทีสง่า ผ่าเผยพร้อมเด็กชายคนหนึ่งที่กําลังแบกกล่องยาเดินตามชายคนนั้นเข้ามาในเรือนแยกของบ้านตระกูลหง

 

แน่นอนว่าตระกูลหงไม่ได้แสดงท่าทีไม่ให้เกียรติท่านหมอเทวดาด้วยการให้ท่านเข้ามารักษาในบ้านหลังรองของตัวบ้านแต่อย่างไร เพียงแต่บ้านตระกูลหงนั้นร้อนเกินไปพวกเขาเลยต้องให้ท่านหมอมารักษาที่เรือนด้านนอกภูเขาไฟแทน ซึ่งภายในห้องของบ้านตระกูลหงยามนี้นั้นก็มีหยางอี้เฟยและครอบครัวรวมถึงตัวหนิงหลงเองมารออยู่แล้วเพื่อให้อี้เฟยได้รับการรักษา

 

“งั้นก็ เริ่มกันเลยเถอะ” หลังจากทักทายกันพอเป็นพิธี หมอเทวดาก็สั่งให้ศิษย์ของตนนํากล่องอุปกรณ์มาวางไว้ข้างๆก่อนจะเรียกให้อี้เฟยเข้าไปตรวจทันทีเพราะตัวหมอเทวดาเองก็มีที่ที่ต้องไปหลายแห่งทีเดียว

 

“รบกวนด้วยขอรับท่านหมอ” หงือห่าวพาหลานสาวอย่างหยางอี้เฟยเข้ามานั่งที่เก้าอี้เบื้องหน้าท่านหมอก่อนจะฝากหลานสาวให้กับท่านหมอด้วยท่าที่คาดหวัง การเชิญแพทย์ที่เก่งกาจจนได้รับฉายาหมอเทวดามายังตระกูลของตนนั้นไม่ใช่เรื่องง่ายๆ หงซื้อห่าวต้องใช้อํานาจของตระกูลหงเพื่อขอร้อง

 

ท่านให้มาช่วยดูอาการของอี้เฟยเลยทีเดียว เพราะอย่างนั้นเขาเลยคาดหวังไม่น้อยที่จะได้ทราบเสียที่ว่าอาการของหลานสาวเกิดมาจากอะไร

 

“แปลกแปลกจริงๆ” ทันทีที่เริ่มตรวจ หมอเทวดาก็ขมวดคิ้วก่อนจะรําพึงคําว่า แปลกจริงๆ ออกมาไม่หยุดยิ่งตรวจนานเท่าไหร่ใบหน้าของหมอเทวดาก็ยิ่งเจือความประหลาดใจมากขึ้นเท่านั้น

 

“ท่านหมอเป็นอย่างไรบ้างขอรับ” หยางเยี่ยนเหว่ยถามพลางมองท่าทีของท่านหมออย่างกังวล อาการของอี้เฟยหาสาเหตุไม่ได้มาตลอดเพราะพวกตนหาทางรักษาผิดทางวันนี้เลือกที่จะตรวจสอบเส้นชีพจรวิญญาณของนางเพื่อลองดูว่าจะมังผิดปกติอะไรหรือไม่ แต่ทันทีที่หมอเทวดาเริ่มตรวจสอบก็มี ท่าที่ผิดปกติทันทีเช่นนั้นแล้วอาการของนางเกิดจากภายในเส้นชีพจรใช่หรือไม่

 

“มันแปลกมาก…ทําไมบุตรสาวของเจ้ายังมีชีวิตอยู่ได้กันนะ” หมอเทวดาถามออกมาด้วยท่าที่ไม่เข้าใจ แต่คําพูดของท่านกลับทําให้หยางเยี่ยนเหว่ยตกใจอย่างมาก ที่ท่านพูดมานั่นหมายความว่าอย่างไร

 

“อาการของบุตรสาวเจ้าเกิดจากเส้นชีพจรวิญญาณพิการที่นางควบคุมพลังไม่ได้เป็นเพราะทันทีที่เดินพลังผ่านเส้นชีพจรจุดหนึ่งที่มีอาการตีบตัน พลังของนางจะกระจุกอยู่ตรงนั้นแล้วระเบิดออกมา….” หมอเทวดาที่คุ้นเคยกับการตรวจสอบเส้นชีพจรวิญญาณตอบออกมาอย่างฉะฉาน แต่ใบหน้าของเขากลับยังมีความงุนงงปรากฏอยู่

 

“แล้วมีทางรักษาหรือไม่ขอรับ” หยางเยี่ยนเหว่ยถามด้วยท่าที่ตื่นเต้น ไม่นึกเลยว่าแค่ตรวจก็ทราบสาเหตุแล้วสมกับเป็นท่านหมอเทวดาจริงๆ

 

“ไม่มี ปกติแล้วคนที่มีอาการเช่นนี้ต่างก็ตายทันทีที่พลังระเบิดออกมา แต่บุตรสาวเจ้ากลับยังรักษาชีวิตเอาไว้ได้ เรื่องนั้นทําข้าประหลาดใจมากทีเดียว”ได้ยินที่หมอเทวดาคนภายในห้องก็มีสีหน้าตกตะลึงทันที ตอนแรกพวกเขาเข้าใจว่าอาการของอี้เฟยเป็นเพียงอาการผิดปกติเท่านั้น ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่าอาการของนางจะรุนแรงถึงชีวิตได้ หากฟังจากที่ท่านหมอตอบกลับมา หยางอี้เฟยควรจะตายไปนานมากแล้ว ด้วยซ้ําแต่เพราะมีอะไรบางอย่างช่วยนางเอาไว้ก็เลยยังรอดชีวิตอยู่ได้งั้นหรือ

 

“หรือว่าจะเป็นเพราะเพลิงศักดิ์สิทธิ์” หงซื้อห่าวครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็มองไปทางหลานสาวเหมือนคิดอะไรออก เพลิงศักดิ์สิทธิ์เป็นเพลิงในตํานานที่หาได้ยากยิ่ง มีเรื่องเล่าเกี่ยวกับเพลิงชนิดนี้มากมายจนไม่ทราบเสียแล้วว่าเรื่องไหนเป็นเรื่องจริงเรื่องไหนเป็นเพียงเรื่องแต่ง แต่ในเรื่องราวเหล่านั้นก็มีเรื่องหนึ่งถูกเล่าต่อกันมา นั่นคือผู้ครอบครองเพลิงศักดิ์สิทธิ์นั้นสามารถรักษาบาดแผลได้อย่างรวดเร็ว ว่ากันว่าแม้แต่แขนขาขาดผู้ครองเพลิงศักดิ์สิทธิ์ก็ยังสามารถงอกกลับมาได้

 

แล้ว…หากเป็นการซ่อมแซมเส้นชีพจรวิญญาณที่แตกสลายเพราะพลังระเบิดออกมาเล่า เช่นนั้นไม่เท่ากับว่าที่อี้เฟยยังรอดมาได้อยู่จนถึงตอนนี้เพราะทันทีที่เส้นชีพจรของนางระเบิดเพลิงศักดิ์สิทธิ์ของนางก็เริ่มรักษาบาดแผลทันทีเช่นนั้น แล้วที่นางรอดมาได้ถึงทุกวันนี้หากไม่นับเป็นปาฏิหาริย์แล้วจะนับเป็นสิ่งใดอีก

 

“เรื่องบุตรสาวของข้ารอดมาได้อย่างไรเอาไว้ก่อนเถอะเจ้าค่ะ ในสภาพเช่นนี้ท่านพ่อจะมีทางรักษาหรือไม่” หยางเซียง เซียนถามพลางมองไปทางหมอเทวดาอย่างคาดหวังเรื่องที่อี้ เฟยรอดมาได้อย่างไรนั้นนางไม่สนใจเสียเท่าไหร่ ตอนนี้นางสนแต่เพียงว่าสามารถรักษาได้หรือไม่เท่านั้น

 

“ตอบยาก อาการของบุตรสาวเจ้าไม่ใช่สิ่งที่ได้พบเจอกันง่ายๆ ปกติแล้วเด็กที่มีอาการเส้นชีพจรพิการเช่นนี้หากไม่ตายตั้งแต่ยังเด็กก็เสียพลังวิญญาณของตนไป กว่าจะทราบสาเหตุก็หมดหนทางรักษาไปนานแล้ว พวกเราก็เลยไม่เคยศึกษากรณีนี้มาก่อน” หมอเทวดาตอบด้วยท่าที่ลําบากใจ กรณีปาฏิหาริย์เช่นนี้ไม่ใช่ข้อดีเลย เพราะไม่เคยมีใครลองรักษามาก่อนเลยไม่มีใครทราบว่าต้องรักษาอย่างไรกันแน่ แต่หมอเทวดา เองก็ไม่ได้มีฉายาเอามาตั้งไว้เล่นๆ แม้จะไม่เคยมีใครรักษา อาการเช่นนี้แต่หมอเทวดาก็ยังพยายามครุ่นคิดเรื่องที่เคยได้ยินหรือเคยรักษามาด้วยมือตนเองออกมาเพื่อจะช่วยในการรักษาอี้เฟยได้

 

“งั้น ถ้ารักษาเส้นชีพจรวิญญาณของน้องอี้เฟยได้ อาการควบคุมพลังไม่ได้จะหายไปหรือเปล่าเจ้าคะ” เหลียนฟางถามด้วยท่าทีสงสัย ก็ในเมื่อเส้นชีพจรวิญญาณของอี้เฟยมันไม่ปกติเช่นนั้นก็รักษาให้มันกลับมาเป็นปกติก็พอไม่ใช่หรือ 

 

“ก็เป็นไปได้ หากรักษาอาการเส้นชีพจรตีบตันของนางได้เรื่องที่นางควบคุมพลังไม่ได้ก็คงหายไปด้วย” หมอเทวดาพยักหน้าช้าๆอย่างเห็นด้วย

 

“แต่…การรักษาเส้นชีพจรวิญญาณที่ตีบตันมาตั้งแต่เกิดข้าเองก็ทําไม่ได้” หมอเทวดาส่ายหน้าช้าๆก่อนจะมองไปทางอี้เฟยด้วยท่าที่เห็นใจ แต่อี้เฟยก็นับว่าโชคดีที่มีเพลิงศักดิ์สิทธิ์เพราะหากไม่มีนางอาจจะตายไปตั้งนานแล้วก็ได้ 

 

“แม้แต่ท่านก็ทําไม่ได้หรือขอรับ” หยางเยี่ยนเหว่ยแทบไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง แม้แต่หมอเทวดายังช่วยไม่ได้ แล้วใครจะช่วยได้อีกเล่า ก็จริงที่บุตรสาวตนโชคดีที่ไม่ตาย แต่นางก็ไม่ควรเจอโชคชะตาเช่นนี้ไม่ใช่หรือ…นางควรจะได้เป็นเด็กปกติที่ไม่ต้องหวาดกลัวพลังของตนเองเสียด้วยซ้ํา ทําไมสวรรค์ถึงต้องทําเช่นนี้กับบุตรสาวตนด้วย

 

“ที่ข้าพอนึกออกก็คงมีเพียงที่เดียวเท่านั้นที่รักษาอาการของบุตรสาวเจ้าได้” หมอเทวดาถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปทางหยางเยี่ยนเหว่ยด้วยท่าที่จริงจัง เขารักษาไม่ได้ก็ไม่ได้หมายความว่าไม่มีผู้ใดรักษาได้เสียหน่อย แต่เพราะหยางเยี่ยนเหว่ยเป็นหัวหน้าสํานักเพลิงบัญญัติและหงซื้อห่าวเป็นหัวหน้าตระกูลหงหรอกนะไม่อย่างนั้นเขาไม่มีทางแนะนําวิธีนี้ แน่ๆเพราะหากเป็นคนอื่นต่อให้ทราบวิธีก็ได้แต่ฝันเท่านั้น

 

“ที่ไหนหรือขอรับท่านหมอ” หงซื้อห่าวและคนอื่นต่างๆแสดงท่าที่สนใจออกมาทันทีเมื่อได้ยินเช่นนั้น หรือว่าจะมีคนที่สามารถรักษาอี้เฟยได้อยู่

 

“ตระกูลหลิน” คําตอบที่ออกมาจากปากของหมอเทวดาทําเอาใบหน้าของหงซื้อห่าวซีดเผือดไปทันที แค่ได้ฟังก็ทราบแล้วว่าหมอเทวดาหมายถึงอะไร ตระกูลหลินแห่งอาณาจักรมังกรครามมีวิชาลับที่ช่วยขยายเส้นชีพจรวิญญาณได้ หากใช้วิชาดังกล่าวอาการของอี้เฟยน่าจะดีขึ้น แต่วิชานั่นเป็นวิชาที่ครอบครองกันเพียงในราชวงศ์มังกรครามและในตระกูลหลินเท่านั้น ไม่มีทางปล่อยให้คนต่างอาณาจักรได้รับผลประโยชน์หรอก

 

“เป็นไปไม่ได้หรอก ไม่มีทางเลย” หงซื้อห่าวได้ยินเช่นนั้นก็ส่ายหน้าออกมาทันที ก็เหมือนกับห้องผนึกอสูรนั่นล่ะ วิชาของตระกูลหลินเป็นขุมพลังอํานาจของราชวงศ์มังกรคราม ไม่มีทางที่พวกเขาจะยอมให้เด็กจากต่างอาณาจักรใช้เคล็ดวิชา

 

นั้นแน่ๆ

 

“แต่ถ้าไม่ลองดูพวกเราก็ได้แต่ปล่อยให้อาการของอี้เฟยเป็นแบบนี้ต่อไปงั้นเหรอ” เซียงเซียนถามพลางเดินเข้าไปหาบุตรสาว ตอนนี้อี้เฟยมีเสื้อคลุมของหนิงหลงช่วยให้สามารถควบคุมพลังได้ บางทีก็อาจจะแค่ลําบากในการใช้ชีวิตสักหน่อยเท่านั้น แม้จะสิ้นหวังไปบ้างแต่อย่างน้อยนางก็ไม่อาการหนักถึงกับตายนี่นา

 

“เรื่องนั้น…” หมอเทวดาถอนหายใจออกมาก่อนจะมองไปทางหยางเซียงเซียนครู่หนึ่ง แต่เรื่องที่จะพูดออกไปหมอเทวดาก็ไม่กล้าพูดต่อหน้าอี้เฟยเสียด้วยเลยได้แต่ส่งสัญญาณให้เซียงเซียนพาหยางอี้เฟยออกไปก่อนเท่านั้น

 

“ท่านว่าอะไรนะ” ทันทีที่เซียงเซียนพาอี้เฟยออกไปข้างนอกหมอเทวดาก็บอกเรื่องที่ตนกังวลให้บิดาและท่านตาของอี้เฟย

ได้ฟัง

 

“ข้าก็แค่…กังวลเท่านั้น ในอนาคตพลังของบุตรสาวของท่านที่ต้องเพิ่มขึ้น เมื่อใช้พลังการระเบิดก็จะรุนแรงขึ้นด้วย ก็แค่อาจจะมีสักวันที่พลังของเพลิงศักดิ์สิทธิ์อาจจะรักษาไม่ไหวเท่านั้นเอง” หมอเทวดาบอกเรื่องที่ตนคิดออกไปด้วยท่าทีกังวลเพลิงศักดิ์สิทธิ์รักษาบาดแผลได้อย่างน่าเหลือเชื่อก็จริงแต่ก็มีขอบเขตของมัน ไม่มียาตัวไหนที่สามารถรักษาได้ทุกสิ่งได้ตลอดหรอกเพราะฉะนั้นหมอเทวดาเลยได้แต่บอกให้พวกหยางเยี่ยนเหว่ยและหงซื้อห่าวได้ทราบเอาไว้

 

“ข้าข้าจะติดต่อองค์จักรพรรดิ” หยางเยี่ยนเหว่ยว่าพลางนํากระดาษออกมาเขียนจดหมายอย่างรีบร้อนหากจะขอให้ตระกูลหลินช่วย ก็มีทางเดียวคือต้องขอร้องไปยังราชวงศ์มังกรครามเท่านั้น เช่นนั้นแล้วผู้ติดต่อที่ดีที่สุดจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากองค์จักรพรรดิของอาณาจักรผลาญสุริยันนั่นเอง 

 

“…………..”ฝ่ายหงซื้อห่าวเห็นลูกเขยเตรียมจดหมายก็ไม่ได้ห้ามอะไร อี้เฟยก็เหมือนกับเป็นหลานสาวขององค์จักรพรรดิ บิดาเป็นสหายสนิทที่เคยร่วมเดิ นทางด้วยกันกับองค์จักรพรรดิสมัยเป็นองค์ชาย มารดาเป็นบุตรสาวของตระกูลหงที่สนิทชิดเชื้อกับราชวงศ์มาอย่างยาวนานหลายชั่วอายุคน และเหนือสิ่งอื่นใด เพลิงศักดิ์สิทธิ์ของอี้ เฟยเป็นลักษณะพิเศษที่หาได้ยากยิ่งต่อให้เป็นบุตรหลานของ ชาวนายากจน หากมีคุณสมบัติของเพลิงชนิดนี้ก็มีคุณค่าพอที่จะรักษาเอาไว้หากบอกเรื่องนี้ไปองค์จักรพรรดิไม่มีทางปล่อยให้อี้เฟยเป็นอะไรไปแน่ๆ อย่างน้อยท่านก็ต้องทําการติดต่อราชวงศ์มังกรครามไปด้วยฐานะอาณาจักรในพันธมิตร ที่เหลือ

 

ก็…..

 

“ได้แต่หวังว่าราชวงศ์มังกรครามกับตระกูลหลินจะยอมสินะ” หงซื้อห่าวกําหมัดแน่นได้แต่คาดหวังกับผลที่จะตามมาเท่านั้น ตัวเขาไม่สนเรื่องเพลิงศักดิ์สิทธิ์แม้แต่น้อย ขอเพียงหลานสาวหายดีจะให้ทําอย่างไรก็ได้

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด