ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 25

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 25 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
ช่วยเหลือโดยบังเอิญ

บริเวณที่นั่งส่วนที่ดีที่สุดของห้องอาหาร มีร่างของชายชราผมขาวโพล่น กำลังทรุดลงนอนแน่นิ่งอยู่บนพื้น โต๊ะไม้หนาเนื้อดี ล้มลงด้านข้างพร้อมกับจาน ฉามและแก้ว ตกแตกกระจายไปทั่วบริเวณ

ด้านข้างมีร่างของเด็กสาวอายุ 18 ปี และชายหนุ่มอายุ 18 ปี ใบหน้าคล้านกันราวกับฝาแฝด กำลังแสดงสีหน้าตกตะลึง ทรุดนั่งลงเข้าหาร่างชายชรา

เมื่อตั้งสติได้ชายหนุ่มกดกำไลข้อมืออย่างรีบร้อน

“ลุงเฉิน คุณปู่โรคหัวใจกำเริบ รีบแจ้งหน่วยความปลอดภัยของโรงแรม และเข้ามาคุณปู่พาคุณปู่ไปโรงพยาบาลเร็วเข้า”เสียงของเขาสั่นไม่เป็นคำ ไม่อาจปกปิดความตกใจได้

“ฮือ คุณปู่ทำใจดีๆไว้นะคะ”เด็กสาวทรุดตัวจับร่างของชายชราด้วยความหลาดกลัว ท่าทางของเธอเงอะงะไม่รู้ว่าจะทำอะไรดี แต่ตอนนั้นเองเหมือนเธอคิดอะไรได้ เธอคำเข้าไปในเสื้อสูทแล้วหยิบขวดยาเล็กๆออกมา

“คุณปู่ รีบดื่มยานี่ก่อน เดียวลุงเฉินพาคนมาช่วยแล้ว”

แต่เหมือนจะไร้ผลเพราะชายชราแน่นิ่งไม่ขยับเขยื้อน มือกุมแน่นที่ตำแหน่งของหัวใจ

เวลาเดียวกันพนักงานของโรมแรม ก็วิ่งเข้ามามุ่งดู มีพนักงานคนหนึ่งถือกล่องพยาบาลเข้ามา

“ปู่ของผมเป็นโรคหัวใจครับ”ชายหนุ่มเห็นว่ามีผู้เชียวชาญเข้ามา เขารีบบอกทันที

พนักงานคนนั้นพยักหน้ารับแล้วรีบเข้าไปตรวจดูอาการ แต่เมื่อใส่เครืองวัดอัตราการเต้นของหัวใจแล้ว ใบหน้าของเขาพลันเปลี่ยนสี

เขาแหวกม่านตาของชายชรา เห็นนัยน์ตาไร้ประกาย เขาก็ถอนใจ หันมาพูดเสียงเบา

“คนไข้หมดสติไปกี่นาทีแล้ว”

“คุณปู่ล้มลงไม่ถึง 1 นาทีพวกคุณก็เข้ามาแล้ว”ชายหนุ่มตอบ

“แปลก”พนักงานชายพูดพำพัมเสียงเบา

“อาการณ์ของคนไข้ ตอนนี้คือเสียชีวิตแล้ว เขาน่าจะหมดสติไปแล้วกว่า 10 นาที จากที่ผมตรวจดูคุณคนนี้ เป็นผู้บ่มเพาะ ยิ่งไม่น่าจะหัวใจล้มเหลวเฉียบพลันได้แบบนี้”

เห็นอาการณ์แปลกประหลาด พนักงานชายอดไม่ได้ที่จะตรวขสอบร่างกายอีกครั้ง แต่ผลก็เหมือนที่เขาพบ เขาส่่ายหัวเบาๆ

“ไม่ทันแล้ว หัวใจล้มเหลวเฉียบพลัน ตอนนี้ถึงมีเครื่องกระตุ้นหัวใจ ก็ไม่สามารถฟื้นได้แล้ว ผมขอเสียใจกับญาติคนไข้ด้วยครับ”

เด็กสาวเมื่อได้ยินก็ทรุดลงไปทันที

ชายหนุ่มชะงักครู่หนึ่งก็ร้องเสียงดัง

“บัดซบ! อย่ามาพูดบ้าๆนะ แกไม่ได้เป็นหมอสักหน่อย พวกคุณรีบพาปู่ของผมไปส่งโรงพยาบาล ตอนนี้อาจยังช่วยได้อยู่”ปลายเสียงของเขาสั่นอย่างไม่อาจหักห้ามใจ

พนักงานชายไม่พอใจที่ถูกดูถูก เขาลุกขึ้นยืนแล้วพูดเสียงราบเรียบ“ผมทำงานเป็นแพทย์โรงพยาบาลซานตง มา 10 ปี ก่อนที่จะถูกจ้างมาเป็นแพทย์ฉุกเฉินที่นี่ ผมมั่นใจว่าการวินิจฉัยของผมไม่ผิดแน่ๆ”

ชายหนุ่มได้ยินดังนั้นก็หมดแรง ทรุดนั่งพิงขาเก้าอี้ด้านข้าง

ผู้คนที่มุงดูเรื่องวุ่นวายอยู่ต่างก็ถอดถอนหายใจ ด้วยความเห็นใจ

“ให้ผมลองรักษาดูไหมครับ”เสียงทุ่มนุ่มดังขึ้น เรียกสายตาจากผู้คนรอบข้าง เมื่อเห็นว่าเป็นเด็กหนุ่มอายุ 18 ปี ก็อดแปลกใจไม่ได้

ชายหนุ่มเงยหน้าเห็นเด็กหนุ่มหรือก็คือจิวโมไป๋ ที่เดินเข้ามา เขาก็ขมวดคิ้วแน่นอยากจะพูดอะไร แต่เมื่อเห็นว่ายังใงก็ไม่มีทางทำอะไรได้แล้ว เขาก็พยักหน้าอย่างหนักอึ้ง

เมื่อเห็นว่าชายหนุ่มให้อนุญาตแล้ว เขาก็เดินผ่านพนักงานชาย นั่งยันเข่าตรวจสอบร่างกายของชายชรา

ทันทีที่กดไปที่ตรงหัวใจ คิ้วคมเข้มก็ขมวดแน่นก่อนที่จะคลายออก

พนักงานชายเห็นว่ามีเด็กหนุ่มกำลังตรวจอาการชายชรา เขาก็แค่นเสียงดังไม่พอใจ

“ผู้ตายหัวใจล้มเหลวหมดทางเยียวยาแล้ว ยังไงก็ช่วยไม่ทันแล้ว เจ้าหนูอย่ามาทำเป็นอวดเก่ง”

ได้ยินเสียงเย้ยหยันด้านหลัง จิวโมไป๋ก็เมินเฉยไม่สนใจ จัดร่างชายชราให้นอนเหยียดตรง หลังจากนั้นก็ยกนิ้วมือขึ้นมาอย่างช้าๆ จิตสัมผัส ค่อยๆตรวจสอบร่างกายของชายชราอย่างละเอียด

เขาสามารถทางเดินของเส้นเลือดที่จับกลุ่มกันเป็นก้อนรอบๆหัวใจ และบางจุดบนร่างกาย

เมื่อกำหนดจุดได้แล้ว เขาเร่งเร้าพลังจิตวิญญาณสีทองแดงจาง มาไว้ตรงปลายนิ้ว พลังจิตวิญญาณมันเบาบางจนผู้คนไม่สามารถมองเห็นได้

ปึก ปึกๆๆ

รวดรวดเร็วและแม่นยำ แค่พริบตาเดียว จิวโมไป๋ก็จี้กดตามจุดต่างๆของร่างกายกว่า 21 จุด

ทันทีที่กดลงตรงตำแหน่งสุดท้ายเป็น ตำแหน่งหัวใจ พลังจิตวิญญาณสีทองแดง ที่ถูกส่งเข้าไปในชีพจรก็พุ้งแหวกว่ายไปตามจุดที่ตีบตัน เมื่อกดที่ตำแหน่งหัวใจ เลือดที่คั่งค้าง ก็ถูกทะลวงผ่าน

ร่างของชายชราสั่นทะล้านขึ้นเล็กน้อย พร้อมการเต้นของหัวใจที่กลับมา แม้ว่ามันจะแผ่วเบาก็ตาม

จิวโมไป๋ถอนหายในแผ่วเบา แล้วยันตัวลุกขึ้น ก่อนที่จะหันมากล่าวกับพนักงานชายที่กำลังยืนงุนงงอยู่ด้านข้าง

“คุณช่วยตรวจให้หน่อยว่า เขาฟื้นแล้วหรือยัง”กล่าวจบก็เดินจากไปอย่างรวดเร็ว ตอนนี้ใบหน้าของจิวโมไป๋ขาวซีดจนน่ากลัว เขาพึ่งปลุกจิตวิญญาณ แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น แม้ว่าจะหลอมรวมกลายเป็นทะเลแห่งสติแล้วก็ตาม

ระยะเวลาบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณของเขาก็น้อยเกินไป ทำให้แค่ส่งพลังจิตวิญญาญเข้าไปทะลวงผ่านเส้นเลือดอุดตัน เขาก็แทบไม่เหลือเรี่ยวแรง

ยังไม่ทันที่คนอื่นจะรู้สึกตัว จิวโมไป๋ก็เดินจากไปไกลแล้ว

คนที่รู้ตัวคนแรกคือพนักงานชายที่จับสังเกตการณ์สั่นของมือชายชรา เขาจึงจ้องมองมันด้วยความตกใจ เมื่อจำได้ว่าเด็กหนุ่มบอกให้เข้าไปตรวจ เขาก็รีบก้มลงแล้วใช้เครื่องวัดการเต้นของหัวใจอย่างแปลกใจ

“บ้าน่า! หัวใจของเขากลับมาเต้นได้ยังใง”เขากรีดร้องเสียงดังด้วยความตกใจ ชายหนุ่มที่หมดหวังไปแล้วดีดตัวขึ้น มายืนด้านข้างแล้วถามเสียงสั่น

“เมื่อกี้คุณว่าอะไรนะ!”

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด