ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ – ตอนที่ 139

อ่านนิยายจีนเรื่อง ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ ตอนที่ 139 อ่านนิยายจีน.COM | อ่านนิยายจีนแปลไทย.
สร้างความขัดแย้ง

เก็บโอสถเสริมกายาทั้งหมดและเตาเมฆาม่วงบูรพาไว้ในแหวนมิติเก็บของ จิวโมไป่ก็หยิบสมุนไพรอีกจำนวนมากออกมาจากแหวนมิติเก็บของ และทำการกลั่นโอสถชนิดอื่นอีกหลายชนิด ด้วยเครื่องกลั่นโอสถทันสมัย เพราะโอกาสในการกลั้นโอสถเหลานี้ไม่ได้ยากเหมือน โอสถเสริมกายา ไม่ต้องใช่พลังวิญญาณให้ลำบากจิตใจ

ออกจากห้องกลั่นลี่ฟู ท้องฟ้าด้านนอกก็มืดแล้ว ตามอาคารเปิดไฟส่องสว่างตลอดทาง แต่ผู้คนดูน้อยกว่าเมื่อช่วงเย็น จิวโมไป๋เดินออกจากตลาดสมุนไพร เขาก็พบกับตำรวจกำลังทำงานอย่างเต็มที่ ใบหน้าของพวกเขาดูตึงเครียด จิวโมไป๋ถูกตำรวจเตือนให้รีบกลับบ้าน เพราะกลุ่มใต้ดินกำลังจะต่อสู้กันอีกในคืนนี้

จิวโมไป๋รถยนต์กลับไปที่ร้านอาหารตระกูลจิว พนักงานร้านแจ้งให้เขาทราบว่า มีคนส่งแร่จำนวนมากมาที่ร้าน และทั้งหมดถูกเก็บไว้ที่โกดังหลังร้าน จิวโมไป๋ไปที่โกดัง เขาเอาวัตถุดิบสมุนไพรที่ซื้อมาเก็บไว้ในโกดัง และสิ่งของที่ไม่ได้ใช้ในแหวนมิติเก็บของ เขาเอาไปเก็บไว้ในโกดังทั้งหมด

เมื่อเสร็จแล้วเขาขึ้นไปทักทายพ่อของเขาก่อนจะกลับบ้าน

แม่ของเขาและคุณหยินลั่วปิง กำลังดูรายกายอาหารเหมือนวันก่อน เด็กสาวทั้งสองกำลังเล่นกันอยู่ด้านบน จิวโมไป๋เห็นว่ายังไม่ดึกนัก เขาขึ้นไปห้องของตัวเอง

จิวโมไป๋ตรวจสอบห้องและใช้จิตสัมผัสตรวจสอบบ้าน เครื่องบินล่องหนลอยนิ่งๆ เหนือบ้านของจิวโมไป๋ เหมือนกำลังตรวจสอบอะไรบางอย่าง และในเวลาต่อมาเครื่องบินล่องหนก็บินจากไป

จิวโมไป๋ยักไหล่ไม่สนใจ เพราะเขารู้ว่าในตอนนี้คนของหน่วยลับ คงถูกเรียกไปทำภารกิจอื่น ทำให้เขาสามารถทำอะไรได้ง่ายขึ้น จิวโมไป๋นั่งบนขอบเตียงนอน กดเปิดแผนที่โฮโลแกลมของเมืองเทียนซูขึ้นมา เขาชี้นิ้วไปที่เขตนอกเมือง ที่เป็นพื้นที่ผ่าไม้และภูเขาสลับซับซ้อน ซูมเข้าออกตรวจสอบแผนที่หลายครั้ง เขาครุ่นคิดวางแผนเส้นทางอยู่เกือบ 30 นาที

จิวโมไป๋นวดศีรษะเบาๆ และนั่งสมาธิ เพื่อฟื้นฟูพลังวิญญาณที่เสียไปจากการกลั่นโอสถ

1 ชั่วโมงต่อมา

“พี่ชาย! ลงมากินข้าวได้แล้ว”เสียงจิวเสวี่ยเหม่ยดังขึ้นจากนอกห้อง จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นช้าๆ ทะเลหมอกสีเงินปนทองในทะเลสติ ฟื้นตัวเต็มที่แล้ว เขาลุกออกจากเตียงลงไป

เมื่อรับประทานอาหารเสร็จ จิวโมไป๋ก็คุยเล่นกับเด็กสาวทั้งสองอยู่พักใหญ่ ก่อนจะกลับขึ้นห้อง

จิวเสวี่ยเหม่ยก็ไม่งอแงที่จะนอนกับเขาอีก เพราะเธอรู้ดีว่าพี่ชายของเธอต้องบ่มเพาะพลัง ถ้าเธอยังรบกวนอยู่รอบๆตัวพี่ชายอีก เขาไม่มีเวลาบ่มเพาะพลังแน่

เข้าไปในห้องจิวโมไป๋ไปนั่งหน้าโต๊ะทำงาน และหยิบแผ่นยันต์เปล่า ขวดใส่เศษหยก และ วัตถุดิบสร้างยันต์อาคมหลายชนิดออกมา

จิวโมไป๋เริ่มใช้พลังวิญญาณสีเงินปนทอง ยกเศษหยกและวัตถุดิบที่ถูกบดอย่างดี มาขีดเขียนแผ่นยันต์อย่างรวดเร็ว ตัวอักษรโบราณลึกลับเรียงตัวกันอย่างงดงามและเป็นระเบียบ ใช้เวลาพักใหญ่ จิวโมไป๋ก็หยุดมือ เก็บยันต์ที่เขาเขียนเสร็จทั้งหมดลงในแหวนมิติเก็บของ และหลับตานั่งสมาธิฟื้นฟูพลัง

พระจันทร์บนฟ้าค่อยๆลอบขึ้นสู่ท้องฟ้าที่มืดมิด จิวโมไป๋ลืมตาขึ้นมาอย่างช้าๆพลังวิญญาณฟื้นตัวอย่างเต็มที่ เขาใช้จิตสัมผัสตรวจสอบคนของหน่วยลับ เขาก็ไม่พบ แสดงว่าอีกฝ่ายเลิกเฝ้าติดตามเขาแล้วจริงๆ จิวโมไป๋ก็ไม่แปลกอะไร เพราะตอนนี้กลุ่มใต้ดินหลายกลุ่ม กำลังต่อสู้กัน ความรุนแรงจะยิ่งเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ อาจมีคนตาย หรือทำให้ประชาชนที่ไม่เกี่ยวข้องได้รับบาดเจ็บ คนของหน่วยลับที่ประจำอยู่ที่เมืองเทียนซู ต้องไปตรวจสอบควบคุมสถานะการ เพื่อเตรียมระงับเหตุไม่คาดคิด

จิวโมไป๋ใช้จิตสัมผัสตรวจสอบนอกบ้าน เขาก็พบกล้องวงจรติดความละเอียดสูงจำนวนหลายสิบตัว ถูกติดตั้งอยู่นอกบ้าน เขาอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ช่างเป็นการดูแลที่ดีจริงๆ จิวโมไป๋เปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดคลุมสีดำ

เขาหยิบยันต์หมอกมายาระดับ 2 ที่พัฒนาให้แข็งแกร่งกว่าขั้นแรก เมื่อยันต์ถูกเผาไหม้ ร่างของจิวโมไป๋ก็เกิดหมอกสีขาวเจือจางคลุมร่าง จิวโมไป๋ยืนอยู่ใต้แสงไฟ ร่างของเขาก็ยังเลือนลางเล็กน้อย ไม่มีอะไรผิดปกติ แต่เมื่ออยู่ในความมืดร่างของเขาแทบจะกลืนไปกับฉากพื้นหลัง

จิวโมไป๋ลอบออกจากบ้านอีกครั้ง อย่างง่ายดาย

เมื่อออกจากพื้นที่บ้านของตัวเองได้แล้ว จิวโมไป๋ถอดเสื้อคลุมปลอมตัวเป็นชายวัยรุ่น ไปที่ร้านอินเตอร์เน็ต และเช่าเครื่อง 1 ชั่วโมง

เมื่อตอนกลางวันช่วงเย็นที่เขาไปสืบมา กลุ่มอันดับ 1 และกลุ่มอันดับ 2 ดูเหมือนจะยังไม่ต่อสู้กัน พวกเขายังคงรักษาท่าทีอยู่ ทำให้จิวโมไป๋ไม่พอใจเล็กน้อย แต่ก็เข้าใจได้ เพราะตระกูลโบราณต้องมีคนฉลาด คอยวิเคราะห์สถานการ ถ้ารีบร้อนกลุ่มของพวกเขาเองจะเสียหาย

ดังนั้นเขาจึงต้องทำอะไรบางอย่าง เพื่อทำให้ทั้งของกลุ่มต้องเคลื่อนไหว

จิวโมไป๋นั่งเปิดหน้าจอโฮโลแกรม เข้าเว็บไซต์พูดคุยที่มีผู้เข้าไปพูดคุยกันมากที่สุด

‘รู้ไหม ทำไมโรงงานเฟอร์นิเจอร์D ที่อยู่นอกเมืองเทียนซู ถึงมีคนคุ้มกันมากขนาดนั้น ถ้าไม่บอกว่าเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ฉันคิดว่า เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัย’จิวโมไป๋ใช้ชื่อปลอมที่สร้างจากกำไลข้อมือไร้ตัวคนตั้งโพสพูดคุย

ก่อนจะเปลี่ยนเป็นชื่อปลอมอื่นๆ โพสลงไปที่การแสดงความคิดเห็น

“เฮ้เพื่อน นายก็สังเกตเห็นเหมือนกันสินะ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันเห็นพวกเขา กำลังขนกล่องอุปกรณ์ตัดไม้ แต่ที่น่าแปลกคือ กล่องพวกนั้นมันหนักมาก และมีหลายสิบกล่อง ไม่น่าจะเป็นกล่องอุปกรณ์ตัดไม้แน้”

“เงียบๆหน่อยอยากตายรึไง โรงงานเฟอร์นิเจอร์D เป็นของกลุ่มหมาป่าเลือด กลุ่มอิทธิพลใต้ดินอันดับ 2 ของเมืองเทียนซู ถ้ายังพูดเรื่องไม่เข้าเรื่องอีก พวกนายอาจถูกจัดการก็ได้”

จากนั้นก็มีคนเข้ามาพูดคุยกันมากขึ้นเรื่อยๆ

จิวโมไป๋เปลี่ยนชื่อปลอมสุดท้ายและก็โพสลงไป

“หึ พวกนายก็พูดกันไปเรื่อย ฉันจะบอกให้ โรงงานเฟอร์นิเจอร์D เป็นที่เก็บอาวุธปืนเถือนของกลุ่มหมาป่าเลือด”

“!!!”

คนที่กำลังพูดคุยกันอยู่ต่างก็สะดุ้งตกใจ และในเวลาเดียวกัน หัวข้อ’รู้ไหม ทำไมโรงงานเฟอร์นิเจอร์D ที่อยู่นอกเมืองเทียนซู ถึงมีคนคุ้มกันมากขนาดนั้น ถ้าไม่บอกว่าเป็นโรงงานผลิตเฟอร์นิเจอร์ ฉันคิดว่า เป็นบริษัทรักษาความปลอดภัย’ กลายเป็นหัวข้อร้อนแรงทันที

เพียง 1 นาที หัวข้อถูกดันไปที่ หน้าแรก และไม่นานก็จะกลายเป็น หัวข้อยอดนิยมอย่างแน่นอน

จิวโมไป๋ยิ้มก่อนจะลุกออกจากร้าน เขาปล่อยข่าวแหล่งเก็บอาวุธปืนเถื่อน ของกลุ่มอันดับ 2 เพื่อกระตุ้นให้ ตระกูลโบราณที่หนุนหลังกลุ่มอันดับ 2 ส่งกำลังคนมาที่เมืองเทียนซู ไม่ว่าจะเป็นการกำจัดหลักฐานหรือทำอะไรก็ตาม ตระกูลเซียวจะส่งคนระดับสูง มาจับตามองความเคลื่อนไหวครั้งนี้อย่างแน่นอน เพราะพวกเขาไม่สามารถประมาท ปล่อยให้ผู้บ่มเพาะที่แข็งแกล่งมาที่เมืองของตัวเองได้

จากนั้น เขาก็ทำอะไรได้ง่ายขึ้น

คอมเม้นต์

การแสดงความเห็นถูกปิด