ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 8

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 8 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
พบเจอ

“สุดท้ายก็เหมือนเดิมอยู่ดี” ในอดีตตอนที่เซียวหนานจิ้นกับหลานซูเมิ่งเจอกันที่นี่ ก็ยอมรับว่าทั้งคู่เป็นคนรักกัน เขาในตอนนั้นเหมือนถูกหักอก

แม้จะไม่แสดงท่าทางอะไรออกมามากนัก แต่สีหน้าท่าทางของเขา มันทำให้คนเห็นแก่ตัว บ้าความสมบูรณ์แบบอย่าง เซียวหนานจิ้น เก็บความไม่พอใจเอาไว้

เซียวหนานจิ้นไม่โง่ที่จะรีบลงมืออย่างปุบปับ แต่เขารอเวลาเพื่อไม่ให้มีคนสงสัย จนเวลาผ่านไป 10 วัน ก็มีคนชุดดำจำนวนมาก เข้ามาทำลายร้านอาหารของครอบครัวเขาจนย่อยยับ

นั้นเป็นเพียงจุดเริ่มต้นของการก่อกวนที่ไม่จบไม่สิ้น พวกคนชุดดำจะเข้ามาก่อกวน ครอบครัวของเขาทุกครั้งที่มีโอกาศ จนสุดท้ายครอบครัวของเขาเสียชีวิตทีละคน จนเหลือเพียงเขาคนเดียว

ในภายหลังเขาตามสืบ จนรู้ว่าผู้บงการกลุ่มชายชุดดำ ก็คือเซียวหนานจิ้น เขาได้แต่ทำใจเก็บความแค้นไว้ในใจ และฝึกบ่มเพาะพลังอย่างบ้าคลั่ง จนสุดท้ายเขาก็สามารถลอบทำร้ายอีกฝ่ายสำเร็จ และเค้นความจริงได้ในที่สุด

เหตุผลที่อีกฝ่ายทำลายครอบครัวของเขา มันช่างงี้เง่าสิ้นดี เหตุผลเพราะว่าเขาเป็นเพื่อนกับหลานซูเมิ่งเพียงแค่นั้น เจ้าคนเสแสร้ง ถึงกับต้องทำให้ครอบครัวของเขาพังพินาศ

แต่ในตอนที่เขากำลังจะฆ่าเซียวหนานจิ้น หลานซูเมิ่งก็มาถึงและขอให้เขาไว้ชีวิตเซียวหนานจิ้น มันน่าขำที่เขาในตอนนั้นโง่เง่า เพราะยังมีความรักให้อีกฝ่าย จนยอมปล่อยศัตรูที่ฆ่าครอบครัวของเขาเอง

ช่างโง่เขลาบัดซบสิ้นดี!

และมันเป็นอย่างที่เขาคาดการณ์เอาไว้ อีกฝ่ายไม่ย่อมปล่อยให้เขาได้มีความสุข มันได้เริ่มทำร้ายครอบครัวคนรู้จักของเขา ทีละคน เริ่มจากครอบครัวพี่ใหญ่ พี่รอง พี่สาม… โดยที่เขาไม่สามารถช่วยอะไรได้เลย

สุดท้ายก็ถึงคราวตระกูลหลานของหลานซูเมิ่ง ก็ถูกตระกูลเซียวยึดครอง โดยผู้ที่ทำให้ตระกูลล้มลงก็คือ หลายซูเมิ่ง

เธอไร้เดียงสาอ่อนต่อโลกจนเกินไป เธอคิดว่าคนอื่นจะใจดีซื้อสัตย์เหมือนตัวเธอ ยิ่งเป็นเซียวหนานจิ้นที่แสดงตัวเป็นคนดี เธอก็เชื่อหมดใจ สุดท้ายเธอก็ต้องจบชีวิต ฆ่าตัวตายในห้องนอนของเธอเอง…

แม้ภายหลังเขาจะแก้แค้นทำลายตระกูลเซียวได้สำเร็จ แต่จิตใจของเขาด้านชาไร้ความสุข แม้เวลาจะผ่านไปกี่สิบปี เขาก็ไม่สามารถลบเลือนความทุกข์ใจไปได้ ทำให้ในตอนที่ได้รับข่าวว่าพวกสมาพันธ์คุณธรรม รู้ความลับของเคล็ดบ่มเพาะพลังเปลี่ยนสวรรค์ และกำลังจะทำลายสำนักของเขา

เขาก็ย่อมรับที่จะตายแต่โดยดี ไม่คิดจะขัดขืนอะไร แต่เมื่อรู้ว่าครอบครัวพี่สาม ถูกจับไป เขาก็เลือกที่จะมอบวิชาเปลี่ยนสวรรค์ไป แต่พี่ใหญ่และพี่สองต่างก็รู้ว่า ถึงจะมอบเคล็ดวิชาไปแล้ว อีกฝ่ายก็คงไม่ยอมปล่อยครอบครัวพี่สามอยู่ดี

จนสุดท้ายพวกเขาก็ได้คิดวิธีพลีชีพสิ้นคิดขึ้นมา…

เดินมาเกือบ 10 นาที จิวโมไป๋ก็เดินมาถึงหอพักนักศึกษา เขาไม่สนใจผู้คนที่ชี้มือมาทางเขา

เขาเดินเข้าหอพักและเข้าห้องของเขาอย่างรวดเร็ว

ห้องพัก 207

ปึงง

ได้ยินเสียงปิดประตูดังขึ้นเรียกสายตาของชายหนุ่มสามคนในห้องหันมามอง จิวโมไป๋ที่พึ่งเข้ามาเป็นตาเดียว

“น้องเล็กในที่สุดนายก็โผล่หัวกลับมาได้แล้ว”

เมื่อเห็นใบหน้าของพี่น้องทั้งสาม ใบหน้าที่เย็นชาก็กลายเป็นอ่อนโยน ความรู้สึกอบอุ่นไหลทะลักอย่างไม่อาจห้ามปราม

“ฉันกลับมาแล้ว”

จิวโมไป๋และพี่น้องทั้งสามเดินออกจากหอพัก มาถึงร้านอาหารขนาดกลางแห่งหนึ่ง เป็นร้านอาหารสูง 3 ชั้น ภายในร้านสะอาดเรียบร้อย ทำให้ร้านอาหารน่าเข้าไปรับประทาน

ตอนนี้เป็นเวลาเทียงวัน จึงมีผู้คนเดินเข้าออกไม่ขาดสาย บ่งบอกได้เลยว่าเป็นร้านอาหารที่ได้รับความนิยมอย่างมาก

ร้านอาหารครอบครัวจิว

“ฉันไม่ได้มากินที่นี่ตั้งหลายวันแล้ว”ชายหนุ่มผู้เต็มไปด้วยมัดกล้าม ใบหน้าคมเข้มสมชายชาตรีพูดขึ้น ขณะที่เขาเดินนำเข้าไปในร้าน

“น้องเล็กวันนี้นายจะลงมือทำอาหารให้พวกเรารึป่าว”ชายหนุ่มร่างอ้วนกลม ร้องถามขึ้นอย่างกระตือรือล้น เขามีใบอวบ ผิวหน้าขาวเรียบเนียนเต่งตึง แก้มสองข้างมีเลือดฝาดเล็กน้อย ทำให้เขาดูน่ารักน่าเอ็นดู

“วันนี้ เดี๋ยวฉันทำอาหารโปรดที่พวกนายชอบ รอกินกันได้เลย”จิวโมไป๋พยักหน้ารับ

“ดี ดี มื้อนี้ของพวกเรา ฝากน้องเล็กจัดการด้วย อาหารที่อื่นไม่อร่อยเท่าที่นายทำจริงๆ”ชายหนุ่มผู้มีใบหน้าเจ้าเล่ห์ลูบท้องตัวเองเบาๆ

ทั้งสี่เดินขึ้นไปชั้นสาม ระหว่างทางก็มีพนักงานร้านร้องทักทายไม่ขาด จิวโมไป๋ยิ้มรับอย่างสุภาพ พวกเขาเลือกห้องหนึ่งที่ยังว่าง เขาก็แยกตัวออกมา เดินไปด้านหลังซึ่งเป็นห้องครัวขนาดใหญ่ ด้านในมีพ่อครัวกำลังทำอาหารอย่างขมักเขม่น ไม่สนใจใคร

“นายน้อยเข้าครัวเองเลยนะครับ”ระหว่างที่กำลังเดินไปหยิบผ้ากันเปื้อนสีขาวมาใส่ ก็มีเสียงร้องทักขึ้น จิวโมไป๋หันกับไปมอง เป็นชายวัยกลางคนใบหน้าประดับด้วยยิ้มเป็นกันเอง ยืนอยู่

“สวัดดีครับลุงหาน”จิวโมไป๋ร้องทักทายอย่างสุภาพ อีกฝ่ายเป็นหัวหน้าเชพของร้าน เขาทำงานที่นี่มาตั้งแต่ตอนที่พ่อของเขาก่อตั้งร้านนี้ขึ้นมา

วันที่ร้านถูกก่อกวน ลุงหานเป็นหนึ่งในคนไม่กี่คนที่ยืนหยัดต่อสู้พร้อมกับครอบครัวของเขา จนกระทั้งเขาถูกทำร้ายจนพิการ ทำให้เขาเคารพอีกฝ่ายอย่างมาก

“วันนี้ผมมากับเพื่อน ผมเลยต้องแสดงฝีมือให้พวกเขาได้ทานซักหน่อย”

“ฮ่าๆ น่าเสียดายที่นายน้อยมากับเพื่อน ไม่อย่างนั้น ผมคงต้องขอให้นายน้อย ช่วยทำอาหารให้แขกคนสำคัญที่มาวันนี้”ลุงหานพูดอย่างไม่ใส่ใจนัก

“แขกคนสำคัญ?”จิวโมไป๋เอ่ยขึ้นอย่างแปลกใจ เพราะว่าร้านของเขา แม้จะแบ่งราคา 3 ระดับ 3 ชั้น ก็จริงแต่ก็ไม่เลือกบริการใครเป็นพิเศษ

“เดี๋ยวตอนเย็นเพื่อนเก่าของนายท่านแวะมาเยียม พวกเขาไม่ได้เจอกันมา 8 ปีแล้ว นายท่านเลยทำอาหารเลี้ยงต้อนรับเป็นพิเศษ”ลุงหานพูดอธิบาย

จิวโมไป๋พยักหน้ารับ เขาจำได้แล้ว ที่จริงแล้ววันนี้เขาต้องไม่มาที่ร้าน เพราะเขาอกหักจากหลานซูเมิ่ง ทำให้เขานอนพักที่หอ เลยไม่รู้ว่ามีแขกคนสำคัญมาที่ร้าน

จนกระทั้งภายหลังเขาได้รู้ว่า คนที่มาเป็นเพื่อนสนิทของพ่อ เขาเป็นถึงเจ้าของร้านสมุนไพรชื่อดังของเมืองเฉินหัน เมืองขนาดใหญ่ทางทิศใต้ของประเทศมังกร

เขาจำได้ดีว่าเมื่อมีเรื่องก่อกวนที่ร้าน พ่อของเขาเคยติดต่อไปหาเพื่อนคนนี้ แต่ก็ถูกบอกปัดอย่างไม่ใยดี ภายหลังเขาสืบดูก็ได้รู้ว่า อีกฝ่ายเป็นหนึ่งในคนระดับสูงของตระกูลโจว ตระกูลโบราณเช่นเดียวกับตระกูลเซียว ถ้าอีกฝ่ายลงมือช่วยเหลือ มันง่ายมากที่จะแก้ไขสถานนะการณ์

แต่ที่อีกฝ่ายไม่ทำเพราะ อยากจะสานความสัมพันธ์กับเซียวหนานจิ้น อัจฉริยะของตระกูลเซียว ทำให้เขาทอดทิ้งเพื่อนสนิทของตัวเองอย่างไม่ใยดี

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด